วี้หว่อ..วี้หว่อ..วี้หว่อ... ถ้าเสียงนี้ไม่อาจทำให้จิตใจของคุณสั่นไหว หรือไม่อาจช่วยกระตุ้นให้ต่อมความรู้สึกเห็นอกเห็นใจในตัวทำงานได้ บอกเลยว่าคุณคงไม่เหมาะกับการรับหน้าที่โชเฟอร์ ใช้เส้นทางสาธารณะร่วมกับผู้อื่นในสังคมแน่ๆ เพราะทุกวินาทีฉุกเฉินบนรถที่บรรทุกผู้ป่วยอยู่ในนั้น มันหมายถึง “ชีวิต” ที่ไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ หากผู้ใช้รถใช้ถนนไม่พร้อมแสดง “น้ำใจ” สละทางโล่งเพื่อมอบทางรอดให้แก่เพื่อนมนุษย์...
พุ่งชนอย่างจัง! เปิดไซเรนฝ่าไฟแดง
[ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "ที่นี่ชลบุรี"]
สภาพรถพยาบาลพลิกตะแคง อยู่กลางสี่แยกไฟแดงบ้านสวน ถ.สุขุมวิท จ.ชลบุรี... คือภาพสะเทือนอารมณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งล่าสุด อุบัติเหตุท่ามกลางภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากรถพยาบาลคันดังกล่าว เปิดไซเรนขอทาง จากนั้นจึงวิ่งฝ่าไฟแดงออกไป เพื่อรีบเร่งไปรับผู้ป่วยซึ่งอยู่ปลายทาง ในขณะที่รถคันอื่นๆ จากฟากไฟเขียวต่างพร้อมใจกันชะลอรถให้ผ่านไปได้ ไม่คาดฝันว่าจะยังมีกระบะแวนอีก 1 คัน วิ่งมาด้วยความเร็วไม่ยั้ง จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ พุ่งชนจนมีนางพยาบาลและผู้ช่วยฯ บนนั้นได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย
[ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "ที่นี่ชลบุรี"]
“ผมต้องรีบไปรับผู้ป่วยฉุกเฉิน จึงตัดสินใจวิ่งเปิดไฟและให้เสียงไซเรนขอทางมาตลอด ยอมรับว่าวิ่งฝ่าไฟแดงจริง แต่รถคันอื่นๆ ต่างชะลอและให้ทางหมดแล้ว มีแค่กระบะคันนั้นคันเดียวที่ไม่เบรก เลยทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น” ณัฐเก้า โชเฟอร์รถพยาบาลฝ่าไฟแดง ให้เหตุผลจากฟากของเขาเอาไว้
[ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "ที่นี่ชลบุรี"]
“ผมกับคุณลุง-คุณป้า เพิ่งไปพบหมอเพื่อตรวจสุขภาพเสร็จ กำลังจะขับรถกลับบ้าน เห็นว่าฝั่งของเราเป็นไฟเขียว แถมเหลืออีก 20 วินาทีถึงจะแดง ก็เลยไม่ได้หยุดรถ และไม่รู้ด้วยว่ามีรถพยาบาลกำลังจะฝ่าไฟแดงมา เบรกไม่ทันก็เลยชนกัน” ณัฐปกรณ์ คนหลังพวงมาลัยรถกระบะ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากอีกฟากของอุบัติเหตุ
จากกรณีนี้ ยังไม่สามารถฟันธงลงไปได้ชัดเจนว่าสรุปแล้วใครคือฝ่ายผิด เพราะหากพิจารณาตามหลักเกณฑ์การทำงานของรถพยาบาลฉุกเฉิน ตามเงื่อนไขในพระราชบัญญัติการจราจรทางบกมาตรา 75 แล้ว ระบุเอาไว้ว่าผู้ขับขี่รถฉุกเฉินมีสิทธิตามกฎหมายในการใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ, ใช้เสียงสัญญาณไซเรน, หยุดรถ-จอดรถในที่ห้ามจอดรถ, สามารถขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดได้ และยังให้สิทธิขับรถฝ่าสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายใดๆ ที่กำหนดให้รถหยุด แต่ในขณะที่ขับขี่นั้นก็ต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลงตามสมควรด้วย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากฎหมายจะให้สิทธิขาดในการฝ่าฝืนสัญญาณจราจรของรถพยาบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ โชเฟอร์ผู้รับผิดชอบความเป็นความตายของรถคันดังกล่าว จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุด้วย และเมื่อใดก็ตามที่มีการฝ่าฝืนการจราจรจนเป็นเหตุให้มีเหตุอันไม่สมควร คนเหยียบคันเร่งก็มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทด้วยเช่นกัน ในเบื้องต้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถึงแม้กรณีนี้จะยังไม่มีคำตอบตามขั้นตอนกฎหมายออกมาเป็นบทสรุปว่า...ใครผิด-ใครถูก แต่จากการหยั่งเสียงบนโลกออนไลน์ดูแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเห็นใจในการปฏิบัติหน้าที่ในนาทีวิกฤตของรถพยาบาลมากกว่าอยู่ดี เช่นเดียวกับในหลายๆ ครั้งที่มีคลิปผู้ขับขี่แล้งน้ำใจถูกเผยแพร่ออกมา ผู้คนบนโลกออนไลน์ก็จะพร้อมใจกันสะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับ “จิตสำนึก” เหล่านี้ และได้แต่หวังว่าจะได้เห็นภาพยานพาหนะหลายสิบหลายร้อยคัน พร้อมใจกัน “ให้ทาง” เพื่อ “ให้ชีวิต” อย่างในประเทศที่พัฒนาแล้วเคยทำให้เห็น
“ให้ทางรถพยาบาลสักนิด คงจะไม่เสียหายนะคับ” เฟซบุ๊ก Palm Sittichai ผู้แชร์เรื่องราวอุบัติเหตุในครั้งนี้ติดแฮชแท็กช่วยกระตุ้นต่อมน้ำใจ ฝากเอาไว้ผ่านโลกออนไลน์
นาทีชีวิต! อย่าต้องรอให้ถึงคราวญาติของคุณ!!
[ขอบคุณภาพ: คลิป "สพฉ. นาทีเป็นนาทีตาย"]
“หลายคนตั้งคำถามว่า การออกเหตุแต่ละครั้งมีผู้ป่วยฉุกเฉินจริงหรือไม่ที่อยู่บนรถพยาบาลนั้นๆ ผมขอยืนยันว่ามีผู้ป่วยจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยร้ายแรง อาทิ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน อุบัติเหตุที่รุนแรง หรือไม่ก็เป็นรถฉุกเฉินที่กำลังเร่งไปรับผู้ป่วย
ดังนั้น หากประชาชนทั่วไปได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนขอทางจากรถพยาบาลฉุกเฉิน ก็ควรหลีกทางให้ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าบนรถคันนั้นจะเป็นญาติพี่น้องคุณหรือไม่ และควรจะเป็นเรื่องที่เราปฏิบัติทันทีโดยไม่ต้องคิดว่ามีกฎหมายบังคับหรือไม่ แต่ควรปฏิบัติให้กลายเป็นจิตสำนึก”
ต่อพงษ์ ส่งศรีโรจน์ ผู้จัดการหน่วยกู้ชีพหงส์แดง เขตกรุงเทพฯ หนึ่งในทีมกู้ชีพผู้มีประสบการณ์การทำงานมากว่าสิบปี ฝากความในใจจากประสบการณ์ตรงเอาไว้ ผ่านเว็บไซต์ "ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์ฉุกเฉินไทย (Thai EMS Info)"
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยไปช่วยคุณยายที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ และต้องได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างเร่งด่วน แต่โชคร้าย ขณะที่เขาขับรถเข้าไปรับผู้ป่วยในตอนนั้น เป็นช่วงที่มีรถขับเข้ามาในซอยเป็นจำนวนมาก และไม่มีคันไหนยอมหลีกทางให้ ทำให้สุดท้ายเขาก็เข้าไปรับตัวผู้ป่วยไม่ทัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่มีสาเหตุมาจากสภาพบกพร่องทาง “น้ำใจ” และ “จิตสำนึก” ในเรื่องการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินในบ้านเราอย่างแท้จริง...
[ขอบคุณภาพ: คลิป "สพฉ. นาทีเป็นนาทีตาย"]
“ยิ่งในกรุงเทพฯ ที่รถติดมากๆ แล้วด้วย ตรงนี้ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ คือรถพยาบาลฉุกเฉินต้องติดไฟแดง เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ เราก็มีความจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานงานให้เขาช่วยเปิดไฟเขียวให้ เพื่อให้รถสามารถนำผู้ป่วยฉุกเฉินไปส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที”
ส่วนวิธีการดูว่ารถพยาบาลฉุกเฉินคันที่เปิดไซเรนคันนั้น คือรถกู้ชีพที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายอย่างถูกต้องหรือไม่ สามารถดูได้จาก “กระจกหลัง” ของคันรถ ซึ่งจะระบุชื่อหน่วยปฏิบัติการติดเอาไว้ และมีตราสัญลักษณ์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ติดแถบสะท้อนแสงด้านข้างรถตลอดแนว และหมายเลขโทรศัพท์ 1669 ระบุเอาไว้บริเวณด้านข้างด้วย
[ขอบคุณภาพ: คลิป "สพฉ. นาทีเป็นนาทีตาย"]
หรือความจริงแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องมานั่งเสียเวลาแยกแยะเลยว่า รถคันไหนคือรถพยาบาลฉุกเฉินที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย และอาจไม่ต้องมาตั้งข้อสงสัยกันให้มากความว่า รถคันไหนคือรถพยาบาลฉุกเฉินที่บรรทุกผู้ป่วยอาการร่อแร่อยู่ภายในจริงๆ ลองคิดดูว่าถ้าคนที่กำลังจะสิ้นลมหายใจคือญาติพี่น้องของเราจริงๆ เราจะยังมานั่งหาข้ออ้างให้กับการไม่ยอมหลีกทางแบบนี้อีกไหม?
[ขอบคุณภาพ: คลิป "สพฉ. นาทีเป็นนาทีตาย"]
“การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ให้กับผู้ป่วยฉุกเฉินมากขึ้นเท่านั้น” นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ขอฝากเอาไว้
...เพราะทุกวินาที มีค่าเท่ากับชีวิต อย่าต้องรอให้ถึงคราวคนที่คุณรักเลย ถึงค่อยหันมาเห็นคุณค่าของน้ำใจในการ “ให้ทาง” เพื่อ “ให้ชีวิต” บนท้องถนน...
[คลิปเตือนใจ หรือต้องรอให้คนในรถเป็นญาติของคุณ?]
[คลิปหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินในต่างประเทศ สะท้อนปัญหา "จิตสำนึก" ในบ้านเราทุกวันนี้]
อยากให้ประเทศไทยหลีกทางให้รถพยาบาลแบบต่างประเทศบ้าง นี่เห็นแล้วยังขนลุก 👏🏻👏🏻👏🏻 pic.twitter.com/GLqpmO7mt6
— Chandelier (@TonliwTJ) 18 พฤศจิกายน 2558
[ใครๆ ก็อยากเห็น "น้ำใจของคนไทย" บนท้องถนน]
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: แฟนเพจ "ที่นี่ชลบุรี" และคลิป "สพฉ. นาทีเป็นนาทีตาย"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754