xs
xsm
sm
md
lg

รักยิ่งใหญ่ของ “แม่เมย์” ขอสละชีวิต หยุดรักษามะเร็ง เพื่อสานต่อลมหายใจลูกน้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอมตายเพื่อลูกน้อย! เปิดใจสามี สุดเศร้าสูญเสียภรรยาใจสู้ผู้เสียสละจากเนื้อร้าย เผยตั้งครรภ์ระหว่างการรักษามะเร็ง หมอแนะให้เอาลูกออก เพื่อโอกาสในการรักษา แต่เธอกลับไม่ห่วงชีวิต ลั่น! ขอเก็บลูกไว้ เชื้อร้ายแพร่กระจาย แม้ความตายจะพรากเธอกับลูก แต่ชีวิตน้อยๆก็มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก

เนื้อร้ายมิอาจพรากความรักของแม่


ทิว - ธนทัต ถาวร อายุ 28 ปี เปิดใจถึงเรื่องราวสุดซึ้งในโลกโซเชียลฯ ของภรรยา เมย์ - ฐานิตา ถาวร คุณแม่ใจเด็ดยอดนักสู้ผู้เสียสละ ผ่านทีม MGR Live เศร้า จากซีสต์บริเวณเต้านม กลายร่างเป็น “มะเร็งในกระแสเลือดชนิดร้ายแรง” พบได้ 1 ในล้าน

ความรักที่บ่มเพาะมา 13 ปี ตั้งแต่วัยรุ่นสู่วัยทำงาน ความผูกพันฉันคนรัก เรียนที่เดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน กระทั่งโรคร้ายมาพรากจากพวกเขา แต่เธอไม่ห่วงชีวิตได้ให้กำเนิดลูก โดยไม่หวั่นว่าชีวิตตนเองจะเป็นอย่างไร

ทิว เล่าว่า ภรรยาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่เต้านม หลังพบว่า เต้านมข้างซ้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงตัดสินใจเข้าตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางนา คำตอบที่ได้รับตลอดการรักษาคือระบุเป็นแค่ก้อนซีสต์ธรรมดา ไม่อันตราย ทว่า นานวันเข้าก้อนเริ่มใหญ่ขึ้น และแตกช้ำเป็นจ้ำสีม่วงเต้านม

“ผมเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว จึงตัดสินใจพาไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เจาะดูก้อนจนพบว่าเป็นมะเร็งในกระแสเลือดชนิดร้ายแรงหนึ่งในล้าน พอรู้ผลหลังจากผมก็เข้าติดต่อที่โรงพยาบาล ตามสิทธิประกันสังคม เพื่อพบกับหมอที่เป็นคนตรวจ คำตอบที่ได้จากปากหมอคนนั้นคือ ทำไมปล่อยไว้จนเป็นแบบนี้ ม่วงช้ำๆ ไปเดินชนโต๊ะมาหรือป่าว

จากนั้นภรรยาผมตัดสินใจผ่าตัดโดยใช้สิทธิประกันสังคม ส่งต่อไปที่สถาบันมะเร็ง ในปี 2559 การผ่าตัดครั้งที่หนึ่งผ่านไปด้วยดี ผมกับภรรยาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเข้าออกโรงพยาบาล เพื่อรักษาโรงมะเร็งด้วยกันตลอด”

หลังจากนั้นปลายปี 2559 ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงาน พร้อมกับรักษาโรคร้ายมาตลอด กระทั่งต้นปี 2560


“ภรรยาผมก็เข้าผ่าตัดครั้งที่สอง เนื่องจากก้อนมะเร็งมันขึ้นที่เต้านมเหมือนเดิมจนต้องตัดทิ้ง”

ทั้งคู่ใช้เวลารักษาตัว ไปพบหมอตามนัดตลอด เข้าออกโรงพยาบาลจนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ฟันฝ่าต่อสู้กับมะเร็งร้ายมานาน จนเข้าสู่เดือนกันยายนก้อนมะเร็งได้ขึ้นมาที่เดิมอีกครั้งเป็นการผ่าตัดครั้งที่สาม

จนมาถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนเกิดของเมย์ หมอนัดตรวจร่างกาย และได้อัลตราซาวด์ที่ท้องเพื่อค้นหาความผิดปกติและก้อนมะเร็ง แต่ต้องตกใจ เมื่อพบว่า “ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเด็ก”

ชีวิตลูก สำคัญกว่าชีวิตแม่

เมย์ตั้งครรภ์ ได้ 2 เดือนแล้ว ทั้งคู่ดีใจที่สุดในชีวิต ฟ้าผ่า! หมอถาม จะเลือกรักษามะเร็งต่อ หรือ เก็บลูกไว้ เพราะระหว่างที่ตั้งครรภ์จะไม่สามารถรับการรักษาอะไรได้เลย เพราะจะกระทบต่อชีวิตลูกน้อย แม่เมย์และพ่อทิวขอเลือก “ชีวิตลูก”

“หมอให้มาปรึกษากับครอบครัวว่าจะเอายังไง จะรักษาต่อหรือจะหยุดการรักษาโดยเก็บเด็กไว้ ผมกับภรรยาและครอบครัวปรึกษากันไว้ว่าจะเก็บลูกไว้ พอกลับไปพบหมออีกครั้งหมอถามว่าจะรักษาหรือเก็บไว้ เราควรจะรักษาต่อ แต่ภรรยาผมเลือกที่จะเก็บลูกไว้และดูและเค้าอย่างดี

ภรรยาผมไม่สนใจเธอเฝ้าคอยวันที่จะเจอหน้าลูก จนเข้าสู่เดือนที่เจ็ดของการตั้งครรภ์ก้อนมะเร็งได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ภรรยาผมเดินเรื่องย้ายการผ่าตัดจากสถาบันมะเร็งมาเป็น รพ.รามาฯ แทน หลังจากนั้นก็เป็นการผ่าตัดครั้งที่สี่ การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีทั้งแม่และเด็กปลอดภัย ทั้งผม และภรรยาช่วยกันดูแลลูกที่ในครรภ์เป็นอย่างดี การผ่าตัดทุกครั้งจะมีพ่อแม่ลุงป้าน้าอาพี่เพื่อนน้องมาเยี่ยมตลอด เรียกง่ายๆว่าทุกคนรักและเป็นห่วงภรรยาผม

หลังจากนั้นก็เข้าสู่เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนกำหนดคลอดเจ้าตัวเล็ก ก้อนมะเร็งได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้งเหนือหน้าอก ก่อนถึงคอ ซึ่งเป็นก้อนดันกระดูกขึ้นขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นทำอะไรยังไม่ได้เพราะใกล้คลอดจนมาถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ภรรยาผมก็ได้ให้กำเนิดเจ้าตัวน้อย นามว่า  "น้องขนม"


ทิว เล่าว่า หลังจากคลอดน้องขนมได้ 2 วัน พยาบาลก็ตรวจพบค่าตัวเหลืองและหายใจเร็ว หัวใจมีรอยรั่วและท่อที่ต่อผ่านหัวใจก็ปิดเองไม่ได้ต้องทำการผ่าตัด ทิวและเมย์ทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกนอนเจ็บอยู่ในตู้และโดนเจาะแขนแต่พวกเขาสองคนก็ให้กำลังใจเจ้าตัวน้อยทุกวัน

“ภรรยาผมเริ่มต้นการรักษาใหม่อีกครั้งด้วยการฉายแสงเพื่อให้ก้อนนั้นยุบลงทำแบบนี้วันต่อวันหลังจากทำเสร็จก็ไปหาลูกในห้องตู้อบ”

ส่วนน้องขนมที่มีความเป็นนักสู้เหมือนแม่ หลังผ่าตัดน้องขนมฟื้นตัวได้เร็วมากพยามยามรักษาตัวเองเพื่อที่จะได้กลับบ้านไปอยู่กับพ่อและแม่

“พยาบาลที่ดูแลชื่นชมขนมกันใหญ่เลยว่าไม่เคยร้องหรืองอแงตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น หลังจากอยู่ในห้องนั้นได้ประมาณ 15 วัน ถึงเวลากลับบ้าน เราสองสามคนพ่อแม่ลูกมีความสุขที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

หลังจากนั้นภรรยาของผมก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการรักษามะเร็งอย่างเต็มรูปแบบ เริ่มต้นด้วยการฉายแสง มาหาหมอตามนัดตลอด และต่อด้วยการให้คีโมซึ่งเป็นยาเคมีที่แรงและทำลายเซลล์ทุกอย่างในร่ายกาย ภรรยาผมใช้เวลารักษาและอยู่ดูแลขนมตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่ลาคลอด หลังจากนั้นก็กลับไปทำงานตามปกติ แล้วก็มีลาหาหมอตามที่นัดทุกอาทิตย์ ทุกครั้งที่พบหมอ หมอจะบอกกับภรรยาผมตลอดว่าก้อนมะเร็งที่ตับมันได้โตขึ้นเรื่อยๆนะ อาจจะทำให้ท้องโตขึ้นตามด้วย

จากนั้นก็รักษาคีโมมาเรื่อย จนก้อนที่ตับปริแตกทำให้เลือดออก กระทั่งทรุดหนัก เลยต้องเปลี่ยนมาให้เลือดแทนคีโม ผมถามหมอไปว่า ถ้าเป็นแบบนี้จะอยู่ได้อีกนานไหมครับ หมอบอกว่าแค่หลักเดือนเท่านั้น หมอถามกลับมาว่าตอนนี้ลูกเรากี่ขวบแล้ว ผมตอบว่า 1 ขวบ 5 เดือนครับ หมอบอกนั้นแหละนั้นคือกำไรชีวิตของเค้าแล้วที่เค้าอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ลูกคือกำลังใจที่ดีของเค้า ถ้าเป็นคนอื่นอย่างน้อยแค่ 3-6 เดือนเท่านั้น

หมอบอกให้เราสองคนเริ่มวางแผนการใช้ชีวิตเผื่อวันไหนที่มีอะไรเกิดขึ้นจะได้ตัดสินใจถูก วันนั้นเราให้เลือดเสร็จกลับบ้านตามปกติคุยกันปกติ ภรรยาถามผมตอนอยู่บนรถว่าถ้าตายไปแกจะทิ้งลูกไปมีเมียใหม่ไหม ผมเงียบสักพักก่อนจะบอกไม่ต้องห่วงนะ เค้าจะดูแลขนมให้ดีอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะทุกวันนี้ผมก็ทุ่มให้กับลูกคนเดียวเท่านั้น

ศิลปินคนโปรด ส่งสู่สวรรค์

หลังจากไปพักฟื้นที่บ้านลุง ที่เลี้ยงดูภรรยาผมมาตั้งแต่เด็ก เมย์ก็ดูร่าเริงขึ้นผมใช้เวลาเกือบเดือนอยู่ที่นั้นขับรถไปกลับทุกวัน ตอนเช้าผมจะตื่นแต่เช้าออกจากเสนาฯเพื่อขับรถไปที่บ้านแฟลตบางนา เพื่อซื้อข้าวไปไห้เล่นกับลูกก่อนไปทำงาน ส่วนตอนเย็นเลิกงานผมก็ยิงตรงกลับบ้านลุงเลย ภรรยาผมจะรอกินข้าวด้วยทุกวันถึงแม้ว่าเค้าจะกินได้ไม่เยอะแต่ก็นั่งกินเป็นเพื่อน

กระทั่งอาการทรุดหนักลงอีก ช่วงเวลาที่อยู่ห้องฉุกเฉินภรรยาพูดกับผมว่า ยังไม่อยากตาย ฉันกำลังจะตายใช่ไหม ผมยืนนิ่งน้ำตาไหลพร้อมจับมือแล้วพูดกับภรรยาว่า เดี๋ยวก็หาย แล้วเราจะได้กลับบ้านกันนะลูกรอเราอยู่ หลังจากนั้นหมอและพยาบาลได้เรียกผมและพ่อแม่ลุงป้าไปคุยเพื่อจะทำการรักษาต่อแบบไหน หมอมีให้เลือก เจาะคอแล้วต่อท่อหายใจ ปั๊มหัวใจหากเกิดการหยุดหายใจ กับเข้าห้องประคับประคองระยะสุดท้ายเพื่อให้ยาระงับปวดตามอาการ ทางครอบครัวผมตัดสินใจที่จะเลือกห้องประคับประคองเพราะรู้ว่ามีโอกาสดีที่จะหายและได้กลับบ้าน


กระทั่งก่อนวาระสุดท้ายในชีวิต แม่เมย์ได้ฟังเพลงจากวง "Klear" ซึ่งเป็นศิลปินที่โปรดปรานมากในชีวิต แพท นักร้องนำได้มาร้องเพลงให้ฟังที่ข้างเตียง

แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องนำวง Klear ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดเศร้า หลังเธอได้รับข้อความจากผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมีเพื่อนรุ่นน้องชื่อ เมย์ ซึ่งเป็นแฟนเพลงวง Klear ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอ ได้ตัดสินใจพาเพื่อนร่วมวงไปพบแฟนคลับคนดังกล่าวในวันที่ 14 พฤศจิกายน เพื่อร้องเพลงให้กำลังใจถึงเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

สุดท้าย ช่วงเวลาแห่งการสูญเสียก็มาถึง ทิวนั่งอยู่ข้างเตียงแม่เมย์จับมือไว้แน่นมาก นั่งดูชีพจรของภรรยค่อยๆเต้นช้าลงช้าลงจนหยุดหายใจเสียงคนร้องไห้ดังระงมทั่วห้อง วินาทีนั้นความเสียใจของทิวพุ่งออกมากลายเป็นน้ำตา เขาลุกออกมาจากห้องนั้น

“ผมนั่งร้องไห้ตรงทางเข้าห้องผมปล่อยทุกอยากออกมาทางน้ำตา ในหัวตอนนั้นผมคิดแต่ว่าทำไมมันเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับคนที่ผมรักด้วย ครอบครัวผมกำลังสร้างทุกอย่างเรากำลังเดินทางไปด้วยกัน ผมใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาณ10 นาที ผมเริ่มตั้งสติ การที่เค้าจากไปแบบไม่เจ็บไม่ทรมานมันคงดีแล้วเค้าเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้วเหนื่อยมาตลอด 4 ปีที่รักษา ถึงเวลาที่เค้าจะต้องพักแล้ว

ผมให้คำมั่นสัญญากับเค้าไว้ว่าจะดูสิ่งที่เค้ารักมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ พอเวลาประมาณสองทุ่มหมอก็ให้พวกเราเข้าไปบอกลาครั้งสุดท้ายก่อนจะเข็นร่างอันไร้วิญญาณไปไว้ห้องสุดท้าย”

ทิวซาบซึ้งใจทุกคนที่มาร่วมงานศพแน่นคับคั่งมากเต็มศาลาทุกวัน เผยทุกวันนี้ปล่อยวาง ทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนกราน สู้สุดใจ ชีวิตนี้อยู่เพื่อลูก เพราะนอกจาก ทิวจะทำงานประจำที่เคอร์รี่แล้ว เขายังมีอาชีพเสริมขาย "เม็ดมะม่วงหิมพานต์" เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูน้องขนมอีกด้วย



ขอบคุณภาพจาก Thanatat Tawron



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น