สังคมอึ้งหนักมาก! เมื่อโผรายชื่อ “รางวัลอภิชาตบุตร” ครั้งล่าสุด ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงกันระลอกใหญ่ เพราะแค่มีชื่อ “เก่ง เกียร์อาร์” ก็ยังดรามาไม่จบ นี่ตามมาสมทบด้วยชื่อ “เอมี่” ดาราสาวที่เพิ่งถูกคดีเสพยาและอาจพัวพันการค้ายาอีกคน เล่นเอา “สภาศิลปวัฒนธรรมจิตตานุภาพ” เจ้าของรางวัลถึงกับถูกตั้งคำถามว่า องค์กรนี้มอบรางวัลจากคุณสมบัติของคนที่ถูกเสนอชื่อมา หรือให้จากการแลกมาด้วยเม็ดเงินกันแน่? คำตอบที่ได้รับล่าสุดคือ ผู้จัดขอยุบองค์กรถาวร เพราะไม่อาจหยัดยืนอยู่บนคำก่นด่าของสังคมได้อีกต่อไป!!
ทานกระแสไม่ไหว ขอยุบองค์กร!!
[งานประกาศ “รางวัลอภิชาตบุตร” ครั้งล่าสุด และจะเป็นครั้งสุดท้ายขององค์กร “สภาศิลปวัฒนธรรมจิตตานุภาพ”]
“เรื่องของการได้รับรางวัล น้องเอมี่เขาได้รับรางวัล "อภิชาตบุตร รวมใจภักดิ์" ซึ่งได้รับในสาขา "ดาราในดวงใจ" ที่เราเห็นตอนนั้นคือ น้องอยู่ในสถาบันครอบครัวที่เราเห็นถึงการมอบความรักได้ชัดเจน มีภาพของการโอบอุ้มตัวน้องออกมาให้เห็นตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าน้องเหมาะกับรางวัลนี้ เพราะตอนนั้นน้องก็ไม่เคยมีข้อเสียหายอะไรมาก่อน พอมาเป็นแบบนี้ทุกคนก็เซอร์ไพรส์กัน
แต่จะด้วยประการใดๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิต ทำให้น้องต้องหันเหมายุ่งเรื่องพวกนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราต้องพิจารณาถอดถอนรางวัลตอนนี้ครับ เพราะฉะนั้น คณะกรรมการและทุกคนที่ร่วมมอบรางวัลกันตรงนี้ก็ยอมรับมัน ในฐานะที่เราเป็นสถาบันที่มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมเชิดชูคนดีในสังคม เมื่อมีปัญหาเรื่องยาเสพติดเข้ามา ซึ่งถือว่าผิดกติกาเรื่องการรับรางวัล เราก็เลยต้องขอยกเลิกรางวัลของน้อง และขอให้การมอบรางวัลตรงนี้มันจบสิ้นไป
จากที่เราเคยทำผลงานให้กับสังคมมาได้ 3 ปีแล้ว พยายามช่วยเหลือเรื่องนี้ตลอดเวลา แต่มันก็มีข่าวออกมาในแง่ลบตลอดเวลา ทางผู้ใหญ่ที่คอยช่วยเหลือเราก็เสียหาย ทางผู้สนับสนุนต่างๆ ก็เริ่มรู้สึกคลางแคลงใจ ถ้าเราเดินต่อไปด้วยสภาวะแบบนี้ ก็จะมีข่าวในแง่นี้ออกมาไม่หยุดไม่หย่อน ทางผู้ใหญ่ที่เคยสนับสนุนก็ถอยกันหมดแล้ว ทางเราจึงต้องขอยกเลิกและยุติบทบาทการทำงานของเราทั้งหมดเอาไว้ตรงนี้”
["หมอซัน-ณรามิล" เลขาธิการสภาศิลปวัฒนธรรมจิตตานุภาพ]
ณรามิล วิชณุซัน คุ้มรักษ์ หรือชื่อในวงการหมอดูที่เรียกว่า "หมอซัน ราชาโชคคเณชานี" ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ผู้จัดการ Live ผ่านปลายสายในฐานะ “เลขาธิการสภาศิลปวัฒนธรรมจิตตานุภาพ” องค์กรเดียวกับที่มอบรางวัลให้แก่ “เอมี่-อาเมเรีย จาคอป” และ “ดีเจเก่ง-ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ” หลังสังคมรุมตั้งคำถามต่อเกณฑ์การให้รางวัลอย่างหนัก ถึงขั้นที่ว่า “คนได้รับรางวัลนี้ ใช้เงินซื้อได้หรือเปล่า?”
เพราะแม้แต่ดีเจเก่ง หรือที่เรียกกันว่า “เก่ง เกียร์อาร์” ก็มีสิทธิได้รับรางวัลในนาม “คนดี” ทั้งที่เคยเป็นคนก่อคดีฉาวมาก่อน คือขับรถเข้าเกียร์ถอยหลังตั้งใจพุ่งชนรถคู่กรณี แล้วโกหกว่าถูกชนท้าย จนถูกแฉและถูกสังคมรุมประณามไปแล้วระลอกใหญ่ มาครั้งนี้ก็มีรายชื่อของนางเอกสาวอยู่ในโผคนที่ถูกเชิดชู ก่อนมาผุดความจริงอีกมุมในภายหลังว่า เธอก็คือผู้หญิงติดยาอีกคนหนึ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางหมอซันให้คำตอบกับทางทีมข่าวว่า ทางองค์กรไม่เคยกำหนดเรื่องใช้เงินแลกซื้อรางวัลมาก่อน เพราะรายได้ทั้งหมดที่ได้จากกิจกรรม ทางองค์กรมอบให้แก่พระคุณเจ้าอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ทั้งหมด เพื่อทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วย HIV
["ดีเจเก่ง" อีกหนึ่งคนที่ได้รับรางวัล "อภิชาตบุตร รวมใจภักดิ์" จากองค์กรเดียวกัน]
“เพราะฉะนั้น เราจะไม่มานั่งมองว่าใครจะมาซื้อหรือไม่ซื้อรางวัล เราไม่เคยมีกติกาว่าจะต้องมีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าใครพร้อมที่จะสนับสนุน เราก็จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป แต่สำหรับคนที่อยู่ในเกณฑ์อยู่แล้ว หรือคนที่ต้องการโอกาสของสังคม อยู่ในประเด็นสังคมที่หวังให้เราช่วยผลักดันให้เขามีชีวิตอยู่ต่อได้ เราจะเลือกทำตรงนั้นครับ
[โพสต์บนแฟนเพจขององค์กร ก่อนปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว]
อย่างกรณี "เก่ง" ต้องบอกว่าเป็นคนละกรณีกับ "เอมี่" นะครับ เพราะเขาทำผิดไปด้วยโมหะ ถือเป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งมันเป็นแค่กระแสสังคมตอนนั้น แต่เรามองว่าเมื่อเวลาผ่านไป ก็ถึงเวลาแล้วที่น่าจะมีใครสักคนให้กำลังใจเขา ให้เขาพอมีแรงยืนต่อในสังคมได้
["เอมี่" เมื่อครั้งได้รับรางวัล "อภิชาตบุตร รวมใจภักดิ์" สาขาดาราในดวงใจ]
แต่พอเรื่องของเอมี่มาซ้ำซ้อนกันเข้าไปอีก มันไปยิ่งไปใหญ่ เพราะนี่ไม่ใช่ความผิดลหุโทษแล้ว มันเป็นความผิดมหันต์ด้านยาเสพติด การจะยืนหยัดต่อตรงนี้ในภาพองค์กรเรา มันคงยากแล้วครับ ทางเราเลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะหยุดการทำงานและยุติบทบาททั้งหมด”
ลองให้ช่วยวิเคราะห์ว่า เหตุใดรางวัลจากองค์กรนี้จึงถูกตราหน้าและตั้งคำถามมาอย่างสม่ำเสมอ หมอซันมองว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะหัวเรือใหญ่อย่างเขาเอง ที่เคยตกอยู่ในข่าวลบ ในฐานะ “ผู้นำเสนอศาสตร์หมอดูของลับ” มาก่อน จึงทำให้ภาพลบๆ เหล่านั้นไม่อาจหลุดไปจากตัวเขา รวมถึงองค์กรที่ดูแลอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะยุติการดูดวงลักษณะนั้นไปนานถึง 3-4 ปีแล้วก็ตาม
["หมอดูซัน" ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือ "พระคุณเจ้าอลงกต" เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ]
“ผมมองว่ามันเป็นกระแสสังคม บางคนก็ไม่เคยคิดว่าจะฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นในกรณีของเก่ง นอกจากนั้น องค์กรยังถูกตีข่าวโดยเอาเรื่องของตัวผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และยิ่งมีประเด็นของเอมี่อีก ยิ่งหนักกว่าเดิม ในส่วนของผมนั้น ผมก็ได้บอกไปหลายครั้งแล้วว่า ได้ยกเลิกศาสตร์การดูดวงแบบเดิมๆ ไปนานแล้ว ทุกวันนี้ก็พยายามมาช่วยเหลือเรื่องสังคมให้คนเห็นตลอด แต่ถ้าสังคมไม่ได้ให้โอกาสผม ผมก็คงไม่เข้มแข็งพอที่จะมาคอยต้านกระแสแบบนี้”
เอมี่ = เด็กดีที่พลั้งพลาด?
[ถูกจับกุมที่ห้องพักพร้อมแฟนหนุ่ม พบ “ยาไอซ์ 70 กรัม กับ ยาอี 16 เม็ด”]
ลองมาฟังเหตุผลจากอีกมุมจาก โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา ดูบ้าง ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ในวงการ เคยร่วมงาน เคยช่วยเหลือกัน และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ช่วยเสนอชื่อ “เอมี่-อาเมเรีย จาคอป” และคนในวงการคนอื่นๆ ให้ได้รับรางวัล "อภิชาตบุตร รวมใจภักดิ์" เมื่อให้ลองมองเกี่ยวกับคำครหาเรื่องเกณฑ์การตัดสินสำหรับรางวัลนี้ เขาก็มีคำตอบที่จะช่วยให้สังคมคลายสงสัยได้เช่นกัน
“โก้ว่าไม่ได้เกี่ยวกับภาพลบขององค์กรนะครับ เพราะน้องไม่ได้เสพยาและติดยา แล้วเราก็ให้รางวัลจากตรงนั้น เราไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังชีวิตของแต่ละคนเป็นยังไง รางวัลที่มอบให้เป็นตัวแทนความรู้สึกว่าเขาคู่ควรที่จะได้รับการสนับสนุน เพราะไม่งั้น น้องเขาคงไม่ได้เซ็นสัญญากับช่องใหญ่ๆ ไม่มีงานดีๆ ทำ
แต่ในเมื่อเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือเราต้องทบทวน คนล้มเราอย่าข้าม เพราะบางที สังคมก็ลงโทษเขาเต็มที่แล้ว โอกาสในสังคมและโอกาสในวงการก็ต้องยุติไป ตามหลักการเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ที่ต้องถูกแบนเป็นเวลา 2 ปีเป็นขั้นต่ำ ก็เลยมองว่าไม่น่าจะไปทับถมน้องเขามากกว่านี้เลย เพราะตอนนี้ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นอยู่แล้ว
การที่จะไปโยงทุกอย่างที่น้องเขาทำ มันก็ดูเหมือนไปซ้ำเติมเขาเกินไป อันไหนที่แก้ไขได้ก็แก้ไขครับ อย่างรายการของโก้ที่มีน้องมาถ่ายเทปรายการเอาไว้ เราก็ต้องตัดออกไป และต้องไปถ่ายซ่อมรายการใหม่ ก็ถือว่าทำให้มีผลกระทบทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตัวน้องเขา
[ขอสังคมให้อภัย]
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เราหวังใจว่าเขาจะเป็นเด็กดี หวังใจว่าเขาจะเป็นคนดีของสังคม หวังว่าเขาจะเป็นน้องที่น่ารัก เราก็เหมือนคนที่เสียใจไม่ต่างอะไรจากพ่อแม่เขาหรอก พ่อแม่เขาใจแตกสลาย เราก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน ไม่น่าเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นไปแล้วเหรอ มันจริงเหรอ มันใช่เหรอ เพราะไม่เคยคิดว่าน้องเขาจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลยครับ
เพราะเท่าที่รู้จักน้อง น้องเขาก็ดูน่ารัก โก๊ะๆ นิดหนึ่ง แต่เป็นเด็กที่จริงใจ และรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี เราก็เลยไม่รู้ว่าก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง รู้สึกตกใจ สงสาร แล้วก็เสียใจด้วย เพราะจริงๆ แล้วก็รู้จักกับน้องเอมี่ด้วย น้องเขาเป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ ดูเป็นเด็กทำมาหากินคนหนึ่ง ซึ่งชีวิตเหมือนอยู่กรุงเทพฯ เพียงลำพัง เพราะครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด และก่อนหน้านี้ไม่นาน น้องก็ยังทำน้ำเสาวรสขวดมาขายอยู่เลย เราก็ยังช่วยซื้อเลยครับ
[ภาพครอบครัวอันอบอุ่นของ "เอมี่"]
แต่ตอนนี้เท่าที่รู้จากข่าว อัปเดตล่าสุดคือน้องให้สัมภาษณ์ว่ารู้จักกันกับเพื่อนมาไม่กี่นาน เลยคิดว่ามันเป็นความผิดพลั้งชั่วครู่ของเขา ที่แต่ละคนอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ดี ทุกอย่างก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ในอนาคต ถ้าเขาออกมาได้ ถ้าสำนึกและประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ได้ชำระโทษจากสังคมแล้ว โก้ว่ามันก็ไม่แปลกที่จะได้รับโอกาสใหม่ แต่คงต้องใช้เวลา มันไม่สามารถให้โอกาสกันได้แค่ข้ามวัน”
["โก้-ธีรศักดิ์" (คนที่ 2 จากซ้าย) ผู้ได้รับรางวัลในเวทีเดียวกัน ปีเดียวกันกับ "เอมี่" และ "ดีเจเก่ง" ผู้มีส่วนในการเสนอชื่อสาขาดารา]
อย่างไรก็ตาม “ยาไอซ์ 70 กรัม กับ ยาอี 16 เม็ด” ก็ยังเป็นหลักฐานมัดแน่นในความพลั้งพลาดของเอมี่ในครั้งนี้ ถึงแม้ตัวเธอเองจะยืนยันว่าเป็นเพียง “ผู้เสพ” ไม่ใช่ผู้ค้า เพราะเธอเพิ่งหันมาลองเสพเพราะคบกับแฟนคนล่าสุดนี้เอง แต่ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะนำยาทั้งหมดไปซุกไว้ที่ห้องของเธอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป
ส่วนเรื่องที่สังคมจะให้อภัยและให้โอกาสการกระทำของ “คนทำผิด” ได้มากน้อยเพียงใด คงต้องให้เวลาทำหน้าที่หาคำตอบแทน ถึงตอนนี้ก็มีเพียงเสียงของคนพลั้งพลาดที่ฝากเอาไว้ถึงทุกๆ คน
“หนูขอโทษ หนูขอให้พี่ๆ ช่วยหนูด้วยนะคะ มี่สัญญาว่ามี่จะกลับตัว จะกลับใจ มี่จะบอกต่อทุกๆ คน บอกต่อน้องๆ เยาวชน มี่จะกลับใจค่ะ จะทำประโยชน์ แล้วจะบอกน้องๆ ว่าอย่าหันมายุ่งกับยาเสพติดอีกเลย (สะอื้น) มี่แค่ลองเสพค่ะ หนูไม่เคยบอกใครในวงการเลยค่ะพี่
ตอนนี้บอกแม่ไปแล้วค่ะ แม่ก็บอกว่าแม่ก็ใจสลาย (ร้องไห้) แต่แม่บอกว่าถ้าเรากลับตัวกลับใจได้แม่ก็ให้อภัยค่ะ ที่ผ่านมาครอบครัวไม่ทราบมาก่อนค่ะ ตอนนี้แม่อยู่ภูเก็ต ส่วนพ่ออยู่ฮอลแลนด์ค่ะ หนูแค่เสพค่ะ (สะอื้น)”
สกู๊ปข่าว: ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพรับรางวัล: ทีนิวส์, นิวส์สเตชั่น 19