ท่ามกลางศึกฟุตบอลยูโร 2016 "อดีตเจ๊ใหญ่แห่งวงการพนันบอล" ยอมเปิดบาดแผลเมื่อครั้งตกลงไปในหลุมพนันจนสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องหนีหัวซุกหัวซุน เพราะถูกตามทวง ตามขู่ แถมยังเคยอดอยากถึงขั้นจกของไหว้ศาลพระภูมิมากิน ก่อนฝากเตือนผีพนัน "คุณอาจไม่ได้โชคดีเหมือนกับฉัน" แต่อาจจบชีวิตลงเหมือนเพื่อนสนิท และคนรอบข้างที่โดนอุ้มฆ่ามาแล้วหลายราย
"โชคดีที่รอดมาได้"...
เป็นประโยคแรกที่ "น.ส.เจ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี เอ่ยขึ้น ก่อนจะเล่าให้ฟังถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นจุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายมืด
"ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะค่ะ เรียนก็เรียนเอกชนแถวหน้า แต่ปัญหาคือพ่อกับแม่ติดสารเสพติด จำความได้ก็เห็นพ่อกับแม่กำลังฉีดอะไรก็ไม่รู้เข้าที่แขน ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่ามันคือผงขาว พอเราถามว่าทำอะไรท่านก็บอกว่าทำธุระอยู่ หรือเวลาแม่ไปเล่นไพ่ มักจะกระเตงเราไปด้วยทุกครั้ง หน้าที่ของเราก็คือ ซื้อน้ำ ซื้อเก๊กฮวยให้มือไพ่ ได้วันละ 2-5 บาทเป็นค่าขนม"
ด้วยความที่เห็นพฤติกรรมของแม่จนชินตา โดยเฉพาะกิจกรรมเดิมพันด้วยเงิน เธอจึงนำไปประยุกต์ใช้กับการเล่นเกมสนุกๆ ในกลุ่มเพื่อน
"ยุคนั้นมันจะมีขนมโดเรมอน และมีสติกเกอร์แถมมาด้วย เราก็ชอบเอาสติกเกอร์มาเล่นเขี่ยกับเพื่อน แรกๆ ก็เล่นกันปกติ แต่หลังๆ ถ้าให้สนุกมันต้องมีการวางเงิน เพื่อนบางคนก็ยอม บางคนก็บอกเสียดายเงิน จากนั้นก็เปลี่ยนมาเล่นสมสิบกัน หรืออีแก่กินน้ำจะกินทำไมอ่ะน้ำ วางตังค์กันดีกว่า เช่นเดียวกับเหล้า เวลาดื่มก็มีการเดิมพันด้วยเงินเข้ามา"
กระทั่งเรียนจบป.6 และขึ้นชั้นมัธยมฯ ชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะท้องไม่พร้อมเมื่อตอนอายุ 16 ปี
"ในวันนั้น เด็ก 16 ปีตั้งท้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ" เธอบอก "คุณพ่อก็ติดยา เวลาที่จะมาสนใจเราจึงไม่ค่อยมี ส่วนแม่ก็เสียชีวิตเพราะยาเสพติดตั้งแต่เราอายุได้ 8 ขวบ ตอนนั้นต้องออกจากโรงเรียนและไปอยู่กับแฟน ซึ่งเป็นฝ่ายที่ช่วยดูแลรับผิดชอบเรื่องลูก ด้วยความที่ตอนนั้นยังมองอะไรแคบๆ จึงตัดสินใจออกจากบ้านมาอยู่คนเดียวจนมาเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ โดยเฉพาะสังคมกลางคืนที่มีทั้งโต๊ะพนันบอล และยาเสพติด"
ในวันที่ล่มจมเพราะพนันบอล
ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นอายุยังไม่ถึง 20 ปี การได้ใช้ชีวิตอิสระท่ามกลางเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ในอีกโลกหนึ่ง ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น และท้าทายจนหลุดเข้าไปสู่วังวนของโต๊ะพนันบอล และยาเสพติดโดยหารู้ไม่ว่า "หายนะ" คอยเป็นเงาตามตัวอยู่ตลอดเวลา
"สมัยนั้นใช้วิธีแทงปากเปล่า ตอนนั้นได้ตังค์เยอะมาก เป็นทั้งเจ้ามือ และผู้เล่น ซึ่งได้มาง่ายๆ ครั้งละ 5,000-10,000 บาท ชีวิตมันโก้ มันเจ๋งมาก สามารถซื้อกระเป๋าหลุยส์ นาฬิกาเรือนแพงๆ ได้จำนวนมาก ไปโต๊ะบอลที่ไหนก็มีคนรู้จัก มีคนมาคอยต้อนรับ ยกมือไหว้ เล่นพนันบอลอย่างเดียวไม่พอ มียาเสพติดเข้ามาด้วยจนกระทั่งเสพติดพนันบอลขั้นรุนแรง เพราะคิดอยู่อย่างเดียวว่าเล่นแล้วดูเท่ อยากสนุก"
สุดท้ายชีวิตโก้หรูก็ค่อยๆ หายไป เพราะติดยาอย่างหนัก และฝากอนาคตไว้กับลูกบอลจนไม่สามารถควบคุม "ผีพนัน" ที่อยู่ในตัวเอาไว้ได้
"วันนั้นที่มี ไม่เคยคิดว่าจะไม่มีนะ แต่หลังจากใช้ชีวิตโก้ๆ ได้เพียง 2-3 ปี เวลาที่ไม่คาดคิดก็มาถึง เมื่อร่างกายใช้ยาอย่างหนัก บวกกับไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวัน ร่างกายมันก็เริ่มรวน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการรับโพยบอลลูกค้า และค่อยๆ เสียความน่าเชื่อถือ พอไม่ได้นอนหลายๆ วัน สุขภาพไม่ไหวก็เลิกส่งบอล และมารับเอง เวลามันเจ๊งมันไปหมด
ตอนนั้นหมดไปเป็นแสน ยิ่งถ้ารวมเล่นหลายครั้งก็หลักล้าน เมื่อไม่มีเงินใช้หนี้พนันก็ถูกตามทวง ถูกข่มขู่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ขายทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งกระเป๋า นาฬิกา และจำนำจนเป็นหนี้สินล้นตัว" เธอเล่าถึงหายนะที่ตามมาจากพนันบอล และยาเสพติด ก่อนจะเผยถึงชีวิตที่ตกต่ำสุดๆ จนอดอยากปากแห้งไม่มีอะไรจะยาไส้ ต้องย่องไปหยิบของไหว้ศาลพระภูมิมากินเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ เพราะไม่มีใครอยากช่วยเหลือแล้ว
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
"เพื่อนที่สนิทที่สุดก็เสียบอลหมดตัว ต้องเสียทั้งรถ เสียทั้งบ้าน ลูกก็ไม่มีข้าวจะกิน เราก็เพิ่งมารู้ตอนที่เราก็ไม่มีเหมือนกัน ชีวิตก็ตกต่ำสุดๆ เหมือนกัน สุดท้ายก็ช่วยไม่ได้ เพื่อนคนนี้ก็ไปขายยา สุดท้ายถูกตำรวจจับเข้าคุก 13 ปี ก่อนออกจากคุกมา 1 อาทิตย์ก็เสียชีวิต ตอนนั้นก็บอกกับตัวเองว่าไม่เอาละ
ส่วนพ่อก็เริ่มเข้ามามีบทบาท และบอกให้เลิกเถอะนะลูก ที่พ่อติดยาไม่ใช่ไม่อยากเลิกนะ แต่มันเลิกไม่ได้จริงๆ จนเรามาลองและรู้เองว่า ติดผงขาวมันไม่เหมือนอย่างอื่น ถ้าไม่สนองให้ร่างกาย มันจะทรมานไปถึงกระดูก สุดท้ายพ่อก็เลิกได้ค่ะ ส่วนเราก็ค่อยๆ หลุดออกมาเพราะทางญาติให้โอกาสได้ทำงาน"
ดังนั้น พ่อเปรียบเสมือนฮีโร่ที่เดินเข้ามา ถ้าไม่มีความรัก ความหวังดีจากพ่อในวันนั้น อาจไม่มีชีวิตรอดมานั่งเล่าประสบการณ์ได้ในวันนี้
"การพนันทำให้หน้ามืดตามัว หมดอนาคต ญาติพี่น้องห่างหาย เพื่อนสนิทต้องจบชีวิตในคุก คนรอบข้างถูกทวงหนี้ ถูกล่ามโซ่ โดนอุ้ม หลังหลุดพ้นจากวงจรการพนันมาได้ก็รู้สึกเสียดายเวลา เสียดายทรัพย์สินที่เคยมี ตอนนี้เหมือนได้ชีวิตใหม่ มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง มีลูกที่น่ารักได้ดูแล และได้ร่วมเป็นอาสาสมัครเปิดค่ายรณรงค์หยุดพนันตามสถานที่ต่างๆ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองให้เป็นอุทาหรณ์"
ก่อนจะฝากทิ้งท้ายถึงผีพนันทั้งหลายให้รีบถอนตัว "วันนี้คุณอาจมองว่ามีวิธีหาเงินง่าย แต่ถ้าวันใดคุณติดพนันแล้วต้องหาเงินจากการค้ายา ก่อคดีอาชญากรรม แล้วคุณจะรู้สึก และสายเกินแก้ อย่าเห็นโลงศพถึงหลั่งน้ำตา" อดีตเจ๊ใหญ่แห่งวงการพนันบอลฝากไว้เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาตกอยู่ในที่นั่งเดียวกับเธอ
สุดท้ายแล้ว "ชีวิตเลือกได้" อยู่ที่จะเลือกเรียนรู้จากบาดแผลของผู้ที่เคยผ่านความเป็น ความตายมาก่อน หรือจะยอมเสี่ยงเจ็บเองด้วยการเดินต่อไปในวังวนสายนี้ ซึ่งก็รับประกันไม่ได้ว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้แบบนี้หรือเปล่า เพราะมีหลายๆ คนต้องสังเวยชีวิตจากวงการนี้มานักต่อนักแล้ว ดังนั้น หากยังยอมให้ผีพนันเข้าสิงเรื่อยๆ ไม่แน่..."เหยื่อรายต่อไปอาจคือคุณ" ก็เป็นได้
EURO U-KNOW "รู้ทัน ไม่พนันบอล"
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ปัญหาพนันบอล" ยังคงซ่อนตัวอยู่ในสังคมไทย และไม่เคยหายไปไหน เรื่องนี้ วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยถึงสถานการณ์อันน่าเป็นห่วง โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังจากสำรวจนักเรียนมัธยมปลาย และอาชีวศึกษาล่าสุด พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 1 ใน 3 เคยมีประสบการณ์เล่นพนัน และนิยมเล่นพนันฟุตบอลมากที่สุด โดยตั้งใจจะเล่นพนันบอลในครั้งนี้ร้อยละ 16.5 เล่นทุกสัปดาห์ ร้อยละ 26 และ 2 ใน 3 ไม่กังวลว่าจะถูกจับหรือถูกลงโทษ ทั้งที่มีบทลงโทษการเล่นพนันบอลรุนแรง จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าหาทำผิดซ้ำซากภายใน 3 ปีโทษจะทวีคูณ
ด้าน พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรุ่นราชนครินทร์ และสายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 กล่าวว่า การเสพติดการพนัน นำไปสู่พฤติกรรมความผิดปกติทางจิต หรือโรคติดพนัน มีผลต่อการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะวัยรุ่น เป็นวัยที่ยังขาดความยับยั้งชั่งใจ สมองส่วนหน้าจะพัฒนาไม่สมบูรณ์จนกว่าจะอายุครบ 20 ปี ถ้าวัยรุ่นติดพนันจะส่งผลให้สมองส่วนหน้าไม่เพิ่มเนื้อสมอง จะไม่พัฒนาอย่างถาวร และอาจจะถูกตัดทิ้งเพราะไม่ได้ใช้งาน กระทบต่อกระบวนการคิด พฤติกรรม นำไปสู่โรคจิตเวช และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางอารมณ์ได้
"จากสถิติการให้บริการของสายด่วนสุขภาพจิตเลิกพนัน 1323 พบว่า วัยรุ่นอายุ 13-21 ปีมีปัญหาการพนันฟุตบอล ร้อยละ 50 รองลงมาคือ พนันออนไลน์ ร้อยละ 25 ไพ่/ไฮโล ร้อยละ 13 หวย/ลอตเตอรี่ ร้อยละ 6 สิ่งที่น่ากังวลคือ เด็กและเยาวชนมีแนวโน้มเล่นพนันสูงขึ้น ซึ่งปัญหาการพนันอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางสุขภาพกาย และปัญหาสุขภาพจิต มีทักษะชีวิตลดลง
นอกจากนั้นยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดยาเสพติด 6 เท่า มีโอกาสติดเหล้า 5 เท่า มีความรุนแรง และการใช้อาวุธ 6 เท่า เสี่ยงต่อการสูบบุหรี่ 3-10 เท่า มีภาวะซึมเศร้าและโอกาสฆ่าตัวตายสูงขึ้น 4 เท่า รวมไปถึงเป็นหนี้ และอาชญากร" ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรุ่นราชนครินทร์เผย พร้อมกับให้แนวทางไว้ 5 ข้อ
"1. ปรับทัศนคติของตัวเอง แนะนำคนรอบข้างที่มีปัญหาการพนันให้เห็นผลกระทบ และส่งเสริมให้เลิกเล่นพนัน 2. ความรัก ความเข้าใจของคนในครอบครัว โดยให้โอกาสได้กลับตัว 3. ปลูกฝังเด็ก และเยาวชนโดยการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการพนันเพื่อเป็นแนวทางป้องกันความเสี่ยงในการเข้าถึงพนัน และลดโอกาสในการเกิดนักพนันหน้าใหม่ 4. การนำเสนอสื่อ ควรนำเสนออย่างถูกต้อง เหมาะสม แนะนำให้เด็กและเยาวชนห่างไกลจากการเล่นพนัน 5. มีกฎหมาย บทลงโทษที่ชัดเจน" พญ.มธุรดาฝากทิ้งท้าย
ขอบคุณภาพประกอบจากคลิปวิดีโอที่เข้าร่วมประกวดในกิจกรรม EURO U-KNOW "รู้ทัน...ไม่พนันบอล"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754