ระดม ตร.ลงแม่จันหวั่นมวลชนเคลื่อน หลังลือสะพัด“ยุทธตู้เย็น”สังเวยใบแดง

เชียงราย – ตำรวจเชียงรายประชุมด่วนเตรียมรับมือมวลชน หลังลือสะพัดทั่วพื้นที่ หาก “ยุทธ ตู้เย็น” ได้ใบแดงเตรียมเคลื่อนไหวทันที พร้อมระดมกองร้อยชุดควบคุมฝูงชนทั่วจังหวัด ลงพื้นที่ อ.แม่จัน พรุ่งนี้รับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้ประชุมด่วนหาข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย หลังมีกระแสข่าวว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) จะได้รับใบแดง ฐานกระทำความผิดเลือกตั้ง ส.ส.ฐานจ้างวานให้กลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 10 คน ร่วมกันช่วยซื้อเสียงทำให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขตเลือกตั้งที่ 3 ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า มีการเคลื่อนไหวในส่วนของกลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านบางตำบล ใน อ.แม่จัน ซึ่งเป็นแกนนำที่ใกล้ชิด นายยงยุทธ ซึ่งตำรวจได้สั่งจับตาและเฝ้าประกบแกนนำกลุ่มต่อต้านในพื้นที่แล้ว

แหล่งข่าวระดับสูงทีมงาน นายยงยุทธ กล่าวว่า หากทั้งนี้ นายยงยุทธ ได้รับใบแดงจริง อาจทำให้ชาวบ้านใน อ.แม่จัน รับไม่ได้ เพราะนายยงยุทธ เป็นผู้นำที่ชาว อ.แม่จัน ให้ความรักจึงทุ่มเทคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ทางพรรคพลังประชาชน ไม่ได้มาจากการซื้อเสียง หรือการข่มขู่ตามที่พรรคการเมืองตรงข้ามกล่าวหา

ทั้งนี้ หากนายยงยุทธ รวมทั้ง นางสาวละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ และ นายอิทธิเดช แก้วหลวง ว่าที่ ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 3 โดนใบแดง อย่างไม่เป็นธรรม พวกชาวบ้านและทีมงานทุกคน อาจจะต้องเคลื่อนไหว ทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นมา เพราะชาวบ้านเชื่อว่า นายยงยุทธ บริสุทธิ์ และทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด

ด้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ตำรวจ กองร้อยชุดควบคุมฝูงชนแต่ละอำเภอส่งกำลังมารวมตัวกันที่ ปั๊มน้ำมัน พีที อ.แม่จัน ในวันที่ 10 มกราคม 2551 นี้เพื่อเตรียมการฝึกรับมือฝูงชนหากมีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงราย หรืออาจต่อเนื่องไปชุมนุม ที่ กทม.

นายอมรพงศ์ วิชิตะกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ผลการพิจารณาสอบสวนกรณี นายยงยุทธ จ้างวานกลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยซื้อเสียงเลือกตั้ง ไม่สามารถระบุได้ว่าจะแล้วเสร็จในวันใด ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทั้งหมดว่าจะชี้ชัดหรือสรุปความได้มากน้อยเพียงใด หากชัดเจน กกต.กลาง ก็จะสามารถประกาศผลได้เร็วที่สุด และหาก กกต.กลางชี้ขาดว่าทำผิดจริง นายยงยุทธ ก็อาจจะต้องรับโทษหนักถึงใบแดง และจากนั้น กกต.ก็จะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความรับรองอีกครั้ง

“หากกฤษฎีกาเห็นชอบด้วย ก็ทำให้น้ำหนักการตีความเอาผิดแน่นขึ้น ไม่ได้เอนเอียง แต่หากมีความเห็นแย้งไม่ตรงกับ กกต.กลาง ก็ยังสามารถใช้เหตุผลตัดสินครั้งแรกของทางคณะ กกต.ยืนผลคำตัดสินได้อีก แต่ทั้งนี้อยากให้ทุกฝ่ายมีการยอมรับในคำตัดสินจะดีที่สุด เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ” นายอมรพงศ์ กล่าว