xs
xsm
sm
md
lg

ผ่า “ดวงเมือง” ปี 66 สุดวิปโยค “การเมืองแตกแยก-ธุรกิจสีเทาครองเมือง-สูญเสียบุคคลสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดชะตา “ปีเถาะ” บ้านเมืองปั่นป่วนร้อนแรงเปลี่ยนฝั่งเปลี่ยนขั้ว ผู้นำไม่ดี โควิด-19 ยังคงอยู่ หมอดูเตือน ระวังเรื่องสูญเสียบุคคลสำคัญ-คอร์รัปชัน-ธุรกิจสีเทาเพียบ!!?




หวั่นซ้ำรอยปี47 “การเมืองป่วน-มหาวิปโยค”


“มันมีทั้งดีและไม่ดี ประการแรกพระราหูกำลังโคจรอยู่ตรงราศีเมษ จนกระทั่งมาถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 พระราหูจะให้โทษมากกว่าให้คุณ และราหูเกิดมาทับลัคราเมือง และทับพระอาทิตย์

ซึ่งพระอาทิตย์หมายถึงบุคคลสำคัญ เป็นเจ้าเรือนคุณของดวงเมือง ฉะนั้นทำให้พระอาทิตย์หม่นหมอง เสียหาย แล้วพระราหูก็ครอบงำดวงเมือง ทำให้สิ่งที่ไม่ดี กิจการสีเทาๆ หรือผู้มีอิทธิพลจะครอบคลุมชะตาเมือง จนกว่าพระราหูจะย้ายออกไป ถึงแม้ว่าราหูจะย้ายออกไปจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน บ้านเมืองน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น”


ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ถึงอนาคตของดวงเมืองประเทศไทยในปี 2566 ที่ถือว่าภาพรวมนั้นยังคงหนักหน่วงหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่อเค้าความรุนแรง รวมถึงในด้านโรคระบาดที่ยังระบาดหนัก

“ดาวเคราะห์มีหลายดวง บางดวงก็ให้คุณ บางดวงก็ให้โทษ แต่สำหรับพระราหูจะเป็นด้านให้โทษ พระราหูจะมีวงรอบการโคจร 18 ปี ที่จะมาอยู่ในราศีเมษ 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นเราก็เอา 18 ปี ลบ 2565 ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นปี 2547 เป็นวงรอบของพระราหู

ปี 47 ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ทางการเมืองก็ปั่นป่วน วุ่นวาย ทางด้านภัยพิบัติ ก็มีเหตุการณ์ทะเลที่ใกล้เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดสึนามิในปี 47 ชาวโลกตายเป็นแสน คนไทยตาย 6 พันกว่า และมีการสูญเสียบุคคลสำคัญ

[ภิญโญ พงศ์เจริญ]
เพราะฉะนั้นวงรอบของราหูก็เป็นวงรอบที่กลับมาทับลัคนาเมือง ทับอาทิตย์ในดวงเมืองอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์พวกนี้มันก็หวั่นๆ เวียนมาอีกครั้งหนึ่ง

โดยเฉพาะราหูเป็นจอมอสูร เป็นจอมมารฝ่ายร้าย ส่วนพระพฤหัสบดีเป็นประธานฝ่ายสุเคราะห์ ถือว่าเป็นจอมเทพ เพราะฉะนั้นเกิดดาว 2 ดวงประชันกันในปีหน้า เพราะฉะนั้นฝ่ายเทพกับฝ่ายมารก็เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงสีดำกับสีขาว ความดีกับความไม่ดี

ถ้าเป็นทางการเมือง ก็เป็นพรรคฝ่ายเทพกับพรรคฝ่ายมาร จะเกิดการผสมกลมกลืน เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบผสมกลมกลืน

ฝ่ายรัฐบาลไม่ใช่จะอยู่แค่นั้น ฝ่ายค้านก็เช่นกัน ก็จะเกิดการผสม อีกฝ่ายก็อาจจะมาอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง เปลี่ยนฝั่งเปลี่ยนขั้ว
แต่สำหรับประชาชนก็จะได้รู้ ได้เปรียบเทียบถึงการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อการตัดสินใจเลือกตั้งในคราวต่อไป”


สำหรับ “ดวงการเมือง” ในปีเถาะนั้น ด้านนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติทำนายไว้ว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 เป็นต้นไปการเมืองน่าจะรุนแรงเพราะการสวนกันของดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ กับราหูซึ่งเป็นดาวบาปพระเคราะห์ เกิดการเปรียบเทียบ


สอดคล้องกับโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดังฉายา นอสตราดามุสเมืองไทย ที่ได้กล่าวถึงดวงเมืองไทยว่า ยังเป็นที่น่าจะมีเหตุการณ์หลายเรื่องที่รุนแรง จัดว่าเป็นปีแห่งมหาวิปโยค เป็นปีค่อนข้างหนักมาก การเมืองปีหน้าใครมาเป็นผู้นำคนใหม่ก็ไม่ดี เกิดแตกแยก สามัคคีบางช่วงรวมกันก็เพื่อผลประโยชน์ รวมทั้งบ่งถึงความยุติธรรมจะค่อยๆ ถูกกลืนหายไป ผู้มีอำนาจหลงระเริง




มรสุมโรคระบาด-สูญเสียคนสำคัญ


ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้ได้เบาใจบ้าง นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ผ่าดวงในด้าน“เศรษฐกิจ” พบว่าก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่น่าจะดีกว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากดาวพฤหัสบดีโคจรมาทับลัคนาเมือง ทับพระอาทิตย์ในดวงเมือง พฤหัสบดีกับพระอาทิตย์เป็นคู่มิตร ตามตำราบอกว่าดวงเมืองจะโชคดี ผู้ใหญ่จะให้คุณ


“เรื่องดีๆ คือ ดาวพฤหัสบดีมาทับพระอาทิตย์ ที่ถือเป็นดวงเมือง ถือว่าให้คุณ และอีกดวงคือดาวเสาร์ หลังวันที่ 1 มี.ค. 66 ที่เข้าราศีกุมภ์ ก็ให้คุณ โดยอย่างยิ่งเรื่องโครงการสำคัญๆ ที่จะสำเร็จผล เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆ ที่กระทบต่อคนจำนวนมาก

ไม่เพียงแค่นั้น ราหูเป็นลาภะ หมายถึงด้านรายได้ โชคลาภ ความสำเร็จ เพราะฉะนั้นการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน การค้า ก็มีมากขึ้น

บ้านเมืองจะมีช่องทางในการแสวงหารายได้ แสวงลาภเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา ความขัดข้องปัญหาอุปสรรคของดวงเมือง ด้วยวิธีกู้หรือวิธีต่างๆ

เพราะฉะนั้นก็จะเห็นว่าตั้งแต่ราหูอยู่ในราศีพฤษภ เขาก็เรียกว่าราศีพ้นทรัพย์ ราศีอยู่ในราศีเมษ ก็เรียกว่าอยู่ในราหูพ้นตัว แต่พอมาราศีมีนก็เกิดอาการเมาหมัด เปรียบเทียบเหมือนนักมวยขึ้นชก พอลงจากเวทีก็ยังเมาหมัด เพราะฉะนั้นอาการอย่างนี้ก็จะเป็นไปในปี 66 จนถึงปี 67


นอกจากนี้ ฟองสนาน จามรจันทร์ แม่หมอนักวิเคราะห์ดวงชะตาชื่อดัง ก็ได้เผยคำทำนายผ่านเพจ “โหรฟองสนาน” ถึงสถานการณ์โรคระบาด ตลอดไปจนถึงการสูญเสียบุคคลสำคัญ

“ประชาชนคนเดินดินอยู่ในบรรยากาศอ้อยอิ่งอยู่กับความทุกข์ใหญ่ร้อยแปดด้วยเรื่องหนี้สิน การเจ็บไข้ได้ป่วย เจอเหตุการณ์ใหญ่ให้อกสั่นขวัญแขวนหรือเศร้าระทม วงการดารา คนเด่นดัง ศิลปิน เซเลบทั้งหลายยังอยู่ในบรรยากาศของดวงตกทุกข์ใหญ่จากการพลัดพรากสูญเสีย ฟืน-ไฟ-ก๊าซ-ควัน-ระเบิดยังอ้อยอิ่งรอเกิด รวมทั้งราคาพลังงานยังกดดัน วาระออกจากทุกข์ใหญ่ของเมืองเริ่มวันที่ 1 มี.ค. 66

วันที่ 1 มี.ค. 66 เป็นต้นไป อุบัติเหตุ บาดเจ็บ ล้มตาย เสียหายเป็นหมู่กลุ่มก้อน ไม่กระจายเหมือนคราวโควิด-19 ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหนดวงเมืองจะตกมาก-น้อย บางเหตุการณ์จะเกิด เพราะความย่อหย่อนในกฎเกณฑ์หรือความผิดพลาดของมนุษย์ผสมโรง

ส่วนน้ำน้อยกว่าปี 2565 แต่พายุที่เข้าลูกจะใหญ่กว่า ...ระวังการซ่องสุม แอบซ่อนเทาๆ การเกิดของวิธีการ ลัทธิใหม่ๆ”

[ฟองสนาน จามรจันทร์]
สุดท้ายนี้ ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ที่มาถึง โหรภิญโญได้ฝากย้ำเตือนระวังถึงการโคจรของดาวมฤตยู กับราหูมาทับดาวเมือง ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรงในช่วงต้นปี

“ในหลักโหราศาสตร์เป็นวิชาความรู้ที่ใช้ในการเตือนภัย เป็นเครื่องมือของการตัดสินใจ โหราศาสตร์ศึกษาทีละเรื่องของเวลา ซึ่งต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย จากอดีตมาสู่ปัจจุบัน จากปัจจุบันไปสู่อนาคต

เพราะโหราศาสตร์ก็สอนเรา ว่าถ้าเราทำอดีตดี ปัจจุบันมันก็ต้องดี และเมื่อทำปัจจุบันดี อนาคตมันก็ต้องดี อดีตเป็นรากฐานปัจจุบัน ปัจจุบันก็เป็นรากฐานของอนาคต อนาคตที่ใกล้ๆ ก็เป็นรากฐานของอนาคตที่ไกลๆ ออกไป ถ้าเราทำปัจจุบันให้ดี หวังว่าอนาคตก็คงจะดี ฉะนั้นหลักโหราศาสตร์ก็สอดคล้องกับหลักศาสนา ทำดีก็ได้ดี”




สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น