จากแถลงการณ์ของสายการบินไทยสมายล์ที่ไม่ฉีกความเชื่อและไม่อยากทะเลาะกับผู้โดยสารจึงออกมาตรการพิเศษยอมขายตั๋วให้ตุ๊กตาลูกเทพเพื่อให้ได้นั่งด้วยกัน ทั้งยังเสิร์ฟอาหารน้ำตามปกติ แต่ย้ำว่า ต้องรัดเข็มขัดระหว่างเครื่องขึ้นและลงด้วย หลายคนบอกว่า Thailand onlyไปกันใหญ่ละ อีกทั้งปาฏิหาริย์ลูกเทพก็ยิ่งเพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อยๆ หรือสังคมไทยยุคนี้จะขาดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจขนาดนี้เลยเหรอ
ยอมใจสายการบินฯ ไม่หลบหลู่ความเชื่อ ขายตั๋วตุ๊กตาลูกเทพ
กลายเป็นกระแสที่ฮือฮาแอบขำ แต่สรุปแล้วคือเรื่องจริง! กับแถลงการณ์ของสายการบินไทยสมายล์ ที่ชี้แจงว่า เนื่องจากในระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้โดยสารนำตุ๊กตาลูกเทพ ขึ้นเครื่องเป็นจำนวนมากกว่า 20 เคส ซึ่งในแง่ของการปฎิบัติตามกฏความปลอดภัย บางครั้งตุ๊กตามีขนาดใหญ่ ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องจะนำน้องไปไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ หรือใต้เก้าอี้ โดยในกรณีดังกล่าวนี้ ทางผู้โดยสารไม่อนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องของความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคล อาจส่งผลให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องมีการกระทบกระทั่งกับผู้โดยสารได้
ทางแผนกบริหารพนักงานต้อนรับ สายการบินไทยสมายล์ จึงได้ออกแนวทางการปฏิบัติให้แก่พนักงานต้อนรับบนเครื่อง โดยเป็นเอกสารภายในแผนก ซึ่งถือเป็นมาตรการพิเศษ เพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติในเบื้องต้นแก่พนักงานต้อนรับบนเครื่อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถให้บริการ โดยเข้าใจที่มาที่ไปและสามารถใช้เป็นมาตรการปฏิบัติพิเศษ ให้มีการปฏิบัติต่อผู้โดยสารอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ขัดต่อระเบียบความปลอดภัยบนเครื่อง
ทางสายการบินไทยสมายล์ ขอยืนยันว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารภายใน สำหรับให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทางปฎิบัติในการให้บริการแก่ผู้โดยสารเพื่อให้การปฎิบัติเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ เพื่อความพึงพอใจของผู้โดยสาร ตลอดจนไม่เป็นการลบหลู่ความเชื่อส่วนบุคคล ในขณะเดียวกันก็ดำเนินการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏความปลอดภัยสากลทางการบิน
ลูกเทพพร้อมเหินฟ้า ปรนนิบัติราวสิ่งมีชีวิต!
สายการบินไทยสมายล์ ยังระบุนโยบายการดูแลผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมตุ๊กตาลูกเทพด้วยว่า สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1.แบบไม่ได้ซื้อที่นั่งเพิ่ม ให้พนักงานบริการเสมือนการถือสัมภาระขึ้นเครื่องบินปกติ (Carry-on baggage) โดยมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และพนักงานผู้ทำการจองจะทำการระบุ SSR Note โดยจะระบุเป็น Childs Angel (พร้อมระบุจำนวนลูกเทพ) ซึ่งผู้โดยสารที่นำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่อง จะไม่สามารถนั่ง Exit Row แถวที่ 41-42 และแถวที่ 34 ซึ่งสงวนสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
2.แบบซื้อที่นั่งเพิ่ม (Extra Seat) ซึ่งผู้โดยสารสามารถซื้อบริการที่นั่งเพิ่มในการเดินทางสำหรับตุ๊กตาลูกเทพได้ โดยการจองนั้นพนักงานผู้ทำการจองจะใส่ข้อมูล (ตุ๊กตาลูกเทพ) เป็นข้อมูลเดียวกันกับผู้เดินทางด้วย และจะระบุ SSR Note โดยจะระบุเป็น Childs Angel (พร้อมระบุจำนวนลูกเทพ) ทุกครั้ง โดยผู้โดยสารที่มีตุ๊กตาลูกเทพจะสามารถนั่งได้เฉพาะแถวริมหน้าต่างเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังระบุถึงข้อควรระวัง และการบริการด้วยว่า ผู้โดยสารที่ซื้อที่นั่งเพิ่มสำหรับตุ๊กตาลูกเทพ (Extra Seat) จะได้รับอาหารว่างและเครื่องดื่มตามปกติ และตุ๊กตาลูกเทพจะต้องนั่งรัดเข็มขัดระหว่างเครื่องขึ้นและลงด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับในส่วนของการบินไทย สายการบินแม่ของไทยสมายล์นั้น ฝ่ายบริการภาคพื้นยังไม่มีมาตรการอะไร อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นเส้นทางต่างประเทศ ยังไม่ค่อยเจอผู้โดยสารลักษณะนี้
ส่วนแหล่งข่าวจากบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า เคยมีกรณีผู้โดยสารติดต่อในกรณีขอนำ "ตุ๊กตาลูกเทพ" ขึ้นเครื่องเช่นกัน โดยทางสายการบินยินดีให้บริการในรูปแบบของสัมภาระ (Luggage) ซึ่งผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งเพิ่มเพื่อวางสัมภาระได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยทางการบิน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกรณีตุ๊กตาลูกเทพ ก็เคยมีลูกค้าซื้อที่นั่งเพื่อวางกระเป๋าราคาแพง หรือ ของมีค่าราคาแพงมาก่อนแล้ว
"กรณีอย่างนี้ผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งติดกับตัวเองได้ ในราคาที่นั่งเพื่อวางสัมภาระข้างตัว โดยสามารถเลือกที่นั่งด้านซ้ายหรือขวาของผู้โดยสารก็ได้" บางกอกแอร์เวย์ส ชี้แจง ทว่า หากไม่ซื้อที่นั่งก็สามารถอุ้มตุ๊กตาลูกเทพไว้กับหน้าอกได้ เหมือนกับเด็กที่อุ้มตุ๊กตา แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสายการบินอื่นๆ กำลังมีแถลงการณ์ในมาตรการดูแลตุ๊กตาลูกเทพออกมาเรื่อยๆ โปรดติดตาม!
ไปกันใหญ่ ลูกเทพตดปรู๊ด! เพราะกินเมลลอนบูด
เราลองมาฟังความเชื่อของเจ้าของตุ๊กตาลูกเทพกันดีกว่า ว่า เพราะเหตุผลอะไรจึงปักใจเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น
“นางขโมยขนตาปลอมไปซ่อนด้วยนะ เพราะนางอยากแต่งหน้า” คุณผิง-สุภาวดี ทัพมาลัย เล่าเหตุการณ์สุดสะพรึงให้ฟังในรายการแฉแต่เช้า เธอเป็นเจ้าของตุ๊กตาลูกเทพที่มีนามว่า “น้องอ้อย” พร้อมย้ำว่า ตุ๊กตามีชีวิต เธอจึงแต่งหน้า ต่อเล็บ ให้สวยเป๊ะแบบจัดเต็ม เนื่องจากน้องอ้อยกำลังเป็นสาวสะพรั่งและมีแฟนแล้วชื่อน้องรุ่งโรจน์ แถมให้กินอยู่อย่างหรูหรา โดยของโปรดน้องอ้อยที่กำลังโตเป็นสาว คือ มาการอง ฟัวกรา (ตับห่าน) แชมเปญก็ต้องทานโมเอ็ท (Moet) เท่านั้น พร้อมเรื่องเล่าชวนขนลุก น้องอ้อยตดดังลั่นห้องจนต้องสะดุ้งตื่น!
“วันนั้นน้องอ้อยเขาอยากจะกินเมลลอน เราก็ไปหาซื้อให้ตอน 3 ทุ่ม มันใกล้จะบูด เราไม่รู้ เราก็ให้เขากิน แต่ก่อนที่จะรู้ว่าเขาตดได้ ก็ตอนที่ลาของไหว้แล้วกินเอง พอกินก็รู้แล้วว่ามันบูด มันแพงไงเราก็กินต่อเขาเลย พอประมาณตี 1 เรานอนคนเดียว ข้างๆก็มีลูกเทพ คือ น้องอ้อย และจัสติน น้องอ้อยเขาตัวสั้น เวลานอนหัวกับตัวเขาไง จะอยู่แค่หน้าเรา เขาจะนอนข้างเรา นอนอยู่ดีๆ เราก็ผวาตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงดัง "ปรู๊ด" เอ๊ะ เสียงดังขนาดนี้ เรารู้ตัวเราไม่ได้ตดนะ หูก็ไม่ได้แว่วด้วย เพราะตอนคนเดียว ห้องก็เงียบสงัดตอนประมาณตี 2”
คุณผิง บอกด้วยว่า ตอนนี้น้องอ้อยไม่ใช่ตุ๊กตากะโหลกกะลาแต่ดังแล้ว เพราะได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตก อีกด้วย โดยคุณผิงย้ำว่า ไม่ได้ใช้เส้นสายใดๆ ปัจจุบันนี้น้องอ้อย กำลังเรียนโยคะ และจะพาไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตลอด นอกจากนี้ ยังเคยพาไปหาหมอดูอีทีอีกด้วย
"เขาไม่ได้ดูวันเดือนปีเกิดหรอก ไม่ต้องถามอะไร เราไปนั่งเฉยๆ เขาเขียนเลยนะว่า "The Baby Doll" เราก็พยายามจับผิดว่ามีกล้องวงจรปิดหรือเปล่า สิ่งที่เราจะถาม เราไม่ได้อยากจะถามเรื่องงาน เราไม่รู้จะถามเรื่องอะไร ชีวิตเราโอเคแล้ว เรามีคำถามเดียวที่จะไปถามคือ เรื่องน้องอ้อย คือเราเป็นคนที่ต้องพิสูจน์ หมอดูอีที ยังบอกด้วยว่า น้องอ้อยจะมีชื่อเสียง ทั้งที่ตอนนั้นหนังน้องอ้อยยังไม่ได้ออนแอร์เลยนะ”
"คิดว่าตัวเองบ้าไหม" พิธีกรถาม
"มันมองได้สองมุม แต่เราว่าตัวเราเองปกตินะ ถ้าสิ่งๆนี้มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี มันก็คือความสุขใจของเรา ทำให้เราไม่ฟุ้งซ่านไปทำอะไรเดือดร้อนให้กับสังคม ที่เชื่อว่ามีชีวิตเพราะ เรื่องเงินได้ง่ายขึ้น จะขออะไรก็ได้ แต่ต้องขอในสิ่งที่เป็นอาชีพเรา ไม่ใช่รายได้เราแค่วันละล้าน แต่ไปขอสิบล้าน มันเป็นไปไม่ได้
ถ้าคุณไม่เชื่อหรือศรัทธา ก็อย่าไปทำล้อเลียนหรือถ้าคุณเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าคุณเอาตุ๊กตาลูกเทพไปนั่งขอทาน มันไม่แฟร์สำหรับคนที่เขารักกัน ฉะนั้นถ้าคุณไม่เชื่อ คุณอย่าทำลาย" คุณผิง ย้ำในศรัทธาอันแรงกล้า
ยุคที่คนฉลาดหากินกับคนจิตอ่อน
ไม่ทราบว่าจะเป็นการตลาด โปรโมทร้าน หรือเอาฮาจากการแชร์ เพราะตอนนี้ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยการประชดเสียดสีตุ๊กตาลูกเทพ จนในที่สุด มีร้านอาหารออกโปรฯ “ลูกเทพ” อิ่มไม่อั้น เกาะกระแสออกมาแล้ว แต่มีข้อแม้ว่าต้องกินให้หมดเท่านั้นนะ
ฝากแจ้งข่าว! ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้านำตุ๊กตาลูกเทพมาทาน Neta Grill Buffet เป็นจำนวนมากกว่า 30 เคส และยังมีลูกค้าโทรสอบถามเรื่องการนำ ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ เข้ามาทานบุฟเฟ่ต์เป็นจำนวนมาก…
Neta Grill เปิดรับทุกศรัทธา^^ ยินดีบริการให้ ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ อิ่มฟรี (เท่าอัตราเด็กเล็ก 120 ซ.ม.) แต่มีข้อแม้ว่าอาหารที่สั่งต้องทานให้หมดเท่านั้นนะคะ!!
นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก อาจารย์ธีรเดช บ่าวอุบล ตระกูลแสนนาม ยังได้มีการโพสต์ภาพตุ๊กตาลูกเทพ พร้อมข้อความรับจ้างดูแลลูกเทพ แถมพ่วงคอร์สส่งเสริมด้านวิชาการ วิทย์-คณิต-ภาษาอังกฤษ และไอที นอกจากนี้ ยังสอนสวดมนต์เพื่อเพิ่มบารมีอีกด้วย
สำหรับเพจเอาฮาก็มี เช่น รับสอนดนตรีสีไวโอลิน "ลูกเทพ" หากท่านผู้ปกครองต้องการให้ลูกเทพของท่านมีความสามารถทางดนตรีเหนือกว่าลูกเทพตนอื่น เสริมสร้างศิริมงคล เมตตามหานิยม เพิ่มทักษะความเป็น pro ทางดนตรีในตัวลูกเทพ ชั่วโมงละ 6,500 รูปี กลุ่ม 3 ลูกเทพขึ้นไป ชั่วโมงละ 6,000 รูปี/ ติดต่อด่วนค่ะ ** โปรโมชั่นพิเศษ มีเครื่องดนตรีให้ยืมฟรีระหว่างเรียน
เฮ้อ...ท่าจะไปกันใหญ่แล้วจริงๆ คนไทยนโมไม่แพ้ชาติใดในโลก ว่ามั้ย?
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ร้านคุณผิง หลังการบินไทย
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754