ดีต่อใจ อันตรายต่อร่างกาย!! เปิดอุทาหรณ์ภัยเงียบร้ายของ “ทุเรียน” กินปริมาณมาก “อึดอัด-อารมณ์เสีย-คุณภาพการนอนไม่ดี-ถึงตาย” นักโภชนาการชี้ กินอย่างไรไม่ให้โรคถามหา พร้อมแนะทริกการกินอย่างไรไม่ให้เป็นภัยต่อร่างกาย!!
ทุเรียนพิษร้าย ทำคนถึงตาย!!?
“พอกันทีทุเรียน!!! ลาก่อน” หนึ่งในข้อความที่ “แจง ปุณณาสา” ภรรยา “แจ๊ส ชวนชื่น” ออกมาโพสต์เตือน หลังกินทุเรียนมากเกินไป จนเกิดอาการร้อนใน ส่งผลให้ต้องหามเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว
ทันทีที่มีภาพออกไป หลายคนเข้ามาสอบถามกันยกใหญ่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งใครจะคิดล่ะว่าการกินทุเรียนที่มากเกินไป อาจจะทำให้เป็นพิษร้ายในร่างกาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุเรียนเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่หลายคนนึกถึง และชอบกินอย่างมาก อีกทั้งสามารถหาทานได้ง่ายในช่วงฤดูร้อนนี้เท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่า ในความอร่อย ก็แฝงไปด้วยอันตรายซ่อนอยู่เช่นกัน
แววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพ เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องการรับประทานทุเรียนมากเกินไป พร้อมสะท้อนถึงความอันตรายของทุเรียนที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้ผู้ที่กินมีอาการอึดอัด แน่นท้อง มีความหงุดหงิด และอาจจะทำให้คุณภาพการนอนไม่ดี
“คือ ทุเรียน ถ้าเราจัดในเรื่องอาหารฤดูร้อน มันมีพลังงานสูง ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักมากขึ้น มีทั้งคาร์โบไฮเดรตที่สูง มีไขมัน แต่ไม่มีคอเลสเตอรอล มันทำให้อ้วน
ทุเรียนเม็ดเล็กๆ เท่ากับเรากินแอปเปิล 1 ลูก เมื่อเรากินทุเรียนเขาก็กินปริมาณเยอะๆ ร่างกายของเราก็ได้รับพลังงานสูง และเป็นพลังงานที่เป็นความร้อน ก็จะรู้สึกไม่สบายตัว สามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ ในกรณีที่กินเป็นโรคประจำตัวต้องระวัง…
ทุเรียน ทำให้เราเกิดอาการร้อนใน เกิดจากที่ไม่สุขสบาย เพราะฉะนั้นก็จะต้องระวังในเรื่องของการกินทุเรียนสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว
ชื่อเรียกโรคของการกินทุเรียนเยอะ คือ มันยังไม่มี ยังไม่เคยได้ยินนะคะว่ามีชื่อ เป็นโรคอะไร รู้แต่ว่าถ้าหากว่าคนที่เป็นโรคไตไม่ควรกิน เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง”
เมื่อถามนักโภชการคนดังกล่าวไปว่า การกินทุเรียนมากเกินไป ส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้หรือไม่นั้น ผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบเอาไว้ว่า อาจจะทำให้เสียชีวิตได้หากกินคู่กับแอลกอฮอล์
“ถ้าหากกินทุเรียนเยอะเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินทุเรียนร่วมกับแอลกอฮอล์ ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ เพราะว่าแอลกอฮอล์จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน แล้วมันจะมีสารที่เรียกว่าอัลดิไฮด์
คือ แอลกอฮอล์พอเรากินเข้าไป มันจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน แล้วจะเกิดสารที่เรียกว่าอัลดิไฮด์ ซึ่งทุเรียนจะสะสางการนำเอาอัลดิไฮด์ออกจากร่างกาย สรุปง่ายๆ คือ เวลากินทุเรียนพร้อมกับแอลกอฮอล์ทุกชนิดเลย เบียร์ เหล้า ไวน์ ปริมาณมาก ทุเรียนจะไปขัดขวาง
![[นักกำหนดอาหารวิชาชีพ]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005480906.JPEG)
พอแอลกอฮอล์เข้าไปร่างกายของเรา มันจะเกิดสารอัลดิไฮด์ พอสารอัลดิไฮด์ออกจากร่างกาย เราก็จะไม่เมา แต่ทุเรียนมันไปขัดขวาง ว่า ไม่ให้ร่างกายของเรานำสารนี้ออกจากร่างกายเรา ก็เลยทำให้พลังงานการเมาฤทธิ์แอลกอฮอล์ และฤทธิ์ของทุเรียนอยู่ด้วยกัน
ถ้าหากกินพร้อมกันในเวลามากๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นด้วย อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ ถึงกับเสียชีวิต หรือถ้าคนที่เป็นเบาหวาน มีน้ำตาลในเลือดสูงมาก และเขาก็กินทุเรียนเยอะๆ ทำให้ร่างกายของเขามีน้ำตาลมาก
พอมีน้ำตาลมากแล้วน้ำตาลในเลือดของเขาสูงมากเกินไป อันนี้ก็มีความเสี่ยงมาก ถ้าระดับน้ำตาลสูงอันนี้ก็ต้องระวัง ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวด้วยค่ะ คนธรรมดาอย่างพวกเรากินต้องสังเกตก่อนว่า ถ้าเรากินปริมาณทุเรียนแค่ไหน แล้วรู้สึกมึนๆ หัว รู้สึกว่าไม่สบาย แต่อยากจะกินอีกต้องให้หยุดก่อน”
แนะทริกกินทุเรียน เลี่ยงกินมังคุด!!
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหาร ย้ำถึงความอันตรายที่เกิดขึ้นจากการกินทุเรียนในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งแน่นอนว่า การกินในปริมาณที่มาก ไม่ได้ส่งผลต่อทุกคนที่กิน แต่ด้วยสาเหตุหลักๆ คือ 1.โรคประจำตัว 2.การเผาผลาญของร่างกาย 3.กิจกรรมสิ่งที่ทำ หลังจากกินทุเรียนเข้าไป
“การแพ้ของทุเรียนมันน้อยมากเลยค่ะ เพียงแต่ปริมาณบางคนที่กินต้องดูก่อนว่า เวลาที่เขากิน เขากินครั้งเดียวในปริมาณมากไหม อย่างเช่นสมมติว่า กินทีเดียว 4 พู คนเดียวแล้วมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย
คนที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง คนที่มีโรคประจำตัวอย่างนี้ เวลากินเข้าไปร่างกายของเขาจะรู้สึกว่าไม่สุขสบาย เนื่องจากโรคประจำตัวของเขากำเริบ โรคประจำตัวของเขามันส่งผลต่อการกินทุเรียน
และการกินทุเรียนขึ้นอยู่กับเวลาที่กินด้วย ถ้าหากสมมติเรากินตอนเย็นๆ ค่ำๆ เสร็จแล้วก็นั่งดูโทรทัศน์ แชตไลน์กันแบบนี้ ไม่ได้ออกกำลังกาย พลังงานมันก็จะอยู่ในร่างกายเยอะ แทนที่จะถูกเผาผลาญไป
เพราะฉะนั้นสิ่งที่แตกต่างกัน คือ 1.โรคประจำตัว 2.การเผาผลาญ 3.กิจกรรมของคนกินทุเรียนในปริมาณมากเท่ากัน ทำไมหลายคนเป็นอันตราย อีกคนถึงไม่อันตราย เวลาที่เรากินอะไรที่พลังงานมันเยอะๆ ร่างกายทำงานหนัก มันจะเหมือนอาเจียน เหมือนปวดหัว ความดันทำให้อาเจียนก็ได้ อึดอัด ปวดหัวก็ได้”
ทั้งนี้ เธอยังย้ำอีกว่า ไม่เพียงแค่ผลไม้อย่างทุเรียนที่ควรจะหลีกเลี่ยง โดยค่อยๆ ลดการกิน แต่ยังมีผลไม้รสหวานอื่นๆ ที่อาจจะทำให้เป็นภัยร้ายเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว
“ผลไม้ที่มีรสหวานจัด จะให้พลังงานเยอะ พอเรากินปริมาณมากร่างกายเราจะเกิดความร้อน ทำให้ความดันโลหิตของเราสูงกว่าปกติ
เมื่อมาเจอกับความร้อน อากาศอุณหภูมิ 40 องศาข้างนอก มันก็เลยส่งผลทำให้ร่างกายของเราต้องปรับตัวขนานใหญ่ อากาศภายนอกก็ร้อน กินของร้อนๆ เข้าไปในร่างกายของเรา ก็เลยทำให้ทั้งสมองทั้งร่างกายโดยเฉพาะความดันโลหิตสูง เพราะฉะนั้นต้องกินผลไม้ที่รสหวานจัด อย่างเช่น ขนุน ลิ้นจี่ ทุเรียน ลำไย พวกนี้ต้องคอยระวังอย่ากินปริมาณมาก
ปกติเราแนะนำให้คนที่กินอาหารที่ดี มีประสิทธิภาพ กินผักและผลไม้วันละ 400 กรัม กินผักประมาณ 250 กรัม อีก 150 กรัมเป็นผลไม้
สมมติเรากินผักไปแล้ว 250 กรัม คือ กินผลไม้ทั้งวัน เรากินทุเรียนแค่ 3 เม็ด ถ้าเปลี่ยนเป็นผลไม้อื่นๆ อย่างเช่น กล้วยน้ำว้า 3 ใบ ถ้าเป็นผลไม้เป็นลูกๆ ก็ 15 ชิ้นพอคำ นั่นคือ หลักการในการกินผลไม้ที่ไม่เป็นโทษแก่ร่างกาย สามารถนำมาใช้กับทุเรียนได้
การกินทุเรียนเยอะๆ มันสามารถทำให้ไขมันในเลือดของเราสูงได้ ตัวทุเรียนไม่มีคอเลสเตอรอล มันจะมีไขมันอย่างหนึ่งที่ทุเรียนทำให้สูงได้ คือ ไขมันไตรกลีเซอไรด์”
ไม่เพียงเท่านี้ยังฝากทริกดีๆ ทิ้งทายถึงพฤติกรรมการกินทุเรียน และผลไม้ชนิดอื่นๆ ของคนในยุคปัจจุบัน ว่า ทุกคนควรมีความปลอดภัยและภูมิต้านทานที่ดี ที่สำคัญต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ และเลี่ยงการกินผลไม้ในอากาศร้อนๆ ด้วย
“คนที่เป็นโรคเบาหวาน มีวิธี (กิน) คือ ให้เอานิ้วโป้งจดกับนิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วอะไรก็ได้ คือ จะเป็นกลมๆ นั่นคือ ปริมาณที่ทุเรียนกินได้ใน 1 วัน ของคนเป็นเบาหวาน เพราะว่าน้ำตาลเขาสูงค่ะ ส่วนคนที่เป็นความดันโลหิตสูง ก็สามารถกินเพิ่ม แต่อาจจะกินได้วันละ 2 เม็ด คนที่เป็นเบาหวานก็วันละ 1 เม็ด
วิธีป้องกันพิษของทุเรียนทำได้ง่ายๆ ไม่กินคู่กับมังคุดนะคะ อันนี้อยากจะบอกว่าทุเรียนเป็นผลไม้ร้อน มังคุดเป็นผลไม้เย็น เวลาที่เขาบอกว่าเวลากินทุเรียนในหน้าร้อน ให้ตามด้วยมังคุด ร่างกายของเราจะได้รับพลังงานมากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะทำให้เขาดับความร้อน
การกินทุเรียนเยอะๆ อีกข้อที่ต้องทำ คือว่า ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดพลังงานความร้อนทุเรียนในร่างกายของเรา
ทุเรียนไม่ควรกินตอนเย็น หลังอาหารเย็น หลัง 4 โมงไปแล้วไม่ควรกินทุเรียน เพราะทุเรียนให้พลังงานสูง มันทำให้เรานอนไม่หลับได้
ลองสังเกตดูนะคะว่าทำไมคนที่กินทุเรียนเยอะๆ แล้วทำไมกลางคืนนั้นนอนไม่หลับ หรือนอนฝันร้าย ก็เพราะว่าทุเรียนมีพลังงานเยอะ พอเรากินแล้วแล้วไปนอน ร่างกายของเรายังต้องใช้ ทำงานหนักในการที่จะเผาผลาญทุเรียน อาจจะทำให้เรานอนไม่หลับ หรือคุณภาพการนอนไม่ดีค่ะ
อาการหนักๆ อึดอัด แน่นท้อง อารมณ์เสีย หงุดหงิด ความดันโลหิตสูง อารมณ์เสียนี่ชัดเจน แทนที่การกินทุเรียนปริมาณน้อยจะมีประโยชน์ ถ้ากินน้อยจะมีประโยชน์ กินมากจะหงุดหงิดค่ะ”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR LIVE
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
