ซุปตาร์เด็กที่ดังปังแรงแบบฉุดไม่อยู่ในวินาทีนี้จะเป็นใครไม่เสียมิได้นอกจาก น้องมะลิ - ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์ ลูกสาววัย 2 ขวบ ของพ่อปอ ทฤษฎี และแม่โบว์ แวนด้า นั่นเอง ทว่า ท่ามกลางความดัง น่ารักเว่อร์วังนั้นกลับต้องแลกมาด้วยการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว ล่าสุด อาน้ำอ้อย-ศรมนตรา พิชัยศรแผลง ผู้จัดการส่วนตัวของปอ ออกมาเปิดเผย และร้องผ่านสื่อด้วยอาการกังวลว่า มีคนแปลกหน้ามายืนถ่ายรูปรัวชัตเตอร์ใส่น้องมะลิถึงรั้วบ้าน นั่นเป็นเหตุทำให้เกิดความรู้สึกระส่ำไม่ปลอดภัย ลั่น! หยุดละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็กเถอะ หากไม่เลิกบุกรุก อาจถึงขั้นย้ายบ้าน!
ถูกคุกคามจริงหรือ!?
"ขณะนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน พยายามเข้ามาถ่ายรูปน้องมะลิเดินเล่นหน้าบ้าน แอบถ่ายรูปแล้วนำไปเผยแพร่ ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าใคร ได้เรียกมาคุย และเขาก็ขอโทษแล้ว เรื่องไม่ได้ถึงตำรวจ แค่เป็นการร้องเรียนบริเวณหมู่บ้าน ขอกราบวิงวอนความเป็นส่วนตัวด้วย อย่างที่ทุกคนรู้น้องมะลิได้กลายเป็นขวัญใจของใครหลายคน แต่อยากให้เห็นใจโบว์ด้วย จริงๆ ภาพที่ออกไป โบว์อยากให้เป็นภาพที่สมบูรณ์ที่สุด มี 3 คน พ่อ แม่ และลูก
ต้องระวังตัวความเป็นส่วนตัวทุกคนมีหมด กำลังปรึกษากันอยู่จะพาน้อง ไปอยู่ที่อื่น เดินทางมาโรงพยาบาลระหว่างทางไม่มีใครเห็น ตอนนี้ก็ดีขึ้น ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็เรียกคุยด้วย ขอความร่วมมือคนในหมู่บ้านเฝ้าระวังคนที่แปลกหน้าเข้ามา ตอนนี้แม่พิศมัยอยู่กับมะลิที่บ้าน คนที่เข้ามาเขาก็ถามเฉยๆ ว่าบ้านมะลิอยู่ที่ไหน...” อาน้ำอ้อย ร้องผ่านสื่อให้หยุดพฤติกรรมคุกคามตามหลอนละเมิดสิทธิ์ถึงที่พักอาศัย
แน่นอนความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนมีขีดจำกัด แชะภาพในโรงพยาบาลยังโอเค แต่ครั้นถึงขั้นคนแปลกหน้าตามไปแชะรูปซูมทุกอิริยาบถละเมิดสิทธิ์ยันหน้าบ้าน จนทำให้ครอบครัว “สหวงษ์” ที่กำลังอยู่ในช่วงเศร้าและตึงเครียดลุ้นอยู่กับอาการป่วยหนักของปอ ทฤษฎี อยู่ในขณะนี้แล้ว ยังต้องมาคอยหวาดผวาในความไม่ปลอดภัยของน้องมะลิอีก อย่างนี้มันชักจะเกินไปไหม หรือเพราะความน่ารักของน้องเป็นเหตุหรือเปล่า.....
น่าฟัด เฟลนด์ลี แฟนคลับอยากเจอสักครั้งด้วยตาตัวเอง!
ด้วยความน่ารักเฟรนด์ลี (Friendly)ของน้องมะลิ เด็กน้อยจอมเอ็นเตอร์เทน ที่ออกมาเรียกแขกสื่อมวลชนด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “พี่จ๋าๆ” ทุกวันนั้น จึงทำให้สื่ออดนำเสนอภาพความน่ารักน่าชังของหนูน้อยซุปตาร์ไม่ได้ และทุกครั้งน้องมะลิจะเดินฝ่าวงล้อมกองทัพสื่อมวลชนเข้ามาเล่น หยอก ทักทาย โดยเฉพาะความรักในเสียงเพลง แค่เพียงได้ยินริงโทนจากมือถือก็โชว์เสต็บท่าเต้นประจำส่ายก้นส่ายเอวดุ๊กดิ๊กน่าเอ็นดู ไม่กลัวคนแปลกหน้า หมั่นสร้างสีสัน เรียกร้อยยิ้มตลอดเวลา ทำให้ทุกคนที่เห็นอดหลงรักหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ช่วยลดความตึงเครียด ณ บริเวณชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดีไปอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ความดังปังชั่วข้ามคืนของน้องมะลินั้น ก็ทำให้มีหลายคนติดต่อรุมทาบทามให้หนูน้อยร่วมงานอีเวนท์ ถ่ายโฆษณา เล่นละครเพียบ แม้กระทั่งในโรงพยาบาลก็มีแฟนคลับต่อคิวขอแชะภาพกับหนูน้อยเป็นที่ระลึกอย่างมากมาย นั่นจึงเป็นที่มาถึงปรากฏการณ์มะลิฟีเวอร์นั่นเอง
“ตอนนี้มีคนสนใจ และติดต่อเข้ามาเยอะมาก อยากให้น้องมะลิออกงานอีเวนต์ ถ่ายโฆษณา รวมทั้งอยากดึงไปเล่นละคร ซึ่งตอนนี้มีติดต่อมา 3 - 4 เจ้าแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนก็ต้องรอให้คุณพ่อเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้มะลิรับงานและเข้าวงการหรือไม่ ซึ่งเหตุที่หลายคนสนใจอาจจะเป็นเพราะความน่ารักของน้อง” อาน้ำอ้อย กล่าว
ทว่า นอกจากสื่อจะหลงรักเข้าอย่างจังแล้ว ประชาชนทั่วไป แฟนคลับ และบุคลากรในโรงพยาบาล ที่ต่างเดินทางมาร่วมเขียนข้อความส่งกำลังใจในสมุดเยี่ยมให้แก่พระเอกหนุ่ม ปอ ย่างต่อเนื่องนั้น บางส่วนบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ตั้งใจจะมารอชมความน่ารักของ น้องมะลิ ด้วย เนื่องจากภาพของ น้องมะลิ ที่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ น่ารักน่าเอ็นดูจนอยากมาเจอสักครั้งด้วยตาตัวเอง
มนุษย์กล้องแอบแชะรูป รู้พิกัดบ้าน มารครอบครัวเด็กชัดๆ
คนไทยส่วนใหญ่มักคิดว่ากล้องเป็นของฉัน ย่อมสามารถถ่ายแชะแชร์เผยแพร่อะไรก็ได้นั้น และยิ่งหากเป็นรูปซุปตาร์ด้วยแล้ว อาจจะขายได้ตังค์อีกต่างหาก แต่หากเป็นในบางประเทศเขาจะมีกฎหมายที่เข้มขลังมาก ปกป้องสิทธิส่วนบุคคลจากการแอบถ่าย โดยเฉพาะการถ่ายภาพเด็ก นั่นอาจทำให้ถูกฟ้องร้องเสี่ยงติดคุกได้อย่างง่ายดาย
"ถ้าเป็นที่เมืองนอก เรื่องนี้พูดกันยาวครับ อย่างข่าวเมื่อสองสามปีที่แล้ว มีช่างภาพคนนึง จัดแสดงนิทรรศการถ่ายภาพ โดยเค้าได้แอบถ่ายภาพ คนที่เดินตามท้องถนนในนิวยอร์ค(ถ้าจำไม่ผิด) และก็ขายภาพนั้นๆด้วย คนที่โดนแอบถ่ายรูปได้ฟ้องว่าช่างภาพได้ละเมิดสิทธิ์ของพวกเค้า เค้าแค่เดินไปทำงาน ช่วงนั้น สื่อเสนอข่าวกันยกใหญ่ และเริ่มมีการพูดถึงเรื่องสิทธิ์ในที่สาธารณะกันมากขึ้น
และก็ถ้าเป็นถ่ายรูปเด็กฝรั่งเนี่ยได้ยินว่าอาจติดคุกได้ง่ายๆเลย กฏหมายบางประเทศเข้มงวดเรื่องถ่ายภาพเด็กๆมาก เพราะเค้ากลัวว่าจะเอาไปทำมิดีมิร้าย กับเด็กๆ" เป็นการแสดงความคิดเห็นในการละเมิดสิทธิ์จากการแอบถ่ายรูปจากเว็บบอร์ด thaidphoto.com จากคอมเมนท์ที่ใช้ชื่อว่า Davil
นอกจากนี้ สำนักข่าว NBCActionNews ได้ทำสกู้ปเตือนภัยการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ร้านอาหาร หรือ สวนสาธารณะ อาจจะเป็นภัยถึงชีวิตได้ เมื่อภาพถูกโพสต์จากโทรศัพท์มือถือไปยังโซเชียลคนอื่นๆ สามารถกด save รูป และดูรายละเอียดของภาพได้
หากภาพนั้นถูกถ่ายด้วยมือถือที่เปิด GPS ไว้ ก็จะแสดงพิกัดในข้อมูลภาพเลยไม่ว่าจะไปที่ไหน คนร้าย หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ก็จะตามพิกัดไปได้ในสมาร์ทโฟนของเรา”
ทว่า ลองมาฟังมุมมองจากนักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) อย่าง ธาม เชื้อสถาปนศิริ ถึงพฤติกรรมการแอบถ่ายโดยสัมภาษณ์สื่อสำนักหนึ่งไว้ว่า
"คนไทยยังคงมีความเข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจแนวคิดในเรื่องของพื้นที่สาธารณะกับพื้นที่ส่วนตัว การถ่ายรูปผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ แม้ว่าจะไม่มีเจตนาด้านลบ เช่น การถ่ายรูปเด็กน่ารัก และถ้าหากเจ้าตัวรู้ว่ากำลังถูกแอบถ่าย เขาสามารถขอร้องเจ้าของกล้องให้ลบรูปของตนเองในกล้องนั้นได้ทันที นั่นเพราะ บ้านเมืองเขามีการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องของการโพสต์รูปที่เกี่ยวข้องกับบุคคล และมีการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น ซึ่งในไทยเองยังไม่ได้มีกฎหมายนี้เป็นเรื่องเป็นราว
การคนไทยส่วนใหญ่คิดว่ากล้องเป็นของตัวเองแล้วสามารถถ่ายอะไรก็ได้นั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ผิดมาก เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และถ้าหากโพสต์ลงในโลกออนไลน์ก็เป็นความผิดละเมิดซ้ำอีกครั้ง และถ้ามีข้อความเชิงดูถูกศักดิ์ศรี ทำให้เสียหาย หรือเหยียดชาติพันธุ์ ผู้โพสต์ก็เข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทได้เช่นกัน”
ส่วนในเรื่องกฎหมายในเมืองไทยจะสามารถเล่นงานเอาผิดผู้แอบถ่ายได้ไหมนั้น พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ อดีตผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เคยให้ข้อมูลไว้ว่า การถ่ายภาพบุคคลโดยที่เจ้าของไม่อนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ถ้านำภาพไปเผยแพร่ทำให้บุคคลในภาพเกิดความเสียหายจะมีความผิดทางอาญา และหากเป็นภาพลักษณะลามกก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก
ครั้นเมื่อถามว่า.....กฎหมายจะสามารถจัดการปัญหานี้ได้หรือไม่นั้น ท่านตอบไว้อย่างกระแทกใจมนุษย์เอาแต่ได้ชอบแอบถ่ายว่า
"กฎหมายอย่างเดียวไม่พอหรอก...ต้องสร้างจิตสำนึกทางสังคมควบคู่ไปด้วย”
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754