ในมุมมืดของถนนเลียบชายหาดพัทยาสาย 3 มีร้านบาร์เบียร์เล็กๆ ที่ชั้นบนเป็นเกสต์เฮ้าส์ ในแสงสลัว เราอาจคิดว่าที่นี่ก็คงเหมือนกับบาร์เบียร์ในย่านนี้ทั่วไป หากลองได้เข้าไปสัมผัสอย่างแท้จริงแล้ว เราจะพบว่าที่นี่คือแหล่งค้าประเวณีเด็ก อันเป็นที่รู้กันในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
“เอก” อดีตเด็กขายบริการ ที่ผันตัวเองมาเป็นหนุ่มบาร์โฮสต์ ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ปัจจุบันเขาอายุ 19 และถอยออกจากวงการนี้มาแล้ว เพราะว่ากันว่าในกลุ่มผู้ที่มีรสนิยมทางเพศประเภทนี้ หาก “เด็ก” มีอายุเกิน 15 ที่ไม่ใช่นำหน้าด้วยคำว่าเด็กชาย หรือเด็กหญิงอีกต่อไป ราคาจะ “ตก” ลงอย่างมาก หลายคนจึงเลือกเดินออกมาเป็นเอเย่นต์จัดหา หรือไปขายบริการกับกลุ่มคนอื่นๆ และมีเพียงส่วนน้อยที่จะหันไปประกอบอาชีพอื่น
กับล่าสุดของกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ เกี่ยวกับความผิดของการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ไม่ว่าหญิงหรือชาย ที่ระบุว่า ใครที่เปิดดู ส่งต่อคลิป หรือมีไว้เพื่อการค้าสิ่งที่แสดงให้รู้หรือเห็นถึงการกระทำทางเพศของเด็ก ให้มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี... เอกจึงมองว่าอาจไม่ได้ช่วยอะไรเพราะไม่ได้แก้ที่ต้นตอของปัญหาอย่างแท้จริง
กฎหมายใหม่มีผล แต่ต้นตอปัญหายังมีอยู่
...บุกรวบ! ฝรั่งเปิดบาร์ ค้ากามเด็ก... ตร.ตม.ชลบุรี ซ้อนแผนจับฝรั่งเฒ่าชาวแคนาเดียน พร้อมเมียไทยเปิดบาร์เบียร์ย่านพัทยาใต้บังหน้า ก่อนแอบจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ค้าประเวณีบำเรอหนุ่มต่างชาติ
ข่าวรายวันมากมายแสดงถึงปัญหาการค้าประเวณีเด็ก จากข่าวล่าสุดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพิ่มเติม และมีผลใช้บังคับแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ "สื่อลามกอนาจารเด็ก หมายความว่าวัตถุหรือสิ่งแสดงให้รู้หรือเห็นถึงการกระทำทางเพศของเด็กหรือกับเด็กซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี โดยรูป เรื่อง หรือลักษณะสามารถสื่อไปในทางลามกอนาจารไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือในรูปแบบอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันและให้หมายความรวมถึงวัตถุต่างๆ ข้างต้นที่จัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์หรือในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถแสดงผลหรือเข้าใจได้"
ทั้งนี้ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตยสภา ได้เผยว่า กฎหมายฉบับนี้มีที่มาจากปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กได้ถูกกำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี เป็นหลักการสากลที่ถือให้การคุ้มครองเด็กเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นใครก็ตามที่มีสื่อลามกอนาจารเด็กในครอบครองก็ผิดโดยไม่จำเป็นต้องมีเด็กหรือใครคนหนึ่งไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่ เปรียบเหมือนมียาเสพติดไว้ในครอบครอง คือแค่มีก็ผิด
ซึ่งมาตราแรก มีองค์ประกอบความผิดว่า "ผู้ใด มีการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่ได้ให้นิยามไว้ในมาตรา 1(17)โดยเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
เพราะ “สื่อลามกเด็ก” ไม่ต่างไปจาก “สื่อของการล่อลวงเด็ก” คนพวกนี้จะชอบถ่ายคลิป-ถ่ายรูปกับเด็กเอาไว้ดู และอาจส่งต่อไปให้หมู่ผู้มีรสนิยมเดียวกัน
ดังนั้นคนที่มีสื่อลามกอนาจารโดยครอบครอง ไม่ว่าจะรับต่อมาจากเพื่อนทางไลน์ เมื่อเปิดดูแล้วมีเจตนาแสวงหาเพื่อประโยชน์ในทางเพศของตนก็ถือว่ามีองค์ประกอบความผิดแล้ว เพราะใจความแท้จริงของกฎหมายนี้คือไม่ต้องการให้มีการละเมิดทางเพศต่อเด็ก ทั้งการมีคลิป มีภาพ เสียงเหล่านี้ ก่อให้เกิดการละเมิดทางเพศต่อเด็ก
สำหรับผู้ที่ "ส่งต่อ" สื่อลามกอนาจาร ก็มีโทษจำคุกถึง 7 ปีตามที่บัญญัติในวรรค 2
รวมทั้งหากมีไว้ในเครื่องมือถือ ดูแล้วเก็บไว้ดูวันหลัง ก็ถือว่ามีเจตนาพิเศษทั้งสิ้น
“แต่ผมว่ายังไง มันก็แก้ปัญหาจริงๆ ไม่ได้ ตราบใดที่ยังคงมีความต้องการ แล้วเด็กยังไม่มีโอกาสที่ดีกว่า ใครบ้างไม่อยากได้เงิน ไม่มีเงินก็ตายสิ” เอกบอกกับเรา เมื่อถูกถามถึงประเด็นนี้
คำบอกเล่าจากอดีต “เด็กชาย” ขายบริการ
ในบาร์เบียร์ขนาดย่อมที่มีแสงสลัว ในย่านถนนเลียบพัทยาซอย 3 อันเป็นย่านที่ไม่ได้พลุกพล่านไปด้วยบาร์เบียร์เท่าไหร่นัก ภายในผับนั้นตกแต่งด้วยรูปแบบที่ทันสมัย เพดานสูงโปร่ง เหมาะสำหรับการนั่งดื่มผ่อนคลายอารมณ์ หากเบื้องหลังของเคาน์เตอร์บาร์ที่แน่นไปด้วยเหล้าชนิดต่างๆ นั้นคือแหล่งค้ากาม “เด็ก” ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้กัน “เอก” อดีตเด็กขายบริการวัย 19 ที่ตอนนี้เปลี่ยนมายึดอาชีพเป็นหนุ่มบาร์โฮสต์ ได้เผยข้อมูลกับเราถึงเรื่องราวด้านมืดของตนเอง
“ผมทำมาตั้งแต่อายุ 11 มีเพื่อนชวน ได้เงินมาก็เอาไปเล่นเกม ซื้อรองเท้าซื้อโน่นนี่ แล้วก็เลี้ยงเพื่อน แต่ผมไม่เล่นยานะ” เอกเปิดใจ ก่อนเผยต่อว่า "ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่ มีตั้งแต่อายุ 25 ไปจนถึง 70 กว่า! ลูกค้าผมเป็นคนต่างชาติหมด ไม่มีคนไทย จะมีเอเย่นต์คอยหาลูกค้าให้อีกที หรือลูกค้าบางคนก็สนิทกัน มีบางคนก็รับเลี้ยงดูเลยนะ”
แน่นอน เบื้องหลังธุรกิจหลากหลายในพัทยา หลายสถานที่เปิดธุรกิจต่างๆ บังหน้า หากเบื้องหลังแล้วมีการค้าบริการทางเพศเด็กอยู่เบื้องหลัง หรือหากลองไปสังเกต จะพบเห็นเด็กมากมายเดินเข้าออกตามบาร์เบียร์มืดสลัว หากเราไม่รับรู้และมองโลกในแง่ดี อาจคิดว่าเด็กเหล่านี้เข้ามาขายลูกอม หรือดอกไม้ให้กับแขกในร้าน หากอีกด้านหนึ่งแล้วมีชาวต่างชาติถามซื้อบริการจากเด็กเหล่านี้อยู่เสมอด้วยจำนวนเงินตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น และยิ่งเด็กมากเท่าไหร่ ยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่ค่าตัวจะยิ่งแพงขึ้นเช่นกัน
“ราคาค่าตัวมันจะขึ้นอยู่กับอายุเด็กและรูปร่างหน้าตาด้วย ส่วนใหญ่ต้องผิวคล้ำๆ หน่อย ที่นี่ส่วนใหญ่เด็กผู้ชายขายบริการจะมีเยอะกว่าผู้หญิง.. จำได้ ขายครั้งแรกก็ขายให้กับฝรั่ง ครั้งแรกจำได้ว่าแค่ชักว่าวให้เขา ก็ไม่คิดอะไรให้ทำก็ทำ แค่อยากได้เงิน ตอนนั้นอยากไปอยู่อเมริกา อยากมีเงินเยอะๆ อยากไปอยู่ประเทศที่รวยๆ แล้วก็มีเพื่อนบางคนได้ไปอยู่เมืองนอกกับ “พ่อแก่” ด้วยนะ ตอนนั้นก็คิดแบบนั้น เพราะผมลำบากไง พ่อแม่จน ออกจากบ้านมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเพื่อนแถวบ้านก็ชวนมาอยู่พัทยา”
เมื่อฟังถึงคำบางคำที่เขาใช้เรียก ทำให้เราต้องอดถามไม่ได้จนทราบถึงที่มาที่ไป ว่านอกจากรูปแบบการซื้อขายบริการทางเพศแบบปกติแล้ว หากอีกด้านหนึ่งยังมีรูปแบบที่แยบยลกว่า โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะแฝงตัวเข้ามาข้องเกี่ยวกับเด็กในหลากหลายวิธีการ บ้างอาจแฝงตัวมาด้วยคราบของนักบุญ รับเลี้ยงเด็ก ส่งเสียเด็กที่ยากไร้ให้ได้เล่าเรียน เป็นครูสอนภาษา สอนศิลปะ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับเด็กๆ ก่อนนำพาไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศในภายหลัง “มีแบบนี้เยอะนะที่นี่ แต่เด็กบางคนก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะคิดว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ได้ช่วยเหลือ แล้วฝรั่งเหล่านี้ก็มีวิธีการที่ทำให้เด็กเชื่อใจและไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ทำกับเด็ก!”
“บางคนถูกเพื่อนชวนมาอยู่กับฝรั่ง เพราะบอกว่าจะสบาย มีเงิน ได้เรียนหนังสือ ตอนที่เพื่อนชวนมา เด็กก็ไม่คิดหรอกว่าจะเจออะไรแบบนี้ คิดว่ามาอยู่กับฝรั่งใจบุญ มีบ้านอยู่ มีของเล่น ได้เรียน มีเงิน แค่นี้เด็กก็อยากมาแล้ว เพราะส่วนใหญ่เด็กที่มาอยู่แบบนี้ ก็เป็นเด็กเร่ร่อนทั้งนั้นแหละ แต่ไม่มีใครคิดหรอกว่าจะต้องมาเจออะไร แต่ก็อย่าลืมว่าเด็กพวกนี้บางคนก็กร้านโลกมาแล้ว ยินยอมพร้อมใจก็เยอะแยะ เด็กเหล่านี้บางคนมีทั้งรู้ตัวว่าเป็นเกย์ บางคนไม่เป็น ขายเพื่อแลกกับเงินเท่านั้น อย่างพวกที่กร้านโลกแล้วขายบริการวันหนึ่งนี่ 5-6 รอบ บางทีก็เจ็บระบม แต่มันจะมียาชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้ลืมตัวไปได้ชั่วขณะ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า”
และเมื่อถามว่าทำไมถึงต้องมาทำอาชีพนี้ เอก ก็บอกเล่าคำตอบไม่ต่างไปจากที่เราคาดคิดไว้
“เอาจริงๆ นะ จะโทษเด็กไม่ได้หรอก เลือกได้ไม่มีใครอยากทำ แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือความจน พื้นฐานครอบครัว เด็กพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่มีบ้าน พ่อแม่ตายบ้าง ติดคุก บ้านแตกบ้าง ไม่มีโอกาสในสังคมจริงๆ แล้วสังคมทุกวันนี้ถ้าไม่มีเงินมันอยู่ได้ที่ไหน นอกจากไปอยู่ในป่าโน่น เด็กบางคนไม่มีทางออกในชีวิตแล้ว ไม่มีอะไรจะเสีย เขาก็เลือกเดินเส้นทางที่ผิดๆ ไป เป็นธรรมดา”
เอกปิดท้ายด้วยเสียงที่ดังประหนึ่งต้องการสะท้อนภาพของสังคมที่เน่าเฟะของเด็กขายบริการในสังคม
จะแก้ปัญหาเด็กขายบริการ ต้องแก้ให้ตรงจุด
เมื่อมองไปถึงเหตุผลรอบด้าน การค้าประเวณีเด็กจึงเกิดขึ้นจากการที่เด็กถูกบังคับให้เข้าสู่กระบวน การค้าประเวณีเด็กมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับสื่อลามกเด็ก เด็กอาจถูกควบคุมโดยคนกลางที่เป็นผู้ดูแลธุรกิจ หรือโดยผู้แสวงหาประโยชน์ทางเพศซึ่งเป็นผู้ที่ติดต่อและทำการต่อรองกับเด็กโดยตรง นอกจากนี้เด็กยังเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณีจากการมีเพศสัมพันธ์เพียงเพื่อแลกเปลี่ยนกับความต้องการด้านปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ เช่น อาหาร ที่พักอาศัย ความปลอดภัย หรืออาจแค่เพื่อสิ่งที่พวกเขาปรารถนา เช่น ได้คะแนนผลการเรียนที่สูงขึ้น หรือได้เงินพิเศษสำหรับการจับจ่ายใช้สอย
ทั้งนี้ แม้ความจริงแล้วประเทศไทยมีกฎหมายที่ปกป้องการซื้อขายบริการทางเพศในเด็กมาช้านาน ทั้งระบุโทษกับผู้ที่ซื้อหรือขายบริการทางเพศ และผู้เกี่ยวข้องไว้ชัดเจน โดยผู้ที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหรือให้เด็กสำเร็จความใคร่กับตนเองหรือผู้อื่น กรณีเด็กอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี จะโดยยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องถูกจำคุก 1 ปี ถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 60,000 บาท กรณีเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี ต้องถูกจำคุก 2-6 ปี และถูกปรับ 40,000 - 100,000 บาท
ส่วนผู้ที่จัดหา ล่อลวง หรือชักพาเด็กไปขายบริการทางเพศ (จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม) หากเด็กอายุมากกว่า 15 แต่ไม่ถึง 18 ปี ต้องถูกจำคุก 5 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 300,000 บาท กรณีเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี ต้องถูกจำคุก 10-20 ปี และถูกปรับ 200,000 - 400,000 บาท กรณีเด็กอายุยังไม่เกิน 18 ปี ต้องถูกจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000 - 400,000 บาท
อย่างไรก็ตามแม้กฎหมายจะระบุโทษไว้ชัดเจน แต่ก็ที่ผ่านมาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไร การค้าบริการเด็กยังคงมีอยู่และกลับยิ่งมากขึ้นในปัจจุบัน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล ได้เปิดเผยทัศนะเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ว่า
“ในสังคมปัจจุบันหล่อหลอมให้เด็กรู้จักการขายบริการทางเพศ การเข้าถึงข้อมูล ความพร้อมในเชิงร่างกาย เป็นเหตุจูงใจให้เด็กมีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนวัยอันควร ส่วนในแง่ของผู้ซื้อบริการ ก็มีค่านิยมสนใจเด็กที่อายุน้อยเพิ่มมากขึ้นทั้งชายและหญิง เพราะเชื่อว่าเด็กที่อายุน้อยยังมีความบริสุทธิ์ ความคิดในการพิชิตความบริสุทธิ์เด็ก หรือได้เป็นคนแรกของเด็กยังคงดำเนินต่อไป ไม่ได้ลดน้อยลงไป อีกทั้งผู้ที่มีความชื่นชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ก็ไม่ได้รับการแก้ไข
อย่างไรก็ตามหากมองลงไปถึงสาเหตุในปัจจุบันที่เด็กหันมาขายบริการทางเพศเร็วขึ้นโดยที่อายุยังน้อย ปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งก็อาจไม่ใช่เพราะเด็กมีฐานะยากจน หรือทำไปเพราะไม่มีทางเลือกเพียงอย่างเดียว แต่อาจกลายเป็นเพราะว่าไม่สามารถทนแรงยั่วยุจากสังคมทุนนิยมได้
“ส่วนเรื่องที่เด็กมีความคิดรักงานสบายที่สร้างรายได้สูง ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเด็กสมัยนี้มีความอดทนต่อความลำบากต่ำลง ความพยายามน้อยลง ไม่อยากเจอกับความล้มเหลวๆ ชอบสิ่งที่ได้มาง่ายๆ งานที่ง่าย ๆ แต่ได้ค่าตอบแทนมาก รวมทั้งยังขาดความยิ้งคิดถึงสิ่งที่จะตามมาในอนาคต คิดไกลๆ ไม่เป็น” ผอ.สถาบันราชานุกูล กล่าว
หากอย่าลืมว่าเมื่อถึงวันหนึ่งที่เด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นมา และอาจจะมีชีวิตครอบครัว พวกเขาจะอยู่อย่างไรกับอดีตที่ผ่านมาที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้...
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754