xs
xsm
sm
md
lg

"ฮิวโก้" ถูกละเลงเละ! แฟนเพลง 100 ชีวิต รุมสร้างสุดยอด MV บ้าพลัง!! [ชมคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอาอีกแล้ว! กระแสเอ็มวี “Hailstorms” แชร์กันสนั่นเมืองยังไม่ทันจาง ผู้กำกับมือรางวัล ผู้สร้างสุดยอดแอนิเมชันบ้าพลังจนเว็บไซต์ “Vimeo” แหล่งรวมเทพแห่งวิดีโอจากทั่วทุกมุมโลกต้องออกมายกผลงานให้ขึ้นหิ้ง ก็ออกมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้ง!

ครั้งนี้พาแฟนเพลง 100 ชีวิตมาร่วมรุมยำภาพหน้า “ฮิวโก้” ศิลปินเจ้าของเพลงแบบจัดเต็ม เพื่อสอนเทคนิคและเอาไปทำเอ็มวีฉบับแฮนด์เมดไม่เหมือนใคร บอกเลยว่านี่คือครั้งแรกที่มี “ทีมงานบ้าพลัง” มารวมตัวกันมากที่สุดในเมืองไทย!!


(MV "Hailstorms" ละเลงหน้าเละ ฉบับแฟนเพลง)


 

น้ำตาจะไหล... สุดยอด MV บ้าพลังฉบับแฟนเพลง!

(ผลงานแฟนเพลง จากเวิร์กชอปแฮนด์เมด MV บ้าพลัง!)
“มีร้องไห้ด้วย!” ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ พูดไปหัวเราะไป ทันทีที่ได้เห็นช็อตภาพเคลื่อนไหว ผลงานแอนิเมชันเอ็มวีเพลง “Hailstorms” ฉบับแฟนเพลงที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษในงาน “Creative Workshop | HUGO Hailstorms by BEAR” เพื่อใช้เผยเบื้องหลังการทำสุดยอดเอ็มวีที่ฮอตที่สุดในวินาทีนี้ ฮอตถึงขนาดที่ว่ามียอดคนสมัครมาเข้าร่วมเวิร์กชอปทะลุยอด 100 คนไปถึง 3 เท่า หลังจากประกาศรับคนไปไม่กี่ชั่วโมง!
 
ที่เด็ดกว่านั้นคือ แม้แต่ “ต้น-ยศศิริ ใบศรี” เจ้าของไอเดียสุดเจ๋ง ผู้กำกับสุดยอดเทคนิคเอ็มวีตัวนี้ยังออกปากเองเลยว่า ผลงานของน้องๆ ที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้ ได้อารมณ์กว่าเอ็มวีต้นฉบับตัวจริงที่เขาทำเองเสียอีก เพราะมันคือการร่วมปลดปล่อยอารมณ์ของคนหลักร้อยลงบนหน้าของศิลปินอย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งนั้น

(ขั้นตอนการ "ละลาย" ใช้ฟองน้ำชุ่มๆ ละเลงหน้าฮิวโก้ให้เละ!)

 
แค่พรินต์ฟุตเทจหรือช็อตที่ถ่ายทำออกมา 500 ใบ แจกให้แฟนๆ คนละ 5 ช็อต แนะให้ใช้ฟองน้ำชุ่มๆ มาละเลงตามแบบเทคนิค “ละลาย” จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกคนลงสีวาดเส้นได้ตามใจ ก่อนถ่ายรูปช็อตฝีมือทั้งหมดนี้เอาไว้ ยัดกลับเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เรียงเฟรมภาพตามลำดับขั้น จนออกมาเป็นสุดยอดเอ็มวีบ้าพลังฉบับแฟนเพลงได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ต่างจากฉบับจริงที่ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนครึ่ง กว่าจะเสร็จสิ้นเอ็มวีแฮนด์เมด เพราะต้องทำกระบวนการเดียวกันนี้เป็นจำนวนถึง 4,000 ภาพ จากฝีมือของต้นและมือวาดอีกเพียงแค่ 2 คน!

(4,000 ช็อตจาก MV "Hailstorms" ต้นฉบับ ฝีมือผู้กำกับมือรางวัล "ต้น-ยศศิริ")
 
ความยาวเพลงมันเกือบๆ 4 นาที จริงๆ แล้วถ้าคิดจาก 1 วิฯ เท่ากับ 15 เฟรม ก็จะต้องพรินต์ออกมาประมาณ 3,600 เฟรม แต่เผอิญพรินต์ผิด (ยิ้ม) พรินต์ออกมา 4,000 ใบ ถึงช่วงที่วาดก็บอกให้ทีมวาดอะไรก็วาด ทำลายหน้าของพี่เขาให้เละ มันเลยสนุกทั้งคนวาด แล้วก็สนุกทั้งตัวผมเองที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเฟรมบ้าง ผมแค่ได้ไอเดียว่าไหนๆ พี่ฮิวโก้ก็มาเป็นอินดี้เต็มตัวแล้ว ผมเลยไม่อยากถ่ายหน้าพี่ฮิวโก้อีกต่อไปแล้ว พอดีกับเนื้อเพลงท่อนฮุคที่พูดว่า I’m ready for release. Hailstorms coming. คิดอยู่ว่าจะเล่าเรื่องยังไงว่าพี่แกโดนมรสุมมามากมาย ก็เลยละลายหน้าแกให้เละซะเลย
 


(ผู้กำกับ "ต้น" สาธิตกระบวนการ หลังละเลงและวาดจนหนำใจ ก็ถ่ายภาพเตรียมยัดกลับสู่ระบบคอมพ์อีกครั้ง)

ถ้าจะให้เทียบกัน ผมว่าเวิร์กชอปวันนี้สนุกกว่าตอนทำเอ็มวีจริงอีกนะ เพราะมันคือการรวมตัวกันของคน 100 คน แล้วก็วาดกันหลากหลายมาก และคราวนี้มันเป็นงานมือจริงๆ ไม่ใช่วาดแบบครึ่งคอมพ์ ครึ่งมืออย่างตอนที่ผมทำ นี่เป็นงานมือแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ทำให้ได้งานที่หลากหลายแล้วก็สนุกจริงๆ เวิร์กชอปนี้ไม่ได้กำหนดอะไรมากครับ แล้วแต่เลยว่าใครอยากจะวาดอะไร เพราะมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ได้วาดคนละ 5 รูป ได้ประมาณนี้ก็โอเคมากๆ แล้ว”

(ให้ผู้ร่วมเวิร์กชอปลองวาดทับฟุตเทจที่ถูกละลายแล้วตามจินตนาการ)

ขอให้มีชื่อผู้กำกับมือทองฝั่งอินดี้คนนี้แปะอยู่ รับประกันได้เลยว่าต้องมีอะไรสนุกๆ มานำเสนอเสมอ ล่าสุด ต้นกำลังจะเปิดโรงเรียนสอนออกแบบ "BEAR Visual Specialist School" อย่างเป็นทางการ คงต้องลองติดตามกันต่อไปว่าเวิร์กชอปครั้งหน้าจะออกมาในรูปแบบไหน ส่วนความคืบหน้าของเอ็มวี “Hailstorms” ก็ยังคงเปล่งประกายเจิดจ้าจากเทคนิคแอนิเมชันที่แสนโดดเด่นสะดุดตา ไม่เฉพาะในไทยเท่านั้น แต่เว็บไซต์ “Vimeo” กำลังส่งเอ็มวีตัวนี้เข้าประกวดในเทศกาลแอนิเมชันระดับโลกด้วย สงสัยว่าแค่รางวัล “Staff Picks” อันดับเอ็มวีห้ามพลาด จะน้อยไปเสียแล้วสำหรับปรากฏการณ์เอ็มวีสุดเจ๋งตัวนี้!


("Hailstorms" สุดยอด MV บ้าพลังจนฝรั่งให้ขึ้นหิ้ง)


 

ฮิวโก้ “ไม่ได้ตั้งใจ ขออภัยที่ทำให้ใครเดือดร้อน”

(Live Concert จากฮิวโก้ เล่นประกอบ MV "Hailstorms" ฉบับฝีมือแฟนๆ แบบสดๆ)
เอ็มวีเพลง “Hailstorms” ซิงเกิลจากอัลบั้มใหม่ "Deep In The Long Grass" โด่งดังเป็นพลุแตกขนาดนี้ “ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์” ศิลปินหนุ่มเครางามความสามารถระดับอินเตอร์บอกเลยว่า เป็นเพราะ “ความเชื่อใจ” กันของคนในทีม ทั้งทีมผู้กำกับเอ็มวี บริษัท หัวกลม (Huaglom) และตัวค่ายสังกัดใหม่ “Lullaby Entertainment, SO::ON DRY FLOWER” ที่ให้อิสระและช่วยสนับสนุนชีวิตที่ตอบโจทย์ของเขาได้อย่างลงตัว... ลงตัวยิ่งกว่า “Roc Nation” สังกัดเดิมเมื่อครั้งโกอินเตอร์เคยให้ได้ด้วยซ้ำ!

“ผมไม่เคยคาดหวังเลยครับว่าเอ็มวีตัวนี้มันจะเป็นยังไง ผมต้องชี้แจงว่าพี่ต้น (ยศศิริ ใบศรี ผู้กำกับเอ็มวีบ้าพลัง “Hailstorms”) นั่นแหละที่เป็นคนนำเสนอขั้นตอนและวิธีการทำงานให้กับเรา ส่วนพี่อาร์ท (ปณิธาน ตติยารัตน์ ค่าย “Lullaby Entertainment, SO::ON DRY FLOWER”) ผมก็รู้จักและเคยทำงานกับเขามาอยู่แล้ว และมิวสิกวิดีโอเพลง “สายลม” ก็เคยทำด้วยกันมาก่อน ผมเลยเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนขี้โม้ เป็นคนจริงใจ ซีเรียสเหมือนที่เราเป็นคนซีเรียส เราเลยเชื่อใจเขา

("เว็บไซต์เทพแห่งวิดีโอ “Vimeo” จัดให้เอ็มวี "Hailstorms" เป็น “Staff Picks” เอ็มวีที่ขอแนะนำว่าห้ามพลาด!!)

มันง่ายๆ เลย ใครถนัดอะไรก็ต้องได้ทำแบบนั้น ถ้าเราไม่ถนัด เราก็ต้องอย่าไปยุ่งมาก อย่าไปพยายามเป็นเผด็จการมากในทุกๆ ด้านของชีวิตนะครับ อะไรที่ผมรู้เรื่อง ผมก็จะไม่ยอม แต่อะไรที่ผมไม่ถนัด ผมก็จะเชื่อใจมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญครับ และผมเองก็สนใจเรื่องแอนิเมชันมาตั้งแต่เด็ก เรื่องการ์ตูน งานวาด ลายเส้น ผมชอบมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว และเข้าใจว่าขั้นตอนมันลำบากแค่ไหน

อะไรที่เราใส่ใจและใช้เวลากับมัน เสียเลือดเสียเหงื่อกับมัน มันจะเห็นเอง แต่ถ้าใช้คอมพ์ ทำและทำแบบเร็วๆ มันก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง มันก็จะไม่มีสิ่งที่เราสัมผัสได้ว่า มันเป็นอะไรสักอย่างหนึ่งที่มาจากความพยายาม ความใส่ใจ และการให้เกียรติในขั้นตอน คนดูเองก็สัมผัสได้ ทั้งๆ ที่อาจจะไม่ได้รู้เบื้องหลังด้วยซ้ำ และเอ็มวีตัวนี้มันก็สื่อออกมาได้ตรงกับความหมายของเพลงดีว่าเรารับสภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายยังไง ภาพการนั่งบนรถไฟ มันก็เป็นเหมือนเส้นทางสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้


ย้ายสังกัด กลับมาอยู่ประเทศไทย ออกมาเป็นอินดี้สุดทางแบบนี้ แตกต่างจากชีวิตที่เคยต้องระหกระเหินต่างถิ่นมากน้อยแค่ไหน? คนถูกถามตอบกลับมาอย่างฉับไวและให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมาอย่างแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด

มันแตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ต้องเจรจาอะไร และเราก็อยู่กับคนที่เราเชื่อมือ เชื่อใจ Roc Nation มันเหินห่างมาก เราอยู่กับยักษ์ใหญ่ซึ่งมองเห็นเราหรือเปล่า... ไม่รู้ แล้วเผลอๆ คราวนี้ตัวเลขที่ได้ก็เท่ากับชุดที่แล้ว หมายถึงตัวเลขการขาย เผลอๆ เงินเข้าตัวมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะว่าวงการเพลงแบบที่ผมทำกับ Roc Nation หรือที่เจอมาที่เมืองนอกก่อนหน้านั้นอีก มันยังเป็นเรื่องของศตวรรษที่ 20 ซึ่งการลงทุนแบบนั้น การควักงบแบบนั้น หรือวิธีคิดแบบนั้นว่าทุกอย่างต้องคิดต้องดัง บางทีเราไม่ได้เหมาะกับตรงนั้น ยิ่งเป็นคนอายุ 34 แต่งงานแล้ว มีลูก 2 ผมนี่ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรที่จะไปแข่งกับสาวอายุ 17 ที่ยังฮอต กำลังคบกับคนนู้นคนนั้น เที่ยวกับคนนี้คนนั้น มันคนละวงการไปแล้ว

วงการเพลงที่นู่นมันก็เหมือนกับวงการบันเทิงเต็มๆ ไปแล้ว ผมไม่เคยคิดจะไปอยู่วงการบันเทิงเลยเพราะผมเคยอยู่แล้ว ผมรู้ว่ามันเป็นยังไง ผมเลือกที่จะอยู่วงการดนตรี ผมเป็นศิลปิน ผมไม่ได้แค่เต้นกินรำกินอย่างเดียว ให้ย้อนกลับไป ตั้งแต่ทำวง “สิบล้อ” ผมก็ไม่เคยดูถูกผู้บริโภค ผมรู้สึกว่าเขารับได้ เขาใจกว้าง เขามีรสนิยม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรสนิยม คนไทยรู้จักความสวยงามอย่างลึกซึ้ง


ทุกวันนี้ ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลย ผมต้องการดำเนินอาชีพของผม รักษาขั้นตอน การทำงานที่ผมรัก ไม่เจรจาในเรื่องศิลปะหรือในเรื่อง Creative กับใคร แล้วก็ทำงานของผม ผมรู้สึกว่าผมถึงจุดหนึ่งที่ค่อนข้างสบายใจว่าไม่มีใครรู้อะไรมากกว่าเราในด้านงานของเรา มันไม่มีใครมาบอกผมได้หรอกว่า เฮ้ย! ทำอย่างนี้แล้วจะดัง หรือมันมีสูตรของมันอยู่นะว่าต้องทำแบบนี้ ปล่อยเพลงแบบนี้ ทำเพลงด้วยคอร์ดแบบนี้ๆ แล้วจะดัง มันไม่เกี่ยวเลย ทำอะไรที่มันดีน่ะ ไม่เสียหายหรอก อย่างมากก็... คนเมิน (ยิ้มบางๆ) อย่างดีก็คนชอบ

ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเกินได้ทำแล้วครับ ทำยังไงก็ได้ให้ผมได้เข้าห้องอัด ทำยังไงก็ได้ให้ใครไม่ต้องมาบอกผมว่า ผมต้องร้องเพลงนู้นหรือเพลงนี้ แค่นั้นผมก็มีความสุขแล้ว จะอยู่ค่ายนี้หรือค่ายอะไร เพียงแต่ว่าถ้าอยู่ค่ายใหญ่ ผมคงต้องมานั่งเถียงกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่อง เรื่องปก เรื่องเอ็มวีเรื่องอะไรแบบนี้ ซึ่งผมไม่เห็นว่าการทำอะไรให้มันดีหรือใส่ใจกับมันจะเสียหายตรงไหน เผลอๆ คนอาจจะชอบก็ได้ ผมรู้สึกว่าระบบค่ายใหญ่ๆ ชอบดูถูกคนไทย หรือชอบคิดว่าคนไทยมาตรฐานความเข้าใจต่ำ ชอบอะไรง่ายๆ


(ลายเส้นที่เรียกเสียงหัวเราะได้มากที่สุดในเอ็มวี "Hailstorms" ฉบับแฟนเพลง)
ลองดูอาหาร ลองดูรสชาติความหลากหลายของอาหารบ้านเราสิ คนไทยชอบอะไรแปลกๆ ต่างหาก ชอบอะไรตื่นเต้น รสชาติเตะลิ้น แล้วทำไมดนตรีหรือภาพ มันจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้ มันเป็นได้ (น้ำเสียงมุ่งมั่น) ได้อีกเยอะแยะ ผมเห็นเลยว่ามีเด็กแนวไม่ใช่กลุ่มน้อย มันคือส่วนมากด้วยซ้ำของคนที่ทำงานด้าน Creative หรือคิดอะไรสร้างสรรค์ เอาเวสป้ามาแต่ง ชอบแกะสลักไม้ เอากระป๋องมาทำนู่นทำนี่ ถ่ายรูปมาปรับนู่นปรับนี่ เอาพุดเดิลมาพ่นสีชมพู (ยิ้ม) มีอะไรก็โมฯ หมด

จริงๆ แล้ว ผมว่าพวกบริษัทใหญ่เขาไม่ค่อยเข้าใจประชาชนเท่าไหร่ คือเขาเข้าใจว่าเขามีระบบการปั๊มยัดเยียด แล้วเขาก็มีศิลปินเจ๋งๆ ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ที่ไหนก็รอด ตัวผมเอง ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร ผมว่าใครทำอะไรได้ก็ทำไปเถอะ นี่คือจุดยืนของผม ถ้าคุณทำงานห่วยๆ แล้วคนยังซื้อบัตร-ซื้อตั๋วไปดู นั่นก็ถือว่าเป็นโชคดีของคุณไป แต่งานดีๆ มันอาจจะไม่เจ๊งก็ได้ ทำอะไรให้มันดี ให้มันสวย มันไม่เสียหายหรอก และมันก็ไม่ได้แพงขึ้นด้วย เราแค่ต้องใส่ใจแค่นั้นเอง


ซิงเกิลต่อไปคืออีกเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องปิดเป็นความลับ ฮิวโก้บอกไว้ล่วงหน้าเลยว่ากำลังจะทำเอ็มวีตัวที่ 3 ออกมา เลือกแล้วว่าคือเพลง “Nightshift” ซึ่งมี “Hard Rock Cafe'” เข้ามาเป็นนายทุนให้ ส่วนจะสร้างปรากฏการณ์อะไรอีกหรือไม่ หรือเขากำลังจะเป็นศิลปินผู้เปลี่ยนแปลงวงการเพลงไทยอย่างที่หลายๆ คนได้ทำนายไว้หรือเปล่า ฮิวโก้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน บอกได้แค่ว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้...

ไม่ได้ตั้งใจ ขออภัยที่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่บางทีมันก็ถึงเวลาของคุณ คุณอาจจะต้องเกษียณแล้วก็ได้ ถ้าคุณเป็นคนหัวโบราณหรือเป็นคนเล่นรุ่น-เล่นพวก ก็เตรียมตัว”
 


 

เมืองไทยต้องการ “ผู้กำกับอึด-ถึก-บ้าพลัง!”

“โดยทั่วไป ผมว่าเอ็มวีไทยก็เป็นเอ็มวีที่ดีนะครับ แต่ยังขาดเทคนิคที่น่าสนใจ การเล่าเรื่องของคนไทยผมว่ามันโอเคในระดับสากลอยู่แล้ว แต่ด้วยเทคนิคที่มันธรรมดาจนเกินไป มันเลยไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ที่ผ่านมา” เท็ดดี้-รณกร พันธวงศ์ศุภกร นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต คณะดิจิทัลอาร์ท หนึ่งใน 100 คนผู้เข้าร่วมงาน “Creative Workshop | HUGO Hailstorms by BEAR” ช่วยวิเคราะห์ผ่านสายตาเด็กสายศิลป์และในฐานะว่าที่ผู้กำกับสุดแนวในอนาคต

(เท็ดดี้-รณกร ว่าที่ผู้กำกับหนุ่ม ร่วมสร้างเอ็มวีบ้าพลัง!)
“ถ้าผมจบไป มีโอกาสผมก็อยากทำเอ็มวีเหมือนกันครับ เป็นผู้กำกับหรือเป็นฝ่ายอาร์ตไดเร็กเตอร์ก็ได้ ถ้าให้พูดถึงงานด้านนี้ ผมก็อยากให้คนที่จะมาทำงานสายนี้เริ่มศึกษาเทคนิค ดูงานเยอะๆ ดูแนวทางของตัวเองไว้ว่าสไตล์ของเราเป็นแบบไหน เพราะสิ่งที่คนไทยขาดอย่างหนึ่งก็คือเรื่องเอกลักษณ์ของตัวเองครับ คนไทยไม่ค่อยมีสไตล์งานที่ชัดเจน แต่อย่างของพี่ต้น เขาจะใช้เทคนิคโบราณซึ่งน้อยคนมากที่จะมีคนไทยทำแบบนี้ครับ เพราะส่วนใหญ่ก็ใช้คอมพิวเตอร์ตัดกันหมดแล้ว คือผมไม่ได้มองว่าโลกเราก็ไม่ได้โหยหางานแฮนด์เมดนะครับ แต่คิดว่าคนดูเขาโหยหาสไตล์งานที่แตกต่างมากกว่า

ปกติแล้ว คณะดิจิตอลอาร์ตที่เรียนอยู่มันจะแบ่งเป็น 2 สาขาครับ คือ “Visual Effect” กับ “Computer Arts” คนที่เรียนสาย Visual Effect ส่วนใหญ่เขาจะวาดรูปกันไม่ค่อยได้ครับ แล้วก็ขาดเรื่องการครีเอต แต่จะเก่งด้านเทคนิคมากกว่า ส่วนผม เป็นคนที่เรียนด้าน Computer Arts ที่ชอบด้าน Visual Effect ด้วย และพี่ต้นเขาก็เป็นตัวอย่างของคนที่เอาสองศาสตร์นี้มาอยู่ด้วยกันในงานเดียวได้


ในฐานะคนที่เรียนด้านนี้ก็รู้สึกดีครับที่มีคนสนใจตัวเอ็มวีแล้วก็มาเวิร์กชอปกันขนาดนี้ มันทำให้เห็นว่างานแบบนี้ยังทำได้อยู่และมันก็ออกมาดีซะด้วย คนที่จะทำได้แบบนี้ก็คงต้องเป็นคนที่มีความชอบ ขยัน รักงานของตัวเอง และการจะเป็นผู้กำกับเอ็มวีได้ก็คงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตลอด ได้เห็นแบบนี้แล้วก็ดีใจครับ รู้สึกว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะอยู่ มันยังมีคนอยากจะทำอะไรแบบนี้อยู่ต่อไปเรื่อยๆ

ไม่อึดจริงทำไม่ได้! จัง-วรินทิพย์ วงศ์ภมรมนตร์ กราฟิกดีไซเนอร์ บริษัท 23 Perspective ขอร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วยคน หลังได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเอ็มวีทดลองฉบับแฟนเพลงครั้งนี้แล้ว


(จัง-วรินทิพย์ กราฟิกดีไซเนอร์สาว ร่วมละเลงหน้าฮิวโก้)
พอได้เห็นลายเส้นที่ตัวเองวาดได้ไปอยู่ในเอ็มวีจริงๆ ก็รู้เลยค่ะว่า 5 ภาพที่เราวาดไป เอามารวมแล้วมันไม่น่าจะถึง 1 วิฯ ด้วยซ้ำ เทียบกับที่พี่เขาทำเต็มเพลง ทำออกมาเป็นเอ็มวีจริงๆ ก็คงต้องทำหนักมากๆ วาดเกือบๆ 4,000 ใบ คงต้องดูเฟรมก่อนหน้าอีกเยอะเลยค่ะว่าต้องการให้ภาพที่วาดมันกลายเป็นภาพต่อเนื่องเล่าเรื่องไปยังไงได้บ้าง

ที่ขอมาเข้าร่วมเพราะได้เห็นเอ็มวีค่ะ เพราะมีคนแชร์กันว่าได้รางวัล Staff Picks ของ Vimeo ก็เลยคลิกเข้าไปดู แล้วก็ติดตามมาเรื่อยๆ จนได้มาเห็นข่าวว่าทาง BEAR (Visual Specialist School) เปิดทำเวิร์กชอป ก็เลยสนใจลองสมัครเข้าไป แล้วก็ทำให้ได้รู้ว่ากระบวนการทำงานแบบ step by step มันเป็นยังไง

ปกติ งานที่บริษัทจะเน้นงานดิจิตอลให้กับเว็บกับแอปฯ ซะส่วนมากค่ะ แต่ไม่ได้มาทางพวก Motion Graphic อย่างในเวิร์กชอปนี้ ตอนแรกที่ได้ดูเอ็มวีตัวนี้ก็ดูออกแค่ว่าน่าจะทำแบบ frame by frame ค่ะ เพราะเรียนด้านนี้มาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าที่เขาเอาภาพมาละลาย มันคือการพรินต์แล้วเอาฟองน้ำมาถู แล้วก็มีขั้นตอนวาดทับอีกที ตอนแรกก็สงสัยค่ะว่าพี่เขาวาดมือทับรูปจริง หรือวาดในคอมพ์ แต่ก็ได้มารู้เบื้องหลังจริงๆ ในงานนี่แหละค่ะ

หนูว่าเอ็มวีทุกวันนี้มีแต่เล่าเรื่อง ใช้คนแสดงเป็นหลัก มันก็จริงว่าพูดถึงเนื้อเพลงได้เหมือนกัน แต่มันก็ดีค่ะที่มีคนทำให้การเล่าเรื่องมันต่างออกไปด้วยวิธีอื่น และเอ็มวีตัวนี้มันก็เป็นผลงานที่ดีของทั้งวงการเพลงแล้วก็วงการศิลปะเลยค่ะ ถ้าอยากให้มีงานเจ๋งๆ แบบนี้ออกมาเยอะๆ ทางผู้จัดก็อาจจะต้องให้อิสระกับคนทำเอ็มวีด้วยค่ะว่าจะทำงานออกมาในรูปแบบไหน ถ้าถามหนู เพื่อนก็แชร์เอ็มวีตัวนี้กันเยอะนะคะ อาจจะเพราะในเฟซบุ๊กมีเพื่อนที่เรียนสายเดียวกันเยอะ เราก็พยายามจะช่วยแชร์ มีติดแฮชแท็กด้วย (#Hugo #Hailstorms)”

“ถ้าให้เทียบกับเอ็มวีตัวอื่นๆ ในไทย ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวนะคะที่กล้าทำแบบนี้ เพราะถือว่าทำยาก... ยากในแง่ความอึด” ดิว-ปภารีย์ แสงดารา โปรดิวเซอร์ บริษัท ดิอายส์ จำกัด อีกหนึ่งคนที่เข้าร่วมเวิร์กชอปช่วยแชร์ไอเดีย

(ดิว-ปภารีย์ โปรดิวเซอร์สาว ขอระบายผ่านลายเส้นด้วยคน)
“โดยปกติก็ไม่ได้เป็นคนที่ดูเอ็มวีเยอะเท่าไหร่ค่ะ จะเลือกดูตามที่ตัวเองสนใจ แต่จากภาพรวมที่เห็น คิดว่าเอ็มวีส่วนใหญ่จะทำออกมาคล้ายๆ กัน หมายถึงพวกโทนสีหรือการเล่าที่มันจะซีดๆ คล้ายๆ กับเวลาที่เขาพูดถึงฮิปสเตอร์ถ่ายรูป เหมือนเป็น reference ที่ถูกนำเสนอออกมาซ้ำๆ ให้คล้ายๆ กันไปหมด ซึ่งคนทำอาจจะมองว่ามันเป็นคาแร็กเตอร์ที่เก๋และเท่ แต่จริงๆ แล้วมันซ้ำกันไปหมดแล้ว ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างออกมาเท่าไหร่ การจะเกิดงานดีๆ สักตัวหนึ่งออกมาได้ คงจะต้องเริ่มจากวิธีการคิดก่อนค่ะที่ให้ต่างจากคนอื่น ต่างจากท้องตลาดทั่วไป หยิบนู่นมาผสมนี่ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ

ที่มาเข้าร่วมเพราะได้ดูเอ็มวีตัวนี้ เพราะเคยได้อ่านสัมภาษณ์ของคุณต้น แล้วก็เคยตามงานของเขามาระดับหนึ่งด้วยก็เลยสนใจค่ะ คิดว่าเป็นเทคนิคที่คนทำต้องถึกจริงๆ (ยิ้ม) ไม่ค่อยมีคนทำด้วย ก็เลยอยากมาดูว่าวิธีการคิดของเขาเป็นยังไง อยากรู้ว่าเขาคิดอะไรทำไมต้องทำออกมาเป็นรูปแบบนี้ ตอนที่ดูเอ็มวี “Hailstorms” ครั้งแรก เดาไม่ออกเลยค่ะว่าเขามีเบื้องหลังการทำยังไง รู้ว่าแค่ทำแอนิเมชัน แต่ไม่รู้ว่าจะ Manual ทำมือ ต้องเอาฟองน้ำมาซับกันขนาดนี้ เสียดายที่ระยะเวลาของเวิร์กชอปนี้มันค่อนข้างสั้นไปหน่อย อยากให้จัดสักครึ่งวันหรือเต็มวัน อยากให้เขาพาเราทดลองทำเทคนิคอย่างอื่น อยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้หรือแบบไหนได้อีก


เพราะทุกวันนี้ ทุกอย่างมันสำเร็จรูปไปหมดแล้ว เรามีพวกสต๊อกฟุตเทจที่เราซื้อมา มีทั้งภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ มีเท็มเพลตทุกอย่างที่เราสามารถซื้อมาอย่างง่ายดายเพื่อเอามาทำงานในเชิงพาณิชย์ แต่งานที่ค่อนข้างใช้ความถึก เป็นงาน Manual งานที่ต้องใช้แรงมากๆ อย่างนี้ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนทำ พอมีคนทำขึ้นมา มันก็เลยเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น ทำให้คนรู้สึกว่ามันน่าสนใจเพราะทุกวันนี้มันหาดูได้ยากจริงๆ ถ้าไม่ใช่ฝรั่งทำ

ที่เอ็มวีตัวนี้ดังไกลไปถึงเมืองนอก มันก็เป็นความรู้สึกดีใจลึกๆ นะคะ เพราะเราก็ไม่ค่อยเห็นว่ามันจะมีงานคนไทยที่เป็นในเชิงวิดีโอแบบนี้ออกมามากเท่าไหร่ พอมีคนทำขึ้นมามันก็ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าไปสู่วัยทำงาน หรืออยากทดลองอะไรใหม่ๆ ได้ยึดเขามาเป็นไอดอลในงานสายนี้



("Hailstorms" สุดยอด MV บ้าพลังจนฝรั่งให้ขึ้นหิ้ง)

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
เรื่องและคลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ: วชิร สายจำปา
ขอบคุณข้อมูลบางส่วน: งาน “Creative Workshop | HUGO Hailstorms by BEAR”, แฟนเพจ “Hugo”, "Lullaby Entertainment, SO::ON DRY FLOWER", “Huaglom” และ เว็บไซต์ "BEAR the School"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- “Hailstorms” สุดยอด MV บ้าพลังของไทย! เล่นใหญ่จนฝรั่งให้ขึ้นหิ้ง!!




รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น