อีกครั้งแล้วสินะ ที่เฮียต้องโยกย้าย! กทม. ปรับภูมิทัศน์สวนลุมพินี ทำความสะอาดใหม่หมด พ่วงจัดระเบียบตัวเงินตัวทอง หาบ้านให้ใหม่กว่า 400 ตัว คนบนโลกโซเชียลฯเสียงแตก ฝ่ายเห็นด้วยบอกจำนวนเยอะไปจนทำลายระบบนิเวศ ฝ่ายไม่เห็นด้วยให้เก็บไว้เป็นสีสันสวนลุมฯ
จัดระเบียบเหี้ยน 20 กันยายนนี้!
สวนลุมพินี ถือได้ว่าเป็นปอดของคนกรุงอีกแห่งหนึ่ง ที่นอกจากจะเป็นแหล่งที่คนรักสุขภาพมารวมตัวกันเพื่อออกกำลังกายและเล่นกีฬา รวมถึงการมีพื้นที่ไว้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ แถมยังมีระบบนิเวศสมบูรณ์ จึงกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลานอย่างตัวเงินตัวทอง ที่มีจำนวนมากและที่มักจะโผล่ออกมาให้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง จนแทบจะเรียกได้ว่า กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสวนลุมพินีไปแล้ว โดยมันมีหน้าที่ในการกินซากสัตว์ เพื่อสร้างสมดุลในระบบระบบนิเวศน์ รวมทั้งกินสัตว์น้ำเล็กๆ อย่าง ปลา กบ งู และเต่า รวมถึงไข่ของสัตว์ต่างๆ
แต่หลังจากที่สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลสวนลุมพินี ได้มีการสำรวจจำนวนตัวเงินตัวทองในสวนลุมพินี พบว่ามีมากถึง 400 ตัว กลับกลายเป็นว่า ด้วยจำนวนที่มากเกินไปของมันส่งผลเสียต่อระบบนิเวศบริเวณนั้นมากกว่าสร้างสมดุล เพราะนอกจากมันจะกินสัตว์เล็กๆ แล้ว มันยังสร้างความเสียหายให้กับต้นไม้และตลิ่ง และบางครั้งก็ทำอันตรายต่อผู้คนที่มาใช้บริการสวนลุมพินีอีกต่างหาก
ด้วยเหตุนี้ ทางสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. จึงมีนโยบายที่จะจัดระเบียบตัวเงินตัวทอง ด้วยการส่งพวกมันไปยังสถานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อเป็นสถานที่ดูแลตัวเงินตัวทองต่อไป ก่อนหน้านี้ก็มีการจับไปแล้ว 87 ตัว อีกทั้งต้องการปรับภูมิทัศน์ของสวนลุมพินี โดยการทำความสะอาดพื้นที่ทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ประชาชนมาใช้บริการได้อย่างสะดวกและปลอดภัยจากตัวเงินตัวทองมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนสังคมออนไลน์ ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการจัดระเบียบครั้งนี้มองว่าตัวเงินตัวทองที่สวนลุมพินีมีจำนวนมากเกินไป จนกลายเป็นว่าเป็นฝ่ายบุกรุกพื้นที่ของมนุษย์ ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ก็เพราะมีความต้องการให้ตัวเงินตัวทองยังอยู่เป็นสีสันให้แก่สวนลุมพินีต่อไป
และบรรทัดต่อจากนี้คือความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อการจัดระเบียบตัวเงินตัวทองครั้งนี้
“มันเยอะเกินนะ ต้องมาลองใช้สวนลุมพินีดู เยอะจนเป็นอันธพาลแล้ว ถูกแล้วที่จำกัด สวนลุมพินีก็มีอยู่แค่นั้นล้นระบบนิเวศน์มันก็ไม่ดี นี่ไม่ใช่ป่าอะเมซอน แล้วน้ำลายมันมีพาหะนำโรค”
“ต่อไปไม่เจอคงคิดถึง น่าจะเหลือไว้พอเป็นสีสันบ้างนะ อย่าคิดไปเองว่าทำลายระบบนิเวศ สัตว์ชนิดเดียวในโลกที่ไม่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศแม้แต่นิดเดียวคือพวกเรานี่แหละลองจับเจ้าตัวนี่จนไม่เหลือสักตัว เดี๋ยวจะรู้ตัวอะไรบ้างที่เป็นอาหารของมันเพราะจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วทันที ที่รู้ๆ หนูอย่างหนึ่งแหละ”
“ผมเคยไปมันเยอะจริง ๆ นะครับแต่ถ้าจับไปแล้วเอาไปปล่อยในป่าจะทำให้ระบบนิเวศเสียหรือเปล่าครับ”
“มันคือเสน่ห์สวนลุมพินีนะ ผมว่าพวกเขาก็ดูน่ารักดีออก”
“ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยแนวทางใหม่ทำฟาร์มอาเฮีย ให้นักท่องเอาไก่ไปตก ”
“ถ้าเอาไปปล่อยก็โอเค เพราะมันเยอะจริงๆ แต่อย่าไปทำให้มันเจ็บมันตายนะสงสารมัน” ฯลฯ
เมื่อถึงเวลาที่ตัวเงินตัวทองย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้ว ภูมิทัศน์ของสวนลุมพินี จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด คงต้องติดตามกันต่อไป
ส่องชีวิตตั่วเฮีย ไม่ได้มีดีแค่กินซาก!
ถ้าจะเอ่ยถึงชื่อตัวเงินตัวทอง หลายคนอาจจะเบือนหน้าหนี โดยเฉพาะคนไทย เพราะมีความเชื่อกันว่า เป็นสัตว์ที่นำมาซึ่งความอัปมงคลต่างๆ บ้างก็นำชื่อของมันไปเป็นคำด่าหยาบคาย จนกลายเป็นว่า ตัวเงินตัวทอง กลายเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งไม่ดีไปเสียแล้ว
แถมตัวเงินตัวทองยังเพิ่มจำนวนได้ง่าย ยิ่งหากสถานที่ไหนมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ตัวเงินตัวทองก็ยิ่งจะแพร่พันธุ์ได้อย่างเร็ว อย่างในสวนลุมพินีก็เป็นอีกสถานที่ที่มีจำนวนตัวเงินตัวทองที่มากจนต้องมีการจัดระเบียบ ซึ่งไม่เพียงแต่ในสวนลุมพินีเท่านั้นที่ขึ้นชื่อ ตามมหาวิทยาลัยหลายแห่งก็มีจำนวนตั่วเฮียไม่น้อยเช่นกัน ทั้ง ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต , ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ , ม.มหิดล ศาลายา , ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีกมากมาย
[ ตั่วเฮียภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ]
[ ที่มา : แฟนเพจ "TU Cute เหี้ย " ]
เมื่อตัวเงินตัวทองมีจำนวนมาก จึงต้องมีการจัดการที่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดเป็น “ฟาร์มวารานัส” เกิดขึ้น ภายใต้การดูแลของสถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม จนฟาร์มแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ศึกษา เพาะเลี้ยง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้ได้อีกด้วย
อย่างที่ทราบกันดีหากตัวเงินตัวทองมีจำนวนมากเกินไปก็ส่งผลกระทบถึงระบบนิเวศน์เพราะมันจะไปเบียดเบียนการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำชนิดอื่น และด้วยนิสัยที่กินไม่เลือก จึงทำให้มันกลายเป็นศัตรูของเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ไว้อีกด้วย รวมถึงหากใครถูกมันกัดเข้าก็ต้องรีบล้างแผลให้ไว เพราะน้ำลายของมันมีแบคทีเรียจำนวนมาก จึงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
[ กระเป๋าและรองเท้าจากหนังตัวเงินตัวทอง ]
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่โทษเท่านั้น เพราะจากการศึกษาวิจัยที่เกิดขึ้นในฟาร์มวารานัส ทำให้ทราบถึงประโยชน์ของตัวเงินตัวทองมากมาย ที่นอกจากจะเป็นนักกำจัดซากในธรรมชาติแล้ว ยังทำประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจได้อีก ทุกส่วนของร่างกายตัวเงินตัวทอง สามารถนำมาสร้างมูลค่าได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังที่มีความเหนียวและทนทาน แต่มีความนุ่มและมีลวดลายละเอียด สามารถนำไปแปรรูปเป็นเครื่องหนังได้มากมาย ทั้งกระเป๋า เข็มขัด รองเท้า ซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศอย่าง ประเทศจีนและประเทศในแถบทวีปยุโรป
ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะนำผลการวิจัยเชิงเศรษฐกิจครั้งนี้ไปทำเรื่องขอยกเว้นจากการเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถหาเลี้ยงได้เหมือนจระเข้ งูบางชนิด แม้รูปร่างลักษณะของมันอาจจะดูน่ากลัว แต่ประโยชน์ที่ได้ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับคนรักตัวเงินตัวทองสวนลุมฯ ก็ไม่ต้องหวั่นใจ เพราะทางสำนักงานอนามัย กทม. จะนำพวกมันไปอยู่ยังสถานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่มีพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ มีระบบนิเวศน์สมบูรณ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ สามารถรองรับตั่วเฮียทั้ง 400 ชีวิตได้อย่างสบายๆ
ขอบคุณภาพประกอบ : เฟซบุ๊กแฟนเพจ TU Cute เหี้ย
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754