เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนถูกออกแบบมาอย่างมีความหมายในมิติใดมิติหนึ่ง เช่นเดียวกับคุณค่า ความดีงามของคนๆ หนึ่งที่ล้วนมีที่มา บางคนมีบุคคลดลใจให้เรียนรู้ ซึมซับจนกลายเป็น "แรงบันดาลใจ" ในการใช้ชีวิตของเขา และคนอื่นๆ
"ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์" คือนักแสดงธรรมดาคนหนึ่ง แต่ทว่าพิเศษ เมื่อย้อนกลับไปค้นหายังสถานที่ที่สร้างเขาขึ้นมาอย่าง "ครอบครัว" อีกทั้งยังพบว่า "ในหลวง" คือบุคคลดลใจที่เขาเรียนรู้ ซึมซัมจนกลายเป็น "แรงบันดาลใจ" ในการใช้ชีวิต รวมไปถึงบทบาทคุณพ่อที่แสนดีของลูกสาวสุดน่ารัก "น้องมะลิ-ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์"
"พ่อสงวน" ไอดอลการทำงาน
"ผมคงไม่ประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้แน่นอน ถ้าไม่มีคุณพ่อเป็นไอดอล" เป็นโค้ชคำพูดของพระเอกปอ พร้อมภาพคู่คุณพ่อ (ผศ.สงวน สหวงษ์) บนหน้าปกนิตยสารกุลสตรีฉบับวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ด้วยท่าลูกชายกอดคอคุณพ่อ แสดงให้เห็นถึงความรัก ความผูกพันของพ่อลูกคู่นี้ได้อย่างแจ่มชัด
สำหรับคุณพ่อสงวน เคยได้รับรางวัล "พ่อดีเด่น" ในปี 2557 ในครั้งนั้น ลูกชายคนโตของบ้าน "สหวงษ์" เปิดเผยความรู้สึก และเรื่องราวความรักระหว่างเขากับคุณพ่อให้ฟัง "เราเป็นครอบครัวที่สนิทกันทั้งบ้าน เพราะเป็นครอบครัวเล็กๆ" คือคำตอบเมื่อผู้สัมภาษณ์ถามพระเอกปอว่าเขาสนิทกับคุณพ่อหรือไม่ ก่อนจะบอกถึงคำสอนของพ่อให้ฟังว่า "การปลูกฝังส่วนใหญ่ พ่อจะทำให้ดูมากกว่า"
เขาขยายความต่อไปว่า สำหรับคุณพ่อจะเป็นตัวอย่างในเรื่องของการทำงาน ทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อทำให้ดูมาตลอด
"คนไม่ทำงานคือคนไม่มีค่า ดังนั้นงานอะไรก็ช่าง ทำเลยครับ มันจะมีค่าในตัวมันเองครับ ให้ภูมิใจในงานที่ทำ และให้เกียรติคนอื่นทุกอาชีพ ทุกๆ คนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครที่ดีกว่าใคร และไม่มีใครที่ด้อยกว่าใคร นี่คือสิ่งที่พ่อเป็นแบบอย่างให้ผมมาตลอด ทุกวันนี้ผมมีความสุขนะ หนึ่งคือผมเห็นพ่อแม่ผมมีความสุข สองผมมีความสุขกับการทำงานของตัวเอง สามเราไม่ได้ไปเบียดเบียนใครเราไม่บาป ผมมีความสุขแล้วครับ" พระเอกหนุ่มเผย
ดังนั้น การเคารพในอาชีพคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมาก และที่ขาดไม่ได้เลยในทุกๆ อาชีพคือ การพัฒนาตัวเอง คนที่ไม่พัฒนาคือคนที่ตายแล้ว เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งในนิตยสารซีเคร็ต "ทฤษฎีความสุขในทุกวันของปอ-ทฤษฎี สหวงษ์" ที่เขาบอกเอาไว้เกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการทำงาน
"ผมจะไม่ยอมตกงาน ถ้ามัวตั้งกรอบให้ชีวิตว่าฉันจะต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้อย่างเดียว ผมคงไม่ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ หรือไม่มีประสบการณ์ใหม่ๆ แบบวันนี้ ในความคิดของผม คนเราต้องออกไปหาอะไรใหม่ๆ ไปเจอสังคมหลายๆ แบบ ได้รับรู้ความคิดของคนหลายประเภท ผมเองเคยเห็นมาทั้งคนที่ทำงานตั้งใจเพื่อให้ตัวเองไปถึงจุดสุดยอดของอาชีพที่ทำอยู่ แล้วก็คนที่มีงานทำก็บุญแล้ว" เขาบอก
"พ่อหลวง" ต้นแบบการใช้ชีวิต
นอกจากคุณพ่อบังเกิดเกล้าแล้ว พระเอกปอยังมี "พ่อหลวง" เป็นต้นแบบในเรื่องการทำงาน และการใช้ชีวิต "ในหลวงเป็นต้นแบบเรื่องการทำงานหนักครับ ในหลวงทำงานหนัก นี่คือสิ่งที่ผมยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ไม่ท้อที่จะทำ" นอกจากนั้นยังน้อมนำพระราชดำริของในหลวงด้านการทำการเกษตรมาเป็นแนวทางในการจัดการไร่นาของตนเองด้วย เห็นได้จากการทำเกษตรอินทรีย์ปลูกข้าวปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์
ออมน้ำ ตามแนวพระราชดำริ
"ผมเอาแนวคิดของในหลวงมาทำครับ ก็คือทำเกษตรก็ต้องมีน้ำ เพราะถ้ามีน้ำเราจะปลูกอะไรก็ได้ ผมก็เลยแบ่งที่อีกส่วนนึงไปทำที่เก็บน้ำ ซึ่งสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปีในเฉพาะพื้นที่ของเรา อันนี้เป็นแนวคิดของท่านเลยครับ คือต้องมีการจัดสรรที่เหมาะสม คือต้องมีที่เก็บน้ำสำหรับเพาะปลูกอะไรต่างๆ หรือถ้าจะเลี้ยงสัตว์ ผมก็ไปปรึกษาเกษตรจังหวัดให้เขามาเช็กดูคุณภาพดินให้ มาดูว่าที่ตรงนี้มันเป็นที่ลุ่มที่ดอนยังไง เหมาะจะปลูกข้าวหรือจะปลูกอะไร
ผมก็ถามคนที่มีความรู้แล้วเอามาใช้ เราต้องมีความรู้ในสิ่งที่จะทำเพราะถ้าทำดุ่ยๆ ไม่ศึกษาเลยปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นหรอกครับ ผมก็ต้องไปเรียนรู้เพราะพ่อบอกถ้าจะทำอะไรก็ต้องรู้ทุกอย่าง ก็ศึกษาจนรู้วิธีการทำว่าต้องทำอะไรยังไงแต่ก็ไม่ถึงกับลงไปดำนาเองขนาดนั้นครับเพราะผมทำงานอยู่ทางนี้ด้วย แต่ก็เคยขับรถไถแต่ไม่ได้ถึงกับจริงจัง เรามีคนงานที่ช่วยคุณพ่ออยู่ครับ”พระเอกหนุ่มเล่าถึงแนวทางตามรอยพ่อ
อย่างไรก็ดี ในปี 2557 เขาได้เล่นเป็นพระมหาชนกในละครเพลงกลางน้ำ "พระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอนไลฟ์ โชว์" ที่จัดแสดงเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคล 5 ธันวาคม นับเป็นความภาคภูมิใจ และถือเป็นมงคลชีวิตสำหรับเขามาก ยิ่งไปกว่านั้นในการแสดงดังกล่าวยังตรงกับวันพ่อ และเขาถือโอกาสพาพ่อเดินทางจากบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์มาชมการแสดงด้วย
"พ่อพระ" ของชาวบ้าน
คำว่า "ชื่อเสียง" แม้จะพัดผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา แต่พระเอกปอก็ไม่เคยหลงระเริงไปกับมัน แถมยังใช้โอกาสนั้นเก็บหอมรอมริบจากการเป็นนักแสดง หรือทำงานในวงการบันเทิงมาซื้อที่ดินให้แก่คุณพ่อคุณแม่จำนวนหนึ่ง ทั้งยังได้แบ่งเนื้อที่บางส่วนให้ชาวบ้านได้ทำนาอีกด้วย
"ผมไม่อยากพูดถึงจำนวนว่าเท่าไร (จำนวนที่ดิน) เดี๋ยวมันจะเวอร์ครับ (ยิ้ม) เอาเป็นว่าจำนวนหนึ่ง ผมไม่คิดค่าเช่าครับ แต่เขาก็เอาข้าวมาให้เรานะ มันคือการให้โอกาสคนครับ ถ้าเก็บไว้ทำเองมันคงไม่ได้อะไรเยอะหรอกครับ แบ่งๆ กันทำ แบ่งๆ กันกินจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขครับ (ยิ้ม) มันเป็นความตั้งใจของผมที่ให้ที่ชาวบ้านไปทำ แต่เขาก็แบ่งข้าวให้ผมครับ จริงๆ ก็เหมือนเขาให้ค่าเช่านั่นแหละเพียงแต่ให้เป็นข้าวที่ได้จากผลผลิต ผมไม่ได้เรียกร้องว่าให้เอาเงินมาเช่าไม่ใช่ครับ"
เมื่อถามว่าเลือกคนให้อย่างไรเพราะชาวบ้านมีเยอะ "ผมให้คนที่รู้จักกันมาเคยช่วยเหลือกันมา" เขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนล้มป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ให้ที่สุขใจมากกว่าผู้รับ
เขาขยายความต่อไปถึงการแบ่งที่ดินให้ชาวบ้านทำ แม้พระเอกปอจะออกตัวในการสัมภาษณ์ครั้งนั้นว่า ไม่ได้เป็นบุญคุณใหญ่หลวง แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่น่ายกย่องจริงๆ "เวลาผมไม่อยู่พวกเขาก็ช่วยดูแลที่ให้ผมด้วย ไม่ใช่เราให้เขาอย่างเดียว เขาก็ให้เรากลับมาเหมือนกัน เราไม่ต้องไปคิดเป็นจำนวนเงิน ความช่วยเหลือหรือน้ำใจต่างๆ ผมว่าบางทีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพื่อนใช้เงินซื้อไม่ได้หรอกครับ"
ไร่นาสวนผสม ชื่อ "ไร่นาป่าสงวน" บนพื้นที่ 57 ไร่ บ้านหนองค่าย ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกหนุ่มชื่อดังเก็บเงินซื้อให้พ่อได้ทำสวนไร่นา หลังเกษียณอายุราชการ
สำหรับที่ดินในส่วนของคุณพ่อ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่าพระเอกปอได้ซื้อที่ดินให้คุณพ่อไว้ทำไร่ทำสวนหลังเกษียณอายุราชการจริง ที่บริเวณบ้านหนองค่าย ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ ห่างจากบ้านพักพ่อแม่ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ไปประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ที่ดินดังกล่าวมีเพียง 57 ไร่ ที่พระเอกปอซื้อให้บิดาเพื่อทำไร่ทำสวนหลังเกษียณอายุราชการ ส่วนที่มีข่าวว่ามีที่ 200 ไร่นั้นอาจซื้อไว้ที่อื่น
เมื่อลงลึกถึงที่ดินดังกล่าว มีป้ายทางเข้า-ออก เขียนว่า "ไร่นาป่าสงวน" ลักษณะไร่นาสวนผสม ภายในมีการจัดแบ่งพื้นที่สำหรับปลูกข้าวประมาณ 10 ไร่ ตามคันนาปลูกต้นกล้วย ยางนา อีกทั้งพื้นที่บางส่วนแบ่งปลูกยางพารา มะพร้าว พืชสวนอีกหลายชนิด และมีการขุดบ่อเลี้ยงปลาด้วย นอกจากนี้ยังมีบ้านพักหลังเล็กๆ สำหรับพักผ่อน 1 หลัง โดยด้านหน้ามีรูปถ่ายของ “ปอ ทฤษฎี” ติดอยู่ด้วย
สำหรับไร่นาสวนผสมดังกล่าว ปกติคุณพ่อของพระเอกหนุ่มจะเป็นผู้มาดูแล ส่วนพระเอกปอ นานๆ ครั้งจึงจะแวะเข้ามาดู โดยชาวบ้านที่รู้จักครอบครัวนี้ บอกว่า อัธยาศัยดีกันทั้งบ้าน โดยเฉพาะพระเอกปอจะทักทายชาวบ้านด้วยความเป็นกันเองไม่ถือตัว หากในหมู่บ้านมีงานบุญทอดผ้าป่า หนุ่มปอจะแวะทำบุญด้วย
พ่อที่แสนดีของน้องมะลิ
อีกหนึ่งความงดงาม คำว่า "พ่อ" ที่ไม่เขียนถึงไม่ได้ คือ การเป็นคุณพ่อที่แสนดีของ "น้องมะลิ-ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์" ลูกสาววัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของโบว์ แวนด้าที่เกิดกับพระเอกปอ ดูจากความน่ารัก น่าเอ็นดูของน้องมะลิแล้ว เชื่อว่าคำสอนดีๆ จากทั้งคุณพ่อและคุณแม่คือตัวหล่อหลอมให้สมาชิกตัวน้อยๆ คนนี้รู้จักหยิบยื่นความรัก และให้ความเป็นมิตรแก่ผู้อื่น ไม่แปลกที่จะกลายเป็นหนูน้อยขวัญใจมหาชนในขณะนี้
นอกจากนั้น คุณพ่อปอยังเป็นคุณพอที่ห่วง และหวงลูกสาวคนนี้พอสมควร เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ของ "อาน้ำอ้อย-ศรมนตรา พิชัยศรแผลง" ผู้จัดการส่วนตัวของเขา หลังจากภรรยาคนสวย (โบว์) เอาคลิปของลูกสาวคนโปรดที่อัดเสียงเป็นคำพูด และเต้นประกอบเพลงไปให้ดู พอแซวว่าจะให้ลูกสาวใส่สายเดี่ยวมาโรงพยาบาล พระเอกหนุ่มมองหน้าภรรยา พร้อมกับส่ายหน้าในทันที แสดงให้เห็น และเข้าใจว่า พระเอกปอรับรู้ได้ เพราะเป็นคนห่วงลูกสาวมาก จึงไม่อยากให้น้องมะลิใส่ชุดแบบนั้นมาที่โรงพยาบาล
ไม่เพียงแค่ความหวงลูกสาว ในอินสตาแกรมของภรรยาสาวยังเผยให้เห็นมุมน่ารักระหว่างพ่อลูกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภาพนั่งตักคุณพ่อบนโต๊ะอาหาร ภาพขี่ม้าตัวเดียวกันกับคุณพ่อ รวมไปถึงภาพครอบครัวที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความผูกพันพ่อแม่ลูกในมุมที่อดยิ้มอ่อนๆ ไม่ได้
ทั้งหมดนี้ คือความงดงาม คำว่า "พ่อ" ของพระเอก "ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์" ตั้งแต่ "ลูกของพ่อ" ไปจนถึงวันที่เขาได้กลายเป็น "พ่อของลูก" คุณพ่อคนเก่งที่เชื่อว่าจะต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่คุณพ่อ และสามีที่น่ารักของภรรยาในเร็ววัน
เลี้ยงลูกชายฉบับ "พ่อสงวน"
ด้วยคุณค่า ความดีงาม รวมไปถึงศักยภาพที่ "ปอ-ทฤษฎี" มี การย้อนกลับไปค้นหายังสถานที่ที่สร้างเขาขึ้นมาอย่าง "ครอบครัว" เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจว่า สภาพครอบครัว และการอบรมเลี้ยงดูแบบใดที่สามารถสร้างให้คนๆ หนึ่งสามารถมายืนอยู่ได้ ณ จุดนี้
"ปอเป็นบุคคลสาธารณะ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด คือต้องรักประชาชน รักแฟนคลับ ทำตัวให้เขารักเราได้ด้วย ก็โชคดีที่ปอเขาก็เป็นอย่างนั้น ตัวเขาเองเป็นคนลุยๆ ง่ายๆ" เป็นส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์เปิดใจผ่านสื่อมวลชนของ ผศ.สงวน สหวงษ์ คุณพ่อของพระเอกปอ เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติถึงการเลี้ยงลูกที่หล่อหลอมให้สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ รู้จักหยิบยื่นความรักให้แก่ผู้อื่น
นอกจากนั้น ยังเลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ โดยจะให้อิสระในการใช้ชีวิตแก่ลูกๆ ทุกคน "เรื่องคำสอนผมคิดว่าเขารู้ด้วยตัวเอง โดยพื้นฐานธรรมชาติ พ่อแม่ทุกคนก็ปรารถนาให้ลูกดี เจริญก็ต้องสอนสิ่งดีๆ ให้แก่ลูก คำสอนของพ่อที่ให้กับเขา ก็คือการให้อิสระ เราก็คิดว่า ปอก็คงจะทำอย่างนี้กับลูกเขา เหมือนที่พ่อเลี้ยงเขา พ่อไม่เคยดุลูกเลย ซึ่งทุกอย่างก็ราบรื่นดีมาก ไม่มีอะไร"
สำหรับวันพ่อที่ผ่านๆ มา คุณพ่อพระเอกดังเผยด้วยความรู้สึกภูมิใจกับลูกๆ ทั้งสามคน โดยเฉพาะ "ปอ" ที่มักจะพาน้องๆ มากราบพ่อแม่อยู่เสมอ
"วันพ่อก็มีกิจกรรมครับ เคยไปร่วมงานตามที่เขาจัดในวันพ่อ เราก็ทำกิจกรรมด้วยกันทุกปีอยู่แล้ว ในบางปีเราก็ไปตามอีเวนต์ต่าง ๆ ตามโอกาสที่มี เรื่องของอะไรต่าง ๆ ปอเขามีให้ทุกปี ปอเขาเป็นคนที่ห่วงพ่อ ห่วงแม่มาก เขาจะพาน้องมากราบพ่อแม่ ปีไหนขึ้นมาไม่ได้ พ่อจะลงมา แต่เราจะเงียบ ๆ กัน แต่ปอเขาจะเป็นคนกล้ากอดพ่อแม่มาแต่ไหนแต่ไร น้องเขาทั้งสองคนก็เหมือนกัน เขาไม่อายที่จะกอดพ่อแม่ ทุกวันพ่อเขาก็จะมาไหว้พ่อ ถ้าปีไหนไม่มีอีเวนต์ที่พ่อไปด้วย ปอเขาก็จะพาพ่อไปทานข้าว เป็นครอบครัว" คุณพ่อสงวนเล่า
ปัจจุบัน แม้อาการป่วยของลูกชายคนโตจะสร้างความทุกข์ใจให้แก่เขาอย่างมาก แต่ "ความเข้มแข็ง" คือความจำเป็นต้องมีในสถานการณ์แบบนี้
"เป็นความจำเป็นที่จะต้องเข้มแข็ง แม่อาจอ่อนแรงมากกว่าพ่อ ถ้าพ่ออ่อนไปอีกคน แล้วใครจะมานั่งคุยกับพวกคุณ (นักข่าว) ใครจะต้อนรับพี่น้องเพื่อนฝูงทุกคนที่เขามาด้วยความหวังดี พ่อก็พยายามดูแลตัวเอง พยายามนอนให้ได้ ทานให้ได้ พยายามทำให้ตัวเองสบายใจ ในบางครั้งบางสิ่งเราก็ต้องทำใจยอมรับ บางครั้งเราจะต้องเผชิญกับสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ เราก็ต้องทำใจยอมเขา หาความสุขไปกับเขา ดีกว่าไปนั่งตีโพยตีพาย" คุณพ่อสงวนเผย และบอกด้วยความหวังว่า ลูกชายจะต้องหายป่วย เพราะเชื่อในอำนาจความหวังดีของทุกๆ คน
เรื่อง : ผู้จัดการ Lite
ภาพ : ขอบคุณภาพจากนิตยสารกุลสตรี,สุดสัปดาห์, อินสตาแกรม Vanda Sahawong @vanda29, @portid และภาพจากแฟนเพจ "ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
