โลกโซเชียลฯ ลุกฮือรับไม่ได้! วินมอเตอร์ไซค์จุฬาฯ ซอย 9 กร่างใส่นิสิตหนุ่มที่เรียก Grab Bike ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อไปส่งที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ วินฯ เจ้าถิ่นทำตัวมาเฟียถือวิสาสะไล่ Grab Bike ที่เรียกมา จากนั้นดึงกุญแจรถของ Grab Bike ออกมา แม้นิสิตหนุ่มจะพยายามเจรจาบอกเหตุผลว่า เพราะไม่มีใครที่วินฯเลย จึงต้องเรียกใช้ Grab Bike แต่วินฯ ก็ไม่ฟัง ไม่ยอมคืนกุญแจรถ ทั้งบอกเหตุผลสุดแปลกอีกว่า “ถ้าน้องโดนฉุด โดนฉกชิงวิ่งราวใครจะช่วย น้องจะเรียก Grab Bike มาเหรอ” จึงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ในฐานะผู้บริโภคย่อมมีสิทธิ์เลือกที่จะใช้บริการกับใครมิใช่หรือ!?
วินฯ เจ้าถิ่นสุดกร่าง! ไล่ตะเพิด Grab Bike!
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aof Theinhiran ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณกว่า 2 นาที ซึ่งขณะนี้มีผู้รับชมเกือบจะล้านครั้งแล้ว ในคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่ผู้ถ่ายคลิปเดินเข้าไปคุยกับมอเตอร์ไซค์วิน เพื่อขอกุญแจรถของ Grab Bike ที่ตนเรียกใช้บริการคืน เนื่องจากถูกวินมอเตอร์ไซค์ในคลิปดึงออกไป เพราะวินฯเจ้าถิ่นโดน Grab Bike ตัดหน้าแย่งลูกค้า... ไม่ใช่เงินมาก แต่เป็นเรื่องของถิ่นใครถิ่นมัน! เพราะค่าโดยสารครั้งนี้ราคาเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น
“…วินแยกสะพานอ่อน เขตปทุมวัน เหตุเกิดที่หน้าหอพัก CU i-house จุฬาซอย 9 ปกติข้างหน้าหอจะมีวินฯ อยู่ แต่วันนี้ไม่มีใครที่วินฯ เลยเรียกใช้บริการ Grab Bike พอ Grab Bike มา ก็มีพี่วินพวกนี้มาไล่ตาม Grab Bike ที่ผมเรียก แล้วบิดกุญแจ Grab Bike ออก จากนั้นการเจรจาของผมกับพี่วินฯ ก็เกิดขึ้นตามในคลิปครับ
คำถามคือ 1. เรายังมีสิทธิส่วนบุคคลที่มีสิทธิ์เลือกใช้บริการได้อยู่หรือไม่ 2. วินมอเตอร์ไซค์มีสิทธิ์ขู่ Grab Bike ว่าจะเอาไหม และบิดกุญแจรถออกหรือเปล่า 3. วินมอเตอร์ไซค์ ยังปลอดภัยอยู่ จริงหรือ ???””
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่บิดกุญแจแล้วไม่ยอมคืนเท่านั้น แต่วินมอเตอร์ไซค์ยังให้คำแนะนำอีกว่า ถ้าวินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าหอไม่มี ก็ให้เดินต่อไป นิสิตหนุ่มจึงบอกกลับไปว่า จะเดินหาอีกทำไม เมื่อสามารถเรียกใช้บริการ Grab Bike ทว่า วินมอเตอร์ไซค์หน้าหอ ก็ให้คำตอบสุดน่าโมโหว่า ถ้าจะเรียกมาอีก ก็เจอไล่แบบนี้อีก !
ทำราวกับว่าซื้อสัมปทานถนนเส้นนี้แต่เพียงผู้เดียวซะงั้นแหละ
ธุรกิจสีเทา...ทางเลือกใหม่ ถูกเงิน ถูกใจ ใช่เลย..
“ไม่ว่าคุณจะนั่งไกลแค่ไหน ต้องการส่งพัสดุ-เอกสารด่วนทันที หรืออัตราค่าโดยสารจะขึ้นบนหน้าแอปฯ เท่าไหร่ ก็จ่ายเพียง 35 บาทในการใช้บริการครั้งนั้นๆ เท่านั้น!! เพียงพิมพ์ “BIKEBETA” ในช่องรหัสโปรโมชั่นก่อนการเรียกรถ คุณก็สามารถนั่งไปไหนก็ได้ในชั่วโมงเร่งด่วน หรือส่งพัสดุ-เอกสารด่วนทันทีได้ง่ายๆ ในราคาแค่ 35 บาท รหัสโปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้ 2 ครั้ง ต่อ 1 ท่าน”
ข้อความข้างต้นคือการตลาดของ GrabBike ที่ได้ใจผู้บริโภค มีผู้โหลดแอปฯนี้ และเรียกใช้บริการกันมากมาย แม้โปรโมชันดังกล่าวจะหมดเขตไปเมื่อ 15 กันยายนปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้ก็ยังออกโปรฯ เด็ดเรียกลูกค้ามาอีกไม่หยุดหย่อน แถมปัจจุบันนี้ยังสามารถรูดผ่านบัตรเครดิต และเดบิต ได้อีกต่างหาก
นอกจากนี้ บริการ GrabBike ยังส่งทั้งคน ส่งทั้งของ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีอัตราค่าบริการแน่นอนตามระยะทาง ไปรับถึงหน้าประตูบ้าน ติดตามสถานะการเดินทาง พร้อมรับประกันอุบัติเหตุเเละความเสียหาย ,มีใบเสร็จแบบออนไลน์ของทุกการเดินทาง/การส่งพัสดุ-เอกสาร
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีผู้แย้งว่า ไม่ว่าจะอย่างไร Grab Bike ก็ยังเป็นธุรกิจสีเทาอยู่ เพราะป้ายทะเบียนรถที่ Grab Bike ใช้ เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลในการให้บริการ ไม่ใช่รถป้ายเหลือง อีกทั้งผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ไม่มีข้อมูลผู้ขับขี่ในศูนย์ข้อมูลผู้ขับขี่รถสาธารณะ ไม่ได้วิ่งอยู่ในเส้นทางหรือท้องที่ที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งไม่ได้เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับการจัดระเบียบจาก คสช.ในช่วงที่ผ่านมา
ทว่า ปัญหาใหญ่คือตำรวจใส่เกียร์ว่างเกินไปหรือเปล่า คนเลยไม่เคารพกฎหมาย แม้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 59 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกจะออกมาฟันธงแล้วว่า ธุรกิจ Grab Bike ยังขัดต่อกฎหมาย กรมการขนส่งฯ สั่งให้ยุติการให้บริการ Grab Bike โดยทันที แต่ก็ไม่เห็นดำเนินการอะไรต่อ
อย่างไรก็ดี ไม่นานนักที่คลิปวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไป มีผู้คนมากมายร่วมแชร์ประสบการณ์ว่า ทำไมถึงเลือกใช้ Grab Bike ไม่เลือกพี่วินฯ
“เอางี้ ! ยกตัวอย่างง่ายๆ จากประสบการณ์จริง ช่วงวันหยุดยาว ที่ผ่านมา ผมจะกลับบ้านต่างจังหวัด โดยจะไปขึ้นรถที่หมอชิต ผมนั่งแท็กซี่ไปกับพี่ที่ทำงานไปลง ที่หน้า SCB สำนักงานใหญ่ (พี่เค้าขึ้นสะพานไปทางประชาชื่น) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วงวันหยุดยาว ถนนกำแพงเพชร 2 ที่เป็นที่ตั้งของทั้งนครชัยแอร์ หมอชิต 2 และอีกหลายบริษัท ฯลฯ รถติดมาก ใครจะไม่มีธุระ อย่าได้ผ่านไปเชียว
ส่วนคนที่จะไปหมอชิตอย่างผมก็ต้องเผื่ออย่างน้อยๆ ก่อนเวลารถออก 2 ชั่วโมง ซึ่งวิธีที่จะไปได้เร็วกว่าแท็กซี่ก็ต้องเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ผมก็เลยลองเรียกวินหน้า SCB ดู พร้อมถามราคาว่าไปหมอชิตเท่าไร (ระยะทางจากจุดเรียกวิน ถึง หมอชิต 2 ประมาณไม่เกิน 3 กิโลเมตร) พี่วินตอบมา 150 บาท ผมเลยเดินให้เลยวินออกมาหน่อย แล้วกดแอปฯ เรียก Grab Bike (เพราะรู้แก่ใจไม่อยากให้ Grab Bike มีปัญหากับวินเจ้าถิ่น) กดปุ๊บคนขับตอบรับปั๊บ โทรกลับมาหาผมคอนเฟิร์มงาน ตอนโทรมาคนขับบอกมาเลย พี่ ผมไม่ใส่เสื้อคลุม Grab Bike ไปรับนะ ใช้เวลามาถึงจุดที่ผมรอ ไม่ถึง 10 นาที พร้อมส่งถึงจุดหมาย หมอชิต 2 ราคาจริง 80 บาท ใช้ส่วนลด 50 เหลือ 30 ผมทิปไปอีก 10 บาท รวมทั้งหมด 40 บาท ดีกว่าเสีย ให้วินเจ้าถิ่นเยอะ !!!
“เลิกระบบวินฯ ปากซอยได้แล้ว เดี๋ยวนี้เหมือยแก๊งนักเลงเข้าไปทุกวัน พอรวมกันหมู่มากก็กร่าง ให้เป็นระบบเดียวกับแท็กซี่สาธารณะดีก่วา และอีกอย่างหนึ่งขณะนี้เสื้อวินกลับมาซื้อขายกันในราคาแพงมากอีกแล้ว ช่วยแก้ปัญหาด้วยครับ Grab Bike เป็นทางเลือกของการหารายได้เสริมที่ดีมาก ผมเชียร์ครับ”
“แค่สงสัยว่า หากไม่มีวินฯ ประจำอยู่แถวนั้น ไม่มีสิทธิ์จะเรียกมอเตอร์ไซค์ที่อื่นเลยเหรอ แดดก็ร้อนยืนตากแดดอยู่เป็นชั่วโมง รอตั้งนานกว่าวินฯประจำจะมา ในเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เรา เราก็ต้องใช้”
เสื้อวินฯ แพงยับ..หลักแสน!
ปัญหาใหญ่ของวินมอเตอร์ไซค์ที่ผู้บริโภคมักจะเอือมระอา คือ ราคาที่แพงแสนแพง ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนตามระยะทาง บางคนขี่มอเตอร์ไซค์วินเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หนักเข้าเงินดี ถึงกับลาออกจากงานประจำเพื่อมาขับวินฯ อย่างเดียวก็มีเยอะแยะ เพราะรายได้งาม วันละ 1,000 บาทอย่างต่ำ บางวัน 3,000 -5,000 บาท ก็ยังมี แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ใช่ใครก็จะมาเป็นวินมอเตอร์ไซค์ได้ง่ายๆนะ! เพราะพวกเขาต้องมีเงินก้อนกันหลักหมื่นหลักแสน ถึงจะสามารถสวมเสื้อวินฯ ได้อย่างสบายใจ
“มหาวิทยาลัยผมเมื่อก่อนมีรถรับส่งจากโซนหอพักไปคณะ แต่เจอวินมอเตอร์ไซค์มาเฟียเล่นเอา มหาวิทยาลัยเลยยกเลิกเลย แล้วที่เลวคือวินราคาไม่มาตรฐาน ชอบตั้งราคาแพงๆ ถ้าคนโวยก็พร้อมจะมีเรื่อง เพราะวินมันใหญ่มากจริงๆ เพราะงี้เลยต้องเดินไปเรียนทุกวัน” นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยย่านลาดกระบัง อัดอั้นผ่านคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก
ส่วนเหตุผลที่ทำให้ต้องแพงนั้น อาจเป็นเพราะเสื้อวินฯตัวละหลักหมื่น ทว่า หากอยู่ในทำเลที่ดี คนเยอะ เช่น ห้วยขวาง ถ้าคุณรู้ราคาแล้วอาจจะต้องอึ้ง! เพราะตัวละ 300,000 บาท แถมยังต้องจ่ายสดอีกด้วย แม้ว่าราคาเสื้อจริงๆจะสั่งตัดตัวละไม่กี่ร้อยบาท ก็ตาม เพราะในแต่ละวินฯก็ต้องมีคนคุม และคนคุมส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นผู้มีอิทธิพล
แน่นอน Grab Bike ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แต่พี่วินฯ เสียค่าเสื้อเป็นแสน จะมาแย่งลูกค้ากันได้ยังไง!
ทว่า ก็ยังมีบางคนหัวใสซื้อมาปล่อยให้เช่าวันละ 1,000 - 3,000 บาท เงินสะพัดรายได้ดีมาก จึงทำให้วินฯไหนที่ข้ามถิ่นมาหากินในเขตของเจ้าของเสื้อวินฯ ก็อาจเจอศึกหนัก!
“ผมเคยซื้อไว้แถวๆเขตติดต่อกับบางขุนเทียน ราคา 50,000กว่าบาท ปล่อยให้เช่าเดือนละ 3,800บาท แค่ปีกว่าๆก็คุ้มแล้วครับ คนขับบอกว่าเขาได้ค่าวิ่งหักค่าใช้จ่ายแล้ว1,200-1,500บาทครับ แต่คนขับต้องจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟที่คิว และค่าส่วยเองนะครับ ผมมี 3ตัวเดือนๆก็พอไหวครับ”
“ตรงข้ามเดอะมอล์ท่าพระ ตัวละ60,000 แต่ว่าวิ่งไม่ได้พักเลย จอดแล้วออกๆ รายได้ 1,000-1,500 ทุกวัน”
“เมื่อสัก 5 - 6 ปีที่แล้ว เสื้อวินในเมืองทองตัวละแสนสี่ขึ้นไป”
ทว่า แม้เสื้อวินฯจะแพงน่าตกใจอย่างไรก็ตาม มันจำเป็นด้วยหรือว่า จะต้องมาบังคับให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการ มีสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียว....ผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกในการใช้บริการเองมิใช่หรือ!?
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754