พิธีรับน้องสิ้นคิดโผล่มาอีกแล้ว!! ครั้งนี้ “ม.ราชภัฏสวนสุนันทา” ต้องเสียชื่อเพราะรุ่นพี่จาก “สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์” หยดน้ำตาเทียนลงบนแขนรุ่นน้องจนกลายเป็นแผลพุพอง พี่ชายเหยื่อทนไม่ไหว โร่แจ้งความพร้อมประจานบนเฟซบุ๊ก สุดท้าย สถานศึกษาสั่งภาคทัณฑ์รุ่นพี่ ท่ามกลางคลื่นใต้น้ำขู่น้องๆ ไว้ว่า “อยู่ได้คืออยู่ อยู่ไม่ได้ออกไป!!”
ไม่กลัวอิทธิพล “รุ่นพี่สิ้นคิด”
“น้องผมเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ แล้วโดนรุ่นพี่รับน้องแบบป่าเถื่อนมาก แล้วพอไปสอบถามอาจารย์กลับได้คำตอบที่ดีมากว่า มันเป็นการรับน้องของรุนพี่กับรุนน้องที่ทำต่อๆ กันมา แล้วเขาก็บอกว่าได้เรียกรุ่นพี่มาตักเตือนแล้ว ถ้าเป็นลูกเป็นหลานคุณบ้างล่ะ คุณคงไม่อยู่เฉยๆ แน่นอน ผมกับครอบครัวคงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแบบง่ายๆ แน่นอน ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก รบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์ทีนะครับ เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับน้องคนอื่นๆ อีก
ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มันเงียบหายไป จากที่ผมไปสอบถามคุณพ่อคุณแม่ของเด็กบางคน เขากลัว ไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัวลูกจะถูกรุ่นพี่ทำร้าย และบางคนก็ไม่มีเวลาพาลูกไปแจ้งความ เพราะความจน งานก็หยุดไม่ได้ จะนั่งรถไปแต่ละทีค่ารถก็หลายร้อยบาท มันคงจะดูเป็นเงินไม่เยอะสำหรับคนรวย แต่มันเยอะมากนะครับสำหรับคนจนๆ กับการที่ต้องมานั่งลางานแล้วหาเงินค่ารถไปแจ้งความกับการกระทำสิ้นคิดของพวกคุณ”
(พี่ชายรุ่นน้องผู้เสียหายโพสต์ประจาน)
ทั้งหมดนี้คือถ้อยคำที่พี่ชายของเหยื่อสาวปี 1 น้องใหม่จากรั้ว ม.ราชภัฏสวนสุนันทา คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ โพสต์ประณามการกระทำของรุ่นพี่เอาไว้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อ “Aut Tra Pon” หวังให้เรื่องถึงหูคนจำนวนมากซึ่งก็เป็นไปตามคาด ขณะนี้ ประเด็นร้อนเรื่องนี้กลายเป็นที่สนอกสนใจของสื่อหลายๆ สำนัก เป็นเหตุให้มหาวิทยาลัยต้องรับภาพลบๆ จากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้
ยิ่งลองลงลึกถึงรายละเอียด อ่านเรื่องราวที่พี่ชายของผู้เสียหายคอมเมนต์ตอบกลับผู้มาสอบถามในโพสต์เดียวกัน ข้อความทั้งหมดยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์โมโหของครอบครัวผู้เสียหาย เห็นทีว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่!
(แจ้งความเอาผิดรุ่นพี่ผู้หยดน้ำตาเทียนใส่แขนรุ่นน้อง)
“อาจารย์กับรุ่นพี่โทร.มาขอโทษ พี่ว่ามันง่ายไปป่ะ ก่อนทำ ทำไมคุณไม่คิดถึงผลที่มันจะตามมา พ่อแม่เขาเลี้ยงมา ยังไม่เคยทำให้ลูกเจ็บเลย แค่เห็นลูกเราล้ม เรายังเจ็บแทนเลย แล้วนี่ดูเขาทำ ถ้าคุณเป็นพ่อเป็นแม่ คุณจะรับได้ป่ะ เหตุก็เกิดในมหาวิทยาลัย อาจารย์จะมาบอกว่าไม่รู้เรื่อง มันเป็นไปไม่ได้ แย่มากๆ น้องอีกเป็นสิบที่โดน รบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์ทีนะครับ เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับน้องคนอื่นๆ อีก”
นอกจากนี้ คุณนก พี่ชายของเหยื่อรุ่นน้องผู้ถูกรุ่นพี่หยดน้ำตาเทียนจนแขนพอง ยังเผยแพร่ภาพ Status ของรุ่นพี่บนเฟซบุ๊กเอาไว้ด้วย โดยเนื้อความที่รุ่นพี่ผู้อ้างตัวว่าเรียนคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา เขียนเอาไว้หนักไปในทางโทษรุ่นน้องเสียมากกว่า
(คลื่นใต้น้ำจากรุ่นพี่ ขู่รุ่นน้องไว้ในสเตตัส)
“อยู่ได้คืออยู่ อยู่ไม่ได้ออกไป!! ปัญหามันเยอะมากก็ไป ออกไป”
ส่วนบรรทัดต่อจากนี้ไป คือความคิดเห็นของรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยเดียวกันที่มาคอมเมนต์ตอบรุ่นพี่เจ้าของโพสต์เกี่ยวกับกรณีนี้ โดยเนื้อหาแล้ว น่าจะพูดถึงการโพสต์ประจานของพี่ชายเหยื่อรุ่นน้องและครอบครัวของเหยื่อเป็นหลัก
“ความคิดยังดูเด็กเลย เขาอยากได้อะไร ให้อาย ให้เสียชื่อเสียง เหอะ นี่เหรอสิ่งที่เขาต้องการให้รับผิดชอบ ไม่ใช่ว่ะ”
“จะรอดูว่ามันจะเจริญไปแค่ไหนคนประเภทนี้ ไม่แยกแยะ คนทำก็ยอมรับอยู่ว่าทำ ไม่ได้ปฏิเสธสักคำ ตัวคนทำก็เห็นๆ กันอยู่ ไม่เห็นไม่รู้ก็พูดไปเรื่อย อาจารย์เขาไปเกี่ยวอะไร มีอาจารย์ที่ไหนสนับสนุนเรื่องอย่างนี้? สมองส่วนกลั่นกรองไปไหนหมด ด่าสะเปะสะปะ เขาก็คล้ายเรานั่นแหละ”
(รุ่นพี่คนอื่นๆ ตามสมทบ ต่อต้านรุ่นน้องผู้เสียหาย)
เมื่อพี่ชายผู้เสียหายเข้าถึงข้อความความคิดเห็นเหล่านี้ ยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก เพราะยิ่งมีแต่ทำให้อารมณ์เดือดภายในยิ่งคุกรุ่นมากขึ้น และนี่คือความรู้สึกของคุณนก ภายใต้ชื่อเฟซบุ๊ก “Aut Tra Pon”
“ยังจะมีหน้าไปโพสต์ข่มขู่อีกนะว่าเรียนได้ก็เรียน เรียนไม่ได้ก็ออกไป ปากดีจริง แล้วเราได้เจอกันแน่ ต่อหน้าเขาบอกว่าขอโทษ พอลับหลังมันบอกเรียนไม่ได้ก็ออกไป ไร้สำนึกมากๆ ยังจะมีหน้ามาพูดว่า มันไม่ใช่น้องพี่คนเดียวนะที่โดน น้องๆ คนอื่นๆ เขาก็โดน ไม่เห็นมีใครมีปัญหา”
(แจ้งความ หวังใช้กฎหมายเข้าช่วย)
สวนสุนันทาแจง “บายศรีฯ ด้วยรัก” ไม่ใช่รับน้องโหด!
แล้วก็ถึงเวลามหาวิทยาลัยออกโรงชี้แจงรายละเอียดบ้าง หลังปล่อยให้ข่าวประโคมออกมาจากฝั่งครอบครัวผู้เสียหายฝ่ายเดียว ล่าสุด มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาได้ออกมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดแล้วผ่าน “สุนันทานิวส์” (www.sunandhanews.com) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์อย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัย ซึ่งข้อมูลข้อสำคัญที่ควรรู้ไว้คือกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่การรับน้องอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจแต่อย่างใด แต่เป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญ และไม่ใช่การบายศรีฯ ธรรมดาๆ ด้วย เพราะทางมหาวิทยาลัยยืนยันว่าเอาไว้เป็นตัวอักษรว่าคือการ “บายศรีฯ ด้วยรัก แต่ไม่ได้คิด”
มหาวิทยาลัยออกมาแจง ผ่านสื่อที่มีอยู่ในมือ)
“พิธีที่มีน้ำตาเทียนหยดใส่แขนนั้น ไม่ใช่การรับน้องแต่อย่างใด เป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญที่สืบต่อกันมาหลายรุ่นแล้ว ยอมรับว่ามีการหยดน้ำเทียนใส่แขนรุ่นน้องจริง แต่มีรุ่นพี่หลายคนที่ใช้น้ำตาเทียนหยดใส่แขนรุ่นน้องเพียงคนละ 1-2 หยด รวมๆ กันหลายคน เลยค่อนข้างเยอะ การร่วมพิธี พวกรุ่นพี่ไม่ได้บังคับ รุ่นน้องยินยอมหมดทุกคน สมัยที่อยู่ปี 1 ก็โดนแบบเดียวกันหมดทุกคน” แหล่งข่าวนักศึกษา สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ ชั้นปีที่ 3 ขอความเป็นธรรมผ่าน “สุนันทานิวส์” เอาไว้
“หลังพิธีบายศรีฯ ได้มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เพื่อนๆ ที่เป็นแผล แต่ผิวหนังบางคนไม่เหมือนกัน เลยเกิดเหตุการณ์อย่างที่เห็น ตอนนี้ กำลังรอข้อตกลงกับผู้ปกครองของเพื่อนที่บาดเจ็บว่าจะเอายังไง เขา (เหยื่อสาวเจ้าของกรณี) เป็นหนักอยู่คนเดียว ดูเหมือนผู้ปกครองของเขาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” แหล่งข่าวนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ผู้เป็นเพื่อนของผู้เสียหายให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของมหาวิทยาลัย
ขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้สั่งภาคทัณฑ์รุ่นพี่ไปเรียบร้อยแล้ว ผลการสอบสวนพบว่ารุ่นพี่จำนวนหนึ่งกระทำผิดจริงด้วยความคึกคะนอง และดำเนินการลงโทษทางวินัยนักศึกษาโดยการภาคทัณฑ์ตามระเบียบสภามหาวิทยาลัย ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2548 รวมทั้งได้ขอโทษคู่กรณีอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อไปทางคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจะพยายามกวดขันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก “รอง ศ.ดร.ปรุงศักดิ์ อัตพุฒ” คณบดี คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ที่นักศึกษารุ่นพี่มีพิธีบายศรีสู่ขวัญน้องใหม่ ช่วยชี้แจงความคืบหน้าทั้งหมดอย่างละเอียด
(ผู้เสียหายและครอบครัว ให้สัมภาษณ์)
“ขณะนี้สื่อออนไลน์ส่วนใหญ่ได้นำข่าวสารไปเผยแพร่ด้านเดียว ทำให้เกิดการเข้าใจผิด เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การรับน้อง เป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญ ขอยืนยันว่าพิธีนี้ ไม่มีการทำกิจกรรมใดๆ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง นอกจากการผูกข้อมือกันตามปกติ ทางคณะไม่ได้นิ่งนอนใจและจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรอขยายผลต่อไปภายใน 7 วัน
ทางคณะเองก็ตระหนักในกฎระเบียบค่อนข้างมาก จึงคิดว่านักศึกษาที่ก่อเหตุอาจไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงเกินเลย ขณะที่มหาวิทยาลัยพยายามให้นักศึกษาเข้าใจระบบการรับน้องแบบสากล เช่น จัดกิจกรรมให้ความรู้ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เป็นกิจกรรมที่ใช้ความคิดร่วมกัน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น อาจอยู่นอกเหนือเวลาที่กำหนดให้ทำกิจกรรมซึ่งไร้คนควบคุม จึงจะมีการสร้างเกี่ยวกับการรับน้องขึ้นใหม่”
เกี่ยวกับกรณีนี้ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง โดยตอนท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า มหาวิทยาลัยเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขออภัยต่อผู้ปกครองและนักศึกษาที่ถูกกระทำ และจะดำเนินการทุกวิถีทางให้เรื่องยุติและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด
---ล้อมกรอบ---
มีกฎหมายเอาผิด พิธีรับน้องโหด!
พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจิตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เคยออกมาประกาศเอาไว้ว่าปัจจุบันนี้มีกฎหมาย 6 ตัวที่จะสามารถช่วยให้รุ่นน้องทั้งหลายไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ภายใต้การรับน้องที่ไม่เหมาะสมของรุ่นพี่ ดังนี้
1.หากรับน้องด้วยระบบโซตัส (Sotus) หรือว้ากใส่รุ่นน้อง
มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 392 “ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
2.หากบังคับให้น้องเข้าร่วมกิจกรรม หรือบังคับให้ทำเรื่องที่ฝืนใจ
มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 309 “ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
3.หากรุ่นน้องต้องการกลับแต่รุ่นพี่ไม่อนุญาตให้กลับ
มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
4.หากรุ่นพี่ลงไม้ลงมือ
มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 295 “ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
5.หากมีการรับน้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 300 “ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
6.หากรับน้องจนมีรุ่นน้องเสียชีวิต
มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 291 “ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท”
นอกจากนี้ พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ยังบอกอีกด้วยว่า “ตามประมวลกฎหมายอาญานั้น หากจะดำเนินคดีตามกฎหมายได้ น้องๆ หรือผู้ปกครองจะต้องแจ้งความเอาผิดกับรุ่นพี่ที่ลงโทษเกินกว่าเหตุ แต่บางกิจกรรมอาจเป็นข้อตกลงระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง และอยู่ในการควบคุมดูแลของมหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นบททดสอบในการก้าวเป็นรุ่นพี่ เพื่อทำหน้าที่ดูแลรุ่นน้องในรุ่นต่อไป”
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- อธิการสวนนันรับ รุ่นพี่ใช้น้ำตาเทียนหยดรับรุ่นน้องจริง “กำจร” สั่งเร่งรายงานผล ไม่ฟันเอาผิดผู้บริหาร
- อีกแล้ว! หายนะ “รับน้องอาชีวะ” เมื่อรุ่นพี่ มอบ “ความตาย” ให้รุ่นน้อง
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754