ศูนย์ข่าวศรีราชา - แกนนำชาวบ้านมาบตาพุด เร่งติดตามปัญหามลพิษ พร้อมจัดเวทีให้ข้อมูลชาวบ้านถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น หวั่นโรคร้ายแพร่ระบาด
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงปัญหามลพิษในพื้นที่ในนิคมมาบตาพุดและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มแกนนำชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้ออกมารณรงค์ ให้รัฐบาลแก้ปัญหามลพิษและป้องกันปัญหา ที่จะกระทบกับสุขภาพประชาชนมาหลายสิบปี
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการเรียกร้องเป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องทั้งปี แต่การร้องเรียนดังกล่าวก็ไม่สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลหันมารับฟังปัญหาของประชาชน ที่สำคัญรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ยังเดินหน้าให้การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หนัก และอนุมัติพื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ๆในจังหวัดระยอง มีลงทุนก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครือการปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้าถ่านหิน และการผลิตสารตั้งต้นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีทางเลือกอื่นในการเรียกร้องให้รัฐหยุดอุตสาหกรรม นอกจากจะชุมนุม คัดค้าน ต่อต้าน อย่างยืดเยื้อและสันติ โดยจะเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อสู้ แม้ต้องสู้กันยาวนาน ก็ต้องสู้ เพื่อที่เราจะไม่ยอมซ้ำรอย เหมือนอดีตที่ผ่านมา และโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นอย่างโรค มินามาตะ
สำหรับแผนงานในการทำกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ความรู้ประชาชน เช่น ประชุมร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ประเด็นรัฐธรรมนูญกับสิทธิชุมชนในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรื่องประเด็นวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม กับแนวทางปฏิบัติตามมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญ
นายสุทธิ กล่าวว่า นอกจากนั้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ถึง เดือนเมษายน 2551 กลุ่มจะรณรงค์จัดเวทีย่อย ทั้ง 8 อำเภอในจังหวัดระยอง เพื่อให้ความรู้เรื่องโรคมินามาตะ กับพิษภัยมลพิษในมาบตาพุดเดือนเมษายน พร้อม เปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ชุมนุมใหญ่ “หยุด..! ทุกขลาภจากการพัฒนาที่ไม่พอเพียง”
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงปัญหามลพิษในพื้นที่ในนิคมมาบตาพุดและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มแกนนำชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้ออกมารณรงค์ ให้รัฐบาลแก้ปัญหามลพิษและป้องกันปัญหา ที่จะกระทบกับสุขภาพประชาชนมาหลายสิบปี
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการเรียกร้องเป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องทั้งปี แต่การร้องเรียนดังกล่าวก็ไม่สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลหันมารับฟังปัญหาของประชาชน ที่สำคัญรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ยังเดินหน้าให้การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หนัก และอนุมัติพื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ๆในจังหวัดระยอง มีลงทุนก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครือการปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้าถ่านหิน และการผลิตสารตั้งต้นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีทางเลือกอื่นในการเรียกร้องให้รัฐหยุดอุตสาหกรรม นอกจากจะชุมนุม คัดค้าน ต่อต้าน อย่างยืดเยื้อและสันติ โดยจะเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อสู้ แม้ต้องสู้กันยาวนาน ก็ต้องสู้ เพื่อที่เราจะไม่ยอมซ้ำรอย เหมือนอดีตที่ผ่านมา และโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นอย่างโรค มินามาตะ
สำหรับแผนงานในการทำกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ความรู้ประชาชน เช่น ประชุมร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ประเด็นรัฐธรรมนูญกับสิทธิชุมชนในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรื่องประเด็นวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม กับแนวทางปฏิบัติตามมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญ
นายสุทธิ กล่าวว่า นอกจากนั้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ถึง เดือนเมษายน 2551 กลุ่มจะรณรงค์จัดเวทีย่อย ทั้ง 8 อำเภอในจังหวัดระยอง เพื่อให้ความรู้เรื่องโรคมินามาตะ กับพิษภัยมลพิษในมาบตาพุดเดือนเมษายน พร้อม เปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ชุมนุมใหญ่ “หยุด..! ทุกขลาภจากการพัฒนาที่ไม่พอเพียง”