คอลัมน์ Health Insight โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
ด้านหลังเหรียญเซเรสที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติจัดทำขึ้นเพื่อสดุดีสตรีผู้อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์นั้นจารึกไว้ว่า “To give without discrimination” ซึ่งมีผู้รู้ท่านแปลว่าให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังแต่ผมขออนุญาตแปลตามความรู้สึกว่า “ให้ด้วยรักอย่างไร้เงื่อนไข”
หนึ่งในเหรียญนี้ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถของเราด้วย
วลีที่จารึกไว้ด้านหนึ่งของเหรียญอันทรงเกียรตินี้คือคุณธรรมแห่งบุคคลผู้ประเสริฐที่ถ้าผู้ใดมีแล้วก็ย่อมบันดาลให้เกิดความสุขความเจริญได้ทุกที่ ซึ่งบุคคลในวิชาชีพหนึ่งที่มีคุณธรรมดังว่านี้อย่างน่าภาคภูมิใจก็คือ “คุณครู” ครับ
แม่พิมพ์และพ่อพิมพ์ของชาติทุกท่านที่มีจิตวิญญาณล้วนน่าศรัทธาทั้งสิ้น
จึงอยากขออนุโมทนาบุญกับคุณครูผู้ประเสริฐทุกท่านที่ได้สร้างกุศลยิ่งใหญ่ให้กับชาติและแผ่นดิน ซึ่งไม่ว่าใครก็ย่อมต้องมีครูผู้ประสาทวิชาความรู้ให้ แม้ไม่ได้เรียนสิ่งใดมาก็มีบิดามารดานี้เองที่เป็นครูคนแรก ดังนั้นในชีวิตเราจึงมีทั้งปฐมครูและสันตติครูคือครูท่านอื่นต่อเนื่องมาเรื่อย
ผมเองทำอาชีพครูมาแต่เริ่มเมื่อจบแพทย์ก็มีครูที่ให้ความรู้มา
ครูในทางเวชกรรมก็คือ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ทั้งหลาย ส่วนครูในงานอาชีพสื่อและพิธีกรที่ทำอยู่ก็คือคุณดำรง พุฒตาลและอาจารย์อีกมากท่านที่แม้ไม่มีโอกาสได้พบแต่ก็กราบท่านด้วยใจขอให้เป็นครูได้แก่อาจารย์พิชัย วาศนาส่งและอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช
เมื่อชีวิตคนเราขาดครูไม่ได้และเป็นตัวตนมาได้ก็เพราะครูนี้ ถ้าให้ดีจึงควรคิดถึงครูให้มากซึ่งแม้ครูไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเลยก็ตามแต่ความกตัญญูนั้นก็เป็นสมบัติอันดีของศิษย์ผู้มีจิตใจงาม
ความดีที่ช่วยดูแลสุขภาพของคุณครูนี้ไม่จำเป็นต้องจบแพทย์ก็ช่วยครูที่รักของเราได้ครับ โดยมีสิ่งที่คอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านได้ดังต่อไปนี้
1) หาน้ำให้ท่านดื่ม เพราะอาชีพครูต้องใช้เสียงอย่างเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าครูที่เมืองไทยหรือฮ็อกวอร์ต การเปล่งเสียงสอนตลอดมีความเสี่ยงให้เส้นเสียงต้องสั่นรัวกระทบกระทั่งถี่เข้าจนเกิดการอักเสบได้ ในครูหลายท่านเกิดปัญหา
“ตุ่มขึ้นเส้นเสียง (Vocal cord nodule)” เช่นเดียวกับนักร้องอาชีพจนทำให้ “เสียเสียง” คือเสียงหายหรือเปลี่ยนเพี้ยนแหบแห้งไปจนต้องผ่าตัด ดังนั้นการให้ท่านพักเสียงบ้าง หาจังหวะให้ท่านนั่งจิบน้ำสบายๆให้ชุ่มคอก็ช่วยได้มากเพราะสิ่งที่ล้ำค่ากว่าคือน้ำใจของศิษย์นั่นเอง
2) หาเก้าอี้ให้ท่านนั่งพักเป็นระยะ หาจังหวะให้ท่านเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพราะการยืนนานหรือนั่งนานผิดธรรมชาติจนเกินไปเป็นความเสี่ยงให้เกิดโรค “ประจำครู” ได้มาก
อาทิ เส้นเลือดขาขอดเพราะลิ้นหลอดเลือดพังจากการยืนนาน, ริดสีดวงทวารหนักที่เป็นเส้นเลือดขอดอย่างหนึ่งหรือข้อเข่าเสื่อมโดยเฉพาะคุณครูที่รูปร่างใหญ่ทำให้น้ำหนักกดลงบนเข่าทั้ง 2 มากทำให้อักเสบเสื่อมจนปวดรุนแรงและเดินลำบากได้
3) คอยดูแลให้ท่านใช้ไมโครโฟน เช็คสภาพเครื่องขยายเสียงที่ใช้อยู่ให้ดีทำให้มีพลังพอจะผ่อนแรงเปล่งเสียงของครูได้มากเพราะหากครูต้องตะเบ็งเสียงนานๆ นั้น จะมีผลกับสุขภาพกล่องเสียง, เส้นเสียง, หลอดลม, ช่องคอและท้องอืดได้
ในครูหลายคนที่มาหาเพราะไม่สบายก็ได้ พบว่าจุดป่วยมักอยู่ที่หลอดลมกับคออันเป็นหลอดเสียงสำคัญนั่นเอง ซึ่งครูบางท่านฝากขอแถมท้ายมาว่าแค่ไม่ซนมากก็ทำให้ท่านไม่ต้องตะเบ็งเสียงแล้ว
4) ปัดกวาดห้องเรียนให้ไม่อมฝุ่น สุขภาพของคุณครูหลายท่านแขวนอยู่กับมือลูกศิษย์จริงๆ ครับ โดยเฉพาะกับคุณครูที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้คัดจมูก, ไซนัส, ลมพิษ, จามฟุดฟิต, เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบตลอดปีฯ สิ่งเหล่านี้มีตัวกระตุ้นได้แก่ไวรัสหวัดและฝุ่น ซึ่งในห้องเรียนอันเป็นที่รวมของเด็กกายสิทธิ์จำนวนมากย่อมเต็มไปด้วยฝุ่นละอองต่างๆ ทั้งจากเสื้อผ้า, หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนรวมถึงผงชอล์ก
นอกจากนั้นบางโรงเรียนที่เก่าแก่ยังมีผนังและฝ้าเพดานบุแร่ “ใยหิน” ก็ควรเปลี่ยนเพราะมันเป็นสารก่อมะเร็งโดยตรงที่ทำอันตรายทั้งครู และศิษย์ตาดำๆ ครับ
5) รักษาสุขภาพตัวเองให้ดี เรื่องนี้สำคัญสุดครับเพราะถ้าท่านรักครูขอให้รู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่ครูต้องการมากไปกว่าเห็นศิษย์รักนั้นมีความสุขทั้งใจและกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งในฐานะที่สอนหนังสือและรักษาไข้ก็ขอบอกได้เลยว่าท่านจะช่วยคุณครูได้มากหากดูแลให้ตัวเองไม่ป่วยหรือถ้าป่วยไข้ไม่สบายก็หยุดพักอยู่บ้านก่อน
เพราะที่พบบ่อยคือคุณครูป่วยเพราะติดหวัดจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดและหลายครั้งที่ต้องพาไปส่งห้องพยาบาลด้วยตัวเอง
ทั้งหมดนี้ที่เล่ามาเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่ลูกศิษย์ทำได้หากแต่ผู้บริหารและผู้ปกครองก็ช่วยคุณครูได้ครับ ซึ่งความดีที่ทำกับครูจะไม่หายไปไหนแต่จะส่งให้ผู้มีกตัญญูนั้นเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปเรียกว่าได้เป็นมงคลแก่ผู้นั้นเอง
ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่ว่าศิษย์ช่วยทำให้ครูแล้วจะดีนั้น เชื่อว่าถ้าถามในหัวอกของคนเป็นครูเองก็ย่อมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เพราะในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เป็นอุปสรรคใหญ่ในหัวใจของผู้สร้างคนแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโรคภัยไข้เจ็บ ความไม่สะดวกกายหรือไม่สบายใจใดๆ ในหัวใจของครูผู้เปี่ยมด้วยความรักนั้นพร้อมที่จะฟันฝ่าไปเสมอ
ขอเพียงศิษย์ช่วยกันจับมือครูไว้
ขอบคุณภาพจาก 7ElevenThailand
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
ด้านหลังเหรียญเซเรสที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติจัดทำขึ้นเพื่อสดุดีสตรีผู้อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์นั้นจารึกไว้ว่า “To give without discrimination” ซึ่งมีผู้รู้ท่านแปลว่าให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังแต่ผมขออนุญาตแปลตามความรู้สึกว่า “ให้ด้วยรักอย่างไร้เงื่อนไข”
หนึ่งในเหรียญนี้ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถของเราด้วย
วลีที่จารึกไว้ด้านหนึ่งของเหรียญอันทรงเกียรตินี้คือคุณธรรมแห่งบุคคลผู้ประเสริฐที่ถ้าผู้ใดมีแล้วก็ย่อมบันดาลให้เกิดความสุขความเจริญได้ทุกที่ ซึ่งบุคคลในวิชาชีพหนึ่งที่มีคุณธรรมดังว่านี้อย่างน่าภาคภูมิใจก็คือ “คุณครู” ครับ
แม่พิมพ์และพ่อพิมพ์ของชาติทุกท่านที่มีจิตวิญญาณล้วนน่าศรัทธาทั้งสิ้น
จึงอยากขออนุโมทนาบุญกับคุณครูผู้ประเสริฐทุกท่านที่ได้สร้างกุศลยิ่งใหญ่ให้กับชาติและแผ่นดิน ซึ่งไม่ว่าใครก็ย่อมต้องมีครูผู้ประสาทวิชาความรู้ให้ แม้ไม่ได้เรียนสิ่งใดมาก็มีบิดามารดานี้เองที่เป็นครูคนแรก ดังนั้นในชีวิตเราจึงมีทั้งปฐมครูและสันตติครูคือครูท่านอื่นต่อเนื่องมาเรื่อย
ผมเองทำอาชีพครูมาแต่เริ่มเมื่อจบแพทย์ก็มีครูที่ให้ความรู้มา
ครูในทางเวชกรรมก็คือ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ทั้งหลาย ส่วนครูในงานอาชีพสื่อและพิธีกรที่ทำอยู่ก็คือคุณดำรง พุฒตาลและอาจารย์อีกมากท่านที่แม้ไม่มีโอกาสได้พบแต่ก็กราบท่านด้วยใจขอให้เป็นครูได้แก่อาจารย์พิชัย วาศนาส่งและอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช
เมื่อชีวิตคนเราขาดครูไม่ได้และเป็นตัวตนมาได้ก็เพราะครูนี้ ถ้าให้ดีจึงควรคิดถึงครูให้มากซึ่งแม้ครูไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเลยก็ตามแต่ความกตัญญูนั้นก็เป็นสมบัติอันดีของศิษย์ผู้มีจิตใจงาม
ความดีที่ช่วยดูแลสุขภาพของคุณครูนี้ไม่จำเป็นต้องจบแพทย์ก็ช่วยครูที่รักของเราได้ครับ โดยมีสิ่งที่คอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านได้ดังต่อไปนี้
1) หาน้ำให้ท่านดื่ม เพราะอาชีพครูต้องใช้เสียงอย่างเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าครูที่เมืองไทยหรือฮ็อกวอร์ต การเปล่งเสียงสอนตลอดมีความเสี่ยงให้เส้นเสียงต้องสั่นรัวกระทบกระทั่งถี่เข้าจนเกิดการอักเสบได้ ในครูหลายท่านเกิดปัญหา
“ตุ่มขึ้นเส้นเสียง (Vocal cord nodule)” เช่นเดียวกับนักร้องอาชีพจนทำให้ “เสียเสียง” คือเสียงหายหรือเปลี่ยนเพี้ยนแหบแห้งไปจนต้องผ่าตัด ดังนั้นการให้ท่านพักเสียงบ้าง หาจังหวะให้ท่านนั่งจิบน้ำสบายๆให้ชุ่มคอก็ช่วยได้มากเพราะสิ่งที่ล้ำค่ากว่าคือน้ำใจของศิษย์นั่นเอง
2) หาเก้าอี้ให้ท่านนั่งพักเป็นระยะ หาจังหวะให้ท่านเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพราะการยืนนานหรือนั่งนานผิดธรรมชาติจนเกินไปเป็นความเสี่ยงให้เกิดโรค “ประจำครู” ได้มาก
อาทิ เส้นเลือดขาขอดเพราะลิ้นหลอดเลือดพังจากการยืนนาน, ริดสีดวงทวารหนักที่เป็นเส้นเลือดขอดอย่างหนึ่งหรือข้อเข่าเสื่อมโดยเฉพาะคุณครูที่รูปร่างใหญ่ทำให้น้ำหนักกดลงบนเข่าทั้ง 2 มากทำให้อักเสบเสื่อมจนปวดรุนแรงและเดินลำบากได้
3) คอยดูแลให้ท่านใช้ไมโครโฟน เช็คสภาพเครื่องขยายเสียงที่ใช้อยู่ให้ดีทำให้มีพลังพอจะผ่อนแรงเปล่งเสียงของครูได้มากเพราะหากครูต้องตะเบ็งเสียงนานๆ นั้น จะมีผลกับสุขภาพกล่องเสียง, เส้นเสียง, หลอดลม, ช่องคอและท้องอืดได้
ในครูหลายคนที่มาหาเพราะไม่สบายก็ได้ พบว่าจุดป่วยมักอยู่ที่หลอดลมกับคออันเป็นหลอดเสียงสำคัญนั่นเอง ซึ่งครูบางท่านฝากขอแถมท้ายมาว่าแค่ไม่ซนมากก็ทำให้ท่านไม่ต้องตะเบ็งเสียงแล้ว
4) ปัดกวาดห้องเรียนให้ไม่อมฝุ่น สุขภาพของคุณครูหลายท่านแขวนอยู่กับมือลูกศิษย์จริงๆ ครับ โดยเฉพาะกับคุณครูที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้คัดจมูก, ไซนัส, ลมพิษ, จามฟุดฟิต, เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบตลอดปีฯ สิ่งเหล่านี้มีตัวกระตุ้นได้แก่ไวรัสหวัดและฝุ่น ซึ่งในห้องเรียนอันเป็นที่รวมของเด็กกายสิทธิ์จำนวนมากย่อมเต็มไปด้วยฝุ่นละอองต่างๆ ทั้งจากเสื้อผ้า, หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนรวมถึงผงชอล์ก
นอกจากนั้นบางโรงเรียนที่เก่าแก่ยังมีผนังและฝ้าเพดานบุแร่ “ใยหิน” ก็ควรเปลี่ยนเพราะมันเป็นสารก่อมะเร็งโดยตรงที่ทำอันตรายทั้งครู และศิษย์ตาดำๆ ครับ
5) รักษาสุขภาพตัวเองให้ดี เรื่องนี้สำคัญสุดครับเพราะถ้าท่านรักครูขอให้รู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่ครูต้องการมากไปกว่าเห็นศิษย์รักนั้นมีความสุขทั้งใจและกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งในฐานะที่สอนหนังสือและรักษาไข้ก็ขอบอกได้เลยว่าท่านจะช่วยคุณครูได้มากหากดูแลให้ตัวเองไม่ป่วยหรือถ้าป่วยไข้ไม่สบายก็หยุดพักอยู่บ้านก่อน
เพราะที่พบบ่อยคือคุณครูป่วยเพราะติดหวัดจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดและหลายครั้งที่ต้องพาไปส่งห้องพยาบาลด้วยตัวเอง
ทั้งหมดนี้ที่เล่ามาเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่ลูกศิษย์ทำได้หากแต่ผู้บริหารและผู้ปกครองก็ช่วยคุณครูได้ครับ ซึ่งความดีที่ทำกับครูจะไม่หายไปไหนแต่จะส่งให้ผู้มีกตัญญูนั้นเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปเรียกว่าได้เป็นมงคลแก่ผู้นั้นเอง
ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่ว่าศิษย์ช่วยทำให้ครูแล้วจะดีนั้น เชื่อว่าถ้าถามในหัวอกของคนเป็นครูเองก็ย่อมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เพราะในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เป็นอุปสรรคใหญ่ในหัวใจของผู้สร้างคนแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโรคภัยไข้เจ็บ ความไม่สะดวกกายหรือไม่สบายใจใดๆ ในหัวใจของครูผู้เปี่ยมด้วยความรักนั้นพร้อมที่จะฟันฝ่าไปเสมอ
ขอเพียงศิษย์ช่วยกันจับมือครูไว้
ขอบคุณภาพจาก 7ElevenThailand
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754