xs
xsm
sm
md
lg

สวยประชานิยม! เปิดใจ "น้องฝ้าย" มิสแกรนด์ไทยแลนด์คนล่าสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เป็นผู้เข้าประกวดที่มีสายตานับพันนับหมื่นจับจ้องพร้อมด้วยเสียงชื่นชมในความสวยอันโดดเด่นบนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 สำหรับ "ฝ้าย-สุภาพร มะลิซ้อน" มิสแกรนด์สงขลาที่ผ่านกองทัพผู้สมัครจนถูกคัดเลือกอย่างดีตามคุณสมบัติที่ "เหมาะสม" ต่อการเป็น "นางงาม" บนเวทีนี้มากที่สุด

นอกจากความสวยที่ดูเพลิดเพลินเจริญตาแล้ว เรื่องราวในใจที่เธอได้เผยออกมาผ่านบทสัมภาษณ์ในบรรทัดต่อจากนี้ ยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งมุมคิด และการสู้ชีวิต ซึ่งบางเรื่องบางตอนก็ปรากฏให้เห็นทั้งรอยยิ้ม ทัศนคติด้านดีในการใช้ชีวิต รวมไปถึงประกายน้ำตาในดวงตาคู่สวยนี้ด้วยเหมือนกัน

"ฝ้าย" สวยปังสนั่นโซเชียลฯ

ท่ามกลางผู้สมัครหลายร้อยหลายพันที่ไม่ได้มากันเล่นๆ แต่ละคนพกความหวัง ความมุ่งมั่น และความตั้งใจมาเต็มร้อย แต่สิ่งที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกันก็คือ คุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็น "มิสแกรนด์ไทยแลนด์" เวทีนางงามที่ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้ชายมานั่งจ้องมอง วิพากษ์วิจารณ์เพียงอย่างเดียว แต่มีความแตกต่างอยู่ในคำตอบของ "ฝ้าย" มิสแกรนด์สงขลาวัย 22 ปี ผู้ครอบครองมงกุฎในปีนี้



"ฝ้ายรู้สึกว่าเวทีเหมาะกับฝ้ายมากที่สุด เพราะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสทุกอย่าง ไม่ว่าจะความเป็นตัวเอง สายงานอาชีพที่ฝ้ายเคยทำมาก็นำมาปรับใช้กับเวทีนี้ ซึ่งไม่ใช่เวทีสำหรับผู้หญิงที่เป็นนางง๊าม นางงาม แต่เป็นเวทีที่ให้ผู้หญิงรู้สึกว่า สวย เก่งในแบบของตัวเอง เป็นเวทีที่ให้โอกาสสำหรับทุกคน เพื่อให้ผู้หญิงได้เป็นตัวเองมากที่สุด และเข้าถึงได้ง่าย

ฝ้ายเคยพูดกับเพื่อนว่า ถ้าไม่ได้เวทีนี้ก็จะไม่ไปเวทีไหนละ เพราะรู้สึกว่า ชื่นชอบเวทีนี้มากๆ เป็นเวทีที่ฝ้ายตั้งใจมาเวทีแรก และเวทีเดียว และเผอิญว่าประสบผลสำเร็จ ได้เป็นนางงามสมใจ (ยิ้ม) ฝ้ายก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ และแฟนๆ นางงามทุกคน (ยกมือไหว้) ฝ้ายไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอบคุณ ได้แต่พูดย้ำๆ คำเดิมจากใจจริงๆ ว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอค่ะ"

แน่นอนว่า หลังพิธีกรประกาศชื่อของเธอให้เป็น "มิสแกรนด์ไทยแลนด์" คนล่าสุด ภาพในอิริยาบถต่างๆ บนเวทีการประกวดก็ถูกโพสต์ ถูกแชร์สนั่นโลกโซเซียลฯ ตามมาด้วยเสียงชื่นชมจำนวนมากว่า มิสแกรนด์ฯ ปีนี้สวยมาก เหมาะสมกับตำแหน่งมากที่สุด

"หลังจบการประกวด ฝ้ายเปิดเข้าไปในโลกโซเชียลฯ ก็เห็นรูปของฝ้ายเต็มไปหมด ฝ้ายรู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ ดีใจจริงๆ จากใจจริงๆ ขอบคุณทุกคนที่เชียร์ฝ้าย บางคนไม่เคยรู้จักกัน หรือบางคนเห็นฝ้ายจากการเดินสายประกวดต่างๆ แต่พอวันหนึ่งมีคนมาชื่นชอบฝ้ายขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่ให้กำลังใจ ไม่ว่าฝ้ายจะมีข่าว หรือมีประเด็นดรามาว่ามีชุดเหมือนคนนั้น คนนี้ แต่คนที่เขามองฝ้าย มองที่เป็นฝ้าย เขาก็จะให้กำลังใจ บอกไม่ต้องคิดมากหรอก คำพูดแค่นี้ก็ทำให้ฝ้ายมีพลังแล้วค่ะ"







ด้วยออร่าความโดดเด่นบนเวที ไม่แปลกที่เธอจะถูกพูดถึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง และคำถามจากแฟนคลับนางงามท่านหนึ่งที่ฝากทีมงานไปแซวเธอว่า "ทำไมเกิดมาสวยจัง" ทำให้ฝ้ายรีบพูดแก้เขินขึ้นมาทันที "...ก็ชมกันเกินไปค่ะ (ยิ้มเขินๆ) คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วสวยเลยนะคะ ก็ต้องมีปรับ มีเปลี่ยนกันบ้าง อะไรที่มันต้องเพิ่ม ต้องเติม ถ้ามันดีก็ไม่แอนตี้ค่ะ

บางคนถามว่าไปทำศัลยกรรมมาหรือเปล่า ฝ่ายก็บอกไปตามตรงว่าฝ้ายทำจมูกมา ทำมาตั้งแต่ ม.6 แล้ว เพราะตอนนั้นเริ่มเดินสายประกวดนางงามตามงานต่างๆ นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วค่ะ ฟันก็ไม่ได้ดัด แค่เจียฟันบ้างตามปกติ ส่วนตัวไม่ได้แอนตี้ศัลยกรรมนะคะ ใครมีข้อบกพร่องอะไรก็ทำให้มันดีขึ้น มั่นใจขึ้น ทุกวันนี้มีคนทักว่าจมูกเบี้ยวบ้าง อะไรบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ (ยิ้ม) ขนาดนิ้วมือยังไม่เท่ากันเลย ซึ่งตัวฝ้ายไม่ได้ซีเรียสอะไรตรงนั้นค่ะ"

ไม่ใช่สาวใต้ แต่ก็คมอยู่นะ

เห็นตาคม ผิวเข้ม เป็นตัวแทนจากจ.สงขลา ถ้าเจ้าตัวไม่บอกว่าเป็นสาวปราจีนบุรี ถิ่นศรีมหาโพธิ์ ก็คงเชื่อสนิทใจไปแล้วว่า "ฝ้าย" คือสาวใต้จริงๆ โดยเธออธิบายถึงสายสะพาย "มิสแกรนด์สงขลา" ให้ฟังว่า "ฝ้ายถูกแต่งตั้งขึ้นมาโดยดูจากความเหมาะสม ก่อนหน้านี้ก็มีคนถามว่า ทำไมไม่ลงมิสแเกรนด์ปราจีนบุรีล่ะ คือมันเต็มไปแล้วค่ะ ฝ้ายก็ไปลงในนามจ.สงขลาแทน



ด้วยความที่หน้าคมชัด ทำให้ฝ้ายดูเป็นสาวใต้มากกว่าคนปราจีนบุรีไปแล้ว (ยิ้ม) หรือบางคนก็ให้ฝ้ายเป็นลูกครึ่งเยอะมากทั้งมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่งฝ่ายเป็นได้หมดค่ะ (หัวเราะ) แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ ฝ้ายจะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการเป็นตัวแทนสาวใต้สำหรับการประกวดบนเวทีนานาชาติอย่างมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล" เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เต็มไปด้วยพลังความมุ่งมั่น

ชีวิตไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด

แน่นอนว่า หากใครได้เห็นออร่าในตัว "ฝ้าย" ทั้งบนเวที และชีวิตในอินสตาแกรม (@mali_khuntong) เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงมองเธอผู้หญิงบ้านรวย แต่ที่เห็นชีวิตดีๆ หรือภาพถ่ายเก๋ๆ ในต่างประเทศ หลายคนอาจไม่รู้ถึงเส้นทางชีวิตก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้โรยรายด้วยกลีบกุหลาบ

"ฝ้ายเติบโตในครอบครัวธรรมดาๆ เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ไม่ได้ดีเด่นดังกว่าใคร มีย่าคอยเลี้ยงดูฝ้ายมา ฝ้ายขอเรียกว่าแม่ใหญ่ ฝ้ายเรียกแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แม่ใหญ่เลี้ยงฝ้ายมาแบบบ้านๆ ส่วนพ่อกับแม่ไม่มีค่ะ (เว้นช่วง) จริงๆ ฝ้ายไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าไร เพราะแม่ใหญ่เป็นคนที่เลี้ยงฝ้ายมาตั้งแต่เด็ก เวลาพูดถึงแม่ให้แม่ใหญ่ฟังว่าฝ้ายไม่เคยเจอหน้าแม่เลย แม่ใหญ่ก็จะน้อยใจ และร้องไห้ จากนั้นท่านก็จะบอก นี่ไง แม่อยู่นี่แล้ว



ส่วนพ่อฝ้าย ท่านเสียตั้งแต่ฝ้ายอยู่ชั้นม.ปลายแล้วค่ะ ก็...เป็นเรื่องเศร้าใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เอาไปเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต เพราะฝ้ายรู้อยู่แล้วว่าพ่ออยู่ในใจฝ้ายเสมอ นอกจากนั้นฝ้ายยังมีคนรอบข้างที่ทำให้ฝ้ายรู้สึกว่าเราไม่ได้ขาด คนในครอบครัวให้ความรักล้นมาก ส่วนเรื่องเรียนก็มีคุณอาคอยช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นฝ้ายก็ทำงานไปด้วย

ฝ้ายเริ่มทำงานตั้งแต่ ม.5 เดินสายประกวดตามเวทีต่างๆ ได้รางวัลบ้าง ไม่ได้บ้าง หรือมีงานถ่ายโฆษณาเข้ามา ฝ้ายก็ไปทำเพื่อนำได้เงินค่าจ้างมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว พอวันหนึ่งที่ฝ้ายทำงานได้เงินเยอะๆ ฝ้ายก็ดูแลเขาแทน โดยเฉพาะลูกๆ ของคุณอาที่เปรียบเสมือนน้องของฝ้าย ฝ้ายก็ช่วยส่งน้องเรียนเหมือนที่คุณอาส่งฝ้ายเรียน

"ฝ้ายเริ่มเข้าสู่วงการนางแบบเมื่อ 4 ปีที่แล้วหลังจากการประกวดไทย ซูปเปอร์โมเดล และเอเชีย นิว สตาร์ โมเดล คอนเทส เฟส ออฟ ไทยแลนด์ ตอนนั้นฝ้ายได้ที่ 2 และฝ้ายได้มีโอกาสไปทำงานที่ต่างประเทศ เชื่อไหมคะว่าตอนฝ้ายไปอยู่สิงคโปร์ 2 เดือน ฝ้ายไม่เคยเที่ยวเลย เพราะคำสอนของแม่ใหญ่ผุดขึ้นมาตลอดว่า ดูแลตัวเอง ให้เกียรติตัวเอง และตั้งใจทำงานเก็บเงิน ถึงวันนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สามารถเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัวได้"

แม้ว่าวันนี้จะไม่มีแม่ใหญ่แล้ว แต่หลายๆ คำสอนยังคงอยู่ในใจเธอเสมอ โดยเฉพาะการเป็นผู้หญิงที่ต้องให้เกียรติตัวเอง วางตัวให้ดี และไม่ทำอะไรที่มันล่อแหลม



"แม่ใหญ่ที่จะสอนฝ้ายในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติตัวเอง วางตัวให้ดีในแบบที่เราเป็น มีน้อยใช้น้อย มีมากก็เก็บไว้ ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ แม่ใหญ่จะหวงฝ้ายมาก หลังเลิกเรียน 6 โมงเย็นก็ต้องเข้าบ้าน ซึ่งแม่ใหญ่จะตามอยู่เสมอ คุยกันได้ทุกเรื่อง เหนื่อยก็กอดกัน เพราะเราอยู่กันแบบใกล้ชิด

ถึงวันนี้แม่ใหญ่ไม่อยู่แล้ว ช่วงแรกๆ ฝ้ายไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าแม่ใหญ่ยังอยู่ทุกมุมบ้าน ปัจจุบันฝ้ายอยู่รามคำแหง เพราะฝ้ายเรียนม.รามคำแหง (คณะบริหารธุรกิจ) กลับบ้านบ้างบางอาทิตย์ ซึ่งฝ้ายยังคงคิดถึงแม่ใหญ่อยู่เสมอ"

ทะมัดทะแมง แต่โรแมนติก

เมื่อให้มองตัวเองว่าเป็น "ผู้หญิงแบบไหน" เธอนิ่งคิดและให้คำตอบว่า "ฝ้ายเป็นผู้หญิงห้าวๆ ทะมัดทะแมงคะ ไม่ค่อยเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิงสักเท่าไร เป็นผู้หญิงหลากสไตล์ค่ะ เน้นความเรียบง่าย สบายๆ ซึ่งเพื่อนมักจะบอกว่า ช่วยให้เกียรติกันบ้าง (ยิ้ม) เพราะฝ่ายมักจะแต่งตัวสบายเกินไป ไม่ค่อยใส่ส้นสูง เพราะฝ้ายรู้สึกว่าใส่มันทำงานจนเบื่อแล้วซึ่งเพื่อนที่เป็นผู้หญิ๊งผู้หญิงก็มักจะแซวเรา" 



ส่วนอีกมุมหนึ่งที่ใครหลายคนยังไม่ค่อยรู้ก็คือ ฝ้ายเป็นผู้หญิงเล่นกีตาร์คลาสสิกได้ แถมยังเสียงดีไม่เบาด้วย (ลองไปหาฟังได้ในไอจีของเธอ)

"ฝ้ายชอบเสียงเพลงค่ะ" เธอบอก "การเป็นผู้หญิงที่ชอบเสียงเพลง มันทำให้ฝ้ายรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ เพราะฝ้ายไม่ค่อยชอบอะไรที่มันกดดัน (ยิ้ม) ถามว่าอยากเดินสายนักร้องบ้างไหม ฝ้ายคงไม่ถึงขั้นนักร้องอาชีพค่ะ ไม่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ แต่ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสฝ้ายก็อยากจะลองดูเหมือนกันนะ (ยิ้มเขินๆ)" เธอพูดด้วยท่าที และน้ำเสียงถ่อมตน ก่อนจะเผยถึงที่มาของทักษะการเล่นกีตาร์

"ตอนเรียนม.ปลาย ฝ้ายชอบเพลงละครรักแท้ ของพี่แบงค์ วงแคลชมากๆ ค่ะ อยากร้อง และเล่นกีตาร์เพลงนี้ได้ ฝ้ายก็เลยให้เพื่อนที่อยู่ในวงโยธวาทิตด้วยกันช่วยสอนให้ ซึ่งการเป็นผู้หญิงที่เล่นกีตาร์ได้เจ๋งดีค่ะ อยากฟังเพลงไหนแล้วไม่มีใครเล่นให้ฟัง อย่างน้อยๆ ก็มีตัวเราเองนี่แหละที่เล่นเอง ร้องเอง (ยิ้ม)" พูดจบฝ้ายก็ร้องเพลงละครรักแท้ให้ฟังท่อนหนึ่ง ทำเอาคนฟังที่อยู่ตรงหน้าคล้อยตามไปกับเสียงหวานๆ ของเธอ

อย่างไรก็ดี นอกจากเป็นผู้หญิงห้าวๆ ทะมัดทะแมง แถมยังชอบในเสียงเพลงแล้ว "ความโรแมนติก" ยังมีอยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้ด้วย



"ถึงฝ้ายจะนิสัยเหมือนผู้ชาย ห้าวๆ ไม่ค่อยชอบอะไรจุกจิก แต่ในความห้าวๆ ดูทะมัดทะแมง ฝ้ายก็มีความโรแมนติกเอามากๆ ส่วนตัวเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ค่ะ ชอบคิดอะไรแบบเลี่ยนๆ (หัวเราะ) รู้ว่าคนนี้ชอบอะไรแต่จะไม่พูด อย่างกรณีพี่ผู้หญิงที่สนิทคนหนึ่ง เคยบอกว่า อยากกินเค้กไวท์ช็อกโกแลต พอถึงวันคล้ายวันเกิดพี่เขา ฝ้ายก็เซอร์ไพรส์ด้วยเค้กที่เขาชอบ เขาก็ตกใจ เฮ้ย! ฝ้ายจำได้ไงพี่เคยพูดแค่ครั้งเดียวเองนะ ซึ่งฝ้ายมองว่า ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน แฟน ความจริงใจคือสิ่งสำคัญมากๆ"

ตัวตนในข้างต้นนี้ เผยให้เห็นการใส่ใจกับทุกถ้อยคำ ไม่ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะการฟังคือการใส่ใจ การใส่ใจคือการให้คุณค่า เช่นเดียวกับการฟังเพลง และความรัก หากใช้หูฟังแต่ตาจ้องไปอย่างอื่น ต่อให้เพลงเพราะแค่ไหน หรือต่อให้คำพูดนั้นสวยงามแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่ได้ยินอยู่ดี

เรื่องรักๆ ฉบับมิสแกรนด์ฯ

เปิดประเด็นเรื่องความรักขึ้นมา ไม่ถามไม่ได้ถึงสถานะหัวใจในตอนนี้ โดยเฉพาะผู้ชายขาวตี๋ในอินสตาแกรมที่ดูจะสนิท และตามให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง

"ใครนะ ที่เรียกเฮียๆ ในไอจี" หลังถูกแซว ฝ้ายก็ม้วนตัวอายจนหน้าแดง ก่อนจะชี้แจงว่า "เป็นพี่ที่กำลังคุยๆ กันอยู่ค่ะ (ยิ้มเขินๆ) พี่เขาน่ารักดีค่ะ เราไปเจอกันที่ฮ่องกง ตอนแรกคิดว่าเป็นคนจีน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนไทยเชื้อสายจีน จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ ถึงวันนี้ 1 ปีกว่าๆ แล้วค่ะ พี่เขาน่ารักดีนะ คอยให้กำลังใจฝ้ายในทุกๆ อย่าง ไม่เคยปิดกั้นในสิ่งที่ฝ้ายอยากทำ คอยสนับสนุนฝ้ายในทางที่ดีมาโดยตลอดค่ะ



ดังนั้น เมื่อถามมุมมองความรักในแบบของ "ฝ้าย" เธอบอกว่า "ความรักในทุกสถานะ เราต้องให้เกียรติกัน ถ้าเราไม่ให้เกียรติกันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เลย ลองมีเพื่อน ถ้าไม่ให้เกียรติเพื่อน เพื่อนก็จะไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ เช่นเดียวกับคนรัก ต้องรักในความเป็นเขา และให้เกียรติซึ่งกันและกัน"

แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานที่ได้พูดคุยกัน แต่ก็ทำให้เห็นตัวตน โดยเฉพาะดวงตาที่มองเห็นรายละเอียด สมองที่ช่างคิด และทัศนคติด้านดีในการใช้ชีวิตที่ไม่เคยหลุดกรอบความดีงาม ซึ่งเชื่อว่าถ้า "แม่ใหญ่" ยังอยู่ คงต้องภูมิใจในตัวลูกสาว และหลานสาวคนนี้อย่างแน่นอน

3 ที่สุดในชีวิต ที่ไม่ค่อยมีใครรู้

ภูมิใจที่สุด

"สมัยที่ฝ้ายลงประกวดนางนพมาศตอนอายุ 17 ปี ฝ้ายได้ที่ 1 เป็นรางวัลเล็กๆ 5,000 บาท ฝ้ายก็ซื้อเข็มขัดเงินให้แม่ใหญ่ เป็นเงินก้อนแรกที่ฝ้ายซื้อของขวัญให้ท่าน เชื่อมั้ยค่ะว่า ตอนแม่ใหญ่เสีย แม่ใส่เข็มขัดเส้นนั้นไว้กับตัว และเผาไปพร้อมๆ กับท่านด้วย ซึ่งตอนที่มีชีวิตอยู่ แม่ใหญ่ไม่เคยเปลี่ยนเข็มขัดเลยนะคะ จะเก่า จะลอก ท่านจะใส่เส้นนี้ตลอด หรือตอนฝ้ายประกวดแล้วได้ขันน้ำ พานเงิน พานทอง ฝ้ายก็นำมามอบให้แม่ใหญ่เอาไว้ใส่บาตร แม้จะเป็นของเล็กๆ แต่ท่านให้ความสำคัญกันมันมาก นี่คือสิ่งที่ฝ้ายภูมิใจมากที่สุดในชีวิตค่ะ"

เกลียดที่สุด



"ฝ้ายเกลียดงูมากค่ะ มันเคยมีงูเข้าบ้าน ฝ้ายเห็นแล้วเกิดอาการก้าวขาไม่ออก มันตัวใหญ่มาก (ลากเสียงยาว) คือฝ้ายไม่ชอบเอามากๆ จำได้เลยว่า ตอนนั้นมันเลื้อยผ่านตู้เสื้อผ้าแล้วเหลียวมามองหน้าหนู ใครเอางูมาแกล้ง หรือล้อเล่น ฝ้ายจะโกรธมาก" พูดไปขนลุกไป

โกรธที่สุด

"มีอยู่ 2 เรื่องค่ะ เรื่องแรกตอนนั้นฝ้ายอยู่สิงคโปร์แล้วแม่ใหญ่ไม่สบาย ค่าโทรศัพท์ก็แพงสำหรับฝ้ายมาก แม่ใหญ่ก็รอสายโทรศัพท์ ไม่ยอมปล่อยให้แบตฯ หมดเลย มันเป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตว่าทำไมฝ้ายไม่โทรศัพท์ไปหาแม่ใหญ่ มันนึกเสียดาย เขาไม่เคยปล่อยให้แบตฯ หมด แต่ฝ้ายแค่โทรศัพท์เอง มันจะเสียสักกี่บาทเชียว



ส่วนอีกเรื่องคือช่วง ม.ต้น ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ฝ้ายบอกแม่ใหญ่ว่า แม่ๆ รอฝ้ายนะ ถือป้ายโรงเรียนเสร็จจะกลับมาลอยกระทงด้วย ทุ่มก็แล้ว สองทุ่มก็แล้วฝ้ายก็ไม่ได้กลับสักที เพราะฝ้ายไม่มีรถกลับ ต้องอาศัยกลับกับเพื่อนบ้านเอา แต่ก็ยังหาใครไม่เจอ จนกระทั่ง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน กลับมาถึงบ้าน อ้าว! ทำไมแม่ใหญ่ยังไม่ไปลอยกระทง ภาพที่เห็นคือ แม่ใหญ่นั่งรออยู่หน้าบ้าน เพราะเราบอกท่านว่าจะมาลอยกระทงด้วยกัน

ตอนนั้นแม่ใหญ่ไม่โกรธอะไรฝ้ายเลยนะ แต่ฝ้ายเองนี่แหละที่โกรธตัวเองมากที่สุด มันเป็นเรื่องที่เสียใจมากค่ะ (น้ำเสียงสั่นเครือ) มันแบบ..(เสียงหาย) ถ้าย้อนเวลาได้ (น้ำตาไหล) ฝ้ายจะไม่ทำแบบนั้นกับท่านเด็ดขาด" พูดจบก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมากับอดีตที่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไร

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : ปวริศร์ แพงราช, ภาพประกอบจากอินสตาแกรม @mali_khuntong, เฟซบุ้ก Miss Grand Thailand และเฟซบุ้กมิสแกรนด์สงขลา



ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-นามสกุล : สุภาพร มะลิซ้อน
ชื่อเล่น : ฝ้าย
อายุ : 22 ปี น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง : 175 ซม.
สัดส่วน : 33-24-37
การศึกษา : กำลังศึกษาอยู่คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงไทยลูกทุ่ง และเล่นกีตาร์คลาสสิกได้
ผลงาน/เวทีการประกวดที่ผ่านมา
- มีโอกาสทำงานด้านนางแบบกับเอเยนซีหลายประเทศ เช่น Guangzhou, Hong Kong, Singapore และ Shanghai
- เข้าร่วมการประกวด Thai Super Model 2012
- เข้าร่วมการประกวด Asia New Star Model Contest Face of Thailand 2013
กิจกรรมยามว่าง : เล่นกีตาร์ ออกกำลังกาย และชอบวาดลายไทย
คติประจำใจ : มีคุณธรรม และกตัญญู




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น