“พระยังสู้ โยมก็ต้องสู้เหมือนกัน” เปิดใจ “พระอาจารย์คม อภิวโร” แห่งวัดป่าธรรมคีรี เดินเท้าแจกเงินสดและถุงยังชีพ “ชุดกำลังใจสู้ภัย Covid-19” แก่ชาวบ้านในพื้นที่หลายร้อยหลังคาเรือน “โยมใส่บาตรพระมามากแล้ว ขอให้พระได้ดูแลโยมบ้างเถิดนะ”
ตอบแทนน้ำใจชาวบ้านด้วย “ชุดกำลังใจสู้ภัย Covid-19”
“ข้าว 1 เม็ด น้ำ 1 หยด ที่ญาติโยมทั้งหลายได้ตักบาตรให้ อาตมาได้รับแล้ว อาตมาเอาไปเจริญทาน จิตภาวนา นั่งสมาธิ เอาไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อ ขณะนี้กำลังของข้าวของน้ำทั้งหมดที่เคยใส่บาตรมา ขอโอกาสให้อาตมาเป็นฝ่ายย้อนกลับไปดูแลท่านทั้งหลายด้วย ถึงได้บอกว่า “โยมใส่บาตรพระมามากแล้ว ขอให้พระได้ดูแลโยมบ้างเถิดนะ” นี่คือออกมาจากใจ”
พระอาจารย์คม อภิวโร เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) กล่าวกับทีมข่าว MGR Live หลังจากที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์เรื่องราวของวัดป่าธรรมคีรี วัดดังใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แม้จะออกรับบิณฑบาตไม่ได้ เนื่องด้วยวิกฤตโรคระบาดในตอนนี้ อีกทั้งชาวบ้านบริเวณนั้นก็ได้รับความเดือดร้อน จึงเป็นที่มาที่ทำให้ คณะสงฆ์จากวัดแห่งนี้ เดินเท้าออกแจกเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินสดให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่หลายร้อยหลังคาเรือน
“ในภาวะอย่างนี้ ข้าวยากหมากแพง แถมโรคระบาดคุกคาม รายรับไม่เข้า รายจ่ายมีแต่มากขึ้น บางบ้านข้าวสารไม่มีจะกินเลย ขณะเดียวกัน เขารวมกันไปซื้อแอลกอฮอล์ ซื้อไข่ไก่ เอาผักสดมาแขวนไว้หน้าประตูวัด เพราะว่าพระไม่ได้บิณฑบาต
ที่วัดมีพระ 25 รูป เณร 5 รูป แต่เวลาไปจริง 8 รูป ขอคนน้อยที่สุด เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บด้วย ขนของใช้รถ แต่เวลาแจกเดินเท้า บางตรอกรถเข้าไม่ได้ หลายร้อยหลังคาเรือน มันคือชนบท ผนังเป็นสังกะสีหรือผ้าใบโฆษณาที่ทิ้งแล้ว หรือแม้แต่บ้านปูนที่ดูดีหน่อย เราอย่าเห็นแค่เปลือก ข้างในเต็มไปด้วยความเดือดร้อน เพราหนี้สินมันรุมเร้า ถ้าหากว่ามีทุกข์มากๆ ทางออกมันสามารถออกในทางที่ไม่ดีไปเยอะนะ ถ้ามันไม่มีสติ ไม่มีกำลังใจที่ดีช่วยประคับประคอง
แต่ก็โชคดีว่าในบริเวณรอบวัดป่าธรรมคีรี ในบริเวณบ้านซับน้ำเย็นที่เราไปอบรมธรรมะ ไปให้ความรู้เรื่องการใช้หน้ากากอนามัย การใช้เจลแอลกอฮอล์ การป้องกันโรคโควิด-19 ปรากฏว่าบริเวณนี้กลายเป็นว่าไม่มีขโมย ทุกคนอยู่ในศีลในธรรมพอสมควร แสดงว่าสิ่งที่พระพยายามมอบให้แก่ชุมชน สิ่งที่ชุมชนช่วยอุปถัมภ์พระ มันสัมฤทธิผล
(ชาวบ้าน) เขาก็ร้องไห้กันเยอะเลย เป็นความดีใจ ระหว่างไปเขาก็จะไปบอกต่อๆ กัน เพราะไม่บอกล่วงหน้า มันวุ่นวาย จะเกิดปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น เวียนกันรับ ข้าวของเหล่านั้นก็สลับสับเปลี่ยนกันไป”
สำหรับ 1 ชุดกำลังใจสู้ภัย Covid-19 ประกอบด้วย เงินสด 500 บาท และเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารตราพันดี 5 กิโลกรัม น้ำดื่มสิงห์ 600 ml. 1 โหล บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป สาหร่ายมาชิตะ ซอส TODD ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ หน้ากากผ้าอนามัยแบบพิเศษหนา 3 ชั้น เครื่องสมุนไพร และอื่นๆ โดยได้รับการอนุเคราะห์จากผู้อุปถัมภ์วัดหลักคือ สิงห์ มาม่า และฟาร์มเฮ้าส์ ศิษยานุศิษย์ท่านอื่น รวมถึงใช้เงินกองกลางของวัดจัดซื้อมา
และไม่เพียงช่วยเหลือแค่เหตุการณ์โควิด-19 เท่านั้น วัดป่าธรรมคีรี ยังช่วยเหลือชาวบ้านและหน่วยงานที่เดือดร้อนอย่างต่อเนื่องทุกเดือนมาตลอด 7 ปีแล้ว
“ถ้าไม่ทราบที่มาที่ไปมันก็ดูเวอร์เกินที่แจกแบงก์ 500 กันสนั่นหวั่นไหวขนาดนั้น แต่ก็ต้องเรียนว่าเป็นเพราะเมตตาจิตของท่านผู้ใหญ่ใจดี เมื่อถวายให้อาตมาแล้ว อาตมารับก็นำไปทำประโยชน์ต่อทันทีเหมือนกัน เดี๋ยวจะตั้งโรงทานอาหาร การแจกทานที่นี่ทำมาตลอด 7 ปีและทุกเดือน ไม่ใช่เพิ่งมาทำช่วงโควิด-19 ไม่ได้ทำที่เดียวกันซ้ำๆ ฉุกเฉินในแต่ละจุดด้วย เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ไฟป่า โรงพยาบาลคน โรงพยาบาลสัตว์ สถานราชทัณฑ์ สลับสับเปลี่ยนกันไป
มองโรคร้าย เป็นดั่งครู
“พระ เณร และฆราวาสของวัดป่าธรรมคีรี ได้รับการอบรมด้านจิตภาวนามาพอสมควร จึงไม่ตื่นตระหนก พร้อมรับมืออย่างมีสติ ไม่กลัว ไม่ท้าทาย ต้องให้ความเคารพตามที่ทางการแพทย์ ทางหน่วยราชการเขาขอความร่วมมือทั้งประเทศ ให้หยุดเชื้ออยู่บ้านกัน ปิดวัด ยกเว้นว่าเพื่อเป็นการทำทาน ถ้าเรื่องอาหาร พระวัดป่าธรรมคีรี กินน้อย พูดน้อย นอนน้อยอยู่แล้ว สบายเลย กลายเป็นว่ายิ่งเงียบสงบ พระยิ่งภาวนาได้ดี เจริญกัมมัฏฐานได้ตลอดทั้งวัน
“อาตมาจะสอนพระ สอนเณร และคณะศิษย์เสมอว่า ท่านทั้งหลายอย่ามัวแต่คิดพึ่งชาวบ้าน เลิกไปเลย จงตั้งสติให้ดีและคิดดังต่อไปนี้ “เราต้องเป็นที่พึ่ง เป็นแสงสว่างของตนเอง และสามารถเป็นที่พึ่ง เป็นแสงสว่างให้ผู้อื่นได้ด้วย””
สำหรับผลกระทบและการปรับตัวที่ทางวัดป่าธรรมคีรีต้องเผชิญในสถานการณ์เช่นนี้นั้น พระอาจารย์คม กล่าวว่า ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย และแทบไม่ต่างจากกิจวัตรประจำวันที่เคยทำอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งยังนำสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากไวรัสโควิด-19 มาใช้เป็นบทเรียนเพื่อสอนบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายต่อไป
“วิกฤตโควิด-19 เป็นครูสอนเราแท้ๆ สอน ให้เราย้อนกลับไปพิจารณาการใช้ชีวิตที่ผ่านมา เราอยู่ด้วยความประมาทมามาก ถ้าเรากินมากมันเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บสะสม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เรากินน้อยแต่เลือกกินให้มีประโยชน์ ไม่ต้องตื่นตระหนก ไม่ต้องพูดทำร้ายทำลายกำลังใจกัน อย่านอนมากเกินไป ขยันทำความสะอาดบ้าน ขยันล้างมือ ขยันดูแลตัวเอง ดูคนในครอบครัว
เด็กรุ่นลูกก็จะย้อนกลับมาให้ความสำคัญดูแลปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ก็จะเกิดความอบอุ่นในครอบครัวขึ้น แม้ว่าอาจจะห่างกันระยะ 1 เมตร แต่ว่าสานสัมพันธ์ พลังความรัก มันอบอุ่น มันหนาแน่น มันใกล้ชิดกัน วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะได้เห็นความเสียสละ เมตตาธรรม และเห็นพลังของแนวรบแถวหน้าป้องกันรักษาให้แก่คนทั้งหลายให้ปลอดภัยที่ไม่ใช่ทหาร แต่คือ คุณหมอและคุณพยาบาล
ทรัพย์สินเงินทอง ผลประโยชน์ ลาภยศสรรเสริญทั้งหลาย ไม่เท่าความปราศจากโรค ตราบใดที่เรายังมีร่างกายอยู่ ยากจนมันก็สู้ต่อได้ แพ้ก็ลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่ได้จิตใจด้วย ให้ทั้งกำลังกายและกำลังใจ ถ้าหากไม่ใครให้กำลังใจเราเลย ก็กรุณาให้กำลังใจตัวเอง ปลุกกำลังใจตัวเองให้ขึ้นมากลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่ทรงพลัง
แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่มีความน่ารักมากที่สุดในโลก เพราะเรามีศูนย์รวมใจเดียวกันคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งทุกวันนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดี ให้ข่าวลือทำลายชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์มากมาย พระองค์ท่านก็เสียสละ ช่วยเหลือหน่วยแพทย์ ประชาชนทั้งปวง ทรงรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเรา แม้ว่าอยู่ในที่ของพระองค์ อย่าตกเป็นเครื่องมือของข่าวลือต่างๆ คนไทยต้องสามัคคีกัน ไม่ทิ้งกัน มันจึงจะอยู่รอด พระยังสู้ โยมก็ต้องสู้เหมือนกัน”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เพจเฟซบุ๊ก “วัดป่าธรรมคีรี”
ตัดต่อ : อิสสริยา อาชวานันทกุล
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **