สยอง! “แบคทีเรียกินเนื้อคน” ภัยใกล้ตัวทำ “บอย ปกรณ์” และ “แจ็ค ไรเดอร์” ล้มหมอนนอนเสื่อ โดยเฉพาะรายหลังติดเชื้อหนักหวิดต้องเสียขา แพทย์เตือน สังเกตให้ดี “มีไข้ - หนาวสั่น - แผลลุกลาม - ปวดผิดปกติ” ให้รีบพบแพทย์ หากทิ้งไว้เกิน 7 วัน มีสิทธิซี้ม่องเท่ง!!
“แบคทีเรียกินเนื้อคน” เล่นงาน บอย - แจ็ค น่วม!!
"ผ่าตัดเสร็จละเด้อ ไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะทุกคน ขอโทษมากๆๆๆๆ สำหรับทุกๆ งานที่ผมไปไม่ได้ในช่วงนี้นะค้าบ #ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายครับ #จะรีบหายรีบกลับไปทำงานนะค้าบ #ขอโทษในความกะทันหันครับ"
ทำเอาบรรดาแฟนคลับใจหายใจคว่ำ เมื่อพระเอกหนุ่มสุดเกรียน “บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” โพสต์ผ่านอินสตาแกรม @boy_pakorn เป็นภาพตนเองนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการผ่าตัดด่วน หลังถูกแมลงไม่ทราบชนิดกัดเข้าที่สะโพกด้านซ้าย ขณะแช่ออนเซ็นระหว่างไปท่องเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ก่อน
แผลถูกแมลงกัดของพระเอกดังเกิดการอักเสบและขยายตัวขนาดประมาณ 2 ฝ่ามือ เมื่อกลับถึงเมืองไทยเขาจึงรีบไปปรึกษาแพทย์ พบว่าแผลลุกลามอย่างรวดเร็วจนต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนในวันเดียวกัน
และหากยังจำกันได้ ในกรณีของ “แจ็ค ไรเดอร์” นักแสดงและดีเจหนุ่มชื่อดัง ที่เคยป่วยด้วยอาการลักษณะเดียวกันนี้ หลังจากไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทว่า... เขามีอาการหนักกว่าหนุ่มบอย เพราะได้รับการติดเชื้อ “แบคทีเรียกินเนื้อคน” จนเกือบจะถูกตัดขาทิ้ง?!
เพื่อความชัดเจนของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทีมข่าว MGR Live ได้ต่อสายตรงไปยัง นพ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล ศัลยแพทย์ไทรอยด์และทั่วไป โรงพยาบาลพระราม 9 แพทย์เจ้าของไข้ของคนบันเทิงทั้งสอง เพื่ออัปเดตผลการรักษา และทำความรู้จัก “แบคทีเรียกินเนื้อคน” ที่ผู้คนในสังคมกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ให้มากยิ่งขึ้น
นพ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล
“คุณบอยบอกว่า 2-3 วันที่แล้วโดนแมลงกัด ก็มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นที่บริเวณเอวข้างซ้าย หลังจากนั้นบวมแดงขึ้นนิดหน่อยตรงรอบๆ รอยกัด แต่พอกลับมาเมืองไทย อยู่ดีๆ มันก็บวมแดงมากขึ้น ลามลงมาบริเวณช่วงขาหนีบกับขาหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่ใหญ่กว่าและไกลจากบริเวณที่โดนกัด แล้วก็มีไข้หนาวสั่น เดินแล้วเจ็บบริเวณที่ขาติดเชื้อด้วย
ต้องผ่าตัดด่วนเท่านั้น เบื้องต้นก็คือให้บล็อกหลังนะครับ เพื่อไม่ให้มีความรู้สึกบริเวณตั้งแต่เอวลงไป แล้วก็ทำการคว้านเนื้อส่วนที่เป็นเนื้อตายที่ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ออกไป 8x5 ซม. ประมาณผลส้มใหญ่ๆ สักลูกนึง แล้วเราก็เปิดไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อดูว่ากล้ามเนื้อของแกโดนกินไปด้วยมั้ย เท่าที่ดูกล้ามเนื้อก็ยังดีอยู่ ไม่ได้โดนกัดกินไป
ส่วนที่ลุกลามไปช่วงบริเวณหน้าขากับขาหนีบมีเชื้อเข้าไปจริง ผ่าเข้าไปมีน้ำติดเชื้อ น้ำจากแบคทีเรียค่อนข้างเยอะ ผมก็ทำการผ่าเข้าไปแล้วเอาน้ำออก ล้างข้างในให้สะอาด แล้วก็เปิดแผลทิ้งไว้อย่างนั้น จำเป็นต้องเปิดเพื่อให้ระบายเชื้อแบคทีเรียออกทุกวัน หลังจากที่ผ่าตัดไปได้ 2 วัน คุณบอยก็อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ไม่มีหนาวสั่น แล้วก็แผลตรงที่ติดเชื้อยังมีลักษณะการอักเสบอยู่ ก็ยังมีลุกลามบางส่วน แต่ว่าเท่าที่ดูยังไม่น่าจะต้องผ่าตัดเนื้อตายเพิ่มนะครับ”
เมื่อแพทย์เจ้าของไข้กล่าวเช่นนี้แล้ว แฟนคลับหนุ่มบอยก็คงจะโล่งอกกันไปบ้าง แต่ยังมีอีกคนที่ต้องส่งกำลังใจให้มากๆ นั่นก็คือ หนุ่มแจ็ค ไรเดอร์ ที่รายนี้ยังต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องเพราะมีอาการหนักกว่า เคราะห์ดีที่แพทย์สามารถหยุดการลุกลามของเชื้อแบคทีเรียได้ทัน แต่ดีเจหนุ่มก็ยังคงต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายนมาจนถึงปัจจุบัน เพราะการติดเชื้อกินวงกว้าง ต้องทำการเลาะเนื้อตายที่ขาขวาออก และนำเนื้อจากขาอีกข้างมาซ่อมแซม
อาการของ "แจ็ค ไรเดอร์" ระหว่างรักษาตัว
“ของคุณบอยบริเวณรอบรูก็ยังมีแผลติดเชื้ออักเสบบวมแดงอยู่ จำเป็นต้องได้รับการนอนโรงพยาบาล ให้ยาฆ่าเชื้ออีกสักพักนึง จนแน่ใจว่าไม่มีลามเพิ่มหรือบริเวณที่ยังอักเสบอยู่มันยุบลงแล้ว ถ้าต้องรอให้มันเต็มเอง อาจจะต้องใช้เวลาสัก 3 เดือน ถ้าหายดีแล้ววันหลังเราอาจต้องศัลยกรรมตกแต่ง เอาเนื้อบริเวณอื่นโยกมาปิดแผลส่วนที่หายไป
ส่วนคุณแจ็คเป็นหนักกว่าเยอะมาก บริเวณที่เนื้อตายไปกว้างกว่าเยอะมาก ต้องตัดออกไปช่วงขาช่วงบนประมาณครึ่งขาเลย ที่ต้องอยู่นานเพราะเชื้อมันก็ลามไปตลอด ยังไม่หยุดสักที ต้องผ่าตัดหลายรอบ แล้วก็แผลใหญ่ กว่าจะกำจัดเชื้อหมดก็เป็นเดือน รอให้เนื้อขึ้นมาเต็ม เอาเนื้อจากขาอีกข้างมาปะแทน มันก็เลยใช้เวลานาน เพราะเขาโดนกินแล้วแพร่ไปเยอะกว่า แต่ใกล้แล้วครับ น่าจะออกโรงพยาบาลอาทิตย์หน้า”
หาหมอช้าเกินอาทิตย์ หมดสิทธิรอด?!
“เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนเป็นเชื้อประจำสิ่งแวดล้อมเราอยู่แล้ว อยู่ทุกที่ เชื้อมันจะมีหลักๆ 2 ตัว คือ กลุ่ม Streptococcus กับกลุ่ม Staphylococcus ตามปกติ ถ้าไม่มีการบาดเจ็บต่อผิวหนัง หรือว่ามีการที่เราเอาแบคทีเรียเข้าไปอยู่ในร่างกายเราใต้ผิวหนัง มันก็ไม่ได้ทำอะไรเรา
แต่พอมีแมลงที่กัดเข้ามาแล้ว มันอาจจะปล่อยสารพิษหรือสารอะไรก็ตามที่ทำลายเนื้อเยื่อตรงนั้น จนกลายเป็นเนื้อตาย แบคทีเรียมันก็มีทางเข้า มันก็ทำการกัดกินเนื้อส่วนที่ตายก่อน หลังจากนั้นมันก็ทำการฝังตัวแพร่กระจาย เอาเนื้อส่วนที่ดีของเราเป็นอาหาร แล้วก็ลามไปเรื่อยๆ มันก็จะกินไปเรื่อยๆ มันก็เลยชื่อโรคว่าแบคทีเรียกินเนื้อคน”
แพทย์ผู้ให้การดูแลทั้ง 2 หนุ่ม ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในประเทศไทยก็พบผู้ป่วยจากแบคทีเรียกินเนื้อคนอยู่เสมอ และไม่เพียงแค่แมลงเท่านั้นที่ทำให้ติดเชื้อได้ เพราะมันสามารถเข้าทางบาดแผลได้เช่นกัน ทั้งยังย้ำถึงอันตราย ที่หากถึงมือแพทย์ช้าเกินไป ก็อาจทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิต
“จริงๆ เป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้มีบาดแผลตรงผิวหนังเปิดแล้วก็มีทางให้แบคทีเรียติดเชื้อเข้าไป ไม่จำเป็นต้องถูกแมลงกัด สำหรับเชื้อนี้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะกินกล้ามเนื้อทุกอย่าง ความน่ากลัวของมันคือ ถ้าไม่รักษาก็อาจจะตายได้ อันตรายมากครับ โรคนี้ทิ้งเกิน 3 วันอาจจะนอนโรงพยาบาล 3 เดือน ถ้าทิ้งไปถึง 5-6 วัน อาจจะต้องตัดขา ถ้าเกินกว่านั้นอาทิตย์นึงอาจจะเสียชีวิต เพราะฉะนั้นมันเป็นโรคที่ซีเรียสอยู่แล้ว ในวงการแพทย์จะรู้จักกันดี
ถ้าวินิจฉัยได้ชัดเจนว่าเป็นโรคนี้จริง ต้องรีบผ่าตัดด่วนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะว่ายิ่งทิ้งไว้นานมันยิ่งกัดกินเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ไขมัน หรือชั้นกล้ามเนื้อเรา แล้วในที่สุดก็กินไปทั้งขา หรือเข้ากระแสเลือดติดเชื้อแล้วก็เสียชีวิต ต้องผ่าตัดด่วนอย่างเดียว และให้ยาฆ่าเชื้อตามซ้ำหลังการผ่าตัดอีกที อย่างน้อยต้องมี 1-2 อาทิตย์กว่าจะกำจัดเชื้อหมดจริงๆ
ตามปกติมันก็เป็นโรคที่พบได้บ่อยอยู่แล้วนะครับ ในต่างจังหวัดยิ่งพบได้บ่อยกว่ากรุงเทพฯ ตัวแบคทีเรียมันมีอยู่ทุกที่ ทุกจังหวัด ทุกประเทศ ไม่จำเป็นจะต้องญี่ปุ่น แต่ว่ากรณีของคุณบอยกับคุณแจ็ค บังเอิญว่าไปญี่ปุ่นเหมือนกัน โดนแมลงกัดเหมือนกัน ติดเชื้อเชื้อตัวเดียวกันเป๊ะ เหมือนกันทุกอย่าง ไม่มีความแตกต่างเลย”
ตัวอย่างบาดแผลของผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน
ทั้งนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุม (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า แต่ละปีประเทศไทยจะมีผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน ประมาณ 100-200 คน กระจายในหลายพื้นที่ แต่ที่บางพื้นที่มีผู้ป่วยจำนวนมากเป็นกลุ่มก้อน เนื่องจากคนในพื้นที่มีพฤติกรรมเสี่ยงคล้ายๆ กัน เช่น เกษตรกรในพื้นที่ที่ออกไปลุยนา ย่ำโคลน เกี่ยวข้าว ก็เสี่ยงที่จะมีบาดแผล แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เกิดการระบาดขึ้นแต่อย่างใด จึงไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ
สุดท้าย คุณหมอธัญวัจน์ ได้ฝากถึงคนในสังคมว่า แม้โรคนี้จะอันตรายแต่ก็ไม่ต้องหวาดวิตก ทางที่ดีควรสังเกตตนเอง เพื่อที่จะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที
“ส่วนใหญ่โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน มักจะเจอในขามากที่สุด รองมาก็จะเป็นช่วงบริเวณอวัยวะเพศ ขาหนีบ หรือจะเป็นแขนก็ได้ ส่วนความรุนแรงของโรคจะยิ่งทวีคูณขึ้นกับภาวะภูมิคุ้มกันของคนไข้ เช่น ถ้าคนไข้เป็นภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่ว่าจะเป็นจากการเป็นเบาหวาน ไม่แข็งแรง น้ำหนักตัวเกิน หรือว่าได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
ถ้าภูมิคุ้มกันยิ่งน้อย แบคทีเรียก็ทำงานได้เร็วมากขึ้น อย่างของคุณบอย ค่อนข้างแข็งแรง โอเคเชื้อมันลามเร็วจริง แต่ภูมิคุ้มกันแกปกป้องส่วนหนึ่ง ทำให้แผลไม่ได้ใหญ่มาก แต่อย่างของคุณแจ็คแกอาจจะน้ำหนักตัวเยอะกว่า ไขมันเยอะกว่า มันก็มีอาหารกินมากกว่าครับ
ตัวอย่างบาดแผลของผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน
ตามหลักถ้าเราโดนตัวอะไรกัด หรือมีแผลเล็กน้อยที่ผิวหนัง อย่างมากอาจจะใหญ่ไม่เกินเหรียญสิบ เป็นแค่เฉพาะที่ แต่มันไม่ควรจะมีการลามออกไปขนาดใหญ่มาก เช่น ของคุณบอยโดนกัดที่เอวแล้วลามไปถึงขาหนีบหรือเกือบถึงเข่า ซึ่งมันไกลกันมาก ไม่ควรมีอาการไข้หนาวสั่นหรือเดินแล้วเจ็บขา เพราะมันเป็นแค่อาการติดเชื้อผิวหนังข้างนอกธรรมดา แต่ถ้ามันเป็นโรคนี้ ความรุนแรงมันจะทวีคูณหลายเท่ามาก
เราจะคงไม่สามารถป้องกันไม่ให้ตัวอะไรมากัดเราได้ สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือเฝ้าระวัง ก็อยากให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกว่า เอ...เราจะกลัวถึงกับไม่เดินทางเลยมั้ย หรือจะไม่ไปญี่ปุ่น มันคงไม่ใช่ แต่ว่าสิ่งสำคัญคือ ถ้ามีอาการอย่างที่ผมบอก 1.ตุ่มแดงมันมากกว่าปกติ มันแดงลามไปมากกว่าที่ควรจะเป็น 2.มีไข้หนาวสั่น 3.ปวดผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ใกล้บ้านโดยด่วนนะครับ อันนี้สำคัญมากๆ ไม่ใช่คิดว่าแมลงกัดคงไม่เป็นไร”
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Praram 9 hospital”, อินสตาแกรม @boy_pakorn และ @jackraider
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **