ไม่จบง่ายๆ สำหรับดรามาธนาคารไทยพาณิชย์กรณีเลือกรับคนจากสถาบัน ล่าสุดเป็นคิวของอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่ออกมาฝากถึงผู้บริหารธนาคารว่าควรยึดหลักความเท่าเทียม ฟากนักศึกษาแม่โจ้บอก เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ไม่แคร์ ยันมีเวทีให้เลือกมากกว่านี้ ขณะที่นักวิชาการเสนอ 5 สิ่งที่ธนาคารควรทำ ด้านเอ็มดีไทยพาณิชย์แจงซ้ำยันนโยบายรับนศ.ทุกสถาบัน
เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีสถาบันการศึกษาที่ถูกเลือก ทั้งที่มหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนด้านบริหารธุรกิจ สำหรับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำให้ ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย เอ่ยปากฝากถึงผู้บริหารของธนาคารดังกล่าวไว้ในที่ประชุมเชิงวิชาการทางบริหารธุรกิจระดับชาติเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ควรยึดหลักความเท่าเทียม หรือหลักธรรมาภิบาลให้เสมอภาคกัน
ด้านนักศึกษาชั้นปี 4 คณะบริหารธุรกิจจากสองมหาวิทยาลัยซึ่งเรียนอยู่ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดรามาในครั้งนี้ บอกว่า ไม่แคร์ เพราะยังมีเวทีให้เลือกอีกมาก บอกเล่าได้จาก น.ส.พิมชบา รัตนธรรม นักศึกษาจากวิทยาลัยแม่โจ้ จากการสอบถามรุ่นพี่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เธอเผยว่า เป็นเรี่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ส่วนตัวในฐานะที่เรียนสายนี้มาถือว่าไม่แคร์ เพราะยังมีเวทีให้เลือกอีกมากมาย
เช่นเดียวกับ น.ส.ชนินาถ พริกยะกุล นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ที่เดินทางมาร่วมงานสัมมนาดังกล่าวด้วย กล่าวว่า ทางธนาคารไม่น่าจะเปิดเผยการรับสมัครบุคลากร โดยการจำกัดมหาวิทยาลัยออกมา แต่ถึงอย่างไรหากเรียนจบแล้วพวกตนก็มีทางเลือกอื่นอยู่
ถึงตอนนี้ แม้ทางธนาคารจะพยายามชี้แจงประเด็นดรามาดังกล่าว แต่ก็ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบ นี่คือข้อเสนอจาก "ธาม เชื้อสถาปนศิริ" นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) ที่ได้บอกถึงสิ่งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ควรทำไว้ 5 ข้อคือ 1. ผู้บริหารออกมาขอโทษ 2. ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น พักงาน ไล่ออก หรืออะไรก็ตาม 3. ผู้นำประกาศเป็นนโยบายใหม่ว่า ไม่มีการกีดกันต่อการเข้าทำงาน
4. ฝ่ายสื่อสารองค์กร คอยให้ข้อมูลที่แก้ไขแล้ว อย่างทั่วถ้วน และ 5. แผ่นข้อมูลนี้ (ข้อมูลชี้แจงเรื่องพนักงานใหม่ที่มาจาหลายสถาบัน) ควรออกมาชี้แจง อย่างโปร่งใสว่า สถาบันต่างๆ ที่รับเข้าทำงาน อยู่ในตำแหน่งอะไรบ้าง เป็นสัดส่วนเท่าไร
ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเห็นแย้งว่า องค์กรทุกแห่งมีสิทธิคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน แต่ควรเก็บไว้เป็นข้อมูลลับเฉพาะในองค์กร
"องค์กรทุกแห่งรวมทั้งภาครัฐย่อมต้องการคัดเลือกคนทำงานที่มีคุณภาพ ทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่เกี่ยวกับสัดส่วน ประสบการณ์ของหน่วยงานจะบอกว่าบัณฑิตจากที่ไหนตอบสนองงานองตนได้ดีที่สุด แต่คิดไว้ในใจ แม้แต่ภาครัฐก็มีวิธีคิดแบบนี้ แต่ภาครัฐโชคร้ายที่ไม่สามารถปลดคนที่มีประสิทธิภาพต่ำ
กรณีไทยพาณิชย์เป็นความผิดที่สมควรไล่ออกผู้รับผิดชอบโทษฐานปล่อยข้อมูลลับออกมา และหากมองในแง่วิกฤติคือโอกาส ราชภัฏก็ควรทบทวนตัวเอง สิ่งที่บัณฑิตพึงทำคือขยันทำงานเพราะชื่อสถาบันนั้นติดหน้าผากคุณอยู่ นี่ความจริงในโลกจริงๆ โลกจริงไม่สวยแบบโลกออนไลน์"
ล่าสุด มีหนังสือชี้แจงจากธนาคารไทยพาณิชย์อีกครั้ง แต่คราวนี้ "นายญนน์ โภคทรัพย์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ออกโรงเอง โดยระบุขออภัยในความบกพร่องที่เกิดขึ้น และได้มีคำสั่งให้ยกเลิกและนำประกาศฯ นั้นออกจากทุกสื่อโดยทันที ทั้งนี้ธนาคารฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งได้กำชับผู้เกี่ยวข้องให้ดูแลและป้องกันมิให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเอกสารที่ระบุเกณฑ์การรับพนักงานใหม่ที่ได้มีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 กลุ่ม ทางธนาคารฯ ยืนยัน และปฏิเสธอีกครั้งว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารของธนาคารฯ แต่อย่างใด
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
