ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เปิดเส้นทางเติบโตพิสดาร ผอ.รถตู้-บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ จากเด็กแม่ฟ้าหลวง เป็นปลัดบ้านนอก ย้ายตามนักการเมืองใหญ่ อยู่สำนักนายกฯ-กระทรวงทรัพย์ โตพรวด จาก ซี 7 ขึ้น ซี 9 ในสามปี การถูกสอบใช้อำนาจหน้าที่เอื้อนักการเมืองรอบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ถึงขนาดเคยถูก กกต.จังหวัด มีมติเอาผิดอาญา ข้อหา ช่วย เจ๊จิ๋ม -สลักจิต ติยะไพรัช หาเสียงนายก อบจ.มาแล้ว สถานะล่าสุด เพิ่งถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีฟ้องล้มละลาย
ว่าที่ร้อยตรี บุญชอบ หรือ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นชื่อที่ถูกระบุว่าพัวพันกรณีรถตู้ในความดูแลของหน่วยงานดังกล่าว ถูกนำไปใช้รับส่งหัวคะแนนและผู้นำท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในเวลานี้ มีเส้นทางการเติบโตที่น่าสนใจมาก
นายบุญชอบ เกิดเมื่อ 4 มิถุนายน 2506 ปัจจุบันอายุ 44 ปี ภูมิลำเนาบ้านเทอดไทย อ.แม่จัน จ.เชียงราย (ต่อมาแยกเป็น อ.แม่ฟ้าหลวง) บิดาชื่อ ใจ้เทียม มารดาชื่อ เมี่ยวจิง ที่อยู่ตามภูมิลำเนา เลขที่ 1 หมู่ 17 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จบการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผู้ที่ทราบประวัติดี ระบุว่า หลังจากจบการศึกษาได้รับบรรจุเข้ารับราชการในสังกัดกรมการปกครอง ซึ่งชาวบ้านในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่จัน เรียกกันติดปากว่า “ปลัดบุญชอบ” ซึ่งทำงานรับใช้ใกล้ชิดผู้ใหญ่คนหนึ่งในพื้นที่ เป็นพื้นฐานให้ต่อมามีความสนิทสนมกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองใหญ่ในจังหวัดเป็นพิเศษ ปรากฏตัวเป็นผู้ติดตามบ่อยครั้ง
นายบุญชอบ ประสบปัญหาถูกร้องเรียนภายในหน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องการทำบัตรประชาชนในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ถึงขั้นที่อาจถึงถูกออกจากราชการ แต่ที่สุดปัญหาดังกล่าวก็ไม่กระทบกับตัวเขามากนัก เพราะได้ย้ายออกนอกหน่วยงานไปเติบโตทางอื่น
ครั้งที่พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2544 และนายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล และเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี บุญชอบ ได้โอนย้ายสังกัดไปอยู่ สำนักนายกรัฐมนตรี ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี ในช่วงปี 2547-2548 ได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 8 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ในช่วงปลายปี 2547 มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) ซึ่งมี นางรัตนา จงสุทธนามณี เป็นผู้สมัครแข่งขันกับนางสลักจิต (เจ๊จิ๋ม) ติยะไพรัช ภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งที่สุด นางรัตนา เป็นฝ่ายชนะ และนำมาสู่การฟ้องร้องระหว่างกัน ทำให้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก นางสลักจิต ติยะไพรัช เป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน ปรับเป็นเงิน 75,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ในเวลาต่อมา
จากการแข่งขันทางการเมืองที่ดุเดือดดังกล่าว นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปรากฏชื่อพัวพันกับการต่อสู้ทางการเมืองดังกล่าวด้วย โดยถูกร้องเรียนว่าใช้อำนาจหน้าที่และมีพฤติกรรมช่วยเลือกนางสลักจิต ติยะไพรัช จนที่สุด กกต.ประจำจังหวัดเชียงราย มีมติให้ดำเนินคดีอาญามาตรา 61 ประกอบมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กับว่าที่ ร.ต.บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ข้าราชการสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาช่วยเหลือ นางสลักจิต ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย
เมื่อเรื่องถูกส่งไปยัง กกต.กลางยุค พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ก็มีมติให้ดำเนินคดีแต่เปลี่ยนแปลงข้อหาให้เบาลง โดยส่งเรื่องกลับมาดำเนินคดียัง สภ.แม่ฟ้าหลวง ในยุคที่ พรรคไทยรักไทย เป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 ซึ่งที่สุด เจ้าพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง นายบุญชอบ หลุดพ้นคดีอาญาในครั้งนั้นได้
หลังปี 2548 นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และช่วงเดียวกัน ก็ได้โอนย้าย นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ มาสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
ต่อมา นายบุญชอบ ได้รับเลื่อนขึ้นเป็นนักวิชาการสิ่งแวดล้อม 9 รักษาการ ผอ.ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม แม้จะจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์ฯ และไม่ได้เติบโตเป็นลูกหม้อทางด้านงานสิ่งแวดล้อมก็ตาม และแม้จะมีการรัฐประหาร นายยงยุทธ ติยะไพรัช ออกนอกประเทศแต่ก็ไม่มีผลต่อหน้าที่การงานของนายบุญชอบแต่อย่างใด
เป็นที่ทราบกันดีว่า นายบุญชอบ มีความสนิทสนมกับ นาย บ.นายก อบต.แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ. แม่จัน ซึ่งเป็น 1 ใน 11 คน ที่เดินทางจากเชียงรายไปกรุงเทพฯ และปรากฏตัวที่พรรคพลังประชาชน และ โรงแรมเอสซี.ปาร์คตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้า และเป็นประเด็นที่ กกต.เรียกนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช ไปสอบปากคำ
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ก็คือ เขาเพิ่งจะถูกศาลล้มละลายกลาง มีคำพิพากษา พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามหมายเลขคดีแดง ที่ 1076/2550 ที่ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ เพื่อขอให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ เป็นบุคคลล้มละลายและถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ออกประกาศให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ลงวันที่ 26 เมษายน 2550 น่าสังเกตว่า ในคำฟ้องซึ่งอ้างอิงมาจากเอกสารธุรกรรม ระบุตนเองว่าประกอบอาชีพ ค้าขาย ไม่ได้ระบุว่าเป็นข้าราชการแต่อย่างใด
กระทรวงทรัพย์เตรียมสอบ “บุญชอบ”
อนึ่ง เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัด ทส.ดำเนินการตามตรวจสอบกรณีการใช้รถของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมไปรับหัวคะแนนของพรรคพลังประชาชนที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร และใครเป็นผู้ดำเนินการ หากพบว่ามีผู้กระทำผิดจริง ก็จะมีเกณฑ์ในการลงโทษ เพราะถือว่าทำผิดระเบียบการใช้พัสดุของราชการว่าด้วยการใช้รถยนต์ เพราะไม่ได้เป็นหน้าที่ของกระทรวง
ด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าทะเบียนรถตู้ดังกล่าวเป็นรถของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และได้สั่งการให้ นางมณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน อธิบดี สส.ตรวจสอบรายละเอียดเร่งด่วน ส่วนขั้นตอนต่อไป ทส.จะประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่าขัดกับกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
ล่าสุด ปลัด ทส.ได้มีคำสั่งให้นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ เจ้าของสังกัดโดยตรงของรถตู้คันดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อนางมณทิพย์ ในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป