ตาอักเสบ-ปากบวม-หอบหืดกำเริบ เด็กป่วยหนัก วิกฤตคนกรุง เผชิญฝุ่นพิษ กระทบสุขภาพ แม้แต่สัตว์เลี้ยงยังเจอผลกระทบป่วยหนัก คนดังเรียกร้องรัฐเพิกเฉย ไม่ได้รับการแก้ไข สังคมวิจารณ์เละรัฐบอกอย่าตื่นตะหนก ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ
คนดังเรียกร้อง ฝุ่นกระทบสุขภาพหนัก
“เรามาถึงจุดนี้กันแล้วใช่ไหม ที่การไปออกกำลังกายข้างนอก คือการทำลายสุขภาพ การพาลูกออกไปเล่นข้างนอก คือการทำร้ายสุขภาพของเขา ท้องฟ้าข้างนอกมืดมัวปกคลุมไปด้วยละอองฝุ่นทั้งเมือง คนไทยจะมีคุณภาพชีวิตแบบนี้จริงเหรอ?”
ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน นักร้องสาวชื่อดัง ออกมาโพสต์ภาพดวงตาอักเสบของตัวเอง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “lydiasarunrat” พร้อมกับระบุข้อความว่า ได้นั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของสามี แมทธิว ดีน ออกไปซื้อของประมาณ 15 นาที ทำตาอักเสบจากฝุ่นพิษ ทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัยแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร อีกทั้งชีวิตเหมือนโดนกักบริเวณ
“นี่แค่ออกไปข้างนอก (และใส่แมสก์ปิด) เพื่อแวะซื้อของแป๊บเดียวประมาณ 15 นาที แต่ผลที่ได้รับคือตาอักเสบจากมลพิษและฝุ่น PM2.5 ได้ขนาดนี้? เหมือนโดนคำสั่งให้ถูกกักบริเวณจับควบคุมตัวอยู่ในบ้าน”
ขณะที่ เมญ่า นนธวรรณ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า ตัวเองนั้นกลับมาถึงไทย 2 วัน ก็เข้าโรงพยาบาลไปแล้วเหมือนกัน ส่วนตอนนี้ก็นอนอยู่บ้าน เปิดแต่เครื่องกรองอากาศวนไป
นอกจากนี้ แร็ปเปอร์คนดังอย่าง โจอี้ บอย ก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องฝุ่น ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “Apisit Joeyboy Opasaimlikit” พร้อมตั้งคำถามว่าคนที่รับผิดชอบไม่กลัวว่าประชาชนจะเป็นอะไรเลยเหรอ
“สงสัยเหลือเกินว่าไม่มีใครกลัวเลยเหรอ? หรือคนที่ต้องรับผิดชอบเขาไม่กลัวพวกเราเป็นอะไรเลยเหรอ? คือเข้าใจว่ามันมาเป็นช่วงเวลานี้ของปีแล้วเดี๋ยวมันก็ไป แต่การดูแลให้ความรู้ หรือแม้แต่การแก้ไขอะไรสักอย่างในขณะที่วิกฤตไม่มีให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราวเลย ต้องแจกและบังคับใส่หน้ากากกัน 2.5 แล้วปะวะ ทีหมวกกันน็อกยังบังคับใส่”
อีกด้าน นักแสดงสาวสวยอย่าง โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพสวมหน้ากากอนามัย ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว “bowie_atthama” ว่าได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
“รู้สึกเหมือนตัวเองจะเริ่มได้รับผลจากฝุ่น PM สังเกตว่าเวลาออกไปเจอจุดที่ฝุ่นเยอะ แล้วจะรู้สึกระคายเคืองคอ วันต่อมาก็จะเป็นคออักเสบ ระคายเคืองมากทำให้นอนไม่ค่อยได้ ในช่วง 1-2 เดือน มีอาการแบบนี้มาประมาณ 4-5 ครั้งแล้ว”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “Infectious ง่ายนิดเดียว” ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ก็ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยฝุ่น PM2.5 ที่เกินมาตรฐาน ทำให้พบเด็กป่วยเยอะขึ้น มีอาการแพ้กำเริบ และปากบวม
“เมื่อวานอยู่เวรนอน รพ. เป็นวันที่ค่า PM 2.5 สูงมาก เกือบ 150-200 เห็นผลเลย เป็นวันที่เด็กป่วยระบบทางเดินหายใจเยอะมาก ไข้หวัด คัดจมูก ไอ น้ำมูกไหล ตาแดง คัน จาม หอบหืดกำเริบ หลอดลมกำเริบอักเสบ และอาการแพ้ ลมพิษ ผื่นนูนแดง คัน ปากบวม หลายเคส
แนะนำ 1.หลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน ถ้าไม่จำเป็น งดกิจกรรมนอกบ้าน 2.จำเป็นต้องออก ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน 3.ควรเช็กสภาพอากาศ เครื่องวัด PM เครื่องกรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศ 4.จิตสาธารณะ งดเผาหญ้า สร้างมลพิษ งดจุดไฟ งดจุดธูปเทียน ด้วยความปรารถนาดี”
ล่าสุด มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ “@__D10palette" ได้โพสต์ภาพตุ่มสีแดงขึ้นทั่วขา ที่บ่งบอกว่าเกิดจากอาการแพ้ต่อฝุ่นพิษ พร้อมกับระบุข้อความว่า “ถามว่าค่าฝุ่นแรงประมาณไหน ก็ประมาณนี้อ่ะค่ะ #ฝุ่นกรุงเทพ #PM2.5” ทั้งนี้ยังบอกอีกว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ยังเกิดผลกระทบได้ถึงขนาดนี้
“พื้นฐานเป็นคนแข็งแรงมากค่ะ อยู่มา 30 ปี ไม่เคยเป็นภูมิแพ้ ลมพิษ แม้แต่กำเดาก็ไม่เคยไหล แต่อาทิตย์ที่แล้วออกจากบ้านไปถึงที่ทำงานผื่นจะขึ้นแบบนี้ตลอด ต้องทายา กินยาแก้แพ้ เคยลองเทสต์ไม่ออกจากบ้านเสาร์-อาทิตย์ ปรากฏว่าไม่เป็นอะไร พอวันจันทร์ไปทำงาน ก็เป็นตามในรูปเลย
เราแข็งแกร่งมากยังเป็นขนาดนี้ ใครที่แพ้ง่าย เป็นภูมิแพ้ก็ดูแลตัวเองกันดีๆ นะคะ นี่ก็ใส่แมสก์ตลอด แต่ก็เป็นตามนี้ หวังว่าฝุ่นจะหมดไปเร็วๆ เถอะค่ะ ทรมานเหลือเกิน”
ไม่เพียงเท่านี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Narisara Student” ก็ได้ออมาโพสต์เตือนภัยสำหรับคนรักสัตว์ ถึงความอันตรายจากฝุ่น PM 2.5 จนทำให้น้องหมาป่วยเป็นโรค COPD (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) หรือโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
“หลายคนอาจจะยังไม่ตระหนักถึงความชั่วร้ายของเจ้าฝุ่นละอองหมอกควันพิษ PM 2.5 ว่ามันร้ายกาจแค่ไหน มาค่ะจะเล่าให้ฟัง ดอลลี่มีอาการไอตอนเที่ยงคืนกว่าๆ และไม่หยุด ไอแห้งๆ ไอจนตัวโยก นี่คืออยู่ๆ ก็เป็น ไม่มีการเตือนใดๆ มาก่อน หลังจากผ่านการหาหมอมาทั้งคืนตลอดจนบ่ายวันนี้ ตรวจเลือด เอกซเรย์แบบละเอียดพบว่ามีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันของถุงลมในปอด โรคนี้เรียกว่า COPD
สาเหตุที่อยู่ๆ ก็เป็นเนี่ยมันคือฝุ่นล้วนๆ มันส่งผลโดยตรงต่อปอดและหัวใจ โชคยังดีที่ไม่มีอาการของน้ำในปอดและโชคยังดีที่แม่พุ่งไปหาหมอโดยที่ไม่รั้งรอ
กลัวกันได้แล้วไอ้เจ้าฝุ่นเนี่ย มันน่ากลัวจริงๆ คนเองเวลาหายใจยังแสบจมูกเลย แล้วหมาอ่ะตัวก็แค่นี้จะแย่แค่ไหน อยากให้ระวังกันเยอะๆ ค่ะ คือนี่เลี้ยงลูกแบบประคบประหงมมากนะ ถ้าใครที่รู้จักจะรู้เลยว่าหวงลูกมาก ทุ่มเทดูแลมากขนาดนี้ยังป่วยแบบกะทันหันได้เลยอ่ะ”
ประณามรัฐ เพิกเฉยต่อปัญหาฝุ่น
กลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันอย่างมาก สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และขยายผลเป็นวงกว้างสู่หลายจังหวัดในประเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีค่าฝุ่นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในหลายพื้นที่เริ่มเผชิญผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และเริ่มส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไร้ซึ่งท่าทีโต้ตอบของรัฐบาลหรือผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหานี้
หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพอสมควร เนื่องจากยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีอย่างที่ควร แม้จะมีการประกาศว่าปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติในปี พ.ศ.2562 แต่ก็ไม่มีการแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวต่อประชาชนแต่อย่างใด
ทำให้ “องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการเพิกเฉยต่อสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ของรัฐบาล
“องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในนามตัวแทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ใช้อากาศเพื่อการดำรงชีวิต ขอประณามการเพิกเฉยของรัฐบาลที่มีต่อสถานการณ์ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในประเทศไทยทั้งด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยออกมาตรการทั้งในด้านการรับมือสถานการณ์ระยะเร่งด่วนเนื่องจากสถานการณ์อาจแย่ลง ด้านการรับมือในระยะสั้นเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ และด้านการรับมือในระยะยาวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต ซึ่งปัญหานี้มีแนวโน้มจะรุนแรงยิ่งขึ้น
ดังนั้น องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติ และเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี รัฐบาลไม่ควรเพิกเฉยหรือผลักภาระให้ประชาชนรับมือด้วยตนเอง หากรัฐบาลมีมาตรการรับมือสถานการณ์ที่สมเหตุสมผล ประชาชนย่อมพร้อมปฏิบัติตาม เพื่ออากาศหายใจที่บริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป”
นับเป็นวิกฤตของคนกรุง ที่ต้องเผชิญกับฝุ่นพิษ ในหลายพื้นที่มีค่าเกินมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่เห็นได้ชัดกับหลายคน ทั้งปอด และระบบทางเดินหายใจ
จึงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล เมื่อ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดถึงเรื่องฝุ่นว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในขณะนี้ดีขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนพฤศจิกายน 2562 และขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แนะนำให้ประชาชนวัดค่าฝุ่นจากหน่วยงานภาครัฐ อย่างแอปพลิเคชัน “Air4Thai” ที่จะมีการแจ้งเตือนจากกรมควบคุมมลพิษวันละ 3 เวลา
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ ก็ทำหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
พร้อมทั้งเตรียมเสนอ 12 มาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ โดยบูรณาการการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม lydiasarunrat, bowie_atthama และเฟซบุ๊ก Apisit Joeyboy Opasaimlikit
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
