พะเยา - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในดอกคำใต้เมืองกว๊านพะเยา จัดเที่ยวพระธาตุเก่าอายุกว่า 500 ปี ฟุ้งทำมาจากทองจังโกและเป็นพระธาตุที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ พร้อมเร่งหาทุนบูรณะ
นายอาทิตย์ มานัสสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการค้นพบพระธาตุอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี ในพื้นที่ หมู่ 6 และ 11 ต.สันโค้ง เรียกว่าพระธาตุหลวงวังเวียงชมพู เป็นพระธาตุที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีรูปทรงฐาน 8 เหลี่ยม ตอนบนของพระธาตุจะเป็นรูปทรงระฆังคว่ำ บางส่วนของพระธาตุทำมาจากทองจังโก บริเวณโดยรอบพระธาตุจะมีพระพุทธรูปปางยืนจำนวน 6 องค์
นอกจากนี้ พื้นที่รอบองค์พระธาตุจะมีสระน้ำขนาดใหญ่อายุกว่า 500 ปี ซึ่งมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างมาก เนื่องจากองค์พระธาตุที่มีอายุยาวนานจึงเกิดการชำรุดตามกาลเวลา ดังนั้นประชาชนในพื้นที่จึงร่วมกันระดมทุนเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ ด้วยการจัดผ้าป่าสามัคคี กฐินสามัคคี นำเงินที่ได้ครั้งละ 300,000-400,000 บาท มาดำเนินการซ่อมบำรุงองค์พระธาตุทุกระยะเป็นเวลากว่า 2 ปี มาแล้ว
นายอาทิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเอกชนใจบุญ และสำนักเจ้าแม่กวนอิม ที่ต้องการร่วมทำบุญด้วยการสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุ หากจะต้องบูรณะพระธาตุให้มีความสมบูรณ์และคงเอกลักษณ์เดิมไว้ทั้งหมด คาดว่าจะใช้ทุนกว่า 30 ล้านบาท โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อช่างสถาปัตยกรรมมาออกแบบตกแต่งต่อไปแล้ว
“ระหว่างที่มีการดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุหลวงวังเวียงชมพูนั้น สามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้ารับชมได้ตลอดเวลา โดยมีประชาชนในพื้นที่สามารถทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวและให้ข้อมูลความเป็นมาของพระธาตุด้วย คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และศาสนาของจังหวัดพะเยาที่ขึ้นชื่อในอนาคต”
นายอาทิตย์ มานัสสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการค้นพบพระธาตุอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี ในพื้นที่ หมู่ 6 และ 11 ต.สันโค้ง เรียกว่าพระธาตุหลวงวังเวียงชมพู เป็นพระธาตุที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีรูปทรงฐาน 8 เหลี่ยม ตอนบนของพระธาตุจะเป็นรูปทรงระฆังคว่ำ บางส่วนของพระธาตุทำมาจากทองจังโก บริเวณโดยรอบพระธาตุจะมีพระพุทธรูปปางยืนจำนวน 6 องค์
นอกจากนี้ พื้นที่รอบองค์พระธาตุจะมีสระน้ำขนาดใหญ่อายุกว่า 500 ปี ซึ่งมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างมาก เนื่องจากองค์พระธาตุที่มีอายุยาวนานจึงเกิดการชำรุดตามกาลเวลา ดังนั้นประชาชนในพื้นที่จึงร่วมกันระดมทุนเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ ด้วยการจัดผ้าป่าสามัคคี กฐินสามัคคี นำเงินที่ได้ครั้งละ 300,000-400,000 บาท มาดำเนินการซ่อมบำรุงองค์พระธาตุทุกระยะเป็นเวลากว่า 2 ปี มาแล้ว
นายอาทิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเอกชนใจบุญ และสำนักเจ้าแม่กวนอิม ที่ต้องการร่วมทำบุญด้วยการสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุ หากจะต้องบูรณะพระธาตุให้มีความสมบูรณ์และคงเอกลักษณ์เดิมไว้ทั้งหมด คาดว่าจะใช้ทุนกว่า 30 ล้านบาท โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อช่างสถาปัตยกรรมมาออกแบบตกแต่งต่อไปแล้ว
“ระหว่างที่มีการดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุหลวงวังเวียงชมพูนั้น สามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้ารับชมได้ตลอดเวลา โดยมีประชาชนในพื้นที่สามารถทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวและให้ข้อมูลความเป็นมาของพระธาตุด้วย คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และศาสนาของจังหวัดพะเยาที่ขึ้นชื่อในอนาคต”