เปิดทุกมิติกับเส้นทางชีวิต “ตั้ว-ศรัณยู” ผ่านตัวตนของเขา ในวันที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เพื่อสะท้อนจุดยืนที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ด้วยนิสัยแน่วแน่-ทุ่มเท-จริงจัง และซื่อสัตย์กับตัวเอง ทั้งในมุม “คนบันเทิง” และ “นักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ผู้มีหัวใจแข็งแกร่ง ควรค่าแก่การจดจำไปตลอดกาล...
“พระเอกในตำนาน” ต้นแบบนักแสดงมืออาชีพ
กลายเป็นข่าวช็อกวงการเป็นอย่างมาก สำหรับการสูญเสียพระเอกตลอดกาล และผู้กำกับชื่อดัง ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยวัย 59 ปี ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย
นับว่าเป็นหนึ่งในบุคลากรคุณภาพของวงการบันเทิงที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องมาตลอดช่วงเวลา 40 ปี และเป็นพระเอกที่มีช่วงการครองความนิยมยาวนานที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้
ล่าสุด เปิ้ล-หัทยา เกตุสังข์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ พร้อมน้ำตา หลังสูญเสียคู่ชีวิตอย่างไม่มีวันหวนกลับ ยอมรับไม่คิดว่าจะเสียชีวิตไปแบบกะทันหันแบบนี้
“ห่วงเรื่องงาน แล้วก็มีเรื่องน้องหนุน น้องหนัง หนุนจบแล้วใช่ไหม หนุนวางแผนชีวิตยังไง เปิ้ลต้องทำความฝันที่คิดอยู่ ที่วางแผนอยู่ให้เป็นความจริงนะอย่าท้อ เขาก็จะพูดไปเรื่อย คุยกันไปเรื่อยๆ เกือบทุกวัน จนกระทั่งอยู่ที่โรงพยาบาลก็ยังคุยอยู่ว่าต้องพยายามทำสิ่งที่เราอยากทำให้เป็นความจริงให้ได้ อย่าท้อถึงแม้ว่าจะลำบาก”
ข่าวการสูญเสียในครั้งนี้ได้สร้างความตกใจแก่แฟนๆ ของพระเอกและผู้กำกับมากความฝีมือคนนี้เป็นอย่างมาก ด้านเพื่อนพี่น้องในวงการได้ทยอยออกมาโพสต์ข้อความอาลัย
หนึ่งในนั้นก็มี ประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ นักคิด นักเขียน นักแต่งเพลง ที่สำเร็จการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงพระเอกตลอดกาล กับการเป็นเพื่อนที่ยาวนานกว่า 42 ปี
“ตั้ว เป็นที่รักของเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้อง เขาไม่เอาเปรียบใคร มีน้ำใจ มีสปิริตเป็นยอด แทบจะไม่มีครั้งไหนเลยที่เมื่อเพื่อนขอความช่วยเหลือ หรือรุ่นน้องชักชวนให้ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมแล้วตั้วไม่รับปาก ไม่ว่าจะเป็นงานระดับคณะหรืองานระดับมหาวิทยาลัย
เราจึงเห็นตั้วเล่นรักบี้อยู่กองหน้าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ไปค่ายอาสาพัฒนาและปีนถือค้อนอยู่บนโครงหลังคาอาคารเรียนที่กำลังสร้างแทบทั้งวัน ขึ้นโต้วาทีกับนิสิตต่างคณะ เป็นหัวหอกนำรุ่นน้องไปสร้างเต็นท์หรือแลนด์มาร์กในกิจกรรมของคณะ
และเมื่อถาปัดทำละครเวทีเพื่อหาเงินให้คณะ ใครเล่าจะเหมาะสมเป็นพระเอกได้เท่าตั้ว สามก๊ก โชกุน น่านเจ้า ละครถาปัดที่ตั้วยึดตำแหน่งพระเอกไว้ทั้งหมด รวมไปถึงไปช่วยเล่นเป็นพระเอกให้ละครฝั่งอักษรศาสตร์อีกหลายเรื่อง
เมื่อเรียนจบ ตั้วก็ยึดเอาการแสดงเป็นอาชีพ และต้องยอมรับว่า เขาเป็นนักแสดงที่เก่งจนหาตัวจับได้ยากคนหนึ่งของเมืองไทย ตั้วยังเหมือนเดิม เป็นที่รักของเพื่อน ไม่เคยถือตัว พวกเราสนุกกันจนบางทีผมก็นึกขันว่า ชายวัยกลางคนที่ยังสง่างามคนนี้คนที่ยืนหัวเราะตบบ่าเพื่อนอย่างสนุกอยู่ข้างหน้านี้ คือ พระเอกแห่งยุคคนหนึ่งของสยาม”
ทางด้าน แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ก็โพสต์ซึ้งถึงพี่ชายที่แสนดี เผยความรู้สึกผ่านอินสตาแกรม “ampdidi” ดีใจที่บทสนทนาสุดท้ายเป็นคำพูดที่ดีงาม ไม่มีอะไรค้างคาใจกันอีก พร้อมส่งกำลังใจถึงพี่เปิ้ลและหลานๆ ทั้ง 2 คน
“เรียนรู้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยากหรือไม่อยาก ก็ต้องเรียนทุกคนไป ไม่มีเว้น ดีใจที่ล่าสุด สุดท้ายของบทสนทนาระหว่างเพื่อนมนุษย์สองคน คือ บทสนทนาที่ดีงาม มันดีมากๆ จริงจริง ไม่มีอะไรค้างคาใจ ไม่มีเวรกรรมไม่ดีต่อกันและกันไปดีดีนะพี่ น้องก้มกราบลาเป็นครั้งสุดท้าย
ว่าแต่ พี่รีบเกินไปหน่อยนะ ทั้งๆ ที่น้องแน่ใจ ว่าจะเป็นคนที่ไปก่อน พี่มาปุบปับแซงคิวอย่างนี้ มันตกใจนะ นอนพักให้สบาย และไปดีดี ไปที่สวยสวย น้องจะคิดให้ได้ ว่าที่สุดแล้ว เราทุกคนก็ต้องไป เหมือนๆ กันหมด ไม่ว่ายากดีมีจน ส่งกอดไปยังพี่เปิ้ล และหลานหนุนกับหนัง ขอให้ภูมิใจได้ ว่าคุณพ่อเป็นคนที่ดี จิตใจดี ที่น่าภูมิใจคนหนึ่งเลย
ส่วนพี่ตั้ว แอมขอเรียกแบบนี้ อย่างที่เคยปาก เป็นครั้งสุดท้าย พี่ตั้วนอนนะ อีกหน่อยเราทุกคนก็คงไปเหมือนๆ กัน จะเจอกันไหม ก็ไม่รู้ เพราะทุกคนคงมีกรรมเป็นของตนเอง เมื่อไหร่ว่างๆ หรือทำได้ มาเล่าให้ฟังบ้างนะว่าอีกฝั่งนึง มันเป็นยังไง กราบนะคะ”
สำหรับผลงานที่ผ่านมาของ “ตั้ว ศรัณยู” เป็นทั้งพระเอก พิธีกร และผู้กำกับดัง ผลงานชิ้นแรกทางหน้าจอโทรทัศน์ คือ การแสดงเป็นตัวประกอบในรายการเพชฌฆาตความเครียด ทางช่อง 9
โดยผลงานที่สร้างชื่อ ได้แก่ เก้าอี้ขาวในห้องแดง นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่โด่งดังมากมาย เช่น บ้านทรายทอง, พจมาน สว่างวงศ์, เจ้าสาวของอานนท์, วนิดา, ไฟโชนแสง, น้ำเซาะทราย, ทวิภพ, มนต์รักลูกทุ่ง, ด้วยแรงอธิษฐาน, นายฮ้อยทมิฬ ทั้งนี้ ยังมีผลงานด้านการแสดงมามากกว่า 100 เรื่อง ทั้งทางจอเงินและจอแก้ว รวมถึงละครเวที และพิธีกรอีกด้วย
ด้วยความสามารถอันโดดเด่นตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งการเป็นพระเอกละครเวที ดรัมเมเยอร์ นักรักบี้ และด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาบาดใจสาวๆ ดึงดูดให้มีแฟนๆ ติดตาม จึงกลายเป็นหนุ่มฮอตที่มีคนแวะเวียนมาดูตัวจริงอยู่เสมอ
ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าวงการบันเทิงแบบเต็มตัว พระเอกฮอตตลอดกาล ก็เคยเดินตามสายวิชาที่ร่ำเรียนมา นั่นคือ การเป็นสถาปนิก หลังจากนั้น จึงหันเหเข้าสู่วงการบันเทิง
“ผู้กำกับ-นักปั้น” ที่ไม่มีค่าครู
รางวัล “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” เวทีนาฏราช และรางวัล “ผู้กำกับละครดีเด่น” เวที “รางวัลโทรทัศน์ทองคำ” จากละครเรื่อง “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” และรางวัล “ผู้กำกับละครยอดเยี่ยม” เวที “คมชัดลึก อวอร์ด” จากละครเรื่อง “รอยรักแรงแค้น”
นี่คือตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่สะท้อนความสำเร็จของผู้ชายคนนี้ ในฐานะคนเบื้องหลัง ผู้ปั้นทั้งศิลปะการละคร และปั้นทั้งอนาคตของนักแสดงหลากชีวิตให้โลดแล่นอยู่ในวงการได้อย่างสง่างาม
ส่งให้เขาได้รับการยอมรับให้เป็น “ครูทางการแสดง” คนหนึ่ง ที่มีลูกศิษย์มากหน้าหลายตา นับถือและศรัทธา แม้เขาจะไม่มีค่ายและไม่ชอบสังกัดก็ตาม
หนึ่งในนั้น รับประกันได้จากคำไว้อาลัยจากนางเอกสาวอย่าง ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่ได้มีโอกาสร่วมงาน ในละคร "บัลลังก์หงส์"
“โชคดีที่สุดของหนูที่ได้เป็นนักแสดงของพ่อ ผู้กำกับของหนู ทิศทางของหนู ครูของหนู พ่อของหนู ตลอดไป #หลับให้สบายนะคะ ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราได้เจอกัน ขอบคุณทุกอย่างที่พ่อมีที่พ่อเป็นให้หนู พ่อจะอยู่ในหัวใจและความทรงจำของหนูตลอดไป”
นอกจากนี้ ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล ก็เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่เคยร่วมงานกับพระเอกมากฝีมือ ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้พร้อมทั้งรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับครูแห่งการแสดง ชื่นชมการทำงานว่าเป็นต้นแบบสำหรับนักแสดงมืออาชีพได้เป็นอย่างดี
“พี่ตั้วเป็นพี่ชายเเละครูเเละนักเเสดงที่มีความรักในอาชีพของการเเสดงอย่างมาก ไม่ใช่เเค่อาชีพ เเต่เป็นทั้งชีวิตของพี่ตั้ว เท่าที่ตั๊กเคยร่วมงานกับพี่ตั้ว พี่ตั้วทำให้เห็นถึงวินัยเเละการถ่ายทอดในความเป็นอาชีพนักแสดงที่ให้ความบันเทิงและให้ประโยชน์ต่องานและผู้ชมในเเบบจริงใจที่สุด
การทำงานกับพี่ตั้วไม่เคยทำให้ตั๊กไม่อยากไปกองถ่ายเลย เพราะทุกครั้งพี่ชายคนนี้ให้เกียรตินักเเสดงทุกคนเเละมีอารมณ์ขันสนุกเเละในการทำงานคือการสอน ตั๊กดีใจเเละถือเป็นเกียรติในชีวิตคือรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับครูเเห่งการเเสดงอย่างพี่ตั้ว ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพี่ตั้ว อย่างสุดซึ้งค่ะ”
แน่วแน่เสมอใน “อุดมการณ์การเมือง”
แน่นอนว่า “จุดยืนทางการเมือง” คืออีกหนึ่งตัวตนของเขาที่แสดงออกอย่างชัดเจนเสมอมา โดยเริ่มจากการที่เขาเคยเข้าร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ.2535 และเคยมีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
และในวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ.2548-2550 ตั้วก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง และได้ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกับ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เพื่อนนักแสดง
จนกระทั่งถูกแต่งตั้งให้เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 พร้อมกับ มาลีรัตน์ แก้วก่า และยังได้เลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ของทางกลุ่มพันธมิตรฯ
และนี่คือคำไว้อาลัยจากผู้ใหญ่อีกหนึ่งท่าน ที่รู้จักผู้ชายคนนี้ดีที่สุดในแง่มุมการเมือง อย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” เอาไว้ว่า
“ตั้วเป็นมนุษย์ในความเป็นมนุษย์ เป็นคนที่มีจิตใจดีงามมากๆ และเป็นคนที่ไม่หน้าไหว้หลังหลอกทุกคำพูดและการกระทำของตั้วต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคนมีแต่ความจริงใจ และบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยความรักและอาลัยอย่างที่สุดกับน้องรักคนนี้ ขอให้ตั้วไปที่ดีๆ และมีความสุข และสงบ”
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน พระเอก และผู้กำกับชื่อดังยังเคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Live ถึงการแสดงจุดยืนทางการเมือง ไม่เคยเสียใจกับทางที่เลือกเดิน เพียงแค่แอบมีความน้อยใจบ้างเท่านั้น
“ตั้งแต่สังคมออกมาตื่นตัวเรื่องการเมือง พี่ออกมาแสดงตัวว่าเป็นคนที่สนับสนุนการชุมนุมของคนกลุ่มหนึ่ง แค่ทำหน้าที่ตามความรู้สึกในฐานะประชาชนที่รู้สึกต่อแผ่นดิน ต่อบ้านเมือง แค่นี้สังคมก็ผลักเราไปไว้อีกมุมหนึ่งเลย ตราหน้าว่าเราคือตัวปัญหา
โดยไม่สนว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันคืออะไร กลายเป็นว่าคนที่ดูดีและไม่มีปัญหา คือคนที่อยู่เงียบๆ โดยไม่บอกว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ มีแนวคิดทางการเมืองยังไง พี่แอบตั้งคำถามอยู่ในใจเหมือนกันว่าทำไมสังคมเราถึงได้เป็นแบบนี้
พี่ไม่ได้บอกว่าบันเทิงไม่เกี่ยวกับการเมือง นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะบอกให้คนเปิดใจ เพราะการเมืองมันเกี่ยวกับทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าคุณต้องแยกแยะว่า ณ วันนี้ที่พูดเรื่องการเมืองมันต้องมีความต่าง ณ วันนี้ที่พูดเรื่องการตัดผม งานเฟอร์นิเจอร์ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
แต่ทุกวันนี้มันกลายเป็นว่าจะเลือกช่างสองคนที่ฝีมือดีที่สุดมาทำเฟอร์นิเจอร์ ต้องให้มามองหน้ากันก่อน มึงอยู่ข้างไหน ถ้าความคิดการเมืองต่างกัน กูไม่ทำกับมึง แล้วอย่างนี้จะทำงานร่วมกันได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันก็เอามาเกี่ยว สังคมเรายังแยกแยะตรงนี้ไม่ได้”
ด้วยความเต็มที่และซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ในทุกมิติชีวิตของ “พระเอกตลอดกาล” รายนี้ จึงส่งให้ “บุคคลอันเป็นที่รัก” คนนี้ ณ เวลานี้ ควรค่าแก่การจดจำไปตลอดกาล ในการจากไปของเขา
ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @sarunyoo,@ple_hattaya, @sitalawongk
ข่าว : MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
