ระทึก! เมื่อสาวใต้ใจกล้าบุกเดี่ยวประชิดนายกรัฐมนตรีในงานอีเวนต์หน้าตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้นายกฯ ตรวจสอบว่า การส่งสัญญาณควบคุมจิตใจ ปล่อยคลื่นวิทยุทำร้ายสมอง ทำลายสุขภาพ ซึ่งตนเองและเพื่อนกำลังโดนคุกคามโดยเทคโนโลยีละเมิดมนุษย์นี้อยู่
แม้คนส่วนใหญ่มองว่าสาวคนนี้ท่าจะเพี้ยน แต่ก็อดกังวลสงสัยไม่ได้ว่า วีทูเค เอ็มเค แซทเทลไลท์ (V2K MK Satellite) ชื่อสัญญาณที่เธอระบุในหนังสือร้องเรียนมีอยู่จริงหรือ? สามารถอ่านความคิดควบคุมจิตใจมนุษย์?? หรือแค่จินตนาการหวาดผวาจากการเสพข้อมูลชวนเชื่อ???
บุกเดี่ยวถึงตัวนายกฯ โกลาหลหน้าทำเนียบฯ
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะพล.อ.ประยุทธ์ เดินเยี่ยมชมกิจกรรมที่กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ นำมาแสดงที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่จะขึ้นห้องประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ได้เกิดเหตุระทึกโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงดังลั่นว่า
“ร้องขอความเป็นธรรม มีการส่งสัญญาณมายด์คอนโทรล แซทเทิลไลท์ ตามที่มีโครงการก่อสร้างเพื่ออ่านความคิดของสมองมนุษย์ หนูมีหลักฐานแต่ไม่มีใครดำเนินการ ช่วยหนูด้วยไปหามาหลายที่ แล้วก็ไม่มีใครช่วย เขาก็บอกว่าต้องมาหานายกฯคนเดียว หนูมีเรื่องมาปีกว่าแล้วแต่ไม่มีใครช่วยอะไรเลย แค่อยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะมีหลักฐานทุกอย่างอยู่จริงๆ”
นายกฯ หันไปมองและถามขึ้นด้วยเสียงดังว่า “เกิดอะไรขึ้น ไปฟังเขามาว่ามีเรื่องอะไร และอย่าไปทำอะไรเขา”
ต่อมาท่านยังพูดอีกว่า “เขาเดือดร้อนเรื่องอะไร ไม่เป็นไร รับเรื่องมาเดี๋ยวจะตรวจสอบให้ แต่อย่าให้เจ้าหน้าที่ไปทำอะไรกับเขา แล้วจะเอาเขาไปสอบทำไม เค้าไม่มีความผิด ให้ฟังเขาก่อน”
หลังจากนั้นจนท.พาสาวคนนี้ไปพูดคุยประมาณ 30 นาที แล้วนำตัวไปยังศูนย์บริการประชาชน เพื่อให้เขียนเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการ
สาวคนดังกล่าวชื่อ น.ส.เจมจุรีย์ ช่วยพรัด อายุ 27 ปี เป็นคนสุราษฎร์ธานี มาหานายกฯ เพราะเป็นที่พึ่งสุดท้าย อยากให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีได้รับผลกระทบทางสมองจากคลื่นวิทยุ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันสมรรถภาพการทำงานของสมองเสื่อมถอย ที่ผ่านมาได้ฟ้องร้องมาปีกว่า แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งในหนังสือร้องเรียนของเธอระบุว่า
“ขอร้องเรียนเรื่องการถูกคุกคาม ละเมิดสิทธิภาพมนุษย์ โดยใช้เทคโนโลยีทรมานร่างกายและจิตใจ 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีคุกคาม โดยใช้เทคโนโลยีทำร้ายร่างกายและจิตใจ จากการหาแหล่งข้อมูลเรียกว่า วีทูเคและเอ็มเค แซทเทลไลท์ ซึ่งเป็นการอ่านความคิดมนุษย์แบบไร้สาย สามารถสั่งความคิดเหยื่อได้ และส่งผลร้ายต่อสภาพร่างกายและจิตใจ ทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง ทั้งนี้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้ร่วมมือกันซื้ออุปกรณ์ที่ตรวจสอบความถี่ของคลื่นรบกวนเพื่อตรวจสอบร่างกาย ปรากฏว่ามีคลื่นรบกวนร่างกาย จึงขอให้ตั้งคณะกรรมการถึงผู้กระทำและที่มาของคลื่น”
ชาวเน็ตรัวคำถาม รปภ./คนบ้า/วีทูเค
“งงทำไมเข้าถึงนายกฯได้”
“มาตราการรักษาความปลอดภัยทำเนียบฯ อ่อนนะ”
ชาวเน็ตกังขาระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำทำเนียบรัฐบาล
“เชื่อเถอะ อีนี่มันบ้า ไม่มีใครทำไรมันทั้งนั้น”
“ดูหนัง sci fi เยอะไปป่าวเอ่ย”
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าสัญญาณชื่อไม่คุ้นนี้มีจริงหรือ
“ชื่อบ้าอะไร”
“ฝังชิป เพื่อทำลายสมองเลยเหรอ... งง”
ซึ่งก็มีชาวเน็ตบางคนเข้ามาตอบว่า
“มีมานานแล้วครับ พวกชอบติดเครื่องเสียงให้เสียงเบสต่ำๆ แบบมีความรู้สึกว่าเนื้อเต้น ระวังตับไตไส้พุงพังโดยไม่รู้ตัว เบสต่ำมาก หูจะไม่ได้ยิน”
“การทหารมีการปล่อยคลื่นความถี่ต่ำไปได้เป็นพันกิโลเมตร ใครได้รับจะตายโดยไม่รู้สาเหตุ คลื่นความถี่ต่ำมากๆจะทำลายอวัยวะภายในร่างกาย”
ไอซีทีแจงไม่มีเทคโนโลยีคุมมนุษย์ แต่เคยมีวีทูเคจริง
กลับมาที่ทำเนียบฯ ขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไวมาก ได้ชี้แจงผ่านสื่อดังนี้
เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนทราบว่าเจมจุรีย์เคยมาร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชนหลายครั้งแล้ว ในกรณีที่กลุ่มบุคคลถูกคุกคาม และละเมิดสิทธิเสรีภาพโดยเทคโนโลยี ซึ่งทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องดังกล่าวภายใต้ชื่อ วีทูเค เอ็มเค อัลทรา, มายด์ คอนโทรล เว็บพอนด์ แซทเทลไลท์ มายด์ คอนโทรล รีโมต นิวแรล มอนิเตอริ่ง (V2K MK Ultra, mind control Weapons Satellite. mind control - remote neural monitoring ) ไปยังกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(ไอซีที) เพื่อตรวจสอบ
กระทรวงไอซีที ได้ทำหนังสือตอบกลับมาว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้ว่ามีเทคโนโลยีในการเข้าถึงสมองของมนุษย์ เพื่อทราบความรู้สึกนึกคิดได้ แต่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ได้ว่า คลื่นวิทยุในย่านความถี่ที่สูงสามารถส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์
แต่ไม่ใช่การควบคุมสมอง หรือทราบความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสิ่งที่ผู้ร้องทุกข์ได้กล่าวถึงเช่น วีทูเค จะเป็นโครงการที่ทดลองเทคโนโลยีการควบคุมจิต ซึ่งเป็นโครงการเฉพาะของหน่วยงานความมั่นคง เช่น ซีไอเอ ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น และยังไม่พบว่ามีการดำเนินการโครงการต่อในปัจจุบัน ซึ่งไม่เคยมีการยืนยันได้ว่ามีการใช้คลื่นวิทยุผ่านความคิดมนุษย์ และสั่งการดัดแปลงและพฤติกรรมของมนุษย์ได้
ส่องวีทูเค-เสียงถึงกะโหลกศีรษะ
V2K ย่อมาจาก Voice to Skull ซึ่งมีการไถ่ถามพูดถึงคลื่นสัญญาณวิทยุดาวเทียมมายด์คอนโทลและวีทูเคในโลกออนไลน์กันมาหลายปีแล้ว
“เจ้าโปรแกรม หรือระบบ หรืออะไรที่ชื่อว่า Satellite Mind Control Bioelectric คืออะไรครับ มันทำร้ายคนได้จริงหรือครับ ในประเทศมีมั้ยครับ”
“Satellite Mind Control Bioelectric Weapon คือการทดลองตั้งโปรแกรมในสมองและควบคุมกระแสไฟฟ้าในร่างกายอ่านความคิดผ่าน Smarth Phone Sumsung หรือ Iphone โดยองค์กรลับ CIA เพื่อควบคุมความคิด หรือตรวจสอบความคิดผ่านเครือข่าย โดยใช้ดาวเทียมสายลับ”
“V2K คืออะไรแล้วมันมีจริงด้วยหรือครับ”
“ก็ประมาณว่าส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปหลอกสัญญาณของสมอง เคยเห็นงานวิจัยอยู่นะ ช่วงสงครามเย็นได้ล่ะมั้ง ประมาณสะกดจิตให้เป้าหมายทำบางอย่าง ระงับความเจ็บปวดแทนการใช้ยา แต่ที่ออกมาใช้จริงๆ เป็นคลื่นที่ทำให้สมองคิดว่าตัวเองร้อน ใช้ในการปราบฝูงชน”
นอกจากนั้น ยังมีบทความแฉเครื่องอ่านความในใจ องค์การต่อต้าน V2K ซึ่งเนื้อหาไม่น่าเชื่อถือ ชาวเน็ตบางคนนำมาเขียนโยงการเมือง บอกหน่วยงานข่าวกรอง ประมาณว่าซีไอเอไทยนำมาใช้ แต่ในสาระข้อความที่เขียนก็ยังไร้หลักฐานยืนยัน
ไม่ว่าสัญญาณชื่ออะไร ทำลายสุขภาพทั้งนั้น
ขนาดในเว็บ voicetoskull.com พูดถึงผลกระทบวีทูเคมายด์คอนโทล สรุปได้ว่า มีผลต่อกล้ามเนื้อระบบประสาท เช่น หูอื้อ หูอุดตัน คลื่นไส้ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดเมื่อยส่วนต่างๆ ของร่างกาย คิ้ว-ตากระตุก มีอาการคัน อาจเพิ่มหรือลดอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น
“คลื่นวิทยุสามารถทะลุเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ลึกประมาณ 1/10 ของความยาวคลื่นที่ตกกระทบ และอาจทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะภายในบางชนิดได้ ผลการทำลายจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความเข้ม ช่วงเวลาที่ร่างกายได้รับคลื่นและชนิดของเนื้อเยื่อ อวัยวะที่มีความไวต่อคลื่นวิทยุ ได้แก่ นัยน์ตา ปอด ถุงน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ อัณฑะ และบางส่วนของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะนัยน์ตา และอัณฑะ”
นักฟิสิกส์ชื่อ รังสรรค์ ศรีสาคร สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวถึงคลื่นวิทยุ มลพิษชนิดใหม่ เนื่องจากสิ่งรอบตัวมนุษย์เราทุกวันนี้ ตั้งแต่มือถือ ไมโครเวฟ ทีวี จานรับสัญญาณต่างๆ ล้วนผลิตและส่งกระจายคลื่นวิทยุออกสู่บรรยากาศตลอดเวลา โดยที่ประสาทสัมผัสมนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้
คลื่นวิทยุในช่วงความถี่ที่ต่างกันส่งผลต่อสุขภาพต่างกัน อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้า เซลล์สมองระบบประสาทส่วนกลางและอวัยวะภายในขาดออกซิเจนด้วย มีโอกาสเสียชีวิตได้ เคยมีการทดลองกับสัตว์ก็เกิดมะเร็งและเสียชีวิตในที่สุด
“สำนักงานสาธารณสุขด้านรังสีของสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองวัดระดับความเข้มของคลื่นวิทยุที่กรุงวอชิงตันดี.ซี. พบว่าระดับความเข้มของคลื่นที่วัดได้มีค่าเพียง 0.10 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานถึง 1,000 เท่า ค่าที่วัดได้นี้ได้มาจากบริเวณใกล้ๆ สถานีวิทยุกระจายเสียงและสนามบินที่ใช้เรดาร์กำลังสูง ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าในเขตชุมชนที่เป็นที่อยู่อาศัยต้องมีระดับความเข้มต่ำกว่า 0.01 มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตรมากทีเดียว
สำหรับในประเทศไทยคงไม่ต้องห่วงอันตรายจากคลี่นวิทยุ เพราะมีอุปกรณ์และเครื่องมือผลิตและส่งกระจายคลื่นวิทยุน้อยกว่าในประเทศพัฒนาแล้วมากมาย แต่เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มในอนาคตแล้ว ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าสักวันหนึ่งคลื่นวิทยุที่มีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อมนุษย์จะกลายเป็นอันตราย หรืออาจจะเป็นมลพิษใหม่ที่สำคัญของมนุษย์ในยุคหน้าก็เป็นได้”
ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบมโนหวาดกลัวสัญญาณวีทูเค เอ็มเค แซทเทลไลท์ เลย เพราะอันตรายจากเครื่องมือสื่อสารที่เราติดหนึบใช้กันทุกวันนี้เป็นภัยเงียบที่ใกล้ตัวกว่า
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก https://web.ku.ac.th
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754