เสพบรรยากาศปราสาทสุดโรแมนติก ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์น “Castello Di Bellagio” อาหารเลิศรส กับวิวหลักล้านที่มีภูเขาล้อมรอบ 360 องศา สวยงาม โดดเด่น ด้วยงบลงทุนหลายร้อยล้านบาท สร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป พร้อมเช็กอินเป็นแลนด์มาร์กใหม่แห่งเมืองพัทยา ที่รอทุกคนมาเยือน
เสพความอร่อยในบรรยากาศปราสาท
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่แห่งเมืองพัทยา ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์น “Castello Di Bellagio” (แคสเทลโล ดิ เบลลาจิโอ้) ที่จะทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวหลงใหลไปกับรสชาติอาหาร พร้อมกับเสพความอร่อยในบรรยากาศปราสาท ที่มีแรงบรรดาลใจในการสร้างจากประเทศอิตาลี
เชื่อว่าวงการธุรกิจร้านอาหารจังหวัดชลบุรี ต้องกลับมาคึกคักอีกครั้งในปลายปีนี้อย่างแน่นอน เมื่อทายาทธุรกิจร้านอาหารริมทะเลเจ้าดัง“มุมอร่อย” พร้อมลุยธุรกิจแบรนด์ร้านอาหารใหม่อย่างเต็มตัว ในชื่อ “Castello Di Bellagio”
ชูเมนูอาหารสไตล์เวสเทิร์นรสชาติเยี่ยม พร้อมสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป ถูกเนรมิตให้เป็นปราสาทที่สวยงาม ตั้งตระหง่านโดดเด่น ซึ่งมีภูเขาล้อมรอบ360 องศา ด้านหน้ายังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
งานดีไซน์ต่างๆ ถูกรวบรวมไว้จากความทรงจำ พร้อมดัดแปลงและเพิ่มสไตล์ในตัวเจ้าของเองเข้าไป จนเป็นที่มาของ “Castello Di Bellagio”เพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่รอต้อนรับให้ทุกคนมาเช็กอิน ณ เขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี
ด้าน ไอซ์-สุรนาท โตพานิช ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง วัย 25 ปี ในฐานะบิ๊กบอส เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live เล่าว่าร้านแห่งนี้ได้เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของ คุณพ่อ สุรเทพ โตพานิช ที่มีโอกาสไปเที่ยวประเทศอิตาลี ที่เลคโคโม่ (Lake Como) ซึ่งมีภูเขาล้อมรอบและมีทะเลสาบขนาดใหญ่ตรงหน้า ทำให้คุณตกหลุมรักในสถานที่ทันที จึงได้นำความประทับใจครั้งนั้นมาสร้างเป็นร้าน “Castello Di Bellagio” โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวมกว่า 2 ปี ด้วยงบลงทุนหลายร้อยล้านบาท
“เนื่องจากคุณพ่อมาเที่ยวตรงนี้ มากินข้าวกับเพื่อนเมื่อประมาณ8 ปีที่แล้ว แบบไม่มีอะไรเลย ถนนก็มืดๆ เลย ช่วงนั้นหน้าหนาว บรรยากาศได้มาก เขาก็เลยเริ่มมาบุกเบิกตรงนี้ เริ่มจากร้านอาหารมุมอร่อย เสร็จแล้วคุณพ่อเขาชอบไปท่องเที่ยวที่อิตาลี ที่เมืองโคโม่เขาชอบมาก บั้นปลายชีวิตอยากไปอยู่ที่โน่นเลย
แต่ว่าด้วยความที่ว่าไปอยู่ไม่ได้ เพราะว่าอาหารการกิน ผู้คนไม่พูดภาษาอังกฤษ หลายๆ อย่าง ก็เลยมาสร้างตรงนี้ เหมือนยกโคโม่มาไว้ตรงนี้เลยครับ ซึ่งตัวปราสาทตรงนี้อยู่ที่เบลลาโจ ประเทศอิตาลี ซึ่งเขาก็ถ่ายรูปปราสาทไว้ เสร็จแล้วเขาก็กลับมาพร้อมรูปนั้น เขาก็เริ่มก่อสร้างตรงนี้เลย
ในร้านเราก็จะมีโซน Butcher ซึ่งเป็นโซนฝั่งครัวให้ลูกค้าได้ไปเลือก มีห้องชีส และก็ห้องแฮมให้เข้าไปเลือกเพื่อทานคู่กับไวน์ และก็มีห้องเนื้อ ซึ่งเป็นตู้เนื้อที่มีทุกส่วนของวัวอยู่ในนั้น เพื่อสำหรับคนรักเนื้อ มี Wine Cellar ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มีไวน์อยู่ประมาณ 2,000ขวด ให้ทุกคนได้เลือก
ในอนาคตจะมีโซนโรงเบียร์ด้วย เป็นนำเข้าจากต่างประเทศและในประเทศไทยด้วย ความฝันของคุณพ่อเขาอยากได้เบียร์เป็น100ฉลากมาตั้งเรียงกัน เหมือนกับเบียร์ไลบรารี่ เหมือนกับเป็นห้องสมุด
ข้างหน้าก็จะมีโซน Grill On The Hill ให้แคมปิ้ง มาปิ้งย่างกันในรูปแบบครอบครัวมา enjoy หรือว่าเพื่อนฝูง ทางเรามีซุเปอร์มาเก็ตจำลองไว้เพื่อให้คนไปเดินเลือกซื้อ คือเราก็เตรียมไว้ให้ทั้งหมด มีทั้งบาร์บีคิวเสียบไม้ ทั้งซีฟู๊ด หลายๆ อย่างปิ้งย่าง แล้วก็ให้เข้าไปซื้อแล้วก็มาปิ้งเอง ได้enjoy กับการทำอาหารร่วมกัน”
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่อายุยังน้อย พร้อมย้ำอีกว่าอยากให้ที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของพัทยา รวมไปถึงแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศไทยที่อยากให้คนเข้ามาเช็กอิน เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนทั้งเรื่องอาหาร บรรยากาศที่จะทำให้ผู้คนอิ่มเอมใจ
“อยากให้มาเป็นแลนด์มาร์กที่ประเทศไทย ให้คนได้สัมผัสกัน ตอนนี้เราก็ค่อยๆ เป็น ด้วยความที่ว่าเราเพิ่งเปิดใหม่ เราก็ยังไม่ได้พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็อยากให้ค่อยๆ พัฒนาไปด้วยกันก็ลองมาทานดูได้ครับ ได้ทั้งเสพบรรยากาศ ได้อาหารตา ได้อิ่มตาอิ่มใจ อิ่มท้องด้วย
ตอนนี้เมืองพัทยามันแออัดแล้ว เราก็มาบุกเบิกตรงนี้ ซึ่งตรงนี้เป็นโซนที่มีภูเขาเยอะ อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเล บรรยากาศก็จะดีกว่า ด้วยความที่ว่าตรงนี้มีธรรมชาติเยอะกว่าในเมือง เหมือนได้มาอยู่เขาใหญ่ เหมือนต่างประเทศเลย”
พื้นที่ชิลเอ้าท์ที่รอทุกคนมาเยือน
เพื่อตอกย้ำความสุขว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นดินแดนสีสันแห่งใหม่ ณ เขาชีจรรย์ ที่รอทุกคนมาเยือน เพราะ นอกจากจะสร้างเป็นปราสาทที่สวยงามแล้ว ภายในยังถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์แอนทีค นำเข้ามาจากโซนยุโรป เป็นพวกหินอ่อน บรอนซ์เฟอร์นิเจอร์หลายๆ ชิ้นที่เขามาตกแต่ง เช่น ไฟแชนเดอเรีย ไฟกิ่ง หรือโต๊ะทานอาหาร ซึ่งมาจากฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 50-200 ปีแล้ว ภายในร้านยังมีห้องต่างๆ ไว้คอยบริการมากมาย ประกอบด้วย
Terrace Outdoor ชั้น1 และ2 เป็นโซน Out Doorให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศโดยรอบ
The Great Hall ส่วนแรกของการรับรองลูกค้า
Solor Room ชั้นบนของปราสาท ตกแต่งด้วยกระจกที่สวยงามตามสถาปัตยกรรมยุคกลางของอังกฤษ
Long Table สามารถรับรองลูกค้าได้ 60-80 คน
Private Room สไตล์ลึกลับ จำนวน 3 ห้อง รับรองลูกค้าได้ 10-12 คน
Wine Cellar บริการไวน์ชั้นดี ที่มีไวน์ให้เลือกมากว่า 200 ฉลากที่คัดสรรมาไว้รองรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบและหลงไหลรสชาติของไวน์
An An Cafeในส่วนนี้พี่ชาย พศิน โตพานิช เป็นคนควบคุมดูแลและคัดสรรเมล็ดกาแฟด้วยตนเอง
Grill On The Hill โซนสวนหน้าปราสาทแห่งแรกของเมืองไทยที่ตั้งคอนเซ็ปต์นี้ขึ้นมา เพื่อให้พื้นที่สนามหญ้าที่สวยงามได้รองรับผู้คนที่ต้องการมารับประทานอาหารในลักษณะปิคนิก ที่ทางร้านมีไว้รองรับลูกค้าทั้งหมด25 ยูนิต (1 ยูนิต รับรองลูกค้าได้4-30 คน)
ไลฟ์สไตล์ของโซนนี้ จะคล้ายกับการมาสังสรรค์ในสวนหน้าบ้านหรือหลังบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งทางร้านได้จัดเตรียมMarketเล็กๆ ให้ลูกค้าได้เลือกวัตถุดิบเองตามใจ ซึ่งโซนนี้จะเปิดให้บริการได้ในปีหน้า พร้อมๆ กับBeer Libraryโรงเบียร์ ที่มีเบียร์ทุกยี่ห้อ และอาหารที่ทานคู่กับเบียร์ โดยเชฟชำนาญการเป็นผู้ดูแล
สำหรับเมนูแนะนำของร้าน อาทิ Short Ribs Trio Musketeer (สเต็กเนื้อชายโครงวัว หมักซอสสามเกลอสไตล์ไทย),Chateau De Bellagio (สเต็กเนื้อสันในทั้งก้อนย่าง และเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน),Cold Watermelon With Rosso Dressing (สลัดแตงโมเย็น สไตล์พริกสเปน),Cold Dragon Fruit Salad With Balsamic Glaze (สลัดแก้วมังกร และซอสบาลซามิคเกรซ)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ชิลเอ้าท์สุดสงบเลยก็ว่าได้ หากท่านใดสนใจอยากลิ้มรสอาหารวัตถุดิบพรีเมี่ยม และบรรยากาศสไตล์ยุโรปสุดพิเศษ ในราคาที่จับต้องได้ ร้านตั้งอยู่ที่ เขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา11.00-23.00 น. สำรองที่นั่ง โทร064-694-669
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **