ลงพื้นที่จับผิด “ของไหว้ตรุษจีนแพง” แม่ค้าไม่ยอมรับ สวนทางราคาพุ่ง!!

ลงพื้นที่จริง “ตลาดเยาวราช” “ตลาดบางแค” สำรวจของไหว้ตรุษจีน พบ เป็ด - ไก่ แห่ปรับขึ้นราคาจากปีที่แล้วถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ผลไม้ขึ้นราคา 5 - 7 บาท กระดาษเงินกระดาษทองปรับขึ้น 10 บาท

พ่อค้า - แม่ค้า โอดครวญ คนซื้อไม่คึกคัก เพราะปัญหา “ฝุ่นพิษ” ขณะที่ผู้ซื้อบ่นของแพง ต้องประหยัด เศรษฐกิจแย่

เป็ด - ไก่ แพงขึ้น แม่ค้าอ้างราคาเดิม

[โพสต์ระบายความในใจจาก "อ.ยิ่งศักดิ์"]
“#เจ็บปนเสียว ขอบ่นหน่อยเหอะ แพงโคตร นี่ขนาดฉันรวยนะยะ คนจนๆ ไม่ตายกันเหรอ!!!

เพิ่งกลับจากตลาด มาซื้อของไหว้ตรุษจีน หลับตานึกภาพแล้วกันนะ ไก่ต้มตัวละ 800 บาท ไก่พ่อไก่แม่ตัวละ 800 โอ๊ย ทำไมมันแพงกันขนาดนี้ ปลาหมึกแห้ง 3 ตัว 280 โอ๊ยอยู่ไม่ไหวแล้ว”

หลัง อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ นักจัดรายการอาหารชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวีดีโอระบายความในใจ ผ่านทวิตเตอร์ @yingsakjj เรื่องของไหว้ตรุษจีนแพงขึ้นจนน่าใจหาย

ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัย ว่ามีการปรับราคาสินค้าให้แพงขึ้นต้อนรับตรุษจีนจริงไหม ทางทีมข่าว MGR Live ได้ลงพื้นที่สำรวจเช็คราคา ของเซ่นไหว้ อยู่ 2 พื้นที่ คือที่ “ตลาดเยาวราช” และ “ตลาดบางแค”

[ตลาดเยาวราช | ขอบคุณภาพ : www.ทำเลขายของ.com]
เริ่มจากบรรยากาศที่ “ตลาดเยาวราช” หลังลงพื้นที่ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางทีมข่าว พบเห็นประชาชนเริ่มมาจับจ่ายซื้อสินค้าสำหรับตรุษจีนกันแล้ว ซึ่งมีทั้ง เป็ด ไก่ หมู ปลา ผลไม้ และขนม

จากการสอบถาม พ่อค้า - แม่ค้า ที่ตลาดเยาวราช พบว่า ผลไม้ มีราคาขึ้น - ลง อยู่แล้วเป็นธรรมดาด้านเนื้อสัตว์แม่ค้ากล่าวว่า ไม่ได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และพบแม่ค้าขาย เป็ด - ไก่ บางส่วน ไม่อนุญาตให้สัมภาษณ์ทั้งๆ ที่ไม่มีลูกค้า

[ร้านผลไม้ตลาดเยาวราช ยืนยันราคาขึ้นลง ไม่แน่นอน เป็นปกติ]
“แอปเปิ้ลช่วงนี้ 4 ลูก 100 บาท สาลี่ก็ 4 ลูก 100 บาท ส้มถ้าสวยหน่อยก็ กิโลกรัมละ 140 บาท ถ้าลูกเล็กหน่อยก็ 100 บาท องุ่น 250 บาท ผลไม้ราคามันก็ขึ้นลงไม่แน่นอนตามเทศกาลอยู่แล้วค่ะ เป็นเรื่องปกติ” แม่ค้าขายผลไม้กล่าว

ด้านแม่ค้าขาย เป็ด - ไก่ ที่ให้ความร่วมมือรายหนึ่งกล่าวว่า “ราคาก็ปกติค่ะ เป็ดก็แล้วแต่ขนาด มีตั้งแต่ 350 - 450, ไก่ก็มีตั้งแต่ 250 - 550, ปลาก็ 280 - 320, หมูก็ชิ้นละ 180 ราคานี้ไม่ได้ขึ้นอยู่แล้วค่ะ จะเทศกาลหรือวันธรรมดาก็ราคานี้”

แต่จากข้อมูลสถิติที่ได้มีการสำรวจไว้เมื่อปีที่แล้วพบว่า ราคา เป็ด ไก่ มีความขัดกันกับที่แม่ค้าได้กล่าวไว้

โดยราคาของ เป็ด ในปีนี้คือ 450 บาท จากปีที่แล้วราคา 400 บาท และราคาไก่ในปีนี้อยู่ที่ 550 บาท จากปีที่แล้วราคา 480 บาท

เมื่อคำนวณดูแล้ว เป็นการปรับราคาสินค้า ขึ้นมาประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์

[หมู-เป็ด-ไก่-ปลา ปรับราคาขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์]

ชวนพิศ การัณย์เขตต์ ชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ซื้อของเซ่นไหว้มากว่า 20 ปี กล่าวว่า ปีนี้ต้องลดปริมาณการซื้อลง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี จากปีก่อนซื้อครบชุด ปีนี้จะซื้อแค่ชุดหลักๆ ที่จำเป็นต่อการไหว้

“ปีนี้ก็ต้องซื้อน้อยลงค่ะ เพราะเศรษฐกิจมันไม่ค่อยดี จากปีก่อนเราซื้อไหว้ครบชุด ปีนี้เราก็ไหว้แค่ชุดชาแซ ก็คือ ไหว้ 3 อย่าง เนื้อสัตว์ 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง ขนม 3 อย่างเท่านี้พอ ไหว้แค่เท่าที่จำเป็น”

[ตลาดบางแค | ขอบคุณภาพ : www.homenayoo.com]
ส่วนผลการสำรวจแหล่งที่ 2 ที่ “ตลาดบางแค” ในวันที่ 22 ม.ค.นั้น พ่อค้า - แม่ค้า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีการขึ้นราคา แต่การค้าขายปีนี้เงียบลง อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ

เจ้าของร้าน เจ๊แหม่มเป็ดพะโล้ หรือ สุธาวี เจริญวัฒนะโพธิ์แก้ว กล่าวว่า ปีนี้ตลาดไม่คึกคักเหมือนปีที่แล้ว เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี รวมถึงลูกค้าบางรายอาจจะมีการซื้อเก็บไว้ก่อนถึงวันตรุษจีน และราคาก็ขึ้นไม่ได้เพราะต้องขายลูกค้าประจำ

“ปีนี้ตลาดก็ไม่ได้คึกคักเหมือนปีที่แล้วค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ลูกค้าเขาจะซื้อเก็บไว้ หรือว่า ไหว้ก่อนตรุษจีนไปแล้ว อีกอย่างก็คือเศรษฐกิจมันไม่ค่อยดีด้วย

เป็ดจะอยู่ที่ตัวละ 300 - 320 บาท, ส่วนไก่ก็ตัวละ 180 - 220 บาท, ถ้าหมูก็ชิ้นละ 130 - 140 บาท ราคาก็ไม่ได้เพิ่มเลยค่ะ เพิ่มไม่ได้ เพราะขายหน้าร้านทุกวันอยู่แล้ว จะมีลูกค้าประจำมาซื้อ”

[ขนมเทียน-ขนมเข่ง เศรษฐกิจแย่ ค้าขายไม่ดี]
สุริยา ส่องแสงศักดิ์ พ่อค้าขาย ขนมเข่ง ขนมเทียน กล่าวว่า เศรษฐกิจปีนี้ย่ำแย่ ค้าขายไม่ดี ราคาวัสดุปีนี้เพิ่มขึ้นทุกอย่าง แต่ทางร้านก็ไม่ได้มีการขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด

“ขนมเข่งก็ขายราคาเดิมคือคู่ละ 15 บาท ขนมเข่งมะพร้าวก็คู่ละ 25 ขนมก็เทียนลูกละ 7 บาทราคาเดิมเหมือนกัน แต่พวกวัสดุขึ้นราคาทุกอย่าง น้ำตาล มะพร้าว แป้งขึ้นหมด ปีนี้คนมาซื้อน้อยมาก ก็เศรษฐกิจมันไม่ดีคนเขาก็ไม่ค่อยมาซื้อกัน”

ฝุ่นพิษฟุ้ง ตรุษจีนสะเทือน!!

[ร้าน "น้องกิ๊ฟผลไม้" ปรับราคาส้มขึ้น ช่วงเทศกาล 5-7 บาท]
อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้น ก็คือเรื่องของฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดลง แถมยังหนักขึ้นอีก จนรัฐบาลต้องประกาศ ให้โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร 437 แห่ง หยุด 1 วัน เนื่องจากมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานหลายพื้นที่

และปัญหานี้ไม่ได้มีผลกระทบแค่กับสุขภาพอย่างเดียว แต่รวมไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ และการซื้อของไหว้ตรุษจีนอีกด้วย

“ปีนี้คนก็น้อยลงค่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้ขึ้นราคา ก็คงเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีนี่แหละค่ะ ส่วนนึงก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องฝุ่นด้วย คนเขาก็กลัวฝุ่น กลัวป่วยกัน เขาก็ไปซื้อในห้างกันมากกว่า ไม่ค่อยมาเดินตลาดกันแล้ว”

ปาลิดา โชคจุฬานนท์ เจ้าของร้านน้องกิ๊ฟผลไม้ ที่ค้าขายมานานกว่า 30 ปี 1 ในผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 อธิบายว่า ปีนี้ไม่ได้ขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด มีแค่ส้มที่ราคา ขึ้น - ลง ตามเทศกาลอยู่แล้ว แต่ลูกค้าน้อยลงเนื่องจากมีปัญหามลพิษทางอากาศ

“ราคาส้มก็ กิโลกรัมละ 60 - 90 บาท ส่วนช่วงเทศกาลราคาจะขึ้นวันละ 5 - 7 บาท สาลี่ราคาเดิม กิโลกรัมละ 50 บาท สาลี่หิมะลูกละ 50 บาท แอปเปิ้ลมีหลายราคาแล้วแต่ขนาด ลูกละ 13 - 100 บาท องุ่นมีเม็ดกิโลกรัมละ 150 บาท ไร้เมล็ด 280 บาท จะมีขึ้นราคาก็แค่ส้มนี่แหละค่ะ”

[กระดาษไหว้เจ้า คนซื้อน้อยมากในปีนี้]
ทางด้าน ภัทรภร ซอนิมิตรเกิดลาภ แม่ค้าขายกระดาษไหว้เจ้า ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เต็มๆ เล่าว่า ปีนี้ต้นทุนสูงขึ้น ซ้ำยังมีเรื่องฝุ่นพิษ ทำให้คนซื้อยิ่งลดลงอีก

“ปีนี้ราคาก็ขึ้นมาเยอะพอสมควรค่ะ เพราะต้นทุนสูงขึ้น อย่างปีที่แล้ว กระดาษเงินกระดาษทอง ขายอยู่ที่ราคาชุดละ 25 บาท ปีนี้ต้องมาขายชุดละ 35 บาท เหตุผลที่ขึ้นน่าจะเกี่ยวกับเศรษฐกิจล้วนๆ เลยค่ะ แล้วปีนี้ยิ่งมีเรื่องฝุ่นเข้ามาด้วย ยิ่งทำให้ขายไม่ได้ไปกันใหญ่ ก็ต้องหาอย่างอื่นมาขายเพิ่ม”

["ร้านเจ๊แหม่มเป็ดพะโล้" ไม่มีการขึ้นราคา เพราะขายหน้าร้านทุกวัน]
ด้านผู้บริโภคเอง ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เช่นกัน สุนันทา สุขกำแหง อาชีพค้าขาย มาซื้อของไหว้ตรุษจีนเป็นประจำ กล่าวว่า ต้องปรับเปลี่ยนการซื้อสินค้า และปีนี้ไม่ได้เผากระดาษ เนื่องจากมีปัญหาฝุ่นรุมเร้า วอนรัฐบาล ช่วยรีบดำเนินการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ

“ราคามันเริ่มแพงมาหลายปีแล้ว ต้องไหว้ลดลง ไหว้แค่เป็ด แล้วก็ผลไม้นิดหน่อย ส่วนเรื่องกระดาษก็ไม่ได้เผามา 2 ปีแล้ว เพราะเขารณรงค์เรื่องฝุ่นพิษกันอยู่เราก็ไม่เผา ก็อยากจะให้รัฐบาลช่วยรีบแก้ปัญหาจริงๆ จังๆ สักที เพราะเราก็ต้องทำมาหากิน ต้องออกไปซื้อของทุกวัน”

เจาะความหมายมงคล “ของไหว้ตรุษจีน”

ตรุษจีน ถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญมากต่อชาวจีน เพราะชาวจีนถือว่า เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับวันสงกรานต์ ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง

ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ว “วันจ่าย” คือวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้อ อาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ เพื่อนำมาไหว้ให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

ทั้งนี้ของไหว้ต่างๆ ของชาวจีนนั้น ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ เช่น หมู เป็ด ไก่ และผลไม้เช่น ส้ม องุ่น แอปเปิ้ล ซึ่งแต่ละอย่างจะแฝงความหมายในการเซ่นไหว้ตามความเชื่อของชาวจีนอีกด้วย

ไก่ หมายถึง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์
หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
ส้ม หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข

ดังนั้น “วันจ่าย” ตลาดสดจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะชาวไทยเชื้อสายจีน จะเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าสำหรับไหว้เจ้า จึงทำให้ของเซ่นไหว้ ขายดิบขายดีมากในช่วงเทศกาลตรุษจีน