เปิดชีวิตสุดยอดพยาบาลสาวสู้ชีวิต ขับ “แกร็บ” ส่งอาหาร รายได้จากงานประจำไม่พอกินต้องหางานเสริม เหนื่อยแต่ต้องสู้ อาชีพเดียวไม่พอเป็นเสาหลัก ต้องดิ้นรนเพื่อครอบครัว
ไม่เกี่ยงงาน ไม่ยากจน
“เมื่อมันมีโอกาส มีลู่ทาง เราก็ต้องหาทำ ในเมื่อมันมีโอกาส อะไรที่เราทำได้ก็ทำอาชีพพยาบาลถามว่ามั่นคงไหม มันก็มั่นคงมากอาชีพหนึ่งนะ เพียงแต่ว่าอย่างที่บอก โรงพยาบาลรัฐ เงินมันก็ไม่ได้เยอะ รายได้ก็ไม่ได้เยอะ ก็จะเห็นว่าพยาบาลขายของออนไลน์กันเยอะ มีอาชีพเสริมเยอะ พี่ขายของไม่เป็น แต่พี่ชอบอย่างนี้ มันก็เลยรู้สึกว่างานส่งอาหารมันเข้าทางเรา”
อุ๊-สุวิชา น้อยหา สุดยอดพยาบาลสาวสู้ชีวิต วัย 36 ปี เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังเจ้าตัวได้โพสต์เรื่องราวของตัวเองผ่านเฟซบุ๊ก “พยาบาลบ้าบอ แห่งประเทศไทยcrazy nurse Thailand” ที่มีอาชีพเป็นพยาบาล แต่ใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงานมาขับแกร็บ รับจ๊อบส่งอาหาร
ทำให้คนยกให้เป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิต แม้จะมีงานประจำที่มั่นคงอยู่ ก็พยายามดิ้นรน ไม่เกี่ยงงาน เพื่อเอาตัวรอดในยุควิกฤตเช่นนี้
“ก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน เพราะว่าจริงๆ แล้ว เราไม่ได้ตั้งใจที่มันเป็นอย่างนี้ เราตั้งใจแค่จะอวดลูกเพจเราเฉยๆ ว่าทำงานนี้นะ เดี๋ยวจะมารีวิวให้ฟัง แต่ก็บอกนะว่าสภาพมันเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แค่จะอวดลูกเพจแต่ไม่คิดว่ามันจะไปไกล”
โดยพยาบาลสาวสู้ชีวิต ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เล่าถึงที่มาในการมารับจ๊อบเสริมหลังเลิกงาน ทั้งที่อาชีพพยาบาลก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด
“พี่ก็ทำงานขึ้นเวรปกติ ก็มีรับจ๊อบ Part time เหมือนกัน พยาบาลก็มี Part time พี่ก็ทำ แต่ทีนี้ช่วงเวลาที่ว่างนิดๆ หน่อยๆ มันอยู่ศูนย์เปล่า อย่างสมมติวันนี้พี่เลิกห้าโมงเย็น ตอนเย็นมันไม่รู้จะทำอะไร อีกอย่างหนึ่งพูดตรงๆ เงินพยาบาลก็ไม่ค่อยพอหรอก เรามีภาระเยอะ เราต้องหาเลี้ยงทางบ้าน ก็เลยลองสมัครดู ลงทะเบียนดู
ไม่ได้คิดว่าจะได้นะ เพราเห็นเขาบอกว่ามันก็ยากอยู่ ลำบากอยู่ ก็อยากจะลอง และมันได้ตังค์ด้วย ไม่ได้ว่าจะเอาโล่เอาเท่อะไรนะ อยากได้เงินนั่นแหละ คืออยากได้ตังค์ล้วนๆ ขับเอาเงินไม่ได้ขับเอาเท่”
ขับรถส่งอาหารทั้งวัน ได้ 200 บางวันก็ไม่ถึงด้วย รายได้ไม่ได้ดีอย่างที่คิด แต่ดีใจมาก ไม่รู้ทำไม ทั้งที่เงินน้อยกว่า ไม่ได้ขับเอามันส์ ไม่ได้ขับโชว์ แต่มันเป็นงานที่พอหาทำได้ ได้เงินต่อรอบ 20-30 บาทเอง ได้เท่าไหร่ก็เอา ดีกว่าไม่ได้
“งานจ๊อบมันก็ไม่ค่อยเหนื่อยนะ มันเป็นงานที่ต้องนั่งรองาน มันก็เลยไม่เหนื่อย แล้วมันก็ไม่ค่อยเครียดเหมือนงานพยาบาล เราก็ไปนั่งรอตามห้าง พองานเด้งมาเราก็ไปรับสินค้า แล้วก็ไปส่ง
มันเหมือนเราเล่นขุมทรัพย์ล่าสมบัติ เหมือนเราไปตามลายแทง ถ้าลุกค้าปักหมุดถูก เราก็ไปตามลายแทงถูกก็เจอสมบัติ ก็คือลูกค้า จ่ายตังค์ไปค่าส่ง 20-30 บาท มันก็เป็นความท้าทาย ตื่นเต้นด้วย อันนี้ก็สนุกด้วย งานเข้าก็ดีใจ งานไม่เข้าก็เศร้าเหมือนกันนะ เพราะงานมันไม่ได้เข้าตลอด
ส่วนใหญ่ทำ 4 ชั่วโมง บางวันก็ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนที่ว่างทั้งวัน ก็วิ่งทั้งวัน วิ่งทั้งวันได้มากสุด 300 บาท น้อยสุด 30 บาท ได้งานเดียว แล้วก็กลับบ้านไป
บางทีมันก็ดึกมาก แล้วเราก็ไม่กล้าด้วยที่เปล่าๆ ก็เลยตัดสินใจเข้าบ้านดีกว่า ได้ 30 บาท ก็พอ มอเตอร์ไซค์มันก็ไม่เปลืองน้ำมันหรอก”
มองว่าเป็นงานที่พอทำได้ก็เลยทำ และไม่คิดว่าเป็นงานที่เสียหายอะไรบางคนคิดว่ายืมเสื้อคนอื่นมาใส่เล่นแต่ความจริงนั้น พยาบาลสาวสู้ชีวิตเธอซื้อเสื้อเอง ทั้งเสื้อ กระเป๋า หมดไปพันกว่าบาท
“เห็นว่าช่วงเวลาตอนเย็นสัก 3-4 ชั่วโมง มันก็ไม่มีอะไรที่จะเหมาะกับงานนี้แล้ว แล้วเราก็มีมอเตอร์ไซค์ เราก็ใช้มอเตอร์ไซค์ให้เป็นประโยชน์ จอดทิ้งร้างมาตั้งนาน
ขับมาประมาณ 2 เดือนได้แล้ว รายได้ก็ไม่ค่อยดีหรอก ไม่ได้ดีอย่างที่คิด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำ ดีกว่านอนเฉยๆ ออกไป 3-4 ชั่วโมงได้แค่ 50 บาท ก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้สักบาท ก็มาหยอดกระปุก เพราะงานมันไม่ได้เด้งตลอดไง พองานมันเด้งก็รู้สึกดีใจว่างานเข้าแล้ว มันดีใจอย่างกับถูกหวย”
อาชีพเดียวไม่พอ ดิ้นรนเพื่อครอบครัว
“อาชีพเดียวก็ไม่พอ แต่จะทำให้พอก็ได้ถ้าเราอยู่อย่างประหยัด แต่ว่าในเมื่อมันมีโอกาส มีลู่ทาง เราก็ต้องหาทำ ในเมื่อมันมีโอกาส อะไรที่เราทำได้ก็ทำ
อย่างพี่ไปทำ Part time ก็ถือว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งเหมือนกัน ทั้งที่มันเป็นงานในโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่มันไม่พอหรอกสมัยนี้ เรารายจ่ายเยอะ ค่าครองชีพก็เยอะ อีกอย่างหนึ่งทางบ้านเราก็ต้องไม่ให้เขาอด
ยังถามเลยว่าที่ไหนมีรับล้างจาน ไปหมด ล้างจานตามงานวัดมีไหม จ้างก็ได้ จะไป แต่ว่าก็ไม่มีใครจ้าง ไม่เกี่ยงงาน ขอให้ได้เงิน แต่อีกอย่างก็ไม่มีเวลาที่จะไปทำด้วยแหละ เพราะตอนนี้เวลาก็แทบจะไม่มีจริงๆ เหนื่อยก็ต้องทำไป”
ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ลากยาวไปจนถึง 2 ทุ่ม ไม่เพียงแค่ทำอาชีพขับแกร็บส่งอาหารเท่านั้น งานเสริมอื่นๆ ก็รับทำหมด เพียงเพราะอยากได้เงินมาจุนเจือครอบครัว
“สมมติพี่ทำงานพยาบาลปกติพี่ก็เลิก 4 โมงเย็น หลัง 4 โมงพี่ก็จะไปต่อที่แผนกอื่น ไปทำโอทีแผนกอื่น ไปขึ้นเวรที่อื่น งานพี่เริ่ม 7 โมงเช้า กว่าจะเสร็จกว่าประมาณ 5 โมงเย็นทุกวัน ก็ไปขับแกร็บต่อ ถ้าไม่ได้ไปทำ Part time ที่อื่น ก็ไปขับแกร็บต่อประมาณถึง 2 ทุ่ม ถ้าพี่เป็นผู้ชายก็จะวิ่งต่อถึงเที่ยงคืน แต่มันเป็นผู้หญิงก็ห่วงความปลอดภัยด้วยเหมือนกัน”
เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลมากถึง 6 ชีวิต พยายามดิ้นรนเต็มที่ ทำงานแทบจะไม่ได้พัก จันทร์-ศุกร์ต้องทำอาชีพหลัก นั่นคือพยาบาล หลังเลิกงานยังไปขับแกร็บต่ออีก ส่วนเสาร์-อาทิตย์รับทำงาน Part time ที่อื่นด้วย
“เป็นเสาหลัก เป็นลูกคนโต ทั้งหลาน น้อง แม่ ประมาณ 6 คนก็ต้องดิ้นรนไปหางาน Part time งานเสริม ไปขึ้นเวรที่อื่น มันก็ต้องดิ้นรน แต่พี่ก็เห็นว่ามอเตอร์ไซค์พี่ไม่ค่อยได้ขับ พี่ก็เลยเอามาใช้หน่อย แล้วมันก็ได้ตังค์ด้วย น้อยก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้ เอามาหยอดกระปุก
เราทำงานสุจริตถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อย แต่มันก็ไม่บาปนะ เพราะเราไม่ไปปล้น ไปฉ้อโกงใคร คนที่ไปปล้นไปฉ้อโกงคนอื่นเขาเห็นแก่ตัวนะ เราทำงานแทบตายอยู่ๆ มาปล้นเรา ทำไมคุณเห็นแก่ตัวแบบนี้ บาปกรรม คนพวกนี้ใช้ไม่ได้ อยากได้เงินต้องทำงาน”
ยอมรับว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 อาชีพพยาบาลอาจจะไม่ค่อยโดนกระทบหนักต่อรายได้ แต่การปฏิบัติงานก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเดิม อาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดิ้นรนหาช่องทางเพื่อปากทองของครอบครัวให้อยู่รอด เพราะคิดว่าอนาคตไม่มีความแน่นอน
“ไม่ค่อยกระทบค่ะ เพราะว่าเวรก็ยังแน่นเหมือนเดิม อาจจะหนักกว่าเดิมด้วย แต่ก็เป็นห่วงคนอื่น คนหาเช้ากินค่ำที่เขาไม่ได้มีเงินเดือนประจำ อันนั้นก็เห็นใจเขามากๆ เหมือนกัน”
ท้ายนี้ยังฝากเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังสู้ชีวิต ท้อได้ แต่อย่าถอย ใครมีงานก็ขอให้กอดไว้แน่นๆ
“ขอให้ทุกคนสู้ๆ ท้อได้ แต่อย่าถอย ทุกคนท้อได้อยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งถ้าเรายิ่งไม่มี เรายิ่งไม่มีสิทธิถอยเลย เราต้องสู้ไปเรื่อยๆ ใครมีงานก็กอดงานไว้แน่นๆ เพราะงานมันหายาก กอดไว้แน่นๆ แล้วเราก็ตั้งใจทำงาน อย่าไปฉ้อโกงใครด้วยนะ”
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊กแฟนเพจ “พยาบาลบ้าบอ แห่งประเทศไทย crazy nurse Thailand”
ข่าว : ทีมข่าวMGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **