xs
xsm
sm
md
lg

ลาวเครียดไชน่าทาวน์แจงแค่ให้จีนเช่า 50 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน—ทางการลาวได้ออกแถลงข่าวเบื้องหน้าเบื้องหลังโครงการพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจในเมืองหลวง หลังจากเกิดข่าวเล่าลือหนาหูว่ารัฐบาลได้ขายที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางเวียงจันทน์ให้แก่นักลงทุนจีนเพื่อ “ไชน่าทาวน์” ให้ชาวจีนราว 50,000 คนอพยพเข้าไปอาศัยเช่นเดียวกับในหลายเมืองและนครใหญ่ทั่วโลก

"คนพูดเรื่องนี้กันมาก หลายคนแสดงความไม่พอใจ เพราะเป็นเรื่องของเอกราชอธิปไตยของประเทศ" เจ้าหน้าที่ลาวที่ไม่ต้องการให้เอ่ยชื่อคนหนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ทางโทรศัพท์จากเวียงจันทน์ เช้าวันพุธ (13 ก.พ.) 1 วันหลังจากนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี "ผู้ประจำการรัฐบาล" ออกอธิบายเรื่องนี้

สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการได้รายงานเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในปลายเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว หลังจากหลังจากเจ้าหน้าที่ของสองฝ่ายได้ร่วมกันลงสำรวจพื้นที่
พัฒนาเขตบึงน้ำด้านหลังวัดพระธาตุหลวง

แต่ต่อมา "ข่าวแพร่ออกไปปากต่อปาก บางคนบอกว่าให้จีนเช่า 100 ปี รัฐกรก็พูดกัน หลายคนบอกอ่านข่าวนี้จากสื่อของไทย แต่ไม่มีใครรู้ความจริงทั้งหมด"

เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าวว่า ทางการเคยออกข่าวทางวิทยุอธิบายเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ดูเหมือนไม่สามารถหยุดยั้งข่าวลือได้

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ "ประชาชน" ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันของศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว นายสมสะหวาดได้บอกกับสื่อที่เข้าร่วมการแถลงข่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับบริษัทธุรกิจจีน เป็นการให้เช่าที่ดินผืนใหญ่เนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ เป็นเวลา 50 ปี

ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ "เวียงจันทน์ใหม่" ซึ่งเป็นของทางการนครหลวงรายงานว่า สัญญาดังกล่าวยังสามารถต่ออายุได้อีก 25 ปี รวมเป็น 75 ปี

สื่อของรัฐบาลกล่าวว่าผู้ลงทุนจะเริ่มพัฒนาในเฟสแรกในเนื้อที่ประมาณ 200 เฮกตาร์ (1,250 ไร่) แต่ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดในขั้นตอนต่อไป

นายสมสะหวาดยอมรับว่าสัญญาเช่าที่ดินเพื่อพัฒนาเขตเมืองดังกล่าว เป็นการต่างตอบแทนให้แก่บริษัทจีนที่ได้ลงทุนมหาศาลก่อสร้างสนามกีฬาเวียงจันทน์ให้โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ลาวจะเป็นเจ้าภาพจัดในปี 2552

นายกรัฐมนตรีลาวกล่าวว่า ฝ่ายจีนเป็นผู้กู้เงินเพื่อการลงทุนโครงการนี้ทั้งหมดและยังให้รัฐบาลลาวร่วมถือหุ้น 5% โดยไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับหุ้นส่วนนี้ และยังเปิดโอกาสให้ฝ่ายลาวสามารถซื้อหุ้นเพิ่มเติมได้ในวันข้างหน้า

ผู้ลงทุนจากจีนไม่มีกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือที่ดิน แต่เป็นการครอบครองเพื่อใช้ทำประโยชน์ตามสัญญาเช่า เมื่ออายุสัญญาหมดลง สิ่งปลูกสร้างและกรรมสิทธิ์ทั้งหมดก็จะตกเป็นของรัฐบาล "ประชาชน" รายวันกล่าว

ทางการได้เตรียมแผนการอพยพผู้คนจำนวนหนึ่งออกจากที่ดินผืนใหญ่นั้นโดยจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มเพื่อจ่ายชดเชยให้ตามความเหมาะสมและเป็นธรรม สื่อของพรรคฯ กล่าว

"โครงการพัฒนาบึงธาตุหลวงจะนำประโยชน์อันใหญ่หลวงสู่ประเทศชาติโดยตรงและโดยทางอ้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนที่ดินให้เป็นทุนดังกล่าวจะมีการนำทุนเข้าอย่างมหาศาล การพัฒนาประเทศมีย่างก้าวใหม่ โฉมหน้าของนครหลวงเวียงจันทน์จะมีการเปลี่ยนแปลง" หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมกล่าว

ขปล.รายงานเรื่องนี้ครั้งแรกระบุว่า หลังก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีการอพยพชาวลาวเชื้อสายจีนในนครหลวงเวียงจันทน์ที่มีอยู่ราว 3,000 เข้าไปอาศัยและประกอบการค้าในเขตศูนย์กลางธุรกิจการพาณิชย์นั้น แต่ตัวเลขตามข่าวลือได้เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คน และจะเป็นชาวจีนจากจีนแผ่นดิน

สื่อของทางการลาวรายงานเรื่องนี้ พร้อมกับตอบโต้ตามแนวถนัด โดยหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่กล่าวหาว่า ทั้งหมดนี้ "เป็นการใส่ร้ายป้ายสีของกลุ่มคนที่ไม่หวังดีจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยากจะทำลายความสามัคคีของประชาชนชาวบรรดาเผ่าและอยากทำลายประเทศชาติของพวกเรา"

"ข่าวลือที่ว่าภายหลังสำเร็จโครงการแล้วรัฐบาลลาวจะอนุญาตให้ชาวจีนจำนวน 50,000 คนมาอาศัยอยู่และจะสร้างเป็นตัวเมืองจีนนั้นไม่ได้มีอยู่ในสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน มันเป็นเพียงคำใส่ร้ายป่ายสี.." เวียงจันทน์ใหม่กล่าว

สื่อของทางการกล่าวต่อไปว่า โครงการพัฒนาดังกล่าวจะมีการจ้างแรงงานชาวลาวจำนวนมากทั้งระหว่างและหลังการก่อสร้าง เป็นการสร้างงานทำให้ชาวลาวกินดีอยู่ดี

ตามรายงานของ ขปล.เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว โครงการพัฒนาเขตธุรกิจและการพาณิชย์เวียงจันทน์นี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลลาวกับสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อพัฒนาจีน (Chinese Development Bank)

“รัฐบาลได้ตัดสินใจรับในหลักการที่จะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราว 1,000 เฮกตาร์ ในเขตบึงธาตุหลวง ให้นักลงทุนจีนก่อสร้างอาคารทันสมัย และให้เป็นศูนย์กลางการค้าของนครหลวงเวียงจันทน์.." ขปล.อ้างคำกล่าวของ นายเคียงคำ พุดจันทะวงสา เจ้าหน้าที่ของนครหลวง

อาณาบริเวณดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมเบา สถาบันการเงิน สถาบันทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย

อย่างไรก็ตามการออกแถลงข่าวโดยรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกรมการเมืองคนหนึ่งของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้แสดงให้เห็นความกังวลของทางการต่อข่าวซึ่งได้โหมกระพือทัศนะคติต่อต้านอิทธิพลของจีนแพร่กระจายออกไปอีก

ปัจจุบันนักลงทุนจากจีนได้เข้าไปมีบทบาทอย่างสูงในเศรษฐกิจของลาว และ ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา นักลงทุนจากจีนได้ขึ้นแทนที่ประเทศไทยในฐานะผู้เข้าลงทุนมากเป็นอันดับ 1 ส่วนนักลงทุนไทยได้ตกไปอยู่อันดับ 3 ถัดจากเวียดนาม

ในกลางปี 2550 ได้มีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ขึ้นในเมืองหลวงของลาวโดยนักลงทุนจากจีน เป็นห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้านำเข้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่

ปีที่แล้วผู้บริหารกลุ่มบริษัทประกอบรถยนต์รายใหญ่จากจีนไปเยือนลาวและประกาศแผนการลงทุนประกอบรถยนต์ขึ้นในลาวด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น