xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าฟ้าดาราลูกหนัง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ล้ำค่าประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงแข่งขันฟุตบอล อีกทั้งยังทรงมีพระปรีชาสามารถเป็นอย่างมาก จนมีบันทึกไว้ว่า พระองค์ทรงเป็น “เจ้าฟ้าดาราลูกหนัง” ของปวงชนชาวไทย
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ยังทรงพระเยาว์ และกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลของโรงเรียนจิตรลดานั้น หลังจากการเรียน จะมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่พระองค์จะต้องเข้าร่วมอยู่เสมอ นั่นคือการทรงเล่นฟุตบอล


พล.ต.สำเริง ไชยยงค์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดโอลิมปิก เมลเบิร์น (ค.ศ. 1956) เป็นพระอาจารย์ผู้ฝึกสอนการเล่นฟุตบอลให้แก่พระองค์ เมื่อเริ่มแรกพระองค์ทรงเล่นในตำแหน่งกองหน้า และก่อนที่จะย้ายมาในตำแหน่งกองหลังในภายหลัง

และเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศออสเตรเลีย ก็ยังทรงมีส่วนสำคัญในการช่วยให้โรงเรียน นายร้อยดันทรูน ชนะเลิศฟุตบอลระดับอุดมศึกษาของประเทศเป็นครั้งแรก ถึง 3 ปีติดต่อกัน

ในตอนหนึ่งของบทความ ‘พระจริยวัตรขณะที่ประทับอยู่ออสเตรเลีย’ พล.ต.สำเริง ไชยยงค์ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ ถึงพระปรีชาสามารถด้านการทรงเล่นฟุตบอลของพระองค์ ความว่า



“ในตอนเย็นหลังจากโรงเรียนเลิกแล้ว พระองค์จะต้องซ้อมกีฬาซึ่งทรงเลือกเล่นฟุตบอล ตำแหน่งที่ทรงเล่น คือแบ็กทั้งซ้ายขวา แต่เดิมเมื่อทรงศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมนายร้อย พระองค์ทรงเล่นศูนย์หน้า ซึ่งทรงเล่นได้ดีเยี่ยม เป็นดาราของโรงเรียน ทำประตูได้เป็นประวัติการณ์ แต่เมื่อย้ายมาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายร้อย มักถูกรุ่นพี่ “บีบ” ให้เล่นตำแหน่งกองหลัง ไม่มีโอกาสทำประตูและถูกส่งไปอยู่ทีมอ่อนที่สุด ทั้งนี้เพราะพวกรุ่นพี่เขาไม่ต้องการเห็นพระองค์ดีเด่น”


หลังจากที่ทรงศึกษาสำเร็จและเสด็จนิวัตสู่ประเทศไทย ก็จะทรงเล่นฟุตบอลกับข้าราชบริพาร ทหาร ตำรวจและประชาชน ในระหว่างเสด็จฯทุกครั้ง จนมีบันทึกในราชกิจจานุเบกษาครั้งเฉลิมพระเกียรติ ว่า "เจ้าฟ้าดาราลูกหนัง" ของปวงชนชาวไทย

ในเวลาต่อมา ความสนพระทัยทางด้านกีฬาของพระองค์ ยังได้ส่งต่อไปถึงพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในช่วงวันหยุดหรือช่วงปิดเทอมของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทูลกระหม่อมพ่อของพระองค์ก็จะเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยม ณ ประเทศเยอรมนี และทรงร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันเสมอ

กิจกรรมที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำร่วมกัน ส่วนมากมักจะเป็นการทรงกีฬากลางแจ้ง เช่น เจ็ตสกีหิมะ, ปั่นจักรยาน, ขี่ม้า, ว่ายน้ำ, พายเรือ ฯลฯ

พระองค์ทรงสอนว่ายน้ำและพายเรือแก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ก็เพื่อให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง ฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และมีความอดทน ซึ่งการทรงกีฬากลางแจ้งนั้น ส่งผลให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งไม่เพียงแต่พระปรีชาสามารถด้านกีฬาเท่านั้น ทั้งหมดที่กล่าวมายังแสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างพ่อที่มีต่อลูกอย่างเหนียวแน่น

ขอบคุณภาพและข้อมูล : สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น