หากมีหลายคนคิดว่าคนที่มีบุญญาธิการสูงส่ง เกิดมาเป็นพระมหากษัตริย์ จะต้องมีพระราชวังใหญ่โต เสวยพระกระยาหารเลิศหรูนั้น คงใช้ไม่ได้กับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย เพราะทุกวินาทีของพระองค์นั้นทรงคิดถึงแต่ชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทย จึงทำให้พระองค์ทรงมีพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย โดยเฉพาะเครื่องเสวยอันเป็นเมนูทรงโปรดของพระองค์นั้น ทรงเรียบง่าย อันเป็นต้นแบบแห่งความพอเพียงของในหลวงสู่ลูกๆในแผ่นดิน
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และการสถาปนาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ครบรอบ 62 ปี ครัวธรรมศาสตร์อาสาโดยสมาคมวารสารศาสตร์ มธ. นำศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และจิตอาสา ร่วมสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในเรื่องความพอเพียง ด้วยการสาธิตการทำเมนูทรงโปรด 3 เมนู ประกอบด้วย พริกกะเกลือ,สปาเกสตี้มิลานเนส และ ไข่พระอาทิตย์ โดยเชฟชื่อดัง พร้อมโชว์อีก 6 เมนูทรงโปรด ซึ่งแต่ละเมนูล้วนเรียบง่ายอันสะท้อนให้เห็นถึงพระราชจริยวัตรอันเรียบง่ายและงดงาม
เขมทัตต์ พลเดช นายกสมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม ชม-ชิม 9 เมนูโปรดเพื่อความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ซึ่งได้ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทยมายาวนานถึง 70 ปี และทรงมีพระจริยวัตรที่งดงาม ไม่ฟุ่มเฟือย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ การกินอยู่อย่างพอเพียง ครัวธรรมศาสตร์อาสา จึงได้จัดสาธิตเมนูโปรดของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปเป็นตัวอย่างในการกิน การอยู่ อย่างพอเพียง เรียนรู้การดำรงชีวิตที่เรียบง่ายตามแบบพระองค์ท่าน
สำหรับเมนูแรกที่เริ่มสาธิตการปรุงคือ “พริกกะเกลือ” ปรุงโดย ดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ กูรูด้านอาหารไทย ผู้สืบเชื้อสายมาจาก ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญอาหารชาววัง โดยเชฟดวงฤทธิ์ อธิบายถึงความพิเศษของเมนูนี้ว่า เป็นเมนูที่คนโบราณสมัยก่อนมักทำไว้ติดครัวบ้าน ความหอมของเครื่องเทศพอคลุกกับข้าวแล้วจะช่วยให้เจริญอาหาร ทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้น
"เหตุผลที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดเมนูนี้ ก็เพราะเป็นอาหารแห้งทำง่าย สะดวกต่อการพกพาในการเสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร และเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบพื้นบ้านไทยอย่างมะพร้าว ใบเตย คั่วให้ละเอียดแล้วนำมาคลุกเคล้ากับพริก และ เกลือ ให้เข้ากัน เมนูนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่พอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ อย่างแท้จริง
ส่วนเชฟ เนตรอำไพ สาระโกเศศ ผู้สาธิตเมนู สปาเกสตี้ "มิลานเนส" เล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 โปรดเสวยเมนูนี้ในช่วงบ่าย เพราะเมนูนี้เป็นสปาเกสตี้ซอสผัก ที่อุดมไปด้วยผักนานาชนิด โดยเฉพาะมะเขือเทศ ที่มีสรรพคุณช่วยให้มีความสดชื่นระหว่างวัน
"ใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นเมนูจากต่างประเทศ หากแต่เมนูนี้มีความเรียบง่ายที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย เพราะพระองค์โปรดให้ผู้จัดทำห้องเครื่อง นำเส้นสปาเกสตี้ มาผสมกับเบคอน และแฮม เท่านั้น จากนั้นใส่ผักนานาชนิดเข้าไป" เชฟเนตรอำไพ เล่าด้วยความซาบซึ้งในพระราชจริยวัตร
ปิดท้ายที่เมนูทรงโปรดยอดฮิต "ไข่พระอาทิตย์" โดยเชฟผู้สาธิตอย่าง นิพนธ์ มาสรังรอง อธิบายถึงความพิเศษของเมนูนี้ว่า เป็นเมนูที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดทำเสวยเองอยู่เป็นประจำเมื่อครั้งที่ประทับอยู่ต่างประเทศ เพราะเป็นเมนูที่ทรงปรุงง่าย ใช้ส่วนผสมเพียงแค่ 3 อย่างเท่านั้น และทรงเคยทำเมนูนี้พระราชทานแก่สมเด็จพระเทพรัตรราชสุดาฯ อีกด้วย ซึ่งส่วนผสมของเมนูนี้ก็แสนจะเรียบง่ายมีเพียงไข่ไก่ ซอสแมกกี้ และข้าวสวยซึ่งเป็นข้าวที่เหลือจากเสวยในมื้อเช้าซึ่งพระองค์ทรงเป็นต้นแบบแห่งความพอเพียงอย่างแม้จริง จากนั้นจึงนำทั้ง 3 อย่างมาผสมให้เข้ากัน แล้วทอดในน้ำมัน
"ความพิเศษของเมนูนี้คือพอทอดไข่เสร็จแล้ว นำแว่นขยายมาส่องจะเห็นเมล็ดข้าวในไข่เป็นสีทองสดใสเหมือนพระอาทิตย์นั่นเอง"เชฟนิพนธ์ อธิบาย
นับเป็นองค์ต้นแบบแห่งความพอเพียง ที่ทรงนำทางให้ประชาชนชาวไทยใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
