xs
xsm
sm
md
lg

เคล็ดลับ...สวย แซ่บ กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ในวัย 47 กะรัต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แซ่บ...เป๊ะเวอร์ คงเป็นคำนิยามที่ชัดเจนที่สุด สำหรับดารารุ่นใหญ่ ดีกรีมิสไทยแลนด์เวิร์ล อย่าง กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้จัดละคร และกำลังกลับมาฮอตแบบกระชากวัยอีกครั้งด้วยการพาร่างสุดฟิต ภายใต้บิกินีแสนเซ็กซี่ในวัย 47 กะรัต อวดโฉมบนอินสตาแกรมส่วนตัว แถมล่าสุดเธอยังกล้าเผยหน้าสดอวดเทรนด์สวยใสในแบบธรรมชาติอีกด้วย

** ปลื้มใจกับการตอบรับและตกใจ กับคำว่า สวย แซ่บ

“ต้องออกตัวก่อนว่า กบเป็นคนไม่ค่อยสนเทคโนโลยี ไม่ได้ติดตามโลกโซเชียลเท่าไหร่ มีอะไรก็ดู แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ป๊อปปูล่าร์ขนาดจะมีใครมาติดตามไอจีเรา มีอะไรเราก็โพสของเราไป แต่อยู่ๆ เพื่อนก็ส่งข่าวที่มีรูปเราใส่ชุดว่ายน้ำมาให้ดู เพื่อนส่งมาเร๊วเร็วค่ะ (หัวเราะ) พอเปิดดู อะไรเนี่ย พาดหัว แซ่บ เป๊ะเวอร์ ก็ตกใจนะคะ (หัวเราะ)”

นั่นคือความรู้สึกของอดีตมิสไทยแลนด์เวิร์ล ปี 1998 ที่ยังคงรักษาหุ่นเปรี๊ยะและสุขภาพแข็งแรงด้วยศาสตร์ของโยคะ ที่เธอติดใจและเรียนโยคะมากว่า 3 ปีแล้ว

กบเล่าถึงที่มาของภาพสุดฮือฮาครั้งนี้ว่า ช่วงต้นปีได้ไปพักผ่อนพร้อมครอบครัวที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง (เอ๋-พรเทพ เตชะไพบูลย์ สามี และเหนือ-ดิสรยา เตชะไพบูลย์ ลูกสาว) และเพื่อนๆ ของลูกสาว 8 คน

“วันนั้นเราไม่มีอะไรทำ พี่เอ๋ไปตกปลากลางทะเลแต่เช้า เด็กๆ ก็เล่นกันในกลุ่มของเขา กบอยู่คนเดียวก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเตรียมชุดไปถ่ายรูปเล่นดีกว่า โรงแรมที่พักก็เป็นโรงแรมของเพื่อน เราจึงมีความรู้สึกสบายๆ พนักงานก็เป็นกันเอง พอดีจังหวะที่แม่บ้านของโรงแรมเดินผ่านมา ก็เลยขอให้แม่บ้านถ่ายรูปให้ จนฝีมือถ่ายภาพของเธอถูกแชร์ต่อๆ ไปอย่างที่เห็น”

การถ่ายภาพเล่นๆ ครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นอีกต่อไป เมื่อเธอโพสต์ภาพดังกล่าวลงอินสตาแกรมส่วนตัว และเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่งก็นำมาโพสและแชร์ เรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของอดีตนางงามคนนี้ จนตอนนี้เธอกลายเป็นไอดอลของผู้หญิงวัยเลขสี่อีกหลายๆ คน

“จริงๆ แล้วเราไม่ได้ถ่ายเพื่อทำงาน เราไปสนุกของเราและแค่อยากถ่ายรูปเล่น ไม่ได้คิดว่าเราจะต้องกลับมาโดดเด่น ทุกคนต้องสนใจ เมื่อมีคนชมเราก็ภูมิใจค่ะ แต่ก็ยังคิดว่าไม่ดีพอ ยังมีความรูสึกว่าขาดอีกนิดหนึ่ง คงเหมือนกับความรู้สึกของผู้หญิงทุกคนที่เห็นตัวเองต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้กบคิดว่า เราต้องออกกำลังกายเป็นประจำและทำเรื่อยๆ เพื่อให้สุขภาพดี”

หลังจากภาพเธอในชุดว่ายน้ำกับหุ่นสุดแซ่บถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนมาขอคำแนะนำและปรึกษาเรื่องสุขภาพ เจ้าตัวยิ้มภูมิใจ แถมยังแอบบอกว่า “แก่จะตายแล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครสนใจ รูปก็ไม่ได้รีทัช ไม่มีแสง เราถ่ายเอง ทำไมทุกคนถึงมาให้ความสนใจเราขนาดนี้ ก็ต้องขอบคุณนะคะที่ยังมองเรา”

** ตัดสินใจฟิตหุ่น เพราะช็อกกับน้ำหนักตัวเอง

“ต้องออกตัวเลยว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงคลอดลูก ไม่เคยออกกำลังกายเลยเพราะทำแต่งานตลอด เมื่อก่อนถ่ายละครทีอาทิตย์หนึ่งสองสามเรื่อง แทบจะไม่ได้หลับได้นอน ไม่เคยเข้าฟิตเนส ไม่เคยออกกำลังกาย วิ่งไม่มี จะเดินหรือวิ่งก็อยู่แต่ในกองถ่าย แค่วิ่งเข้าฉาก วิ่งมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็อารมณ์ประมาณนั้น จนกระทั่งมาแต่งงานแล้วท้องน้องเหนือ นี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิต”

คงเพราะมุ่งบำรุงลูกน้อยในครรภ์ จนลืมว่าหมอกำหนดน้ำหนักห้ามเกิน 14 กิโลกรัม สุดท้าย คุณแม่กบ น้ำหนักปาเข้าไปถึง 22 กิโลกรัม จนกระทั่งเธอคลอดแล้วได้เดินออกมาชั่งน้ำหนักหลังคลอด “ตกใจจะเป็นลมเลยค่ะ เรียกพี่เอ๋ ป๊า... ทำไมน้ำหนักยังอยูกับหนูตั้ง 18 กิโล จะทำยังไงดี แต่ด้วยความที่เราให้นมลูกเองจนถึง 6 เดือน ก็ยังไม่สามารถลดน้ำหนักได้ พอเลิกให้นมลูกก็ตัดสินใจไปเข้าฟิตเนสกับพี่เอ๋ค่ะ”

ทั้งคู่สามีภรรยาจูงแขนกันเข้าฟิตเนสที่แปซิฟิก ซิตี้ คลับ กบจึงเริ่มต้นการรีดหุ่นครั้งแรกจากที่นั่น

“ตอนนั้นเราไม่ได้ถ่ายละครแล้ว จึงมีโอกาสได้เข้าฟิตเนสทุกวันตั้งแต่ 9 โมง ถึงเที่ยง ตอนแรกก็มีเทรนเนอร์ มาแนะนำว่า หากอยากควบคุมน้ำหนักต้องทานแบบนี้ ออกกำลังกายแบบนี้ เริ่มจากต้องรีดน้ำก่อน เป็นขั้นเป็นตอนไป แต่เราก็บอกว่าไม่เอา ไม่ใช่แนวของเรา เราอยากเล่นเครื่องมากกว่า ก็เลยยึดมั่นในตัวเองว่า การออกกำลังกายจะต้องเป็นสไตล์ในแบบที่เราชอบ จึงเริ่มจากไปแอโรบิคก่อน 50 นาที แล้วก็ไปเล่นเครื่องกระชับตามส่วน เช่น ต้นแขน แขน ขา หน้าท้อง ก็ทำทุกวัน จนเราติด พอครบ 6 เดือน น้ำหนักกลับมาเท่าเดิมเหมือนตอนก่อนท้อง แต่ความฟิตความแน่นของกล้ามเนื้อยังไม่ได้ค่ะ”

เรียนโยคะต่อเนื่อง 3 ปี ที่มาของหุ่นแซ่บ

หลังจากมุ่งมั่นเข้าฟิตเนสทุกวันตลอด 6 เดือน ช่วงหลังคลอด จนกระทั่งน้ำหนักกลับสู่ปกติ อดีตนางเอกสาวคนนี้ก็กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกรอบ จึงทำให้ต้องห่างเหินการออกกำลังกายอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลด้านการดูแลสุขภาพ และไม่อยากใช้เงินที่หาได้มาทั้งชีวิตไปฝากไว้กับหมอ เธอจึงหันมาสนใจวิธีการออกกำลังกายอีกครั้ง และค้นพบว่า การเล่นโยคะ คือสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับเธอ จนกระทั่งทุกวันนี้ เธอมีห้องเรียนโยคะทั้งโยคะบนฟลอร์และโยคะฟลายอยู่ที่บ้าน

“พออายุมากขึ้น กระดูกเราคงไม่เหมือนเดิม จะให้ไปวิ่งข้างนอกเหมือนเดิมคงไม่ได้ เข่าอาจพัง จึงลองสมัครเรียนโยคะ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรียนที่ ศุโขโยคะ @904 ซึ่งตอนนี้ปิดไปแล้ว โดยเริ่มจากโยคะร้อน แต่รู้สึกว่าหายใจไม่ออก ก็เลยเปลี่ยนไปเรียนโยคะฟลอร์ธรรมดา" 

ตอนเริ่มเรียนครั้งแรกๆ รู้สึกว่าทั้งกล้ามเนื้อ เส้นเลือด ไหล่ หัวเข่า มันติดขัด ทรมานมากๆ เพราะเราไม่เคยใช้มันจริงจังตั้งแต่เด็กๆ การออกกำลังกายด้วยเครื่องทุกวันที่ผ่านมานี่ เป็นเรื่องผิวๆ ไปเลย

“การโยคะนี่คือลึกเข้าไปถึงกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงทำตัวเป็นเลขแปดได้ พอเราเล่นครั้งแรก มันปวดมากเลย ยืดแล้วไม่ไหว ตอนแรกท้อ บอกครูเลยว่าไม่เอาหรอก อายุ 40 ขึ้นแล้วคงทำไม่ได้ แต่พอเราทำไปเรื่อยๆ เส้นมันก็จะยืด เหมือนหนังยางที่พอเรายืดไปเรื่อยๆ มันก็ยืดยานขึ้น แน่นอนค่ะ พอเราใช้งานส่วนของร่างกายแรกๆ มันก็เจ็บปวด แต่พอเราใช้มันทุกวันๆ มันก็เริ่มสบาย กลายเป็นความยืดหยุ่น ไหล่เปิด เส้นเปิด ไม่เจ็บปวด นอนได้ เอ็นร้อยหวายข้างหลังสามารถตึงตรงได้ เราทำท่ายืดต่างๆ ได้สบาย”

นอกจากเป็นการยืดร่างกายแล้ว การทำโยคะ ยังช่วยให้กบได้เรียนรู้ถึงการกำหนดลมหายใจ ซึ่งนั่นคือการได้ทำสมาธิอีกทางหนึ่ง

“โยคะได้ระบบการหายใจ มันช่วยระบบภายในของเราหมดเลยนะ หายใจเข้า แผ่นอกขยาย หน้าท้องป่อง ฝึกหายใจไปเรื่อยๆ ก็ช่วยให้ร่างกายสบายไปด้วย เพราะปกติกบจะเป็นคนเหนื่อยง่าย พอรู้จักวิธีกำหนดลมหายใจ ก็ช่วยได้เยอค่ะ เราจะรู้เทคนิคการหายใจอย่างถูกต้อง อย่างเช่นอยู่เฉยๆ หายใจยาวๆ ลึกๆ ปุ๊บ ทุกอย่างในร่างกายก็จะผ่อนคลาย อย่างเช่นโยคะฟลาย ถ้าเราขึ้นเชือกแล้วไม่มีสมาธิเราก็ตก หรือถ้าไม่ฟังครูแล้วเกี่ยวผิด เราก็จะตก เพราะเชือกมันจะแกว่งตลอดเวลา นอกจากได้ร่างกายแข็งแรงแล้ว เรายังได้สมาธิด้วยค่ะ”

สุดท้ายความท้อ กลายเป็นความชอบ กบลุกขึ้นมาชวนสามีและลูกสาวเรียนโยคะด้วย จนเนรมิตพื้นที่ในบ้านและคอนโดให้มีห้องเรียนโยคะทั้งโยคะบนฟลอร์และโยคะฟลาย

“ตอนนี้ให้ครูมาสอนที่บ้านสัปดาห์ละ 5 วัน ส่วนวันหยุดก็ไปปั่นจักรยานกัน” เจ้าตัวเล่ากิจกรรมการออกกำลังกาย

ออกกำลังกายไม่อวดใคร เอาแค่สุขภาพดี

ด้วยอายุอานามที่เจ้าตัวไม่อยากเร่งรัด กบจึงเลือกทำโยคะในท่าที่ตัวเองทำไหว แต่เรื่องวินัยที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องต้องไม่ให้พร่อง และนั่นคือเคล็ดลับการรักษาหุ่นให้ฟิตเป๊ะของเธอ

“กบไม่คิดว่าต้องทำได้ท่าแอดวานซ์ หรือต้องทำท่าที่ยากขึ้นเรื่อยๆ หรือต้องทำท่าให้เหมือนที่คนอื่นเค้าทำ เพราะเราไม่ได้เร่งรีบ เอาแค่ว่าครูสอนท่าไหน แล้วเราทำไม่ได้เช่น โยคะฟลายถ้าต้องขึ้นสูงเกินไป หรือท่ายากเกินไปเราก็ไม่ทำ เพราะบางท่ามันต้องใช้เวลา เราไม่ได้ร่างกายเหมือนเด็กๆ ที่อ่อน ครูบอกแล้วจะทำได้เลย แต่ก็ภูมิใจว่า จากที่ตัวแข็งทื่อ ตอนนี้ยืดได้หมดแล้ว จากที่ทำไม่ได้เลย ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว โดยเฉพาะโยคะฟลาย เวลาขึ้นเชือกมันไม่ง่าย เชือกไม่นิ่ง แต่เราก็ทำได้ ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณครูค่ะ”

หากกำลังแขน ขา และลำตัวไม่ดี บวกกับไม่มีสมาธิ คงทำโยคะฟลายไม่ได้ ซึ่งทุกวันนี้กบเผยว่า เราภูมิใจมากที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ดีขึ้นทุกๆ วัน สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ปวด

ระเบียบวินัย สำคัญกว่าออกกำลังกาย

ทุกๆ เช้า ครอบครัวเตชะไพบูลย์ จะรวมตัวกันไปตักบาตรตั้งแต่ 6 โมง เสร็จแล้วก็จะพากันมาวิ่งบนลู่วิ่งประมาณ 45 นาที หลังจากนั้นก็จะเรียนโยคะที่บ้านตั้งแต่ 7.00 - 8.00 น. ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน กบบอกว่า ต้องทำทุกวันให้เป็นนิสัยและต้องมีวินัย เพราะหากคุณหยุดด้วยร่างกายในวัยนี้ ร่างกายคุณจะเสื่อมถอยทันที

“ผู้หญิงขึ้นเลขสี่ ร่างกายจะเปลี่ยน โดยเฉพาะคนที่มีลูกแล้ว แคลเซียมก็ถอย ผิวหนังก็ไม่กระชับ การออกกำลังกายจึงเป็นคำตอบสุดท้ายของสาวๆ วัยนี้ แต่จะออกกำลังกายแบบไหน ก็ต้องเลือกที่คุณถนัด คุณเลือกแล้วคุณก็ออกกำลังกายในแบบคุณ คุณก็จะมีชีวิตที่ยืนยาว คุณจะมีโอกาสอยู่กับคนที่คุณรักนานๆ แล้วที่สำคัญ คุณก็จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี โรคภัยก็ไม่มี เงินที่หามาก็จะเกิดประโยชน์กับคุณมากที่สุด ไม่ต้องเสียไปกับการรักษาโรค

“บางคนจะอ้างว่าไม่มีเวลา หรือไม่มีลู่วิ่ง หรือไม่มีเสื่อโยคะ แต่จริงๆ แล้ว การออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไรเลย เราสามารถทำที่ไหนก็ได้ อย่างเวลากบไปต่างประเทศ เช่นล่าสุดไปฟินแลนด์ ก็ไปฝึกโยคะเองทุกเช้า เราจำท่าที่ครูสอนไปทำพี่นู่น ส่วนอุปกรณ์ก็ใช้ผ้าเช็ดตัวของโรงแรมปูพื้นก็ทำได้แล้ว เสื้อผ้าก็ใส่ชุดนอนธรรมดา หรือบางครั้งไปที่ไหน ที่เราสามารถพาดขากับผนังได้ ก็ออกกำลังกายต้นขา พาดขากับผนังซัก 15 นาที แล้วทำซิทอัพไปด้วย ก็จะได้บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องไปด้วยอีกหนึ่งเซ็ต” เจ้าตัวยกตัวอย่าง

เหตุผลที่ต้องมีวินัยในการออกกำลังกายของคุณแม่กบ ก็คงเพราะเงื่อนไขของคนอายุเยอะ “เส้นเราไม่ใช่เด็กๆ มันจะถอยกลับหลัง ดังนั้นเราจึงต้องมีระเบียบวินัยในการออกำลังกาย ถ้าคุณหยุดไปซักสอง สามอาทิตย์นะ ร่างกายคุณก็จะเดี้ยงเลย

เคล็ดลับดูแลสุขภาพสไตล์ กบ-ปภัสสรา

ต้องออกกำลังกายไม่หยุดค่ะ และจะออกไปเรื่อยๆ ทำด้วยกันทั้งครอบครัว เพื่อสุขภาพที่ดี ที่สำคัญเรื่องอาหาร ก็ต้องควบคุมค่ะ โชคดีที่กบไม่ชอบทานของหวาน ของมัน ของทอด ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องความดัน คอเลสเตอรอลต่างๆ

สำหรับคนที่อ่านเรื่องราวของกบแล้ว เข้าใจว่าสถานภาพของคนเราไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน คุณก็ออกกำลังกายได้หมด จะเห็นจากไอจีกบแล้ว กบออกกำลังกายที่ไหนก็ออกได้ คุณจะไปเดินข้างถนนก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เล็กๆ น้อยๆ ขอให้ทำร่างกายให้แข็งแรง ชีวิตก็จะมีความสุข บวกกับคิดดี ทำดี มีศีลบ้าง ก็จะดี คนไทยจะได้มีแต่รอยย้อมเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน

เรื่องโดย Live

สัมภาษณ์โดย นวพร แนวณรงค์

ภาพโดย ธัชกร กิจไชยภณ

ขอบคุณภาพจาก กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น