อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่คนไทยพบเห็นมานานแล้วกับการโขกราคา แต่ก็ไม่ชินกับการค้ากำไรเกินควรเสียที กับราคาอาหารที่แพงหูฉี่ในแหล่งท่องเที่ยว ทว่า ครั้งนี้พบใน “สวนจตุจักร”
เพจเฟซบุ๊ก ผู้บริโภค โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ว่า “เกิดเป็นคนไทยต้องอดทน...เงินต้องถึง ถ้าจะกินอาหารที่จตุจักร T_T #ผู้บริโภค”
ทั้งนี้ ในภาพจะเห็นเมนูอาหารในร้าน ซึ่งราคาแต่ละอย่างค่อนข้างแพง เช่น ผัดไทย จานละ 200 บาท ยำมาม่า 200 บาท เย็นตาโฟ 150 บาท ต้มยำ 300 บาท กะเพราไก่ไข่ดาว 150 บาท
ทว่า ราคาอาหารของแหล่งท่องเที่ยวมักมีราคาสูง เพราะเน้นชาวต่างประเทศ แต่ผู้บริโภคก็มีสิทธิเลือกที่จะกินหรือไม่กิน เพราะร้านอาหารราคาถูกก็มี แต่อาจจะหายากอยู่ในหลืบ หรือต้องรู้แหล่ง เพราะทุกที่ย่อมมีร้านราคาถูก แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ใครจะไปรู้! ว่าอยู่พิกัดไหน
สาเหตุที่อาหารแพง เจ้าของร้านอาหารบางคน อาจจะคิดว่า ส่วนใหญ่คนที่มาสวนจตุจักร มักเป็นชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่ไม่ใช่ขาประจำที่จะต้องมากินทุกวัน แต่ทุกคนล้วนเป็นขาจร มากินแค่ครั้งเดียวก็ไป จึงใช้การ "ฉวยโอกาส" ขึ้นราคา ทั้งที่สภาพร้านอาหารก็ไม่น่าจะแพง
บางคนก็แสดงความคิดเห็นไว้ว่า ค่าเช่าที่สวนจตุจักรแพง ค่าดูแลแพง แล้วขายได้เพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น จึงต้องตั้งราคาสูงเพื่อสู้ต้นทุน อย่างไรก็ดี เราในฐานะผู้บริโภค มีสิทธิ์เลือกกิน ควรจะเลือกร้านค้าที่มีราคากำกับชัดเจน
"แพงค่าเช่าที่ เพราะแหล่งท่องเที่ยว ชื่อก็บอกอยู่ มีนักท่องเที่ยว มีคนใช้จ่ายเยอะ มีคนต้องการทำเลขายเยอะ เป็นอุปสงค์ อุปทาน"
“ไปเที่ยวแหล่งที่เป็นทะเล ทั้งๆ ที่น่าจะถูกเพราะไปถึงแหล่ง แต่ราคาอาหารทะเลกลับพอๆ กับ กทม. แต่อาจได้ความสดกว่า
“ไก่ย่าง ส้มตำ หากินได้ทุกตรอกซอกซอยของเมืองไทย ใน กทม. ทั่วๆ ไป ครกละ 30 บาท แต่ไปกินที่ หาดบางแสนเสาร์ที่ผ่านมา ร้านเพิงริมหาดธรรมดาปูปลาร้าครกละ 60 บาท ปริมาณเหมือนจะน้อย กว่าจากที่เคยกินครกละ 30 ใน กทม. เมนูอื่นๆ ยำรวมมิตรจานละ 180 หรือ 190 จำไม่ได้ค่ะ ถามแค่ อย่างเดียว เจอราคาวางเมนูค่ะ
จริงๆ ก็เป็นวัฒนธรรมแบบนี้มานานจนเราชินกันแล้วแหละค่ะ แต่สงสัยว่าทำไม และดูจากสภาพร้านคงไม่ได้จ่ายภาษีบำรุงท้องที่ หรือขึ้นทะเบียนร้านค้าด้วยซ้ำค่ะ”
"เดี๋ยวนี้จะกินร้านไหนที ต้องเพ่งราคาจากนอกร้านก่อนเข้าไป ..ไม่อยากนั่งปุ้บแล้วรู้สึกเหมือนพนักงานเดินเอาเขามาสวมหัว"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
เพจเฟซบุ๊ก ผู้บริโภค โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ว่า “เกิดเป็นคนไทยต้องอดทน...เงินต้องถึง ถ้าจะกินอาหารที่จตุจักร T_T #ผู้บริโภค”
ทั้งนี้ ในภาพจะเห็นเมนูอาหารในร้าน ซึ่งราคาแต่ละอย่างค่อนข้างแพง เช่น ผัดไทย จานละ 200 บาท ยำมาม่า 200 บาท เย็นตาโฟ 150 บาท ต้มยำ 300 บาท กะเพราไก่ไข่ดาว 150 บาท
ทว่า ราคาอาหารของแหล่งท่องเที่ยวมักมีราคาสูง เพราะเน้นชาวต่างประเทศ แต่ผู้บริโภคก็มีสิทธิเลือกที่จะกินหรือไม่กิน เพราะร้านอาหารราคาถูกก็มี แต่อาจจะหายากอยู่ในหลืบ หรือต้องรู้แหล่ง เพราะทุกที่ย่อมมีร้านราคาถูก แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ใครจะไปรู้! ว่าอยู่พิกัดไหน
สาเหตุที่อาหารแพง เจ้าของร้านอาหารบางคน อาจจะคิดว่า ส่วนใหญ่คนที่มาสวนจตุจักร มักเป็นชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่ไม่ใช่ขาประจำที่จะต้องมากินทุกวัน แต่ทุกคนล้วนเป็นขาจร มากินแค่ครั้งเดียวก็ไป จึงใช้การ "ฉวยโอกาส" ขึ้นราคา ทั้งที่สภาพร้านอาหารก็ไม่น่าจะแพง
บางคนก็แสดงความคิดเห็นไว้ว่า ค่าเช่าที่สวนจตุจักรแพง ค่าดูแลแพง แล้วขายได้เพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น จึงต้องตั้งราคาสูงเพื่อสู้ต้นทุน อย่างไรก็ดี เราในฐานะผู้บริโภค มีสิทธิ์เลือกกิน ควรจะเลือกร้านค้าที่มีราคากำกับชัดเจน
"แพงค่าเช่าที่ เพราะแหล่งท่องเที่ยว ชื่อก็บอกอยู่ มีนักท่องเที่ยว มีคนใช้จ่ายเยอะ มีคนต้องการทำเลขายเยอะ เป็นอุปสงค์ อุปทาน"
“ไปเที่ยวแหล่งที่เป็นทะเล ทั้งๆ ที่น่าจะถูกเพราะไปถึงแหล่ง แต่ราคาอาหารทะเลกลับพอๆ กับ กทม. แต่อาจได้ความสดกว่า
“ไก่ย่าง ส้มตำ หากินได้ทุกตรอกซอกซอยของเมืองไทย ใน กทม. ทั่วๆ ไป ครกละ 30 บาท แต่ไปกินที่ หาดบางแสนเสาร์ที่ผ่านมา ร้านเพิงริมหาดธรรมดาปูปลาร้าครกละ 60 บาท ปริมาณเหมือนจะน้อย กว่าจากที่เคยกินครกละ 30 ใน กทม. เมนูอื่นๆ ยำรวมมิตรจานละ 180 หรือ 190 จำไม่ได้ค่ะ ถามแค่ อย่างเดียว เจอราคาวางเมนูค่ะ
จริงๆ ก็เป็นวัฒนธรรมแบบนี้มานานจนเราชินกันแล้วแหละค่ะ แต่สงสัยว่าทำไม และดูจากสภาพร้านคงไม่ได้จ่ายภาษีบำรุงท้องที่ หรือขึ้นทะเบียนร้านค้าด้วยซ้ำค่ะ”
"เดี๋ยวนี้จะกินร้านไหนที ต้องเพ่งราคาจากนอกร้านก่อนเข้าไป ..ไม่อยากนั่งปุ้บแล้วรู้สึกเหมือนพนักงานเดินเอาเขามาสวมหัว"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754