ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้บินไปทริปรอบโลก เที่ยวแต่ที่หรูๆ ดีๆ... มีนักเดินทางหลายคนแอบอิจฉาบล็อกเกอร์สาวสายท่องเที่ยวรายนี้มานานหลายปี เพราะลงรูปแต่ละที มีแต่แลนด์มาร์กระดับโลกทั้งนั้น จนได้มาตาสว่างกันก็ตอน “อดีตแอร์ฯ สาวขาลุย” เจ้าของอินสตาแกรมฮิต อัพโหลดภาพ “แสงเหนือ ไอซ์แลนด์” ที่แสนคุ้นเคย มือดีลองเสิร์ชภาพดูจึงได้รู้ว่า ภาพที่เธอกำลังกางแขนพรีเซ็นต์ปรากฏการณ์ธรรมชาติในเขตหนาวตรงนั้น มันเป็นแค่การโฟโต้ชอปภาพตัวเองเข้าไปแปะแค่นั้นเอง!!
“เคยอิจฉาว่าทำบุญด้วยอะไร ถึงได้เที่ยวขนาดนี้... มันทำบุญด้วยโฟโต้ชอปค่ะ!! 5555 เนียนไปไหน”
"นางน่าจะออกมา ขายคอร์สเรียนโฟโต้ชอปไปซะเลยนะ แล้วทำเป็นว่าทั้งหมดคือไวรัล"
“ต่อไปคนถามว่า เรียนด้านดิจิตอลอาร์ต-โฟโต้ จบไปทำงานอะไรได้ จะได้ตอบว่า จบไปเปิดบริษัทนำเที่ยว”
[ภาพต้นฉบับ "แสงเหนือ ไอซ์แลนด์": Tiina Tormanen Photograpthy | www.tiinatormanen.com]
[ภาพตัดต่อ จุดชนวนประเด็น "จับผิดภาพ" ทั้งหมด]
[สายสืบออนไลน์ค้นจนเจอตอ สันนิษฐานว่าอาจตัดต่อตัวคนมาจากภาพนี้]
กลายเป็นประเด็นร้อนกระแหนะกระแหนกระหน่ำโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ทันทีที่มีมือดีเอาภาพวิวสวยๆ จากต้นฉบับมาเทียบกับภาพตัดต่อใน account ของ “ลูกตาล” เจ้าของช่องทางนำเที่ยวบนโลกออนไลน์ ผู้ขโมยภาพมือโปรต่างประเทศมาใช้โดยไม่ให้เครดิต แถมยังเอามาตัดต่อภาพตัวเองเข้าไป คล้ายเจตนาให้ผู้ติดตามเข้าใจไปเองว่า คือสถานที่ที่เธอคนนี้ได้เดินทางไปเก็บประสบการณ์มาแล้วจริงๆ
ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ภาพ “แสงเหนือ” ที่ไอซ์แลนด์เท่านั้น ที่กลายมาเป็นหลักฐาน “จับผิดภาพ” ชิ้นสำคัญ แต่ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก “MUSA: Museo Subacuático de Arte” ประจำผืนน้ำในประเทศเม็กซิโกอีกภาพ ที่เทียบให้เห็นกันจะจะไปเลยว่า คือภาพที่จงใจตัดต่อตัวเธอดำน้ำลงไปใน background สวยๆ เหล่านั้นจริงๆ
[ภาพเปรียบเทียบตัดต่อ พิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก “MUSA"]
“Rainbow Mountain” หรือภาพ “ภูเขาสายรุ้ง” ที่เปรู ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่ถูกหยิบมาจับผิดภาพกันอย่างละเอียด ชี้เอาไว้เลยว่าเหมือนภาพต้นฉบับมากแค่ไหน และมีส่วนที่แต่งภาพเพิ่มเติมโดยการ “เพิ่มเมฆ” เข้าไปอีกกี่จุด
[ภาพเปรียบเทียบตัดต่อ “ภูเขาสายรุ้ง” ที่เปรู]
[ภาพต้นฉบับ “Rainbow Mountain” ที่เปรู]
[ภาพตัดต่อ จุดเหมือน-จุดต่าง “ภูเขาสายรุ้ง”]
หลังมีชุดภาพจับผิดจากมืออาชีพด้านกล้องและการตัดต่อออกมาแฉ ก็ทำเอาเจ้าของประเด็นถึงกับดิ้นไม่หลุด ล่าสุดปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวหนีดรามาที่รุมถล่มไปชั่วคราวแล้ว เหลือเพียงอินสตาแกรมที่ยังอยู่ แต่ภาพเดิมๆ ที่เคยตัดต่อและโพสต์เอาไว้ ได้อันตรธานหายไปเรียบร้อยแล้ว
แม้จะยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ ออกมาจากฝั่งผู้โพสต์ แต่การลงโทษบนโลกออนไลน์ก็ยังคงดำเนินต่อไป จาก account ที่เคยเป็นแหล่งนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวยอดนิยม ตอนนี้ได้กลายเป็น “แหล่งรวมเกมจับผิดภาพ” อันน่าตื่นตาตื่นใจของผู้คนไปเสียแล้ว
[ถูกขุดคุ้ยเปรียบเทียบอีกหลายต่อหลายภาพ]
[ภาพต้นฉบับ บรรยากาศภายในเครื่องบิน]
[ภาพที่คาดว่าน่าจะตัดต่อ]
จากการวิเคราะห์ของผู้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวแล้ว หลายคนเชื่อว่าเธอได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ หลายๆ ที่จริงๆ เนื่องจากมีคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์จริงอัพโหลดเอาไว้ด้วย แต่พอเจอชุดภาพตัดต่อปะปนเข้าไป จึงทำให้ภาพถ่ายจริงๆ หลายๆ ภาพถูกเหมารวมไปว่าตัดต่อไปด้วยกัน เพราะเสียความเชื่อมั่นในตัวเจ้าของแบรนด์ไปแล้วจริงๆ
“โกหกเรื่องเดิมซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ทุกวัน สักวันคนจะเชื่อไปเอง โกหกวันละเรื่องไปเรื่อยๆ ทุกวัน สักวันต้องโดนจับได้” คือข้อความที่ทางทีมจับผิดเปรียบเทียบภาพ โพสต์เอาไว้ผ่านเฟซบุ๊ก
ถ้าผู้ถูกสังคมรุมเสียดสีในครั้งนี้ ออกมาอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจหรือไม่รู้ว่าการลงภาพแบบนั้นไป ทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิด ก็คงเป็นเหตุผลที่เชื่อถือยากอยู่สักหน่อย เพราะล่าสุด มีผู้ออกมาอ้างตัวว่า เคยส่งข้อความส่วนตัวเตือนไปยังบล็อกเกอร์ดังรายนี้ ตั้งแต่ก่อนหน้าจะเกิดประเด็นเดือดครั้งใหญ่ครั้งนี้
[ภาพต้นฉบับ จากช่างภาพมือโปรต่างประเทศ "BanffandBeyond"]
[ภาพที่อดีตแอร์ฯ สาวนำมาโพสต์ โดยตัดเครดิต]
ผู้หวังดีรายดังกล่าว เคยส่งข้อความไปเตือนถึงเรื่องการลงรูปที่ไม่ใช่ภาพถ่ายของตัวเอง โดยไม่ให้เครดิตภาพเจ้าของลิขสิทธิ์ว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่นอกจากผู้ถูกเตือนจะไม่ไยดีแล้ว ยังด่ากลับแบบไม่ไว้หน้าอีกต่างหาก เมื่อวันแห่งผลกรรมจากการกระทำเดิมๆ เดินทางมาถึง จึงถึงคราวที่อีกฝ่ายจะได้ระบายกลับไปบ้าง
“เคยส่งข้อความไปหานางว่าทำไมเอารูปคนอื่นมาลงแล้วตัดเครดิตออก แทนที่จะสำนึกผิด กลับด่ามาเป็นชุด คิดไม่ผิดว่าต้องมีวันนี้ ดีนะที่แคปไว้”
[เคยมีผู้หวังดี ส่งไปเตือนเรื่องลิขสิทธิ์ภาพ แต่ถูกอัดกลับ]
เพื่อแลกกับยอดไลค์-ยอดวิว-ยอดแชร์ หรือแม้แต่ยอดคนติดตาม ซึ่งอาจสามารถนำไปผันเป็นค่าโฆษณาได้ในภายหลัง ทำให้ใครคนหนึ่งยอมทำได้ถึงขนาดนี้... ต่อไปก่อนจะอิจฉามุมเซลฟี่อินเตอร์ของใครต่อใคร เห็นทีต้องเช็กให้ดีๆ เสียก่อนว่า คนคนนั้นเป็น “นักท่องเที่ยวสายเรียล” หรือ “นักโฟโต้ชอปสายมโน” กันแน่...
[โพสต์ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ]
[ตามสืบจริงๆ กลับพบแค่เพียงภาพลวงตา]
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
