ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหว เมื่อมีการเสนอแก้ไขร่างพ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลพ.ศ.2517 เปิดโอกาสหวยออนไลน์ หวยขูด กลับมาเป็นข้อเสนอควบคุมราคาหวยในภาพรวม
แต่หวยออนไลน์เคยตกเป็นประเด็มโจมตีจากหลายฝ่ายในยุคสมัยหนึ่งจนตกไป แม้ความเคลื่อนไหวล่าสุดจะมีการเพิ่มรายละเอียดถึงขั้นห้ามค้าสลากบริเวณสถานศึกษา วัดและห้ามขายให้กับเยาวชนก็ตาม
จนถึงตอนนี้ปัญหายังคงรุมเร้าไม่ว่าจะเป็นการควบคุมราคาจนถึงการจัดการกับกลุ่มอิทธิพลหวยที่ยังคงบีบให้ผู้ค้ารายย่อยต้องรับภาระแก่สิ่งที่เกิดขึ้น!
ริบคืนความสุขประชาชน
หลังจากคสช.เดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งฯ ขายเกินราคาอย่างจริงจัง แต่ก็ยังคงไร้ผลเมื่อราคาบนหน้าแผงยังปรับตัวขึ้นลงเกินกว่าราคา 80 บาทอยู่ ผู้อยู่เบื้องหลังราคาหวยที่ยากจะควบคุมนั้นคือระบบการค้าสลากในยุคปัจจุบันที่มีการให้โควตาและมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันจนราคาต้องพุ่งสูงขึ้น จนท้ายที่สุดจึงเกิดเป็นนโยบายหวยออนไลน์ขึ้น เพื่อเข้าแก้ไขสภาพการณ์ที่เป็นอยู่
โดยในวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในรายการคืนความสุขแก่คนในชาติว่า ตอนนี้ทุกคนอยากให้ลดราคาลอตเตอรี่เหลือ 80 บาท จุดเริ่มต้นตรงนี้ต้องไปเริ่มตั้งแต่การแก้ไขกฎหมาย ดูเรื่องการจัดระเบียบผู้จำหน่าย การจัดสถานที่ขาย ไม่ต้องรับมาจากคนกลาง โดยอาจต้องมีหวยตู้ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา
“รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังนำเงินที่ได้ส่วนนี้มาทำประโยชน์ หรือสนับสนุนให้คนเล่นพนันมากขึ้น ซึ่งเรื่องหวย 2 ตัวหรือ 3 ตัว ยังไม่มีใครคิดจะทำและไม่คิดจะทำด้วย ส่วนเรื่องของเครื่องมือหรือตู้ต่างๆ บางคนก็ระแวงว่า มีตู้เก่า โดยเรื่องนี้จะชัดเจนภายใน 6 เดือน แต่ถ้าหากมันยุ่งยากมากก็จะยกเลิกลอตเตอรี่ดีไหม จะได้ไม่ต้องซื้อขายกัน แต่คงเลิกไม่ได้ เพราะคนรายน้อยก็จะบอกว่าปิดช่องทางทางความสุขอีก และกล่าวหาว่า ไม่ได้คืนความสุขจริง”
ในส่วนของการเดินหน้าแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.สลากฯ พ.ศ.2517 ที่ ครม.พิจารณาและเห็นชอบนั้น หากดำเนินการแก้ไขกฎหมายแล้วเสร็จ สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ทุกอย่าง เช่น หวยขูด หวยออนไลน์ เป็นต้น
ถึงตอนนี้การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากไม่มีการแก้ไขจะเสนอให้ครม.อีกครั้ง ก่อนส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเมื่อผ่านวาระ 3 แล้วก็พร้อมที่ดำเนินการขายสลากฯ ผ่านตู้ได้ทันที ซึ่งบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ยังคงเป็นคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ เหมือนเดิม
ในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ยังมีการเปิดช่องให้สำนักงานสลากฯ สามารถขายสลากกินเเบ่งรัฐบาล บริเวณประเทศเพื่อนบ้านได้ และอีกส่วนที่สำคัญคือการดูแลสังคมและเยาวชนมากขึ้น โดยมีกฎการห้ามขายสลากฯ บริเวณสถานศึกษา วัด และห้ามขายให้แก่เยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี
นโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ส่วนหนึ่งอาจคืนความสุขให้คอหวยที่จะได้ลุ้นได้ซื้อสลากกันในราคาที่ถูกลง แต่กับพ่อค้าแม่ขายที่ต้องอยู่กับการค้าขายหวยแบบดั้งเดิมนั้นอาจเป็นการริบคืนความสุขที่คนกลุ่มนี้มีจากรายได้ในการค้าขาย
ค้านหัวชนฝาหวยออนไลน์
เพียงมีสัญญาณว่าหวนออนไลน์จะกลับ บริษัทคู่ค้าเดิมก็เตรียมตัวพร้อมมือ ระยะเวลาของการกลับมาครั้งนี้อาจไม่นานเกินรอสำหรับคอหวย แต่หลายฝ่ายก็ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยมองว่าอาจไม่เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หนำซ้ำยังอาจจะซ้ำเติมปัญหาให้ยิ่งทบทวีขึ้นด้วย
อำนวยพร เกิดพุ่ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า การแก้กฎหมายสำนักงานสลากฯ เพื่อเปลี่ยนจากสลาก 6 หลัก ที่จำหน่ายเป็นใบๆ อย่างในปัจจุบันมาเป็นสลากออนไลน์ 6 หลัก ซื้อผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ถือว่าแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้านที่ต้องการซื้อหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ดังนั้น หากต้องการสู้กับหวยใต้ดินควรจะออกรางวัลหวยออนไลน์ 2 ตัว 3 ตัว แม้ในช่วงแรกจะคุมปัญหาสลากเกินราคา เพราะขายผ่านเครื่อง แต่กังวลว่า หากมีเลขดังในแต่ละงวด มีบางคนซื้อเลขดังจนหมดตู้แล้วนำมาขายข้างนอกราคาสูงขึ้น ก็อาจเกิดปัญหาการขายสลากฯ นอกตู้เกินกว่าราคาในตู้ออนไลน์
นอกจากนี้ ควรกำหนดให้ชัดเจนเกี่ยวกับการซื้อสลากฯ 6 ตัวออนไลน์ เพราะหากปล่อยให้ทุกคนซื้อเลขดังแบบไม่อั้นจะทำให้เกิดปัญหาการซื้อจากเครื่องจำนวนมากในเลขที่ทุกคนต้องการ ทำให้ต้องจ่ายรางวัลน้อยลง เช่น เลขท้าย 2 ตัว รางวัล 2,000 บาท หากประชาชนแห่ซื้อจำนวนมากจะทำให้รางวัลลดลง ดังนั้น จึงควรกำหนดหมายเลขตามจำนวนมาใช้ออนไลน์ให้ชัดเจน
ด้านสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของบอร์ด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะเป็นการเปิดกว้างให้ผู้ค้าสลากฯ รายใหญ่ที่เป็นร้านสะดวกซื้อและห้างเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายสลากฯ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีรายได้สูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจัดสรรสลากฯ เพื่อเพิ่มรายได้ แม้หลักการเห็นว่าการเพิ่มช่องทางการขายจะช่วยทำให้ราคาสลากฯ ถูกลง แต่ควรจะจัดสรรให้แก่ผู้ค้ารายย่อยที่มีรายได้น้อยจริง
“รัฐบาลจะต้องลงตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกรายว่าจำนวนผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่ไม่มีโควตาและมีรายได้น้อยมีจำนวนเท่าใด จึงจะสามารถเพิ่มช่องทางการขายสลากฯ ทำให้ราคาสลากฯ ถูกลง และผู้ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น”
เสียงสะท้อนจากในคนวงการ
ตัวละครสำคัญนอกจากภาครัฐที่มีหน้าที่ดูแลจัดการสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว เหล่าผู้ค้ารายย่อยจนถึงผู้ซื้อถือเป็นกลจักรสำคัญหนึ่งที่จะทำให้การอยู่ของสลากกินแบ่งรัฐบาลสร้างคุณประโยชน์สูงสุด
สันติ โชติชัย พ่อค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย เผยว่าที่ผ่านมาราคาขายยังอยู่ที่ 80 - 120 โดยมีการเข้ามาคุมเข้มบ้าง แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นไปตามกลไกตลาด
“เลขดีเลขเด็ดมันก็ยังแพงอยู่เพราะระบบมันยังเป็นแบบเดิม กำไรก็ไม่ได้มากขึ้น ภาครัฐคุมราคาจากพวกที่ได้โควตาไม่ได้ โควตามันก็ไม่ถึงมือประชาชนจริงๆ”
ในส่วนของการขายออนไลน์นั้น เขามองว่าเป็นน่าจะเป็นปัญหาสำหรับรายย่อย เพราะถ้าขายในตามห้างร้านสะดวกซื้อ ออกหวยตามเครื่องอัตโนมัติคนทั่วไปอาจจะไม่เลิกมาซื้อกับรายย่อย
“ผมไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยให้ราคามันเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน สลากฯ ที่รายเล็กรายน้อยรับมามันจะราคาตกลงมาหรือเปล่า เพราะถ้าราคาไม่ตกลงมา แบบนี้ผู้ค้ารายย่อยลำบากแน่นอนเพราะเจอคู่แข่งรายใหญ่อีก”
ในส่วนของการขายในบริเวณสถานศึกษานั้น เขามองว่า เด็กและเยาวชนไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะเล่นหวย หากจะมีการตั้งใกล้โรงเรียนนั้นก็อาจเป็นเพียงทำเลที่ขายดีมีคนสัญจรผ่านเยอะเท่านั้น
“ผมขายอยู่ก็แทบไม่มีขายให้เด็กๆ หรือเยาวชนนะ ถ้าไปตั้งใกล้โรงเรียนมันก็น่าจะมาจากที่มันเป็นทำเลที่ดีน่ะ แต่ความตั้งใจคือไม่ได้ตั้งใจจะขายเด็กๆ หรอก”
ขณะที่ด้านเนื้อหาการห้ามขายในวัดนั้น เขามองว่ามีผู้ค้าหลายกลุ่มที่เข้าไปขายในวัดตามงานพิธีต่างๆ ซึ่งมักจะมีเลขให้ซื้อหามาเป็นการเสี่ยงดวงอยู่บ่อยๆ
“พอไหว้ขอพรอะไรเสร็จก็เล่นหวยกันพอขำๆ เสี่ยงดวงบ้าง ตามงานศพก็มีบ่อยๆ ที่ผู้ค้ามักเข้าไปขายซึ่งคนมาร่วมงานก็มักจะซื้อตามเลขที่เกี่ยวพันกับผู้เสียชีวิต คนก็เล่นกันไปตามแต่อยากจะเล่นเท่านั้นเอง ตรงนี้ก็ถ้ามีกฎออกมาก็คงต้องปฏิบัติตาม”
สำหรับการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนั้น เขามองว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกอย่างที่เป็นอยู่ เพราะผู้ค้าก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด เป็นอุปสงค์ - อุปทานของตลาดที่มีอยู่แล้ว
“ถ้ามันแพงเกินไปคนก็คงไม่ซื้อ มันก็เป็นไปตามกลไกตลาด พ่อค้าแม่ค้าขายไม่ออกก็ต้องลดราคาพอใกล้วันหวยออก สิ่งที่อยากให้ทำคือคุมคนที่ได้สลากฯ มือแรกให้มันมีโควตาที่ยุติธรรม ไม่ใช่ให้คนบางคนมายาวนานแล้วสุดท้ายก็มีการเอามาค้ากำไร แบบนี้มันทำให้เงินไม่ตกไปถึงมือกองสลากฯ แล้วถ้าไม่มีการควบคุมเลย ราคามันจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก”
ทางด้านของ จินดา มีแก้ว ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มองในทิศทางเดียวกัน พร้อมระบุว่าภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้การค้าขายหวยยิ่งยากลำบากยิ่งขึ้น โดยกำไรที่ได้ก็แทบจะไม่พอกิน หลายครั้งก็ต้องจำใจขายเข้าเนื้อเพื่อให้ได้ทุนกลับมา
“มาตรการควบคุมราคาที่ออกมาสำหรับผู้ค้ารายย่อยมันไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นะ คือโควตามือแรกที่ปล่อยมามันก็ราคาสูงกว่าที่เขาตั้งไว้แล้ว พอให้มีทหารมาคุม มีตำรวจมาคอยดู มันก็เข้าเนื้อเรา สุดท้ายมันไม่ไหวผู้ค้าก็ต้องขายไปตามราคาที่มันเป็น”
ในส่วนของหวยออนไลน์ที่มีข่าวจะกลับมาอีกครั้ง เธอเผยว่ายังไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะเกิดมากนัก คนอาจหันไปเล่นหวยออนไลน์ทั้งหมดจนผู้ค้ารายย่อยอยู่ไม่ได้ อยู่ที่รายละเอียดว่าจะเป็นยังไง
“เราไม่รู้อะไรกับหวยออนไลน์มากนัก ตอนนี้ก็มีแต่ยังหวั่นๆ กลัวๆ อยู่ ช่วงนี้ก็แย่ คนซื้อหวยกันน้อยมาก สลากยังเหลือเต็มเลย พวกเราก็ต้องรับภาระตรงนี้ไปอีก”
ทางด้านของผู้ซื้อ ชาติ ชลวิทย์ คอหวยที่มาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่เป็นประจำมองว่า การควบคุมราคาถือว่าเป็นไปได้ดีในระดับหนึ่ง
“ราคามันก็พอๆ กับราคาเดิมที่ซื้อมานะ บางงวดก็มีลดลงบ้าง เพราะเมื่อก่อนมันมีช่วงหนึ่งที่ขึ้นไปแพงเลย ถือว่ามีส่วนควบคุมอยู่บ้าง ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีทหารมายืนๆ คุมอยู่ ราคาก็มีลดลง แต่เลขเด็ดมันก็จะอีกราคาตามสภาพ”
ในส่วนของหวยออนไลน์รวมถึงแนวคิดที่กำลังจะออกมา เขามองว่า อาจทำให้คนเล่นหวยสะดวกขึ้น แต่บรรยากาศในการเดินหาเลขเด็ดเดิมๆ ก็อาจจะหายไป
“มันก็ดีนะครับเพราะไม่เสียเวลา แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้ค้ารายย่อยจะเป็นยังไงต่อไป”
…
หวย หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นถือเป็นการพนันที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเพื่อเป็นรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย นอกจากคำนึงถึงความบริโภคที่ต้องการเสี่ยงโชคแล้วจึงต้องคำนึงถึงผู้ค้าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการกระจายรายได้อีกด้วย
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754