ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประธาน กกต.บุรีรัมย์ ย้ำยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาตามระเบียบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แม้มีการระดมม็อบมาประท้วงคัดค้าน-ข่มขู่จากบุคคลบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งไม่หวั่นเกรงอำนาจมืดหรืออิทธิพลใดๆ ชี้การให้เหลือง-ใบแดงขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐาน และ กกต.กลางเป็นผู้พิจารณา
วันนี้ (3 ม.ค.) นายเกษม วัฒนธรรม ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงกรณีมีกลุ่มการเมืองใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ ระดมชาวบ้านมาชุมนุมประท้วงคัดค้านกดดันการทำงานของ กกต.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง ว่า ที่ผ่านมาการพิจารณาข้อมูลหลักฐานเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งการพิจารณาให้ใบเหลือง-ใบแดง กับผู้สมัคร ส.ส.นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐาน และ กกต.กลางเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดเท่านั้น และยืนยันว่า กกต.บุรีรัมย์ ไม่ได้เอนเอียง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพียงทำตามหน้าที่แบบตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า การพิจารณาให้ใบเหลือง-ใบแดง ว่าที่ ส.ส.ในจังหวัดอื่นๆ ไม่เห็นมีการออกมาตอบโต้ หรือเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้าน ต่างก็ยอมรับเคารพมติของ กกต.กลาง มีเพียงจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้นที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงคัดค้าน และข่มขู่ กกต.จังหวัด จากบุคคลบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย
“แต่ก็ขอยืนยันว่า ไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจมืด หรืออิทธิพลใดๆ จะยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่รักษาระเบียบกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตราประทับไว้” นายเกษม กล่าว
นายเกษม กล่าวอีกว่า พร้อมจะน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งที่ระบุว่า “เราจะต้องเอาคนดีมาปกครองคนไม่ดีให้ได้” มายึดถือปฏิบัติ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจว่า ตน และ กกต.บุรีรัมย์ทุกคนจะไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ กกต.อีกทั้งไม่ใส่ใจว่าพรรคใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาลขอเพียงให้เป็นมติของประชาชนโดยแท้จริงเท่านั้น
“ผมเป็นปุถุชนธรรมดา เพียงแต่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา พร้อมอยากจะถามประชาชนว่าคนที่พยายามจะรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัดนั้นผิดหรือไม่ หากรักชอบว่าเป็นคนดีควรจะปกป้องให้ยืนหยัดอยู่ในสังคมได้ เหมือนศาลที่เป็นกลางก็พิจารณาปกป้องคนดีที่ไม่กระทำผิดกฎหมาย” นายเกษม กล่าว
