เจ้าของ “The Loft Khao Yai” ส่งลูกน้องคนสนิทแจงหลังถูกลูกค้าโพสต์ด่าผ่านเฟซบุ๊ก สุดแพง! บริการห่วย! แถมด้วยวลีเด็ด “แค่นี้ไม่มีปัญญาจ่าย” ย้ำชัดใครจะกล้าด่า ถ้าด่าจริงคงเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนอาหารมีเยอะ ต้องทยอยออก แต่ลูกค้าใจร้อนยกเลิกก่อน ย้ำเที่ยวภูเขาช่วงหน้าฝน เจอมด-แมลง ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องตะขาบไม่มีแน่ จะมีก็แต่ตะเข็บตัวเล็กที่ไม่มีพิษภัย คุยหลังเป็นข่าวลูกค้ายังปกติ ยอดจองคงเดิมไม่มียกเลิก
** รีสอร์ตขอออกสื่อ! อย่าเหมารวมบริการห่วย
หลังถูกลูกค้าโพสต์ด่าบริการทั้งแพง ทั้งห่วยผ่านสื่อเฟซบุ๊ค โดยจ่ายเงินจำนวน 94,500 บาทให้กับ รีสอร์ต The Loft Khao Yai ในราคาเหมาเพื่อการเข้าพัก 70 คนซึ่งค่าใช้จ่ายถูกแบ่งออกเป็นค่าที่พักหัวละ 1,000 บาท และบุฟเฟ่อาหารตอนเย็นหัวละ 350 บาท ประกอบด้วยอาหาร4-6 อย่างโดยมีการเติมอาหารให้ตลอดเวลาถึง 4 ทุ่ม และซอฟดริ้งค์ ที่ทางเจ้าของรีสอร์ตย้ำว่า “รับรองอิ่มแน่นอน” นั้น ปรากฏเมื่อไปใช้บริการจริงกลับไม่เป็นไปตามข้อตกลง จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์
ทว่า เมื่อสื่อมวลชนไปทำข่าว ปรากฏพบประเด็นเพิ่มเติมว่า มีพนักงานของรีสอร์ตได้ใช้คำพูดในเชิงดูถูกลูกค้า ว่า “อ้วน” “พุงพลุ้ย” เป็นคนอีกระดับไปนั้น ตัวแทนรีสอร์ต ได้กล่าวเสริมต่อประเด็นนี้เพิ่มเติม ดังนี้
"ส่วนหนึ่งเราก็พลาดเอง ตอนที่เราลงอาหารให้หนักๆ เป็นกะละมังๆ เราไม่ได้ถ่ายไว้ แล้วซี่โครงจะบอกว่าไม่ได้ทาน เป็นไปไม่ได้ เพราะทานกันหมดเลย คือแต่ละคนมาอ้วน พุงพลุ้ย คนกินเหล้าไง มันไม่ได้ถึงขนาดนั้นอะค่ะ คือเขาทานเยอะ บางคนก็เอาไปไว้ที่บ้าน ตอนเช้ายังให้เด็กไปเก็บตามบ้าน ก็ยังเห็นอาหารวางอยู่เต็ม กระดูกซี่โครงก็ยังมีอยู่ในบ้าน
มันเป็นไปไม่ได้ที่ฝนหยุดแล้ว เราจะทิ้ง ไม่ใช่ค่ะ ทางนี้เขาคิดว่าลูกค้าเป็นแบบ... โทษนะคะ ไม่ได้ว่าเขาเป็นแบบโลว์ แต่คิดว่าเขาเป็นลูกค้าอีกแบบหนึ่ง เขาถึงจัดอาหารแบบนั้นมา”
ล่าสุด เจ้าของกิจการ “The Loft Khaoyai” ที่นิ่งเงียบมานานก็ได้เวลาร่อนคำชี้แจงผ่านหน้าแฟนเพจ The Loft Khaoyai เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันแล้ว โดยชี้แจงเรื่องราวต่างๆ ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีลูกค้าติดต่อเพื่อจองห้องพักและสถานที่จัดงานโดยใช้นามของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้มาประสานงานคือ คุณน้ำ เป็นผู้มาติดต่อขอจองที่พักในวันที่ 19 ส.ค. 60 โดยมีผู้เข้าพักใช้บริการ จำนวน 70 ท่าน เข้าพักเป็นบ้าน จำนวน 8 หลัง และทางผู้จัดงาน (คุณน้ำ) ขอเพิ่มบ้านอีก 1 หลัง รวมเข้าพักทั้งหมด 9 หลังซึ่งทางรีสอร์ตไม่ได้คิดค่าบริการที่พักเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นเรื่องอาหารกลางวัน ทางผู้จัดงานไม่ได้มีการสั่งอาหารมื้อกลางวันจากทางรีสอร์ตไว้ล่วงหน้า เมื่อลูกค้าเดินทางมาถึงรีสอร์ต ลูกค้าหลายท่านแจ้งว่ายังไม่ได้รับประทานอะไรมาเลย และบ่นหิวกันมาก ผู้จัดงานจึงสั่งกับทางผู้จัดการรีสอร์ตเพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับประทานอาหารโดยด่วน
ซึ่งจัดเตรียมอาหารเมนูข้าวผัดกระเทียมเบคอน และเมนูสปาเกตตี้สไปซี่เบคอนไส้กรอก ตามออร์เดอร์ของลูกค้า ซึ่งมีทั้งหมด 6 จานเปล ใน 1 จานเปล สามารถทานได้ถึง 5 ท่านโดยที่ทางเราได้เร่งรีบดำเนินการสั่งให้ห้องครัวเร่งปรุงอาหารออกมาให้กับลูกค้าที่รออยู่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น และให้พนักงานต้อนรับและบริกร รีบนำอาหารไปทยอยเสิร์ฟ
ระหว่างดำเนินการทยอยเสิร์ฟอาหารเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 70 ท่าน ทางลูกค้าได้มีการยกเลิกออร์เดอร์ ทางเราก็ยินดียกเลิกให้ตามที่ลูกค้าต้องการ สรุปค่าอาหารมื้อกลางวันลูกค้าจ่ายมา 3,000 บาท
** บุฟเฟ่ต์เจ้าปัญหา เสิร์ฟปุ๊บหมดปั๊บ!
ในส่วนของเมนูอาหารมื้อค่ำ ลูกค้าได้ตกลงกับทางรีสอร์ตคิดในราคา 350 บาทต่อหนึ่งท่าน ชำระค่าอาหารมาเป็นจำนวนเงินที่ 300 บาท และรวมค่าที่พักเป็นจำนวนเงินท่านละ 1,300 บาท ซึ่งรายการอาหารที่ลูกค้าสั่งประกอบด้วยขนมจีน แกงเขียวหวาน , บาบีคิว, บาบีคิวริบ , ยำ , ซุ้มส้มตำ , ข้าวสวย น้ำแข็ง และ welcome drink เป็นน้ำ Mulberry ส่วนไข่เจียวไม่มีอยู่ในเมนูแต่ทางลูกค้าขอมาทางรีสอร์ตเห็นว่าเป็นบริการเล็กน้อยจึงบริการให้ฟรี
ระหว่างช่วงที่ลูกค้าเข้าพักใช้บริการฝนเริ่มโปรยลงมาและทำให้เปียกปอนกันไปหมดทุกคน การให้บริการเสิร์ฟอาหารได้เกิดความล่าช้าและไม่ทัน ทั้งนี้พ่อครัวตั้งใจที่จะปรุงอาหารไปเรื่อยๆ เพราะดูแล้วคงอยู่กันยาว และจะทยอยให้บริการเสิร์ฟกับลูกค้าให้ทั่วถึง ปรากฏว่าพอลงอาหารแล้วอาหารได้หมดอย่างรวดเร็วจนเสิร์ฟไม่ทัน ส่วนน้ำMulbery เป็นน้ำออร์แกนิคส์ ซึ่งเป็นผลไม้จากสวนไม่ได้ใส่น้ำตาล จึงอาจไม่ถูกใจลูกค้า ซึ่งตรงนี้ทางเราต้องขออภัย
เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและสถานที่ ทางลูกค้า(คุณน้ำ) ผู้มาติดต่อจะ เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการเซ็ทระบบไฟ และเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งทางเราได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้ 1 คืนโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ทางผู้จัดไม่ได้เข้ามา และเนื่องจากพอถึงวันเวลาจัดงานดังกล่าว มีฝนตก ทางเราไม่สามารถที่จะดำเนินการตัดต่อย้ายสายไฟและติดตั้งสปอตไลท์เพิ่มเติมได้ แต่ได้ดำเนินการติดตั้ง ไฟ LED เส้น ส่องสว่างตรงบริเวณพื้นที่ที่จัดงานให้กับลูกค้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องแสงสว่างให้มีเพียงพอ
ทั้งนี้ รีสอร์ตชื่อดังได้ขออภัยกับทางลูกค้าที่มาใช้บริการ พร้อมน้อมรับข้อบกพร่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และจะนำคำแนะนำจากลูกค้าทุกท่าน ไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขทั้งในด้านการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น และหวังว่าลูกค้าทุกท่านจะให้อภัยและเข้าใจในเหตุการณ์ครั้งนี้
**เคลียร์! ใครจะกล้าด่าลูกค้า!!
อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าว Manager Live ได้โทรศัพท์เพิ่มเติมจาก พิชยา นามธิราช เจ้าหน้าที่รีสอร์ต The Loft Khao Yai โดยเธอยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ดร.ทับทิบสยามพลอย สิงหเสนี เจ้าของรีสอร์ต ยังคงเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น ตนจึงต้องออกมาชี้แจงเองอีกครั้ง และขอยืนยันว่า ที่ผ่านมารีสอร์ต ไม่เคยเกิดปัญหาใดๆ กับลูกค้าเลย
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาพักก็พอใจกับบริการของรีสอรต์ตลอด เพิ่งจะมีกรุ๊ปทัวร์นี้เป็นกรุ๊ปแรก ซึ่งตอนจองเข้ามาก็บอกจองในนามสถาบันการศึกษา ก็รับไว้โดย และ คุณน้ำ (ผู้จัดงาน) บอกว่าก่อนถึงวันงาน 1 วันจะเข้ามาเซ็ทระบบ-บริเวณสนานหญ้าoutdoor ของรีสอร์ตเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานเองทั้งหมด ซึ่งทางรีสอร์ตก็อนุญาตและจัดที่พักไว้รอแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครเข้ามาเตรียมงานเลย ซึ่งในส่วนนี้ไม่ใช่หน้าที่ที่รีสอร์ตจะเข้าไปดำเนินการให้
“คำพูดที่ว่า“แค่นี้ไม่มีปัญญาจ่าย” ไม่มีใครกล้าว่าลูกค้าหรอกค่ะ ถ้าพูดจริงรับรองว่าคงเป็นเรื่องใหญ๋โตมากกว่านี้ไปแล้ว และหากจะมาพูดกันส่วนตัวในหมู่พนักงานแล้ว ลูกค้าจะได้ยินได้อย่างไร ประเด็นนี้จึงไม่ใช่แน่นอน
ส่วนที่ว่าลูกค้าอ้วน พุงพลุ้ยนั้น ทางเราไม่ทราบว่าช่วงนั้น มีการพูดคุยกับพนักงานคนไหน และคุยกันอย่างไร ซึ่งเราจะตรวจสอบอีกครั้ง หากผิดจริงก็ต้องลงโทษทางวินัยให้แน่นอนค่ะ
สำหรับเรื่องงูกินปลาก็ยืนยันได้ว่าในแถบเขาใหญ่ไม่มีอย่างแน่นอน ตะขาบนั่นก็ไม่ใช่ ที่เห็นน่าจะเป็นตะเข็บตัวเล็กๆ ซึ่งไม่มีพิษอะไร การเที่ยวภูเขาในช่วงหน้าฝนต้องเข้าใจว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงมดและแมลงได้เลย ทุกรีสอร์ตในแถบนี้เผชิญปัญหาพวกนี้เหมือนกันหมดค่ะ”
ขอบคุณภาพ : SUNE-O BIG FAMILY MEETING