“มันคุ้มแล้วใช่ไหมกับสิ่งที่ครอบครัวเราเสียไป” ทหารเกณฑ์เสียชีวิตหลังเข้ากรมได้เพียง 14 วัน ดันแฮชแท็ก #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ด้านนักสิทธิมนุษยชนเสนอ ทหารยังจำเป็นแต่ควรมาจากความสมัครใจ?!
นัดเข้าค่าย = นัดหมายแห่งความตาย
“น้องเดินเข้าไปในค่ายแต่ตอนออกมาหามใส่โลง นายเสรี บุตรวงค์ RIP นิ๊กกี้”
กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจไปทั้งโลกโซเชียลฯ เมื่อเฟซบุ๊ก Nathasa Rochai ออกมาเปิดเผยว่า ได้รับข่าวการเสียชีวิตของน้องชายวัย 21 ปี ที่เป็นทหารเกณฑ์ได้เพียง 2 สัปดาห์ โดยทางผู้บังคับบัญชาแจ้งว่ามีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากเส้นเลือดตีบ เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่ทัน
เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุอีกว่า เบื้องต้น ทางครอบครัวได้รับเพียงคำขอโทษกับร่างที่ไร้ลมหายใจ พร้อมกับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ทิ้งคำถามไว้ว่า “มันคุ้มแล้วใช่ไหมกับสิ่งที่ครอบครัวเราเสียไป ทางครอบครัวเราสงสัยว่าสาเหตุจริงๆ ที่น้องเสียชีวิตคืออะไร”
นอกจากนี้ ทางญาติยังมีการโพสต์รูปภาพเพิ่มเติม เป็นเอกสารหมายนัดเข้ารับราชการทหารที่ส่งถึงผู้เสียชีวิต พร้อมข้อความ "มันคือหมายนัดแห่งความตายใช่ไหม"
ทันทีที่เหตุการณ์นี้ถูกส่งต่อกันไปบนโลกออนไลน์ ก็ทำให้ “การเกณฑ์ทหาร” ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นเกณฑ์การคัดเลือกทหารเกณฑ์ ที่หลายความเห็นเสนอให้เปลี่ยนเป็นการสมัครใจแทน ส่งให้แฮชแท็ก #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งแฮชแท็กนี้ถูกทวิตไปแล้วนับแสนครั้ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าว MGR Live จึงได้ต่อสายไปยัง สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และอดีตกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาให้ความเห็นว่า ทหารยังมีความจำเป็นกับประเทศ แต่ควรปรับเกณฑ์การคัดเลือกให้มีสัดส่วนของการสมัครใจให้มากขึ้น
“การที่เราให้มีทหารโดยสมัครใจเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย คนที่เสียประโยชน์เท่าที่ผมคิดออกตอนนี้ น่าจะมีหน่วยงานเดียว คือคนที่ไปรับทุจริตจากคนที่ไม่อยากเป็น เลยต้องมาจ่ายเงินนอกระบบให้ ถ้าเกิดเราให้สมัครใจหมด มันก็จะไม่มีการทุจริตอีก ก็จะได้ทหารที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่า ทหารเองก็จะได้รับประโยชน์ด้วย ยกเว้นคนที่ไม่อยากให้ทหารมีคุณภาพ ถึงจะยืนยันที่จะให้มีการบังคับเกณฑ์ทหารอยู่ครับ
[ สุรพงษ์ กองจันทึก ]
ต้องบอกว่าทหารยังมีความจำเป็นอยู่ในสังคมไทย ต้องมีคนจำนวนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ ทีนี้เราจะให้ทหารมีคุณภาพยังไง เราพบว่าทหารที่สมัครใจเข้ามาเป็นทหารมีคุณภาพ ทั้งคุณภาพที่จะฝึก ในการที่จะตั้งใจทำงาน คุณภาพที่จะไม่หลบหนีสูงกว่าทหารที่ถูกบังคับมา อันนี้เป็นอันดับแรก หมายความว่าเราต้องให้คนมาเป็นทหารโดยสมัครใจมากขึ้นเรื่อยๆ บังคับเอาคนที่ไม่อยากมาเป็นให้น้อยลง”
สำหรับความคืบหน้าของเหตุสลดนี้ ผลการชันสูตรระบุว่าเกิดจากระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว ซึ่งมีความเคลื่อนไหวจากทางญาติว่า ร่างของผู้เสียชีวิตถึงบ้านในจังหวัดสุรินทร์แล้ว โดยสภาพศพมีเพียงแค่รอยผ่าที่ศีรษะ ไม่พบรอยช้ำในร่างกาย ซึ่งทางครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิตแล้ว
ยกเลิก "ทหารบังคับ" ส่งเสริม "ทหารสมัครใจ"
ทั้งนี้ อดีตกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ มีข้อเสนอถึงเรื่องของการสมัครใจเกณฑ์ทหารไว้ว่า ควรมีการเพิ่มนโยบายที่ชัดเจน อย่างการเพิ่มสวัสดิการและเพิ่มโอกาสเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพนี้
“ผมไม่ได้บอกให้ลดจำนวนทหาร เพียงแต่ว่าเราจะใช้ทหารที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นยังไง ในเมื่อเขาเป็นทหารที่สมัครใจมา แต่ควรมีกระบวนการที่จะไปชักจูงใจคนให้เข้ามาสมัครทหารมากขึ้น
ทางทหารจำเป็นต้องมีนโยบายและมาตรการอย่างชัดเจน สมมติ ตั้งไว้เลยว่าเกณฑ์ทหารปีหน้า 2564 เราจะให้มีทหารสมัครใจครึ่งหนึ่ง เกณฑ์ครึ่งหนึ่ง แต่ว่าปี 65 ถัดไป ทหารสมัครใจต้องเพิ่มขึ้นเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ 40 เปอร์เซ็นต์ ปี 66 ทหารสมัครใจต้องเพิ่มขึ้นเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ 30 เปอร์เซ็นต์ ค่อยๆ เปลี่ยน
สิ่งที่ต้องมี 1.คุณต้องมีสวัสดิการที่ดีให้เขาหน่อย แน่นอนคนตกงานเยอะ ถ้าเกิดเรามีรายได้ มีค่าตอบแทนที่ดีพอสมควร มีความมั่นคงให้เขา เขาก็พร้อมที่จะมา 2.เขาสามารถเติบโตในระบบทหารได้ เข้ามาสมัครใจครั้งแรก เขาอาจจะเป็นแค่พลทหาร แต่ถ้าเขาอยู่ไปหลายปีเขาสามารถขึ้นเป็นนายร้อยและเติบโตได้ ถ้าเราวางกลไก กระบวนการเหล่านี้ให้ชัดเขนและเปิดช่องทางให้มากขึ้น คนก็จะสมัครทหารมากขึ้น แล้วเราก็จะได้ทหารที่มีคุณภาพมากขึ้น”
พร้อมกันนี้ เขายังกล่าวว่า ข้อมูลจากปี 2562 พบว่าหลายประเทศได้ปฏิรูปกองทัพ ซึ่งขณะนี้มีประเทศที่ยังคงคัดเลือกการเกณฑ์ทหารโดยการบังคับ 24 ประเทศ และมีประเทศที่ใช้การคัดเลือกทั้งโดยสมัครใจและถูกบังคับ 45 ประเทศรวมประเทศไทย ซึ่งในอนาคตหากประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้ที่สมัครใจมากขึ้น ย่อมเป็นผลดีต่อวงการทหาร
“ทั่วโลกเขาชัดเจนแล้วว่าหลายๆ ประเทศ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นทหารสมัครใจหมด ถ้าเราได้ทหารสมัครใจมา ปัญหาเรื่องการไปทรมาน ไปซ้อม มันก็จะลดลง ผู้บังคับบัญชาอาจจะต้องกำชับในการที่จะสอนหรือดูแลทหารมากขึ้น เพราะทหารแน่นอนเรื่องการใช้กำลังเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีด้านกำลังที่ดี
แต่ว่าการควบคุมอารมณ์ การที่จะไม่แตะต้องคนอื่น ซึ่งระบบตรงนี้ทหารจะต้องเน้นมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนหนึ่งยังกระทำโดยไม่ได้สนใจในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ทางทหารต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องเหล่านี้ คุณต้องส่งเสริมอย่างจริงจัง มีนโยบายชัดเจนว่า ปีหน้าต้องสมัครใจเพิ่มขึ้นนะ มีแรงจูงใจ มีมาตรการรองรับ ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของทหารเอง
และจะกลายเป็นทหารมืออาชีพอย่างแท้จริงเข้ามา คนเหล่านี้เมื่อเข้าไปเป็นทหารเขารู้เลยว่า ชีวิตเขาจะเป็นทหารตลอดไป และจะพัฒนาศักยภาพของเขามากขึ้น กลายเป็นทหารมืออาชีพซึ่งมีคุณภาพ จะเน้นไปที่ทหารเรื่องเดียว ไม่ไปยุ่งการเมือง ไม่ไปยุ่งกับอื่นๆ มีสมาธิ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการที่จะปฏิบัติตัวที่ดีเพื่อจะเป็นทหารของชาติครับ”
ข่าวโดย : MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **