คุณอาจคิดถูกในครั้งแรกที่ว่าเธอก็คงแค่เหมือนกับซูเปอร์สตาร์คนนั้น แต่หากได้คุยกับเธอแล้ว คุณอาจเปลี่ยนความคิด เพราะแท้จริงแล้ว ใครจะไปเหมือนกับใครได้ล่ะ ใช่แล้ว.. เธอก็มีความโดดเด่นในแบบของเธอ อาจแค่ภายนอกที่คล้ายกับใครคนนั้น แต่กับตัวตนของเธอจริงๆ แล้ว เราขอยืนยันว่าเธอก็มีสเน่ห์ในแบบของเธอเองแน่นอน !
ในร้านกาแฟยามบ่ายเรานั่งรอเธออยู่ก่อน ไม่นานเธอเดินเข้ามาในร้าน ในระยะไกล ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอช่างเหมือนกับซูเปอร์สตาร์คนนั้น (ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต) แต่เมื่อเธอเข้ามานั่งข้างๆ ภายในร้านกาแฟที่มีแสงสลัว เธอดูต่างออกไปจากแวบแรกที่เห็น และ เราขอเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคที่ว่า... มีความเหมือนที่แตกต่าง
“อืม ค่ะ” เธอบอก “ไม่เหมือนไปเสียทั้งหมดหรอกค่ะ”
หากยังไม่ได้คุยกับเธอ คุณอาจจะคิดว่าเธอดูหยิ่ง เพราะหากทำหน้านิ่งๆ แล้ว เธอดูเป็นคนที่หน้าตาออกไปทางนางร้ายเสียด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งด่วนสรุป หากยังไม่ได้นั่งคุยกับเธอจริงๆ
"เจนิลา-ปริญา แสนเมือง" หรือใครๆ เรียกเธอว่า "เจนี่" เธอคือคนที่เรามีนัดด้วยในวันนี้ สาวน้อยสดใสวัย 19 นักแสดงน้องใหม่จากช่อง3 ที่มีผลงานมาแล้วกับเรื่องดาวเรือง และกุหลาบซ่อนกลิ่น กับบทบาทของ “มะนาว” ที่หลายๆ คนคุ้นเคย
เห็นหน้านิ่งๆ ไม่ได้หยิ่งสักหน่อย
“ใครๆ ก็คิดว่าหนูหยิ่ง เชื่อไหม ว่าหนูแทบไม่มีเพื่อนที่มหาลัยเลย เวลาไปถึงมหาลัยก็เข้าห้องเรียน หนูชอบนั่งหน้าสุด พอหมดชั่วโมงเรียนก็กลับบ้าน แค่นี้เองค่ะ ชีวิตในมหาลัยของหนู แทบไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยก่อนเลย
แปลกมากไม่รู้ทำไม คนไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยด้วย ไม่มีแบบยิ้มให้ ไม่อะไรเลย เพราะเวลาหนูทำหน้านิ่งๆ อาจจะดูดุๆ มั้ง บางคนเลยอาจคิดว่าหยิ่ง แต่ถ้าลองใครเข้ามาคุยด้วยก่อน หนูจะหลุดเลย พูดเยอะคุยแบบเหมือนกับว่าสนิทกันมานาน”
“ส่วนมากเวลาเข้ากลุ่มทำงาน ก็จะอยู่กับเพื่อนต่างชาติ แต่เพื่อนคนไทยที่มหาลัยนี่แทบไม่มีเลยค่ะ” เธอบอกพร้อมรอยยิ้มมุมปาก และดูอย่างไรเธอไม่มีเค้าของความเป็นคนหยิ่งเลยสักนิด “อาทิตย์หนึ่งจะเข้าเรียนสามวัน แต่ช่วงนี้ยุ่งๆ เพราะต้องถ่ายละคร ก็มีฝากเพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดนั้นแลกเชอร์ให้บ้าง” เธอยิ้มตาเป็นประกาย
เรียนสาขาธุรกิจอินเตอร์ (Business English) เพราะฝันว่าอยากทำธุรกิจในอนาคต “หนูกำลังเรียนปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตอนนี้ก็อยู่ปี 2 ค่ะ แต่ความจริงแล้วหนูจะต้องขึ้นปี 3 แล้ว แต่ก่อนหน้านี้หนูเรียนนิเทศศาสตร์แล้วไม่ค่อยเอนจอย เลยย้ายจากนิเทศศาสตร์มาเรียนบิสิเนสภาคอินเตอร์ ความจริงแล้วมีความฝันว่าอยากเป็นแอร์มาตั้งแต่เด็กๆ แต่เป็นแอร์จะเรียนสาขาไหนก็ได้ หนูก็เลยเลือกเรียนสาขานี้ เพราะนอกจากงานในวงการแล้ว ก็ฝันอยากจะทำธุรกิจในอนาคต ยังไงสุดท้ายก็อยากมีธุรกิจของตัวเอง อีกส่วนหนึ่งตอนเรียนนิเทศมันต้องทำงานกลุ่มเยอะมาก ซึ่งช่วงนั้นหนูไม่ค่อยมีเวลา เพราะต้องถ่ายละคร เลยตัดสินใจย้ายคณะดีกว่า”
ธุรกิจสวยๆ งามๆ กับร้านข้าวมันไก่?
เธอบอกว่าในอนาคตอยากทำธุรกิจ และเมื่อเอ่ยถามถึงธุรกิจที่อยากทำ เธอตอบกลับมาในทันทีทันใดว่า “คงเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม อาจเป็นร้านทำเล็บ เพราะเจนี่ทำเล็บบ่อยมากสามสี่ครั้งต่อเดือน หรือไม่ก็อาจเป็นคลินิก เพราะสมัยนี้ใครๆ ก็ต้องเสริมโน่นทำนี่บ้าง คนสมัยนี้รักสวยรักงาม ดูแลตัวเองมากขึ้น ยังไงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้คงจะอยู่ไปตลอด แต่ก็คงเป็นหลังเรียนจบก่อน คงอีกยาวไกล ตอนนี้ก็แพลนไว้หลายอย่าง เพราะหนูอยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หน่อย ก็เลยอยากหาอะไรทำ หาเงินค่ะ ว่าจะทำหมวกกับรองเท้าในแบรนด์ของตัวเองด้วย”
แต่ที่เอาใกล้ๆ ตอนนี้เธอกลับบอกว่า อยากเปิดร้านข้าวมันไก่ ? “ที่แพลนๆ ไว้อยู่ก็คือร้านข้าวมันไก่ เพราะในอาหารแทบทั้งหมดแล้วเจนนี่ชอบทานข้าวมันไก่มาก ทานแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ถ้ามีโอกาส แบบถ้าเห็นร้านข้าวมันไก่นี่เป็นไม่ได้ เลยคิดว่าจะเปิดร้านข้าวมันไก่แน่ๆ เร็วๆ นี้ อาจจะภายในปีหน้านี่แหละคะ ตอนนี้กำลังวางแผนอยู่ คงจะทำแบบเดลิเวอรี่ส่งถึงบ้านด้วย แต่คงทำสาขาเดียวก่อน อาจเห็นหนูสับไก่เองก็ได้นะคะ (ยิ้ม)”
อืม... อย่างนี้เจนี่ก็งกน่าดูสิ คิดแต่จะหาเงินอย่างเดียว? (เธอหัวเราะทันที) “ก็ใครๆ ก็ต้องงกบ้างกันทั้งนั้นแหละยิ่งถ้าเป็นเงินของหนูเองด้วยนะ เวลาจะซื้ออะไรแต่ละอย่าง กว่าจะควักก็ยากอยู่นะ อยากได้ก็อยาก แต่พอถึงเวลาส่วนมากก็จะบอกตัวเองว่าไม่เอาละเปลืองเงิน แต่ถ้าเป็นเงินคนอื่นนี่สิ (ยิ้ม) อย่างถ้าเป็นเงินคุณแม่ก็อาจจะซื้อเลย เพราะแม่ใจดีอยู่แล้ว” พูดจบเธอหันไปมองคุณแม่ที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปพร้อมเสียงหัวเราะ
จุดเริ่มต้นของงานในวงการ
19 คืออายุของเธอตอนนี้ กับส่วนสูง 173 ซม. ที่เธอบอกว่าสูงเท่านี้มาตั้งแต่อายุ 14 ! แล้วก็หยุดอยู่เท่านี้่ โดยเธอเล่าว่าตอนเด็กๆ นั้นซนมาก หัวแตกปากแตกตลอด “พ่อแม่เจนี่ก็ดุบ้างเวลาซนๆ แต่คุณพ่อจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด เพราะทำงานอยู่ที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอแลนด์ ก็จะไปๆ มาๆ ปีหนึ่งจะกลับมาสักครั้งสองครั้ง ช่วง คริสมาสต์มาทีก็อยู่ราวสามเดือน ตอนเด็กๆ ไม่รู้สึกขาดความอบอุ่นอะไร เพราะคุณพ่อก็โทรหาตลอด เด็กๆ มีแผลตลอด อยู่ไม่นิ่งเลยค่ะ แต่ที่บ้านก็สอนอย่างมีเหตุผล คือไม่ได้ห้ามแล้วก็ไม่ได้ตามใจไปเสียทุกอย่าง แต่ด้วยความเป็นคนแบบนี้ของหนู แรกๆ บางทีก็ดูขัดแย้งกับตัวเองเหมือนกันเวลาถ่ายแบบ”
ด้วยความที่เป็นคนสูงมากมาตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงเริ่มงานถ่ายแบบเดินแบบมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง “จริงๆ เริ่มเดินแบบตั้งแต่อายุ 13-14แล้วค่ะ ตอนเจนนี่อายุ 13 ก็สูง 173 แล้วค่ะ เลยมีคนมาชวนไปตั้งแต่ตอนนั้น เหมือนน้องสาวหนูตอนนี้อายุ 14 ก็สูง 175 แล้วค่ะ สูงกว่าหนูอีก แต่หนูก็ดีใจแล้วที่หนูไม่สูงไปกว่านี้ แต่เชื่อไหม ตั้งแต่ตอนนั้นก็เหมือนหนูหยุดโต ทุกวันนี้ก็สูงเท่าเดิมเลยค่ะ” เธอหัวเราะ “ถ่ายแบบเยอะมาก มีหลายแบรนด์มากบอกไม่หมดค่ะ เพราะทำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว จริงๆ ตอนเด็กๆ หนูก็เคยไปแคสติ้งแล้วก็ได้ด้วยนะคะตอนนั้น แต่ไม่รู้สิความรู้สึกตอนนั้นยังไม่อยากทำงานด้านนี้ เพราะตอนนั้นขี้อายมาก เพิ่งจะเข้ามาในวงการนี้จริงๆ ก็ประมาณ 4-5 ปีที่แล้วนี้เองค่ะ”
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ชอบงานในวงการ คือการถ่ายแบบนิตยสาร cheeze “ตอนนั้นเพื่อนชวนไป บอกไปเป็นเพื่อนหน่อย หนูก็ลองๆ ไปดู เป็นการถ่ายลงหนังสือครั้งแรก แล้วพอหนังสือออกมา ก็รู้สึกเป็นครั้งแรกเลยที่ชอบงานด้านนี้ ที่ชอบตอนนั้นก็เพราะได้เห็นตัวเองสวยๆ ในหนังสือ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีกับงานในวงการ หลังจากนั้นก็แคสต์งานมาเรื่อยๆ แต่เชื่อไหม แคสต์ไป40-50 งาน หนูไม่เคยได้เลย จนมาได้งานแรกก็เพราะหน้าเหมือนพี่ชมพู่ นี่แหละค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นอายุ 15 เป็นงานโฆษณา มีเพื่อนชวนไปแคสต์ เป็นโฆษณาของ Beauty Buffet คงจำกันได้นะคะ ที่ต้องล้อเลียนทำว่าสวยเหมือนชมพู่ หน้าเหมือนชมพู่
“แต่ก็จริงไม่ใช่ เหรอคะ” เธอทิ้งคำถาม พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
ใครๆ ก็ว่าหน้าเหมือนชมพู่ อารยา?
กับที่ใครๆ ก็ว่าเธอหน้าเหมือนชมพู่ อารยา จริงๆ แล้ว เธอรู้สึกอย่างไร ก็ใครจะชอบเหมือนใครหรือเป็นเงาของใครล่ะ ทุกคนก็อยากเป็น original กันทั้งนั้น จริงไหม?
“โอ้ย หนูไม่อะไรเลยค่ะ รู้สึกดีใจมากกว่า ความจริงเรื่องหน้าเหมือนนี่ก็มีคนทักมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว หลายๆ คนทักผิดบ่อยๆ ว่าเป็นพี่ชมพู่ เอาจริงๆ หนูรู้สึกดีมากนะ ที่ใครๆ ก็บอกว่าหน้าเหมือนพี่ชมพู่ เพราะพี่เขาก็สวยมาก พี่ชมพู่ก็เป็นไอดอลคนหนึ่งของหนูในวงการ (เธอกระซิบบอกว่าไอดอลอีกคน คือ ปู ไปรยา) แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รู้แล้วหาว่าไปทำศัลยกรรมมาให้เหมือน ถามว่าหนูเพิ่งอายุ 19 เองนะคะปีนี้ จะไปทำศัลยกรรมทำไม (หัวเราะ) บางทีเจอคนทักผิดบ่อยๆ หนูก็ต้องคอยบอก แต่มีบางคนที่มาเหวี่ยงหนูด้วยนะ ซ้ำยังบอกอีกว่าเป็นชมพู่ก็ยอมรับมาดีๆ ไม่เห็นต้องปิดบังเลย บางคนคิดว่าหนูเป็นน้องสาวเสียด้วยซ้ำ เขาบอกไม่ว่าจะมองมุมไหน ซ้ายหรือขวาก็เหมือน”
“แต่เท่าที่หนูคิดนะ ที่ดูเหมือนส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะความเป็นลูกครึ่งอังกฤษเหมือนกันก็ได้ เพราะพี่ชมพู่เขาก็เป็นลูกครึ่งอังกฤษเหมือนกัน (คุณพ่อเป็นคนอังกฤษ คุณแม่เป็นคนไทย) แต่หนูก็เป็นคนนิวซีแลนด์ด้วย ได้ citizen ที่นั่น เพราะจริงๆ แล้ว หนูเกิดที่นิวซีแลนด์ อยู่ที่นั่นถึงอายุ 4 ขวบ เลยได้พาสปอร์ตและซิติเซ่นเป็นคนที่นั่น ผิวพรรณ เค้าโครงหน้า รูปร่างหน้าตาก็เลยออกมาทางเดียวกันมั้งคะ”
แต่มากกว่านั้น ยิ่งกว่าใบหน้าหากคุณได้นั่งใกล้ชิดและสนทนากับเธอ คุณจะพบว่าแม้แต่น้ำเสียงของเธอก็แทบจะถอดโทนเดียวมากับชมพู่ อารยา เลยทีเดียว “บางคนบอก ตอนแรกแค่เห็นหน้าก็ว่าเหมือนแล้ว แต่พอได้ฟังเสียงกับท่าทางการพูดการจานี่ยิ่งใช่เลย แต่บางทีก็เขินๆ แทนคนที่มาทักนะ เพราะโดนทักผิดบ่อยมาก แรกก็งงๆ แต่ตอนนี้หนูชินแล้ว อย่างบางคนเดินเข้ามาจะขอถ่ายรูปเพราะนึกว่าเป็นพี่ชมพู่ แล้วกว่าจะเข้ามา ก็เหมือนเขาคิดอยู่นานมาก ว่าจะเข้ามาดีไหม พอเข้ามาขอถ่ายรูป แล้วเราไม่ใช่ ทั้งเขาและเราก็เขินๆ เหมือนกันนะ”
โดนคอมเมนต์เยอะมากใน IG ว่าตั้งใจไปทำศัลยกรรมให้เหมือนชมพู่ “ใช่ค่ะ อย่างบางคนแรงๆ ก็มีเหมือนกันเข้ามาคอมเมนต์ใน IG บอกว่า เจนนี่ไปทำเบ้าหน้า เลียนแบบให้เหมือนพี่ชมพู่ แบบคอมเมนต์ประมาณว่าแต่ก่อนเชื่อว่า “เบ้าหน้า” ไม่ใช่แบบนี้ แต่พยายามไปอัพหน้าให้เหมือนพี่ชม ทำตัว ท่าทางให้เหมือนพี่ชม!”
“หนูอ่านแล้วก็ไม่โกรธนะ ขำๆ มากกว่า ก็คิดดูสิว่าถ้าหนูตั้งใจเหมือน มันก็ทำได้แปปเดียวใช่ไหมคะ เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่ตัวเอง ยังไงวันหนึ่งเราก็ต้องหลุดถ้าจะไปเลียบแบบคนอื่น แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูดูเหมือนพี่เขามากขึ้น คงเพราะเวลาถ่ายรูปหนูจะชอบทำหน้านิ่งๆ อมยิ้มนิดๆ เหมือนกับพี่ชมพู่ แต่ความจริงแล้วหนูรั่วจะตาย แต่เวลาถ่ายรูปชอบทำหน้าแบบนั้นเฉยๆ แต่เจนนี่ก็ไม่โกรธหรอกค่ะ ก็อยากฝากบอกแฟนคลับพี่ชมพู่ว่า หนูไม่ได้ตั้งใจเหมือนพี่เขา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูซื่อๆ แบบเด็กสาวคนหนึ่ง
“ตอนนี้ชินแล้วค่ะ เพราะมีคนทักผิดทุกวัน สมัยก่อนทำสีผมนี่ยิ่งกว่าตอนนี้อีกค่ะ อย่างแม้แต่ตอนไปต่างประเทศก็ยังมีคนทักผิดตลอด แต่อย่าว่าหนูเลย (เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนเล็กๆ) หน้าหนูเป็นแบบนี้อยู่แล้วค่ะ เพราะหนูไม่ได้ทำหน้ามาเหมือนพี่เขา ความจริงแล้วใครๆ ก็อยากเป็นตัวของตัวเองมากกว่าใช่ไหมคะ”
ไลฟ์สไตล์กับชายในฝัน
แล้วไลฟ์สไตล์แบบเจนนี่ล่ะ เป็นแบบไหน? “หนูก็เป็นคนแบบง่ายๆ ชิลๆ นะ แต่ก็อย่าให้หิวนะ
เวลาหิวจะเหมือนองค์ลง มี 2 แบบ คือหนูอาจจะนิ่งไม่คุยกับใคร หรือไม่ก็จะเหวี่ยงๆ ไปเลย ใครอย่ามาอยู่ใกล้ตอนนั้น แต่พอได้กินอิ่มแล้วก็หาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบว่าคนเมื่อกี้หายไปไหน กลายมาเป็นคนน่ารักเหมือนเดิม” พูดจบเธอหัวเราะเขินๆ
นอกจากนี้เธอยังยอมรับว่าเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวมาก “หนูเป็นคนที่ชอบแต่งตัวมาก อย่างเสื้อผ้าเครื่องประดับหรืออะไรที่ดูฟรุ้งฟริ้งนี่จะชอบมาก ของสวยๆ งามๆ แบบผู้หญิงอะค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับบ้าแฟชั่นอะไรขนาดนั้นนะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่สิ่งที่ฟังแล้วดูขัดแย้งกันนั่นคือเธอเป็นคนที่ชอบการต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจ
“ใช่ค่ะ อย่างถ้ามีเวลาว่างในหนึ่งวัน นอกจากออกไปทานข้าว ดูหนัง แล้วก็ต้องหาเวลาไปต่อยมวย หนูชอบต่อยมวยมาก เป็นกีฬาโปรดอันดับหนึ่งเลย อาทิตย์หนึ่งต้องไปอย่างน้อยสองสามวัน (เธอบอกว่าต่อยครั้งละ 2 ชั่วโมงกว่า!) ต่อยมาสี่ปีได้แล้วค่ะ ต่อยมวยแล้วหายเครียด”
“ครั้งแรกมีพี่ที่โมเดลลิ่งชวนไปตอนนั้น ไปต่อยแล้วเลยติดใจ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเก่งขนาดมืออาชีพอะไรแบบนั้นนะ บางทีก็มีเจ็บตัวบ้าง ช้ำบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมหนูชอบมาก บางทีไม่ได้ไปหลายๆ วันจะรู้สึกขาดอะไรไปละ ต้องไปทุกอาทิตย์ สำหรับเจนี่มันเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ได้ทั้งการป้องกันตัว และที่สำคัญน้ำหนักจะลงเยอะมาก กินเยอะก็ไม่ต้องกังวล มาต่อยมวยลดเอา สำหรับคนไหนที่อยากลดความอ้วน เคยเล่นกีฬาอย่างอื่นแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้มาต่อยมวยเลยค่ะ รับรองเห็นผลแน่นอน”
นอกจากต่อยมวย ยังชอบกีฬาแบบแมนๆ “ชอบเล่นบาสเก็ตบอล ฟุตบอล แบดมินตันบ้าง เป็นคนที่ชอบอะไรรุนแรง (หัวเราะ) กีฬาแมนๆ นี่หนูชอบมาก หรือถ้าหากว่าช่วงไหนเครียดๆ มีเวลาก็จะไปเที่ยวทะเล (มัลดีฟส์ ) รับรองว่าหายแน่นอนค่ะ(อมยิ้ม)”
แน่นอนว่าไม่ว่าคนๆ นั้นจะดูสดใสร่าเริงเพียงใด แต่ในช่วงชีวิตของทุกคน ย่อมมีเรื่องที่ทำให้เราเสียใจที่สุด อาจไม่สามารถเรียกว่าความทุกข์ ได้เต็มปาก แต่เป็นช่วงเวลาที่อาจรู้สึกผิดพลาด และแม่คือกำลังใจที่ดีที่สุดของเธอ “เคยเครียดสุดๆ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ GPAไม่ถึง ตอนนั้นก็รู้สึกเครียดมาก กลัวเรียนไม่จบ รู้สึกว่าเดินทางมาถึงช่วงที่อนาคตตีบตันแล้ว แต่ก็มีแม่นี่แหละที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด ก็เลยผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ แม่ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับหนูเลยค่ะ ตอนนี้มาคิดย้อนไป ก็เสียดายเราน่าจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้ตอนอยู่มัธยม ตอนนี้หนูเลยอยากโฟกัสไปที่เรื่องเรียนเป็นอันดับแรกก่อน ไว้พอเรียนจบแล้ว จะได้ทำสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่คิดไว้ได้เต็มที่คะ”
แล้วกับความรักตอนนี้ล่ะ? ก็โอเคค่ะตอนนี้ คบกันมาสักพักแล้วค่ะ (กับไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์ ทายาทเจ้าของธุรกิจพันล้าน) ถือว่าทุกอย่างโอเคค่ะ เคยพบคุณแม่แล้ว คุณแม่ก็ชอบ ให้ผ่าน ก่อนที่เธอจะแอบกระซิบถึงหนุ่มในสเป็ค !
“ชอบผู้ชายที่โตกว่า มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดห่างกันเป็นสิบๆ ปีนะ (หัวเราะ) ชอบคนมีเหตุผล และเป็นผู้นำ ไม่ชอบคนที่แบบนิสัยเด็กๆ เพราะว่าเราก็ยังมีง้องแง้งแบบเด็กๆ บ้าง เลยอยากเป็นฝ่ายอ้อนมากกว่า”
ฝากผลงานทิ้งท้าย
“ความฝันเหรอคะ อืม..ก็คงอยากทำงานในวงการต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ฝันว่าอยากเล่นบทร้าย เพราะเอาจริงๆ เลยหนูอยากเล่นบทนางร้ายมากกว่าเป็นนางอีก เพราะนางเอกมันไม่สนุก ต้องนิ่งๆ แต่บทร้ายนี่มันใช้ความสามารถอารมณ์เยอะได้ปลดปล่อยเต็มที่กว่า ยิ่งทำให้คนดูแล้วอินเห็นหน้าแล้วเกลียดหมันไส้ได้นี่นะสุดยอดเลย อีกอย่างเพราะเสียงหนูไม่หวานด้วย ค่อนข้างห้าวๆ เลยไม่อยากเป็นนางเอก ส่วนงานในวงการอื่นๆ หนูอยากเป็นพิธีกรมาก เพราะหนูพูดเก่ง พูดได้เรื่อยๆ แต่ไม่มีสาระนะ(หัวเราะ)”
ท้ายสุด เธออยากฝากให้ติดตามผลงานละครเรื่องต่อไป “เร็วๆ นี้จะมีละครเรื่อง บุรำปรัมปรา เรื่องนี้หนูรับบทเป็น “ระรินดา” จะเป็นตัวละครที่มีทั้งสองบทบาทเลยค่ะ คือทั้งด้านร้ายและด้านที่ดูเรียบร้อย ฝากติดตามดูด้วยนะคะ ว่าหนูจะแสดงเป็นยังไง คงออนแอร์ประมาณเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีละครเรื่อง ดั่งพรหมลิขิตรัก อีกเรื่องซึ่งเพิ่งจะเปิดกล้องค่ะ” ก่อนที่สาวน้อยจะปิดท้ายบทสนทนาวันนี้ด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ พร้อมกับกาแฟที่หมดถ้วยลง...
“หากหนูขออะไรได้หนึ่งข้อ จะขอให้ได้อยู่ในวงการบันเทิงไปเรื่อยๆ ขอให้มีคนรักหนูเยอะๆ เท่านี้ก็พอค่ะ”
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : เจนิลา ปริญา แสนเมือง (เจนี่) (Jani , Janie)
เกิด : 9 สิงหาคม 2539 สูง 173 เซนติเมตร หนัก 51 กิโลกรัม (บางครั้งก็ 50 บางครั้งก็ 51 ค่ะแล้วแต่เครื่องชั่ง 55)
มีน้องสาว 1 คน อายุ 15 ปี
ของสะสม : ตุ๊กตาโอลาฟ (เต็มตู้ที่บ้านเลย)
แนวดนตรีที่ชอบ : อิเล็คโทรนิก้า (electronica) (ชอบแนวดีเจมาก)
ภาษาที่พูดได้ : อังกฤษ ไทย แล้วก็อีสาน (ก็คุณแม่เป็นคนอีสานนี่)
สถานที่โปรด : ทะเล (ชอบมัลดีฟส์ที่สุด)
อาหารโปรด : ข้าวมันไก่ กับส้มตำ (แน่นอนว่าต้องตำปลาร้า)
ผลงานเด่นๆ ที่ผ่านมา : ละครเรื่องกุหลาบซ่อนกลิ่น ช่อง 3, ละครเรื่องดาวเรือง ช่อง 3, โฆษณา Beauty Buffet, Trolli Candy, Bhaesaj, MV-แฟนไม่มีซะที BANKK CASH feat. WAY THAITANIUM, MV-ล้วง ZEE
ถ่ายนิตยสาร Cheeze Magazine,CLEO ฯลฯ
ขอบคุณภาพจาก IG-Janila_pariya , Janilafans
เรื่อง - ดาม่อน
ภาพ - ปัญญพัฒน์ เข็มราช
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754