เสี่ยงอันตรายทั้งสองโรค!! ทั้ง “ภาวะลองโควิด” และ “ภาวะมิสซี” แพทย์จับมือช่วยวิเคราะห์จากเคส “หนูน้อยวัย 2 ขวบ” เสียชีวิตหลังป่วยโควิด-19 ว่า ใครกันแน่คือมัจจุราชตัวจริง!!
“ลองโควิด” ไข้ขึ้น = ตาย?
เมื่อไม่นานมานี้ มีเคสที่ถูกพูดถึงและแชร์กันยกใหญ่ เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องสูญเสียลูกชาย วัย 2 ขวบ ไปโดยลูกเคยติดโควิด-19 น้องหายจึงกลับบ้าน ซึ่งกลับพบว่าน้องทรุดหนักจึงกลับมารักษาที่โรงพยาบาลต่อ แต่ก็สายไปเสียก่อน
หลังเรื่องราวนี้ได้ถูกโพสต์และแชร์ออกไป ต่างก็เกิดคำถามกับประเด็นดังกล่าวไม่ต่างจากคุณแม่ผู้เสียลูกชายตัวน้อยๆ กลับคำถามที่คาใจ กับคำวินิจฉัยของหมอ น้องเป็น “ลองโควิด”?
โดยการได้ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง เพื่อเตือนเหล่าแม่ๆ และเด็กๆ ถึงอันตรายของโรคชนิดนี้ ให้ระวังตัวกันไว้ ยิ่งสำหรับเด็กๆ ที่เคยเป็นโควิดมาก่อน ยิ่งต้องสังเกตอาการให้ดี เพราะถ้าไม่ระวังตัวอาจเกิดการสูญเสีย
“ลองโควิด คือ คำนิยามใหม่ ต่อการสนองเชื้อโควิดที่เกิดต่อเนื่อง หลังจากการติดเชื้อของโควิด ส่วนใหญ่เจอในคนไข้ที่นอนโรงพยาบาลนานๆ หรือต้องเข้า ICU จะรู้สึกอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ใจสั่น มีผื่นขึ้นตามตัว ผมร่วง หรือบางคนอาจรู้สึกเจ็บหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรงมาก”
นี่เป็นมุมมองของ พญ.พรรณธิป ภัทรกุลวิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญกุมารแพทย์โรคหัวใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ที่ให้ข้อมูลกับ ทีมข่าว MGR Live ว่า “ภาวะลองโควิด” หรือ “Long COVID” เป็นอาการที่เกิดมาจากเชื้อโควิด-19
โดย “ลองโควิด” นั้น ต่างกันกับ “โควิด-19” ตรงที่โรคลองโควิด เกิดขึ้นได้แค่กับคนที่ “เคยมีเชื้อโควิด” เท่านั้น เมื่อหายจากการเป็นโควิด-19 แล้ว แต่กลับมีบางอาการที่ยังหลงเหลืออยู่จากเชื้อโควิด-19 จึงเรียกว่า “ลองโควิด”
“ลองโควิดเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย จะเป็นๆ หายๆ ส่วนใหญ่ชอบเป็นเรื้อรัง ซึ่งไม่รุนแรงมากถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ แต่ถ้าเกิดมีโรคประจำตัว อาจจะต้องแยกออกจากโรคประจำตัวนั้นออกจากลองโควิด”
หลังเคสนี้เป็นที่จับตามองกันทั่วประเทศ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ได้ออกมาวิเคราะห์สาเหตุที่เด็กวัย 2 ขวบ เสียชีวิต ว่า จริงๆ อาจไม่ได้เกิดจาก “ลองโควิด” อย่างที่คุณแม่หรือชาวโซเชียลฯ ตั้งคำถาม
แต่คาดว่า น่าจะเกิดจาก “มิสซี” ที่ไปทำให้ตับอักเสบ โดยจะขึ้นไปทั่วร่างกาย ตามอวัยวะต่างๆ อย่าง สมอง เส้นเลือด และไตอักเสบ มากกว่า
“มิสซี” มัจจุราชผู้พรากชีวิต
“โรคมิสซี ถ้ามีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อน 2-6 สัปดาห์ และมีไข้สูงตามมา ถ่ายเหลว พร้อมมีอาการอื่นๆ อย่างน้อย 2 ระบบขึ้นไป ให้นึกถึงโรคมิสซีไว้นะคะ และควรเดินทางมาโรงพยาบาล หรือโทร.ปรึกษาหมอทันที”
พญ.พรรณธิป ภัทรกุลวิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญกุมารแพทย์โรคหัวใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้คำแนะนำเพิ่มเติม ถึงผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ว่า ให้ระวังถึง “ภาวะมิสซีมัจจุราชผู้พรากชีวิต” กันก่อนจะสาย
โดย “ภาวะมิสซี (MIS-C)” หรือ Multisystem Inflammatory Syndrome in Children เป็นโรคที่มีการตอบสนองช้า เพราะหลังการติดเชื้อ 2-6 สัปดาห์ ทำให้ภูมิต้านทานตอบสนองเยอะเกิน มีสารการอักเสบในร่างกายเพิ่มมากขึ้น และอาจมีการเอกเสบในหลายๆ ระบบ ตามมาด้วย
“คนไข้ร่างกายมีไข้สูงอยู่แล้วค่ะ จึงมีอาการที่ผิดปกติตามมาอย่างน้อย 2 ระบบ คือ ระบบทางเดินอาหาร ที่จะชอบมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว ตาแดง ปากแดง ถ้าเป็นระบบหัวใจ ก็จะมีการช็อก หรือการบีบตัวของหัวใจลดลงได้”
แต่สิ่งน่ากลัวสุด คือ ผู้ป่วยโรคนี้จะมีภาวะช็อก ซึ่งบางคนช็อกตั้งแต่วันสองวันแรกที่มีไข้ การช็อกเกิดจากการบีบตัวของหัวใจที่ลดลง ภาวะมิสซีค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะหัวใจจะที่พบบ่อยสุด
“สำหรับประสบการณ์ที่หมอเคยเจอมา 50-60% ต้องการนอนโรงพยาบาล และนอนที่ห้อง ICU เด็กที่เป็นมิสซี อาการจะดูป่วยหนัก ส่วนใหญ่จะได้นอนที่โรงพยาบาล และเกินครึ่งจะได้เข้านอนที่หอผู้ป่วย ICU เพราะอาการหัวใจอักเสบจะเยอะ มีความดันต่ำและช็อก”
ส่วนภาวะนี้เกิดขึ้นได้ยังไงนั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อเชื้อต่างๆ เยอะเกิน ทำให้ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย ถ้าพูดถึงกลุ่มอาการจะคล้ายๆ กับ “โรคคาวาซากิ” (KAWASAKI DISEASE) ในเด็ก ซึ่งโรคนี้ก็หาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้
แตกต่างจากมิสซีจะรู้ได้เลย เพราะอาการเป็นตามหลังการติดเชื้อโควิด-19 เหมือนลองโควิด ด้านคนที่ไม่เคยเป็นโควิดนั้น คุณหมอบอกเลยว่าไม่เป็นแน่นอน
การรักษานั้นปกติมิสซีจะรักษาตามอาการ ร่วมกับให้ยาที่ลดภูมิเกิน อย่าง “อิมมูโนกอบเบอร์ลิน (Immunoglobulin)” ยาต้านการอักเสบ เด็กจะตอบสนองกับยาตัวนี้ดี ร่วมกับการให้ “ยาสเตียรอยด์ (Steroid)” หลังจากกินไป 90% มักมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีก 10% จะให้ยาอื่นๆ แทน เพื่อกดภูมิคุ้มกันการเผาผลาญ
“ต่างประเทศนั้นศึกษามาเยอะ ไทยจึงสามารถศึกษาดูแนวทาง เพื่อนำมารักษาการเสียชีวิตของคนไข้มิสซีในไทยได้ แต่อาจจะไม่ได้สูงมากนะคะ เนื่องจากเมื่อไหร่ที่คนไข้ต้องนอนห้อง ICU ก็ต้องเข้าใจว่ามีความเสี่ยงเสียชีวิตได้”
สุดท้ายคุณหมอยังแนะนำถึงผู้ที่เคยเป็นโควิดและหายแล้ว ให้ระวังอาการมิสซีไว้ด้วย หมั่นสังเกตอาการตัวเองดูว่าเป็นไข้สูงหรือเปล่า ถ้าเป็นไข้แล้วอาเจียนหรือท้องเสียตามมาบ่อยๆ กินไมได้ และที่สำคัญ มีผื่นขึ้นตามตัว ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้ไปที่โรงพยาบาลพบหมอทันที
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เว็บไซต์ “กรมควบคุมโรค”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **