xs
xsm
sm
md
lg

พริตตี้เงินล้านเปลือยรัก “แย้ผิดที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้หมอรัก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยังระอุไม่เลิก สำหรับข่าวเตียงหักรักพังระหว่าง หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข กับ หมอสอง-นพ.นพรัตน์ รัตนวราห เจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งนพรัตน์

เป็นที่ทราบกันดีว่า หมอสองเป็นผู้เจื๋อนโมทั้งหน้าและน๊มนมหญิงแย้ จากหมวยบ้านเป็นหมวยแซ่บเผ็ดซี้ด กลายเป็นเจ้าของฉายา'ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต' และทั้งคู่ก็เป็นแฟนกัน คบกันมานานถึง 9 ปี ก่อนเดินจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์อลังการระดับ 130 กว่าล้าน เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีที่เพิ่งผ่านมานี้เอง

เสมือนพระเอกนางเอกในซีรีย์เกาหลี แฟนคลับฟินไปทั้งประเทศ

ทว่าชีวิตจริงหาใช่ดั่งละครซีรีย์เกาหลีหรือละครหลังข่าวบ้านเราไม่ เพราะในชีวิตจริง การแต่งงานคือ การเริ่มต้นชีวิตคู่...

”แย้ไม่ได้อยากแต่งงานแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

เธอบอกกับผู้จัดการ Lite ว่า “ถ้าย้อนได้ ไม่คบกับคุณหมอ”

และยินดีสนทนาเป็นการส่วนตัวทั้งที่ “จิตใจแย่มาก” เธอเผยความรู้สึก

สงครามสุดแค้นแสนรัก แฉออกสื่อผ่านโซเชียล

หลังจากข่าวลือกลายเป็นข่าวจริง เหยี่ยวข่าวขาเผือกส่องอินสตราแกรม หญิงแย้โพสต์ภาพคู่เพื่อนสาวพร้อมข้อความเมื่อสาวโสดมารวมตัวกัน, เข้มแข็ง อยู่ได้, Just Hug Yourself ขณะที่ฝ่ายหมอสองจัดเต็ม โพสต์ข้อคิดเกี่ยวกับการแต่งงาน การปฏิบัติตัวในการครองเรือนว่า

“สิ่งของบางอย่างในพานส่งตัวเข้าหอวันแต่งงานครับ ฟัก หมายถึง อยู่เย็น เป็นสุข หิน หมายถึงมีจิตใจหนักแน่นเหมือนหิน ไม่หูเบา แมว หมายถึง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน พยายามอยู่บ้านบ้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งพึงทำในการครองเรือนครับ ไตร่ตรองให้ดี ถ้าหากทราบอยู่แล้วว่าตัวเองไม่พร้อม ที่จะใช้ชีวิตคู่ ไม่ควรแต่งงานครับ”

“เมื่อพยายามทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวัง”

“เสียเหงื่อให้กีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาให้คนหลอกลวง”

แน่นอน มนุษย์โซเชียลพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ หมอสองต้องหมายถึงภรรยาสาวคนดังแสนเปรี้ยวที่เพิ่งร่วมหอกันแน่เลย!

หญิงแย้อยู่ไม่ติด ด้วยนิสัยเลือดร้อนพร้อมลุยประสาสาวเมษ ประกาศพบสื่อมวลชนร่ายยาวเหตุการณ์แตกหักละเอียดยิบ

"สาเหตุที่เลิกกันเป็นเรื่องของทัศนคติและไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน 9 ปีที่ผ่านมา แย้เรียนรู้ ปรับมาตลอด เพราะแย้รักเขามาก และยังเด็ก ทำให้เชื่อฟัง เคารพเขาทุกอย่าง สิ่งที่เขาสั่ง เขาสอน แย้ทำตามตลอด ทั้งๆ ที่แย้ไม่ใช่คนแบบนั้น

แย้คิดว่าการเปลี่ยนตัวเองมันต้องมีความอดทนอยู่แล้ว แย้คิดว่าแย้รักเขา และอยากให้เขามีความสุข และคิดว่าความรักจะทำให้อุปสรรคแบบนี้ก้าวผ่านไปได้ แต่สุดท้ายเหมือนเราต้องถอยออกมา มันมีจุดแตกหักด้วยทำให้เราแยกเขา

เรื่องสังสรรค์ แย้ถูกทุกคนมองเลยว่าแย้เป็นผู้หญิงปาร์ตี้ แย้มีเคอร์ฟิว ต้องกลับบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง ปฏิบัติมาตลอด ถ้าวันไหนเลยเวลาคุณหมอจะอยู่ด้วยตลอด คุณหมอทราบดี

ถ้าได้ย้อนกลับไปดูไอจี แย้เป็นหุ้นส่วนของร้านอาหารหลายอย่าง ไม่สามารถอยู่บ้านได้ ต้องออกมาข้างนอก การประชุมกลางวันมันน้อย เราเอาใจลูกค้าเป็นหลัก จนวันนี้ไม่มีคุณหมอแล้ว แย้ก็ยังเชื่อฟังในสิ่งที่เขาปูทาง

แย้ยอมรับว่าแย้ใจร้อน ย้อนกลับไปตอนสี่ทุ่มครึ่ง วันนั้นกำลังจะกลับบ้าน แต่เพื่อนถามไปต่อกันไหม แย้ก็อยากไป เพราะไม่เที่ยวนานแล้ว เลยโทรหาคุณหมอ จะชวนไป แต่โทรไม่ติดเลย โทรตลอด แย้เลยทิ้งข้อความไว้ คุณหมอติดต่อมาเที่ยงคืน เขาต่อว่าทำไมไม่กลับบ้าน ทำไมยังเที่ยว ยังสำมะเลเทเมา นี่คือสิ่งที่เขาพูด แย้ยอมรับว่าอยากไปเที่ยวจริงๆ เลยชวนเขา เราใจเย็นก็ฟังเขา แต่พอเรากลับถึงบ้าน เขาก็ว่าเราประโยคเดิม เป็นอะไรที่อึดอัดมาก

แย้ไม่คิดว่ามันจะสะสมมานาน คิดว่าไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้น เลยถอดแหวนแต่งงานวางไว้หน้าเขา และเก็บของบางส่วนออกมา พร้อมพูดว่า 'เขาคงไม่ดีพอสำหรับตัวเองหรอก' คุณหมอมองหน้าอย่างเดียว ไม่พูด ไม่ห้ามอะไร เขาคงคิดว่าเดี๋ยวแย้คงกลับมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังจากวันที่ 16 เมษายน

พอวันที่ 20 เมษายน เป็นวันเกิดแย้ เป็นสิ่งที่เศร้ามาก เราก็คิดว่าต้องมีเซอร์ไพรส์แน่ๆ เราไม่ได้บล็อกไลน์ บล็อกโทรก็ไม่ได้ทำ แย้อยากให้เขาติดต่อ (ร้องไห้) แต่เขาเงียบ ไม่ติดต่อมาเลย เราออกจากบ้านเที่ยงคืนก็ไม่ติดต่อมาเลย แน่นอนผู้หญิงคนนึงเพิ่งแต่งงานหวังว่าเขาจะมา แต่สุดท้ายคือเซอรไพรส์ตัวเองไม่มีอะไรเลย

หลังจากวันที่ 20 เมษายน แย้ก็ตัดสินใจเองว่าต้องออกจากชีวิตผู้ชายคนนี้แล้ว เพราะชีวิตคู่มันต้องเป็นห่วงกันมากกว่านี้ เลยตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ จนวันที่ 26-27 เมษายน พ่อแม่แย้ยังไม่ทราบนะ แย้ก็บอกว่าเลิกกับคุณหมอแล้วนะ แย้ก็ลบคุณหมอออกจากกลุ่มไลน์ครอบครัวของแย้ ไม่นานเขาก็ไลน์มาหาพ่อแม่แย้ว่าอยากคุย ถ้าอยากจบ อยากจบด้วยดี และเขาก็โทรมาง้อแย้ แต่แย้ไม่คืนดี ขอจบตรงนั้น"

หลังหญิงแย้แถลงข่าว หมอสองก็โพสต์ข้อความยาวเฟื้อยในรูปแบบสุขุมคัมภีรภาพ

“ผ่าตัดทั้งวัน เสร็จแล้วครับสำหรับวันนี้ เหนื่อยนิดหน่อย แต่ก็ไม่เท่าเหนื่อยใจ กลับบ้านขอพักผ่อนก่อนครับ”

“เมื่อได้อ่านย้อนหลังพบว่าแหล่งข่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร รู้สึกตกใจมากครับ โดยเฉพาะประเด็นที่มีการบีบบังคับ ซึ่งความจริงแล้ว ชีวิตทั้งก่อนและหลังแต่งงาน สำหรับผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังปฏิบัติต่อแย้ดีเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการบีบบังคับอะไร มีเพียงขอให้แย้อย่ากลับบ้านดึก สังสรรค์ให้ลดลงบ้าง อย่าโพสต์รูปที่ดูโป๊เกิน ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพของตัวแย้เอง แย้ไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไรในบ้านเลย ผมภูมิใจที่เค้าทำงานนอกบ้าน และถึงแม้แย้จะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามที่ขอเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรแย้เลย ค่อนข้างให้ความรัก และให้เกียรติและตามใจแย้มากด้วยครับ เชื่อว่าข่าวนี้ไม่ได้มาจากแย้โดยตรงเพราะแย้ย่อมทราบดีว่าความจริงคืออะไร

ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ผมรู้สึกเสียใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง และพยายามติดต่อแย้และครอบครัว เพื่อมาปรับความเข้าใจกัน เพราะผมเชื่อว่า คนที่ครองรักกันต้องมีความรัก ความห่วงใยความใส่ใจ อดทนหนักแน่นและให้อภัยกัน ถึงแม้จะทำผิดอะไร หรือมีช่องว่างมากแค่ไหนก็ตาม ก็ควรพยายามมาลองปรับทัศนคติและปรับตัวเข้าหากันก่อนที่จะสรุปว่าไปกันไม่ได้ แต่ที่ผมทำได้คือ แค่ได้คุยโทรศัพท์สั้นๆ และไลน์บ้างเล็กน้อย และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

มาถึงจุดนี้ผมรู้สึกห่วงแย้เรื่องที่ให้สัมภาษณ์ เพราะส่วนตัวยังรู้สึกดีและมีความผูกพันที่คบกันมาอย่างมีความสุขมาหลายปี เป็นห่วงเรื่องการให้สัมภาษณ์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ตัวแย้เองเสียหาย อยากให้เค้าใจเย็นๆ และตั้งสติ ทุกปัญหามีทางแก้ครับ และขอร้องทุกท่านได้โปรดอย่าว่าแย้เลย ความคิดของเราแตกต่างกันได้ครับ

สำหรับเรื่องแถลงข่าวผมมองว่า เราควรทำก็ต่อเมื่อได้พูดคุยกันแล้วอย่างตกผลึก ว่าปัญหาเกิดจากอะไรและมันไม่สามารถไปกันได้แล้วจริงๆ แล้วค่อยไปแถลงข่าวให้ทุกท่านทราบพร้อมกัน น่าจะดีกว่าครับ ไม่อยากให้มันเป็นภาพสาดโคลนกันไปมาครับ”

และแล้ว กระแสโซเชียลก็โหมกระหน่ำหญิงแย้อีก มโนเม้าท์ว่าแต่งงานแค่ 3 เดือนเชิดสินสอด 30 ล้านหนีล่ะสิ!?

หญิงแย้เฮิร์ทกระแสโซเชียล ตำหนิโดยไม่รู้ความจริงทั้งหมด

"มีประเด็นว่าแย้หน้าเงิน ได้สินสอดแล้วเลิกเลย”

เธอฝากขออภัยประชาชนอีกครั้ง ที่ให้ข่าวตอนแต่งงานว่าได้สินสอด 30 ล้าน ทั้งที่ความจริงฝ่ายเจ้าสาวไม่ได้อะไรเลย

“ทรัพย์สินจะแบ่งออกเป็นสองอย่างคือ 100 กว่าล้าน และก็ 30 ล้าน ทรัพย์สินก็คือ โรงพยาบาล รถยนต์ เป็นทรัพย์สินของเขา ชื่อของเขา ไม่เกี่ยวกับแย้ แล้วสินสอดจริงๆ ที่ชี้แจงกับทางสื่อไปคือ 30 ล้านโดยประมาณ มีเช็ค 20 ล้าน เงินสด 2 ล้าน ทอง 2 กิโล และก็มีแหวนเพชร ต่างหูเพชร และก็กำไลเพชร”

เธอวางแหวนแพชรคืนตั้งแต่คืนออกจากบ้าน ต่างหูเพชรอยู่ในตู้เซฟบ้านหมอ ติดตัวมาแต่กำไลเพชรที่จะให้ลูกน้องคนสนิทนำไปคืน

“ต้องบอกเลยว่าแย้ไม่ได้รับตั้งแต่แรกแล้ว เงินสด 2 ล้านก็คืนหมอ เช็ค 20 ล้านก็ไม่ได้เอาไปขึ้นเงิน แค่เอามาวางให้ดู หมอบอกว่าเอางี้มั้ยตัวเองเพื่อให้เกียรติแก่ฝ่ายแย้และวงค์ตระกูลแย้ ให้สมเกียรติสมฐานะ ”

เมื่อผู้จัดการ Lite ถามทำไมยอมสร้างภาพสินสอดหรูหรามูลค่ามหาศาล

ยอมสร้างภาพเรื่องสินสอด เพราะแย้ไม่สนใจเรื่องเงินอยู่แล้ว เงินแฟนก็เหมือนเงินเรา สามีว่าไง เราว่างั้น

เธอแจงต่อประเด็นถูกกล่าวหาว่าติดเที่ยว

“หลังจากที่เขาลงรูปและเขียนข้อความ ไม่ว่าจะเป็นพานส่งตัวบ้างหรืออะไรบ้าง คนก็จะเข้าไปตีความกันว่าแย้เที่ยว ไม่ค่อยกลับบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วแย้ไม่ใช่เป็นคนปาร์ตี้

แย้มีเคอร์ฟิวจากหมอและแย้เชื่อฟังมาก กลัวหัวหดเลย หมอโทรมา โทรศัพท์แทบหล่น แย้มีเคอร์ฟิวสี่ทุ่มครึ่งต้องกลับบ้าน ซึ่งแย้ไม่ได้กลับสี่ทุ่มครึ่งทุกวันนะ บางวันสามทุ่มก็กลับ ถ้าเกินเวลาก็โดนสั่งสอน ตัวเองไม่ควรทำ ตัวเองรู้มั้ยว่าการกลับดึกทำให้เสียภาพลักษณ์”

และภาพลักษณ์เธอก็เสียจริงๆ ซะงั้น ด้วยข้อความที่หมอโพสต์พาดพิงถึงเธอ

“เห็นภาพที่เขาลง เห็นแมว เห็นการตีแบตที่แบบเสียเหงื่อให้กีฬาดีกว่า อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ มันเหมือนกับเรากลายเป็นจำเลย การเลิกครั้งนี้เพราะเราคนเดียว”

“กลายเป็นว่าสาเหตุที่เลิกกันเพราะแย้ติดเที่ยว อยากให้ฟังเรื่องราวทั้งหมดมากกว่าการตีความจากการพาดหัวข่าวนะคะ ขอความเห็นใจจริงๆ”

“สำหรับคนที่เข้ามาด่า แย้อยากจะบอกว่า แย้เสียหาย แย้แต่งงานแล้ว แย้เป็นแม่ม่าย ทำไมลูกผู้หญิงด้วยกันต้องมาด่ากันด้วย ต้องเข้าใจกันสิ (ร้องไห้) ทำไมต้องว่าแย้เกาะเขา แย้จะหาเงินเองไม่ได้เลยเหรอ"

ลึกๆ แล้ว เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องราวรักร้างกับหมอสอง

"มันเป็นเรื่องที่ไม่อยากป่าวประกาศให้สังคมรู้เลย แต่อ่านเน็ตแล้วสะเทือนใจ ไม่ได้กระทบกับแย้คนเดียว แต่กระทบไปถึงพ่อแม่และครอบครัวแย้ด้วย"

เธอบอกกับผู้จัดการ Lite ว่าต้องใช้วิธี “ไม่เปิดโซเชียลดู”

ดังนั้น ล่าสุดในอินสตาแกรม airvikitsreth ของ "แอร์ ผลิดา วิกิตเศรษฐ์" บก.นิตยสาร Yours Magazine ซึ่งเป็นเพื่อนของหญิงแย้

“…ลำพังเรื่องส่วนตัวของแย้ แย้ก็เจ็บมากพอแล้ว โดนกระแสสังคมเข้าไปอีก ทุกคนมาต้ดสินแย้จากคำให้สัมภาษณ์ ทั้งที่การให้สัมภาษณ์เราพูดหมดเปลือกและลงรายละเอียดไม่ได้เพราะมันจะกระทบและดิสเครดิตอีกฝ่าย

…คิดดูว่าทรัพย์สินเป็นร้อยล้านขนาดนี้ ความมั่นคงในชีวิตที่มันชัดเจนขนาดนี้ มันไม่น่าทำให้คนนึงต้องออกมาจากชีวิตคู่ได้ แต่แย้ก็ออกมา

แย้ออกมาจากชีวิตหมอโดยแย้ออกมาแบบตัวเปล่า ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ติดมาเลย และแย้ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายหมอ ทุกวันนี้ต่อให้เสียใจ และผิดหวังในตัวหมอ แย้ก็ยังเคารพและนับถือหมอเหมือนเดิม

และแย้จะไม่ทำให้ชื่อเสียงของหมอเสื่อมเสียจะไม่เหน็บแนม จะไม่ใช้คำพูดสวยหรู ให้ตัวเองดูดีดูเป็นห่วง แต่โดยนัยยะคนสามารถตีความได้ว่าอีกฝ่ายแย่ เพราะมันเจ็บปวด มันละอายที่จะทำ”

บทเรียนชีวิตคู่ “..รักไม่ได้ช่วยอะไร”

“เรื่องคุณหมอ ใจแข็งแล้ว แต่เรื่องกระแสยังแย่ เพราะพูดเหตุผลที่แท้จริงทั้งหมดไม่ได้”

หญิงแย้เผยกับผู้จัดการ Lite ว่าหลักๆ คือ ทัศนคติ รองลงมาคือ วิถีการดำเนินชีวิต

“เหตุผลที่ออกทางสื่อจริงหมด แต่ลงลึกไม่ได้ ถ้าลงลึก มันก็แย่ ทัศนคติเป็นเหตุผลหลัก ไลฟ์สไตล์เป็นตัวรอง”

รสนิยมการใช้ชีวิตคู่ของทั้งสองคนช่างแตกต่างกันจริง นอกจากหมอสองชอบใช้ชีวิตอยู่บ้าน ถึงขนาดสร้างฟิตเนส สร้างคอร์ทแบดมินตัน สร้างสระว่ายน้ำ ไว้ในโรงพยาบาลส่วนตัวซึ่งเป็นบ้านของตัวเองด้วย ยังคลั่งไคล้สะสมซุปเปอร์คาร์ โพสต์ลงไอจีบ่อยๆ ไม่ต้องเอ่ยถึงเสื้อผ้ารองเท้าล้วนแบรนด์เนมราคาแพงลิบ

ตรงข้ามกับหญิงแย้จอมประหยัด ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าใส่ใช้แต่ของลูกค้าที่จ้างให้พรีเซ้นต์ นานๆ จะซื้อแบรนด์เนมประดับตัวเอง เพื่อต่อยอดอัพเกรดรับงาน เธอเคยให้สัมภาษณ์หลักการออมเงินว่าถ้ามีเงิน 100 เปอร์เซ็นต์ จะใช้ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจะเก็บหมด อาชีพพริตตี้เน็ตไอดอลมีรายได้ค่อนข้างเยอะก็จริง แต่ถ้าวันหนึ่งไม่ได้อยู่จุดนี้แล้ว ไม่มีรายได้ขนาดนี้แล้ว การเก็บออมเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเธอก็สนุกกับการทำงานหาเงิน เกือบทุกรูปที่โพสต์ลงไอจีล้วนขายของบรรยายสรรพคุณสินค้า

“ต่างกันเกิน” หญิงแย้บอกตนเองเป็นคนนอนกลางดินกินกลางทรายได้ และออกโก๊ะๆ ตลกๆ ด้วย

“ภาพลักษณ์บ้านๆ เหมาะกับแย้ มันดูเข้าถึงง่าย”

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะกลับมาคืนดีกัน เพราะล่าสุด หมอสองโพสต์แบบเหงาๆ ในวันฝนตกถล่มกรุงเทพฯ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ชาวเน็ตทุกคนอ่านแล้วคาดว่าหมายถึงหญิงแย้

“ฝนตกยิ่งนึกถึงทีไร ก็ยิ่งชุ่มฉ่ำ อุ่นในหัวใจ แม้ว่าคืนนี้จะอากาศหนาวซักเท่าไร ก็ขอฝากลมฝนเป็นสื่อให้เธอรู้”

หญิงแย้เผยบล็อกทุกวิถีทางการสื่อสารกับหมอสอง

“แย้รู้ว่าหมอรักแย้ แต่หมอรักตัวเองมากกว่ามากๆ

ความรักของแย้ก็ไม่หมดหรอก แต่ไม่กล้าเจอ กลัว เพราะหมอโน้มน้าวเก่ง แย้อ่อน ผู้หญิงหลายคนทนโง่คบกับคนที่ไม่โอเค เพราะความรักนี่แหล่ะ

ตอนนี้มันจุดแตกหักแล้ว มาหนักที่เขาอีโก้สูง ไม่ห่วง ไม่ตาม ไม่ง้อ ไม่อะไรเลย เป็น 10 วัน ยอมรับว่าน้อยใจ แต่ประเด็นคืออนาคต ถ้าต้องมีสามีอีโก้สูงแบบนี้ แสดงว่าถ้ามีอะไรผิดพลาด หมอก็จะโทษแย้”

เธอยอมรับว่าเธอพลาดไปที่ฝืนเปลี่ยนตัวเองมาตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา

“แย้ผิดเองที่กลัวหมอไม่รัก และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขารัก ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ตัวเราจริง ๆ”

ดั่งที่เธอบอกว่าไม่อยากแต่งงานตั้งแต่แรก และพยายามบอกเลิกหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เพราะรัก ใจอ่อน และอยากมีลูก จึงคิดว่าความรักจะทำให้ฝ่าอุปสรรคไปได้

“แต่ความรักไม่ได้ช่วยอะไร เหมือนเพลงพี่นัท มีเรีย อ่ะค่ะ

“ความรักเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร และอย่าให้ใครต้องมาเปลี่ยนตัวเองเพื่อเรา ให้หาคนที่เข้ากันได้จริงๆ อยู่ด้วยกันแล้วเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ยอมรับข้อเสียของอีกฝ่ายให้ได้”

อยากฝากถึงหมอสองอะไรมั้ย

“ขอโทษ และขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ”

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ: นนทพร ธีระวัฒนสุข

เกิด: 20 เมษายน 2530

อายุ:  29 ปี

น้ำหนัก: 47 กก.

ส่วนสูง: 168 ซม.

สัดส่วน: 32-23-33

การศึกษา: ระดับป.ตรี คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เอกวิชาภาษาอังกฤษ โทประวัติศาสตร์, ระดับป.โท บริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ Stamford International University

อาชีพ: พริตตี้, นักแสดงอิสระ, นางแบบ, พิธีกร, ผลิตสื่อโฆษณา, blogger
สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Lite

เรื่องโดย เกิดศิริ, สวิชญา

ขอบคุณภาพจาก @yae_uunws, dr_nopparat



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น