คู่รักสาดน้ำร้อนใส่แอร์โฮสเตส, ล้มกำแพงกั้นในวัดพระแก้ว, ตบกันสนั่นบนเครื่องบิน นี่คือนิสัยสุดห่วยของชาวจีนที่คนทั่วโลกยี้และต่างรับไม่ได้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ต้องจัดระเบียบนักท่องเที่ยวใหม่ หรือต้องยอมเพราะชาวจีนคือบุคคลที่สร้างรายได้มากมายให้กับประเทศไทย?
ยอมได้หรือ? ประเทศไทยถูกย่ำยี
ในช่วงที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าว 'ทัวร์จีน' โหมกระหน่ำอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คู่รักนักท่องเที่ยวชาวจีนสร้างความวุ่นวาย ก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่แอร์โฮสเตสบนเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย เหตุเพราะไม่ได้นั่งที่นั่งติดกัน
ก่อนที่จะเกิดเหตุดรามาเพิ่มอีกระ]อก เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่ง เดินทางเข้าเยี่ยมชมวัดพระแก้ว และก่อเหตุล้มกำแพงกั้นในวัด จนเกือบชนจิตรกรรมฝาผนัง หนำซ้ำยังต่อปากต่อคำกับเจ้าหน้าที่ฯ แต่แล้วกลับต้องถึงคราวเงิบเพราะถูกกล้องCCTVบันทึกหลักฐานไว้ได้ขณะลงมือ
ล่าสุด นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ยังก่อความวุ่นวายบนเครื่องบินอีกครั้ง โดยสำนักข่าวในประเทศจีนได้รายงานว่า มีหญิงสาว 2 คนตบกันสนั่นบนเครื่องแอร์ไชน่า เหตุเพราะหญิงสาวฉุนเด็กที่นั่งเบาะหลังเธอส่งเสียงดังตลอดเวลา จึงเกิดการโต้เถียงกันกับครอบครัวของเด็กคนดังกล่าวขึ้น จนถึงขั้นลงไม้ลงมือทำให้ลูกเรือต้องรีบมาช่วยห้าม
ทั้งหมดทั้งมวล ที่กล่าวมายิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก ทางทีมข่าวASTV ผู้จัดการ Live จึงได้สอบถามไปยัง “กรวรรณ สังขกร” นักวิจัย (ชำนาญการพิเศษ) สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิจัยซึ่งเคยศึกษาเรื่อง พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ :กรณีศึกษานักท่องเที่ยวจีนในจังหวัดเชียงใหม่ และนี่คือความเห็นของเธอ
“ที่เกิดพฤติกรรมแบบนี้ จากการวิจัยพบว่ามาจากการที่เราขาดการสื่อสารที่เป็นภาษาจีนที่จะให้เขาได้ทราบว่าอันไหนควรทำหรือไม่ควรทำ คือเมื่อก่อนจะมีแต่พวกป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษ เวลาประกาศอะไรก็จะมีแต่ภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น เมื่อคนจีนเข้ามาก็จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง หรือว่าอ่านภาษาอังกฤษได้ มันเลยทำให้เกิดกลายเป็นปัญหาตามมา
ทีนี้เราก็ต้องเริ่มจากการจัดป้ายให้เป็นภาษาจีนมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย ตอนนี้จะเห็นได้จากหลายหน่วยงานที่พยายามจะปรับตรงนี้เหมือนกัน ตอนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ของเชียงใหม่ได้ออกเอกสาร 'do and don't' ขึ้นมา บอกรายละเอียดถึงสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ เมื่อมาเที่ยวในประเทศไทย แต่การเผยแพร่ตรงนี้อาจจะยังไม่ถูกนำไปสู่นักท่องเที่ยวจีนทุกกลุ่ม เลยเกิดเป็นปัญหาตามมา”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักท่องเที่ยว “ชาวจีน” ที่มาเที่ยวประเทศไทย ถือว่าเป็นเชื้อชาติอันดับต้นๆ เลยทีเดียว และหากจะห้ามคนจีนเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาเที่ยวในบ้านเรา เห็นจะเป็นไปไม่ได้เพราะนั่นอาจส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน และอาจทำให้ชาวจีนมองว่าไทยไม่ต้อนรับเขาขนาดนั้นเชียวหรือ
“จริงๆ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็มีหลายกลุ่มนะคะ จากเมื่อก่อนที่นักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย แต่ตอนนี้ชาวจีนเข้ามาเยอะมาก และนักท่องเที่ยวจริงๆ ก็มีทั้งดีและไม่ดีที่เข้ามา แต่เปอร์เซ็นต์ที่ทำความเดือดร้อน เราอาจจะเห็นจากคนจีนเยอะซะมากกว่า
ส่วนในกรณีของชาวจีนที่ล้มกำแพงวัดพระแก้วนั้น มองว่าเขามาเป็นกลุ่มใหญ่ ความคึกคะนองของเขาก็จะมีมาก และไม่แน่ใจว่าตรงนั้นจะมีป้ายสัญลักษณ์ห้ามอะไรหรือเปล่า เราคงต้องเพิ่มตรงนั้นลงไป หรือเพิ่มเจ้าหน้าที่ ที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้
เรื่องของการห้ามคนจีนที่ก่อเหตุความวุ่นวาย ห้ามเข้ามาเที่ยวประเทศไทยอีก เรื่องนี้ถือว่าเป็นนโยบายระดับประเทศเลยค่ะว่ามีการห้ามหรือไม่ห้าม ถ้าเกิดเราห้ามคนจีนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้มาเที่ยวในประเทศไทยมันจะต้องเกี่ยวข้องไปหมด เช่น เรื่องของ ตม เรื่องของทัวร์ สถานทูตจีนด้วย
อาจจะส่งผลต่อไปอีกว่า ประเทศไทยไม่ต้อนรับชาวจีนขนาดนั้นเชียวหรือ มันก็จะส่งผลกระทบในภาพกว้างคือ ทำให้นักท่องเที่ยวจีน เขาไม่อยากจะเข้ามา อันนี้อาจจะต้องเป็นเรื่องของนโยบายของรัฐบาลว่าจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร”
โลกนี้อยู่ได้ด้วยนักท่องเที่ยวจีน
นักท่องเที่ยวชาวจีน แม้จะนำรายได้อย่างมหาศาลเข้าประเทศไทย แต่ก็ยังถูกทั่วโลกมองว่าเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมสุดห่วยและต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเดียวกันว่า ไม่เรียบร้อย, ไม่มีอารยธรรม, ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย และไม่มีมารยาทเอาเสียเลย เกี่ยวกับเรื่องนี้นักวิจัยชำนาญการพิเศษ มีความเห็นว่า
“อย่างแรกเลยอาจจะต้องดูจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกจากนอกประเทศเขานะคะ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกนอกประเทศมีจำนวนแค่ล้านเศษๆ เขาคาดการณ์ว่าปี 2014 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนออกนอกประเทศถึง100 ล้านคน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เยอะมากๆ เปอร์เซ็นต์ที่คนเป็นพฤติกรรมแบบนี้จึงค่อนข้างที่จะเยอะมากนะคะ
ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่านักท่องเที่ยวจีนประเทศเขาเป็นแบบคอมมิวนิสต์ ก็เลยทำให้พวกเขาเกิดพฤติกรรมที่มีลักษณะที่เป็นสังคมแบบคอมมิวนิสต์ การอยู่ การกิน คือเกิดมีการแก่งแย่งกันเยอะ เลยอาจทำให้พวกเขาเกิดอารมณ์เสียง่าย คือจริงๆ พวกเขาจะมีลักษณะเป็นแบบนี้พอเขาออกมานอกประเทศ เขาจึงรู้สึกว่าเขาเป็นคนหมู่มากและเวลาที่ทำอะไรอาจจะไม่ค่อยเกรงใจคนอื่นมากนัก”
ในทางกลับกัน “ไชยงศ์ เจริญเมือง” ที่ปรึกษากรรมาธิการท่องเที่ยวในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กลับมองว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้มีส่วนสร้างรายได้มากมายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
“เราคงจะพูดว่านักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสร้างความเสียหายต่อประเทศไม่ได้ ผมไม่อยากให้ใช้คำนี้ชัดเจน นักท่องเที่ยวทุกชาติมันก็มีดีมีเลว แต่โดยรวมนักท่องเที่ยวจีนคือกลุ่มที่เข้ามาช่วยจุนเจือการท่องเที่ยวของเราให้อยู่ได้ในพ.ศ.นี้ ทีนี้การที่เราจะไปมองเขาเรื่องดีไม่ดี มันอาจจะมาจากที่เราไม่ค่อยเข้าใจเขา หรือเรายังไม่ค่อยเข้าใจธรรมชาติของเขามากกว่า”
ส่วนเม็ดเงินมหาศาลที่เกิดจากการท่องเที่ยวของชาวจีนนั้น เขาเผยว่า เป็นเพราะประชากรที่มากมายทำให้นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของโลก
“นักท่องเที่ยวจีนเขาเป็นนักท่องเที่ยวโลก เดี๋ยวนี้โลกอยู่ได้ด้วยนักท่องเที่ยวจีน ถ้าขาดนักท่องเที่ยวจีนก็หมดแล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย เราที่อาศัยนักท่องเที่ยวจีนถึงจะอยู่ได้ ส่วนความเสียหายอะไรต่างๆ ผมไม่อยากให้เรามองไปจุดนั้นจุดเดียว”
โดยเหตุความเสียหายที่เกิดจากพฤติกรรมมากมายของนักท่องเที่ยวจีนนั้น เขามองว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการบริหาร การวางกฎเกณฑ์ของรัฐบาลในส่วนของการท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยวเท่าที่ควร
“มันอยู่ที่การบริหารและกฏเกณฑ์ของรัฐบาลที่จะใช้กับนักท่องเที่ยวจีนด้วย เรื่องของเรื่องคือรัฐบาล เจ้าหน้าที่เองมันมีอัตรากำลังไม่พอ และก็ยังไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าที่ควร ทีนี้จะบอกว่านักท่องเที่ยวจีนทำให้เสียหาย มันอยู่ที่รัฐจะตั้งรั้ว ตั้งกฏเกณฑ์ไว้อย่างไรเพื่อที่จะป้องปรามให้ได้ ทุกวันนี้มันเกิดก็เพราะเรา ตัวบทกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ที่จะควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปโดยเรียบร้อยมันไม่ค่อยมี”
เขาเผยเพิ่มเติมว่า ชาวจีนนั้นไปท่องเที่ยวทั่วโลก หลายที่ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรืออเมริกาต่างก็ไม่ได้มองเป็นเรื่องเสียหาย เขาจึงเห็นว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่การวางกฏเกณฑ์ของจากผู้รับผิดชอบในส่วนของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยวมากกว่า
“เราต้องมองว่าจะทำยังไงถึงจะรับมือเขาได้ กฏหมายบ้านเมืองเรา เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเรา ทำยังไงจึงจะรับมือได้ แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเรามันยังอ่อนด้วยกฏเกณฑ์ อ่อนด้วยหลายๆ เรื่องที่จะกำกับดูแลให้เป็นไปในความเรียบร้อย ดังนั้นผมจึงบอกว่านักท่องเที่ยวจีนถือว่าดีแล้ว ทีนี้เขาทำอะไรบางทีมันอาจจะขัดหูขัดตาเราไปบ้าง อันนี้มันก็มาจากว่า เราอาจจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ข้อมูลข่าวสารถึงตัวไม่เท่าที่ควร ประเทศเรายังอ่อนเรื่องนี้”
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากรรมาธิการท่องเที่ยวในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มองว่า คนไทยกับคนจีนไม่ใช่คนอื่นคนไกลกัน จึงไม่ควรมองกันอย่างมีอคติมากนัก
ข่าวโดยASTV ผู้จัดการLive
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754