xs
xsm
sm
md
lg

เปิดชีวิต “ชัญญ่า ทามาดะ” แม่พระของสัตว์ยากไร้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชัญญ่า ทามาดะ” เผยชีวิตทุกเรื่องราว ทั้งประเด็นข่าวฉาว รักครั้งใหม่ รายการใหม่ ฯลฯ ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังชีวิตผู้หญิงใจบุญสุนทานอย่างเธอ จะเคยเป็นผู้หญิงเลือดร้อนเพราะความรัก ช้ำเพราะรักมาก็หลายหน

หากแต่วันนี้เธอเรียนรู้ที่จะนิ่ง ปล่อยวางเรื่องความรัก และมีความสุขที่ได้เป็น “ผู้ให้” กับสัตว์สี่ขา ดังนั้นจะบอกว่าเธอเป็นแม่พระของสัตว์ยากไร้ ก็คงจะไม่ผิดนัก

ทุกวันนี้ชีวิตชัญญ่าเป็นยังไงบ้าง ช่วยอัปเดตให้ฟังหน่อย

ตอนนี้ชัญญ่าชอบเรียนอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ หรือทำไม่ได้ ก็เลยไปเรียนชงกาแฟ ไปเรียนทำอาหาร ไปเรียนถ่ายภาพ ไปเรียนดีเจ คือเรียนเรื่อยๆ ค่ะ คิดว่าเวลาเราไปเจอคนใหม่ๆ เราจะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง เพราะบางทีเวลาเจอใครน่าสนใจ เราก็อยากจะคุยกับเขา อยากรู้ว่าเขาทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ แต่จะคุยกับเขารู้เรื่องได้ เราก็น่าจะมีประสบการณ์ชีวิต หรือเห็นโลกหลายๆ แบบ จะได้คุยกันได้ นอกนั้นเราจะได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตจากคนอื่นด้วยค่ะ

เห็นเคยตกเป็นข่าวกรณีว่าเป็นมือที่สามของดิว-อริสรา และไผ่ -วันพ้อยท์ คิดอย่างไรเรื่องนี้

คือข่าวนี้เป็นข่าวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดในชีวิตชัญญ่าเลย แต่มันดันเกิดขึ้นได้ แต่ว่าโทษใครไม่ได้จริงๆ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งชัญญ่าก็สนิทกับพี่ไผ่มาก จนบางทีคนของเขาอาจจะไม่เข้าใจ ทั้งที่ความจริงแล้ว มันไม่มีอะไรเลย

ชัญญ่ารู้จักพี่ไผ่มานานแล้ว น่าจะเกือบ 10 ปีได้ ตั้งแต่ช่วงชีวิตวัยรุ่นกำลังเริ่มต้น คือ ถ้าไม่มีพี่ไผ่ อาจจะเละเทะไปแล้วก็ได้ แบบว่าชอบเที่ยวอะไรอย่างนี้ แต่ว่าเรามีพี่เขาคอยดูเป็นหูเป็นตาให้ ซึ่งมันก็โอเค เพียงแต่ว่าในช่วงที่เขามีความรัก หรือมีอะไรที่ไม่สามารถมาดูแลเราได้ เราก็เข้าใจตรงนี้

จริงเหรอที่ไม่เคยกิ๊กกัน

ไม่เคยค่ะ จะเป็นไปได้ยังไง แฟนเก่าพี่ไผ่เป็นเพื่อนสนิทชัญญ่าตั้งแต่เรียนมัธยม ดังนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคนรู้จักชัญญ่า ก็จะรู้ แม่ก็รู้ ใครก็รู้ว่าเขาเป็นพี่ แฟนของชัญญ่าคนไหนก็ไม่เคยมีปัญหา หรือไม่ว่าพี่ไผ่จะกิ๊กกับแฟนดาราที่มีข่าวแต่ละคน ชัญญ่าเคยเจอทุกคนมาหมดแล้ว แล้วไม่เคยมีปัญหากับใครเลย

ที่ผ่านมา มีข่าวไหนอีกไหมที่รู้สึกไม่ชอบบ้าง

เช่น ข่าวที่บอกว่ารวยไม่จริง ไม่ได้ไฮโซ ซึ่งเป็นความจริงค่ะ คือ ชัญญ่าไม่ใช่ไฮโซจริง และไม่ได้รวยด้วย แต่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ทุกวันนี้บางทีก็มีช็อตบ้าง อะไรบ้าง ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเลยจริงๆ สมมุติว่าเรามีเงินก้อนหนึ่ง เราก็จะ Manage อย่างโน้นอย่างนี้ สักพักหนึ่งเงินหมดก่อนสิ้นเดือนล่ะ ก็เลยจะเหมือนทุกคน เหมือนคนเดินถนนทุกคน (ยิ้ม)

เล่าเรื่องเรียนบ้าง ตอนนี้เรียนถึงไหนแล้ว

ก่อนหน้านั้นชัญญ่าเคยเรียนที่มหิดลมาก่อน แต่ตอนหลังออกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ความจริงให้เรียนที่เดิม ก็เรียนได้นะคะ แต่รู้ตัวเองว่าไม่ไหว นั่งเรียนนาน 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงไม่ได้ แล้วตอนที่เรียนคณะ Business ที่มหิดล ก็มีการบ้านเยอะมากจริงๆ ต้องตื่นเช้า และต้องตรงเวลาเป๊ะๆ เลยคิดว่าคงไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่

ที่แสตมฟอร์ด อาจจะไม่ได้ฟิกเวลาเท่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ คือเหมือนเราเลือกวันเรียนได้ สมมติวันนี้เรามีงาน เราจะย้ายไปเรียนวันที่เราไม่มีงาน คือ สามารถเลือกให้มันเข้ากับชีวิตเราได้ (ยิ้ม)

ที่นี่ชัญญ่าเลือกเรียนนิเทศ ได้เรียนถ่ายรูป ถ่ายหนัง เคยแต่ไปยืนอยู่หน้ากล้อง ไม่เคยรู้ว่า หลังกล้องมันคืออะไร พอได้มาเรียนจริงๆ ก็สนุกดี ตอนนีใกล้จะจบแล้ว คิดว่าอาจจะเรียนโทที่อเมริกาต่อ แต่แพลนยังไม่แน่นอนนะคะ เพราะตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ค่ะว่าจะเรียนอะไร ที่ไหนดี (หัวเราะ)

มีเรื่องชีวิตสนุกๆ ในมหาวิทยาลัยไหม เล่าให้ฟังหน่อยว่าช่วงที่เรียน ใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง

ชัญญ่าไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมเท่าไหร่ เพราะพอเรียนจบคลาสเสร็จ จะก็ออกมาไปเข้าคลาสเรียนอื่นๆ ที่เราชอบ เช่นเรียนชงกาแฟ เรียนอะไรอีกเยอะแยะ แสตมฟอร์ตถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี มีฝรั่งเยอะ ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย เพราะว่าตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนอินเตอร์ Harrow ก็ไม่รู้จะคุยกับใคร ลืมภาษาไปเยอะเลย คราวนี้ได้มาเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ก็ได้กลับมาพูดภาษาใหม่ค่ะ

อยากรู้ว่าทุกวันนี้ ชัญญ่ามีรายได้จากไหน

ชัญญ่าหุ้นทำร้านกับเพื่อนค่ะ เปิดร้านหลายที่มาก เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวทองหล่อ ชื่อ ร้าน KAGUYA อยู่ที่ทองหล่อซอย 10 แล้วมีไปหุ้นเปิดผับบ้างนิดหน่อย คือ เราก็มีงานทำ ส่วนมากจะไปหุ้นกับเขา ถือว่าไปเรียนรู้ก่อน เพราะถ้าทำเอง ไม่น่าจะรอด (หัวเราะ) ตอนเด็กเคยเปิดร้านกระเป๋า ก็เจ๊งแบบไม่เป็นท่า เพราะยังไม่มีความรู้ คิดว่าวันหนึ่งถ้าเราเก่งแล้ว ค่อยเปิดร้านอะไรของตัวเอง เอาเป็นว่าตอนนี้ชัญญ่าเลี้ยงตัวเองได้ก็พอ

บางทีก็ขายของทางอินเทอร์เน็ตด้วย ขายเยอะมากกก (ลากเสียงยาว) จนแบบคิดว่าตัวเองเป็นอะไร (หัวเราะ) เพราะชัญญ่าเป็นคนชอบขายของ สมมติบินไปญี่ปุ่นอย่างนี้ ชัญญ่าก็จะซื้อของกลับมาเต็มเลย แล้วเอามาขายในอินสตาแกรม ขายในเน็ต ได้เงินเยอะมาก ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ กลายเป็นว่าได้เที่ยวญี่ปุ่นฟรีเลย บางทีไปอเมริกาก็ซื้อของมาขาย คือมันเป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ชัญญ่าได้รายได้แล้วเอามาใช้เอง คือ มีขอตังค์คุณพ่อคุณแม่บ้าง แต่น้อยมาก ชัญญ่าแทบจะไม่ได้ใช้เงินของท่านเลย ตั้งแต่มีรายได้เอง บอกคุณแม่ว่าไม่ต้องช่วยจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะเราก็จ่ายเอง หรือบางทีเพื่อนเดือดร้อนเงิน ก็มีแบบปล่อยกู้บ้าง ได้กินดอกเบี้ย ถือว่ารายได้ดีมาก

อยู่ดีๆ ทำไมมาปล่อยเงินกู้ ไม่กลัวโดนโกงเหรอ

ไม่กลัวค่ะ เพราะให้กู้เฉพาะเพื่อนที่สนิทกัน (ยิ้ม) อาจเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยเข้ากับหน้าเท่าไร แต่มันได้รายได้จริงๆ นะ และรายได้เข้ามาเรื่อยๆ สมมติเพื่อนอยากทำร้าน ก็ให้กู้เงินก่อน แล้วเพื่อนก็คืนเป็นดอกเบี้ยมา ก็สนุกดี

ชัญญ่าทำอยู่พอได้ ได้ดอกมาก็ไม่ได้ใช้หรอก เพราะจริงๆ เป็นคนไม่ค่อยใช้ตังค์ อย่างที่บอกว่าอย่าเรียกชัญญ่าว่าไฮโซเลย อายเขา เราไม่ได้รวยขนาดนั้น มาเรียกไฮโซ เดี๋ยวคนอื่นก็ว่าเราไฮโซปลอม ชัญญ่าไม่อยากเป็นของปลอม ถ้าจะเป็นก็ไม่ต้องเลยดีกว่า แต่เขาก็ไม่ได้หยุดเรียกไง เรียกเราว่าไฮโซตลอด จนรู้สึกว่าเออ “เป็นก็ได้ว่ะ” (หัวเราะ) แต่ว่าชัญญ่าขอใช้ชื่อเสียงในทางที่มีประโยชน์แก่สังคมดีกว่า ไม่ใช่ไฮโซแบบใส่เพชรออกงาน คือ ถ้าความรวยขึ้นอยู่กับเพชร หรือเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า ชัญญ่าคงไม่ใช่ไฮโซคนนั้น ถ้าถามว่าที่บ้านมีเงิน ไหม คือคุณพ่อชัญญ่าคือมีตังค์นะ แต่เขาไม่ค่อยได้ให้ชัญญ่าหรอก เพราะเขาจะสอนในเรื่องการใช้เงิน อยากให้เราตั้งใจหาเงินใช้เองมากกว่า

บอกคุณพ่อไม่ค่อยให้ตังค์ใช้ แต่ก็น่าจะให้อยู่สบายไม่น้อย เพราะเห็นชัญญ่าอยู่คอนโดฯ หรูขนาดใหญ่ ใจกลางสุขุมวิทแบบนี้

คุณพ่อซื้อให้ แต่ถามว่าให้ตังค์มาไหม ก็ไม่ได้ให้ติดมาด้วย (หัวเราะ) จริงๆ แล้วคอนโดตรงนี้คุณพ่อปล่อยให้เช่า แต่ชัญญ่าเข้ามาดู แล้วตอนนั้นที่บ้านน้ำท่วมไงคะ เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว พออยู่ไปมารู้สึกว่าสะดวกดี มันอยู่กลางเมืองเลย วิวสวย อยู่แล้วชีวิตน่าจะดี เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่คนเดียว รู้เลยว่าคนเรามันมีภาระนะ ต้องค่าไฟ ค่าน้ำหนักมาก (ยิ้ม)

ตอนนี้เห็นทำกิจกรรมช่วยหมาเยอะมาก ทำไมถึงมาทำตรงนี้ได้

คือตอนเด็กๆ ชัญญ่าเป็นคนที่รักหมา และหมาตายตอนที่เราไม่อยู่ มันเลยเป็นอะไรเฟลมากในชีวิต ไม่รู้ทำไม คงเพราะตอนเด็กๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนมั้ง ก็อยู่แต่กับหมา มันตายเลยรู้สึกว่าเราจะต้องทำอะไรเพื่อสิ่งมีชีวิตไอ้ตัวนี้ คือหมาบ้าง

รู้สึกว่าตอนนั้นหมาตายเพราะเราจริงๆ เพราะวันนั้นชัญญ่าไม่อยู่บ้าน มันเลยเดินขึ้นชั้น 2 ไปหาเรา เหมือนไปดมๆ ประตู แล้วก็ตกลงมาจากชั้น 2 แล้วมันก็ปีนขึ้นไปใหม่ ทั้งๆ ที่เลือดอาบเลย เหมือนไปตามหาชัญญ่า แต่เราไม่อยู่ ไปเที่ยวและอยู่ญี่ปุ่นเป็นปี จากนั้นมันก็ตาย เลยคิดว่ามันตายเพราะเรา ไม่ได้ตายเพราะอย่างอื่นเลย ความรักของหมามันสุดยอดจริงๆ หาที่ไหนไม่ได้จริงๆ

หลังจากนั้นเลยตั้งใจว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะช่วยเหลือหมา อย่างสะพานใกล้ๆ บ้าน มีหมาจรจัดเยอะมาก ชัญญ่าก็จะจับไปทำหมันทั้งชุมชนเลย ค่อยๆ เคลียร์ทีละตัว เพราะลูกหมามันออกลูกมาที 10 ตัว ชัญญ่าก็ไปอุ้มมาเลี้ยงข้างนอกประมาณ 10 กว่าตัว ส่วนตัวเล็กๆ ก็ค่อยๆ หาบ้านให้มัน พยายามถ่ายรูปให้มันดูน่ารักๆ แล้วโพสต์หาบ้านใหม่ให้ จนเขามีบ้านอยู่ บางทีไปช่วยป้าที่เขามีหมา 200-300 ตัว ช่วยเรี่ยไรเอาเงินไปให้

ทุกวันนี้หมดเงินแต่ละเดือนกับการช่วยเหลือหมาเท่าไหร่

บอกไม่ถูกค่ะ แต่เยอะมาก บางทีหมาแค่ตัวเดียว หมดเงินไปแสนกว่าบาท เพราะตอนนั้นชัญญ่าขับรถอยู่ตรงแถวถนนวิภาวดี เห็นหมาโดนรถชนแล้วไม่มีใครหยุดดูเลย พอดีอยู่กับคนขับรถ เลยบอกให้เขาไปอุ้มมา แต่เขาดันโดนหมากัดนิ้วแหว่ง รู้สึกผิดมาก แต่ถ้าไม่ใช่เขา คงเป็นชัญญ่าที่นิ้วแหว่งแน่ๆ

วันนั้นพี่เขาบอกไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมอุ้มเอง คิดว่าที่หมากัด มันคงเจ็บ แต่มันไม่ได้ดุนะ ตอนหลังก็เอามาเลี้ยง พาไปโรงพยาบาล เขากระดูกสันหลังหัก กระเพาะปัสสาวะแตก คือหนักมาก เลยบอกหมอว่าทำอย่างไรก็ได้ ไม่อยากให้เขาตาย เพราะว่าเราช่วยมากับมือ ยังไงก็จะช่วยเขา ให้หมอฉีดยานอกตลอด

นอกนั้นก็มีผ่าตัดด้วย เพราะเขากระเพาะปัสสาวะแตก กระดูกสันหลังหัก โห..ทำเยอะมาก จากเดิมที่หมอที่ไหนก็บอกเดินไม่ได้แน่นอน แต่ตอนหลังเขากระดิกหางวิ่งได้เลยนะ เห็นแล้วน้ำตาไหลเลย นี่เป็นเคสหนักสุด เคยคิดกับตัวเองเหมือนกันว่าเปิดมูลนิธิดีไหม แต่รู้เลยว่ากำลังเราไม่พอ ก็เลยต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีระดมทุนบ้าง เช่น โพสต์บอกในอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียทั้งหลาย

รู้สึกอย่างไรที่ได้ช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้

รู้สึกสุขใจค่ะ เพราะสำหรับมัน เราเป็นคนเดียวที่มันมี มันไม่มีใครอีกแล้ว เกิดมาก็ข้างถนนหรือไม่ก็มีคนทิ้ง มีอยู่ 2 อย่าง ความจริงชัญญ่าเริ่มช่วยหมามาก่อนช่วงประมาณน้ำท่วม จากนั้นก็ทำมาเรื่อยๆ เลย เพราะรู้สึกว่าหมามันรู้บุญคุณ และมันจะไม่ทิ้งเรา ไม่เหมือนกับคน เวลารักกัน บอกว่าจะรักจนวันตาย แต่สุดท้ายยังนอกใจกันได้ แต่หมานี่ไม่มีทางเลยนะ

ทุกวันนี้ชัญญ่ามีหมากี่ตัว

ตอนนี้มี 5 ตัว อยู่ที่บ้าน เป็นพันธุ์ชิวาว่ากับปอม แล้วถ้านับหมาที่ไปให้อาหารประจำ ก็มีอีกประมาณ 30-40 ตัว คือ เวลาเห็นหมาจรจัดอยู่ที่ไหนประจำ ก็จะเอาอาหารไปให้เขา หรือวานคนแถวนั้นเอาอาหารให้แทนเรา

อย่างชัญญ่ามีร้านที่ทองหล่อใช่ไหมคะ ก็จะมีหมามาอยู่หน้าร้านเราอย่างนี้ ก็เลยจะวานแม่บ้านให้อาหารเขาตลอด
ซื้ออาหารทิ้งไว้เลย ถ้ามีโอกาสก็จะเอาไปให้เอง แล้วเราจะใส่ปลอกคอให้ทุกตัว เพราะกลัวเทศกิจหรือเจ้าหน้าที่มาจับมันไป หรือตรงสะพานแถวๆ บ้าน ก็จับหมาใส่ปลอกคอหมดทุกตัว ชัญญ่าเอาตังค์ให้ป้าแถวนั้นซื้ออาหารไปให้หมาตลอด บอกซื้ออย่าหยุดนะ ถึงเวลาก็จับมาฉีดยาพยาธิ เก็บเห็บหมัด หมาเหล่านี้เลยโอเคมาก สภาพดีและแฮปปี้ทุกตัว (ยิ้ม)

ถามเรื่องความรักบ้าง ได้ยินว่าที่ผ่านมาเคยเจ็บเพราะรักมามาก เพราะอะไร

ไม่รู้สิคะ แต่ชัญญ่าเป็นคนห่างพ่อไง เพราะพ่ออยู่ที่ญี่ปุ่น ตอนเด็กๆ เวลาเจอใคร ก็จะรักมาก รักแบบโอ้โห..ทำไมมันรักขนาดนี้ แต่ตอนนี้พอมองกลับไปแล้ว กลับคิดว่า “ชัญญ่าเป็นอะไรวะ บ้าหรือเปล่า ไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเลย จริงๆ ทำอะไรอยู่วะ”

หรือเวลาอกหักก็ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน หรือเวลาเจอกิ๊กของแฟนเรา แอบยัดที่คาดผมไว้ในรถให้เห็น เราก็จะบ้าบอคอแตก อยากจะไปวีนเขา เหมือนคนบ้าประสาทเสีย เหมือนคนไม่มีสติ ซึ่งพอมองกลับไป รู้สึกว่าความเป็นคน ความเป็นตัวเราหายไปไหน พ่อแม่เราก็มี มีตังค์ให้ใช้ตลอด ชีวิตก็อยู่สบาย แม้ไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ก็มีความสุขมาก แล้วทำไมเราต้องไม่เป็นตัวตนของตัวเอง ทำไมเราทำตัวเหมือนนางมารร้าย เหมือนเป็นคนบ้าด้วย

ทุกวันนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้นหรือยัง

นิ่งมาก นิ่งจนบางทีสงสัยว่าเรามีความรู้สึกหรือเปล่า (หัวเราะ) รู้สึกว่าการที่คนของเราไปมีคนอื่น กายเขามันต้องร้อนสิ ไม่ใช่กายเรา เราอยู่ของเราสบายๆ ชีวิตสบายจะตาย แต่การที่เขาไปมีคนอื่น เขาต้องกลัวว่า อีนี่มันจะรู้ไหมวะ เฮ้ย..ต้องแอบไปตรงโน้นวะ ต้องทำแผนขึ้นมาหลอกเรา เขาน่าจะเป็นฝ่ายที่ร้อนรน ดังนั้นเราจะไปร้อนตามเขาทำไม นิ่งดีกว่าไหม

เห็นว่าตอนนี้คบกับ “พี่มายด์” อยู่ อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรและความสัมพันธ์เป็นอย่างไรบ้าง

ชัญญ่าคบกันพี่มายด์มาประมาณสองปีแล้ว เขามีธุรกิจเป็นผับ นอกนั้นก็มีทำงานออแกไนเซอร์ด้วย จัดงานอีเว้นต์ต่างๆ ช่วงแรกที่คบกัน ไม่ได้กะอะไรมาก เพราะยังเหนื่อยกับคนเก่า เหนื่อยกับชีวิตที่ต้องโดนหลอก เหนื่อยกับชีวิตที่แบบเป็นบ้า คน นั้นทำให้เราบ้าได้จริงๆ บ้าเสียสติจนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า มันเหนื่อย

พอมาเจอพี่มายด์ เลยรู้สึกว่าจะทำอะไรทำเลย ถ้าเขาจะเลว ก็ช่างแม่งมันแล้ว คือใช้คำนี้เลยนะ เพราะที่ผ่านมาเราเจอมาหมดแล้ว ถ้าจะเจอแย่ๆ อีก ก็จะได้รู้กันว่าความรักมันแย่ขนาดไหน เลยคบแบบไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเราก็เป็นเพื่อนกัน

จริงๆ ความสัมพันธ์เราไม่ได้เริ่มจากความรัก แต่เริ่มด้วยความเข้าใจ เหมือนว่าเล่าอะไรให้ฟังแล้วเขาเข้าใจ ไม่ได้มองว่าเราเลวร้ายที่ทำแบบนั้น ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมองว่าร้ายวะ แรงวะ แต่เขาไม่ได้มองว่าเราเป็นแบบนั้น เขามองว่าเราทำไปเพราะรัก เราทำไปเพราะเรารักของเรา ไม่อยากให้ใครมาเอาคนนั้นไปจากเรา จึงทำได้ทุกอย่าง นั่นคือเขามองในแง่ดี ในขณะที่คนอื่นมองว่าอีนี่มันบ้า (ยิ้ม)

คิดว่าคนนี้ใช่หรือยัง ที่อยากจะอยู่ด้วยทั้งชีวิต

ยังไม่รู้ค่ะ เพราะไม่ได้หวังอะไรเลย แล้วด้วยความที่ว่าเราเป็นคนมีข่าวเยอะ คิดว่าบางข่าวคนอาจรับไม่ได้จริงๆ หรืออาจทำให้เราเลิกกันเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ผ่านมา ข่าวลือที่ว่าแย่ๆ ชัญญ่ามีมาหมดแล้ว บางข่าวบอกเป็นเด็กเสี่ยนั่งทานข้าว ก็ยังมีมาแล้วเลย คนเมาท์กันไปทั่ว ทั้งที่ไม่ใช่ความจริง

ดังนั้น คนที่จะหนักแน่น และยึดมั่นกับเราได้ หายากนะ แต่ชัญญ่าคิดว่า พี่มายด์เขาหนักแน่นพอที่จะคบกับเรา มันเลยทำให้เราคบกันได้มาถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องของอนาคต คิดว่าปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่าค่ะ ถึงตอนนั้นคงรู้เองว่าใช่หรือไม่ใช่ (ยิ้ม)

แล้วทุกวันนี้มีใครเป็นไอดอลในการใช้ชีวิตไหม

ไอดอล คือ คุณพ่อค่ะ ชัญญ่าเป็นคนที่อินกับคุณพ่อมาก ปีนึงไปเยี่ยมคุณพ่อบ่อย ปีละ 3-4 หน อยู่สั้นบ้างนานบ้างแล้วแต่สมมติว่าถ้ามีเวลาหยุดเดือนหนึ่ง ก็ไปหาท่านเลย เลยเป็นคนที่ไม่ค่อยเที่ยวต่างประเทศเลย เพราะว่างเมื่อไรก็จะไปเที่ยวญี่ปุ่นตลอด (หัวเราะ) ไปเที่ยวที่อื่นไม่ได้เลย เพราะคิดถึงคุณพ่อ

เล่าเรื่องคุณพ่อให้ฟังหน่อย เวลาไปเยี่ยมท่านที่ญี่ปุ่น ชีวิตที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง

คุณพ่อชัญญ่าอยู่โตเกียว อยู่ในเมืองเลย คุณพ่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีบริษัทผลิตพลาสติก มีที่ให้คนเช่าทำเป็น J-Avenue คล้ายมอลล์เล็กๆ ที่มีหลายๆ ร้าน เช่น ร้านทำเล็บ ร้านทำผม มีหลายๆ ที่อย่างนี้ในโตเกียว

เวลาอยู่กับคุณพ่อ ทุกอย่างสบายหมด อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมาก เพราะคุณพ่อจะตามใจ เขากลัวเราขาด เลยจะเลี้ยงเราอย่างดีเวลาที่อยู่ที่โน้น พาไปกินโน่นนี่ กินอะไรดีๆ

อยากให้เล่าเรื่องประทับใจคุณพ่อสักเรื่องหนึ่ง

เรื่องประทับใจเหรอคะ มีหลายเรื่องนะ แต่เล่าเรื่องนี้ดีกว่า เป็นเรื่องความรักนี่แหละ คุณพ่อจะเป็นคนค่อนข้างโอเพ่นเรื่องนี้ มีอะไรชัญญ่าจะเล่าให้ท่านฟังตลอด เช่น เรื่องที่เวลาคนของเราไปมีคนอื่น ชัญญ่าบอกจะไปตบมัน ชัญญ่าจะไปวีนแตกผู้หญิง แต่คุณพ่อบอกว่าดูๆ นะ เดี๋ยวเขาต้องเลิกกับแกแน่ แต่แกควรทำอย่างนี้ ต้องร้องไห้บีบน้ำตา ทำเป็นนางเอก เพราะถ้าเราไปวีน ก็จะเข้าล็อกผู้หญิงคนนั้น เพราะเขาตั้งใจให้เราไปตบมัน ถ้าเราไปตบ เราก็จะผิด ถูกไหม

สุดท้ายชัญญ่าไม่ได้ไปตบ แต่ไปหาเรื่องผู้หญิงคนนั้นแทน ซึ่งสุดท้ายแล้วทำให้เราดูผิดไง ผู้ชายก็ทิ้งเราตามเหมือนที่คุณพ่อบอกเป๊ะเลย พอคิดกลับไปตอนนี้ คุณพ่อบอกแล้ว แต่เราไม่ฟัง แต่ก็เป็นเรื่องประทับใจว่าคุณพ่อพยายามให้คำแนะนำและฟังเราค่ะ (ยิ้ม)

ช่วงนี้ชัญญ่ามีงานอะไรให้ติดตามอีกไหม

วันที่ 22พ.ย. นี้ พี่มายด์ แฟนชัญญ่าจะจัดงาน water sonic เป็นงานคอนเสิร์ตดีเจจากเมืองนอกอันดับต้นๆ เอามาเมืองไทย และจัดเป็นคอนเสิร์ตบวกกับการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน งานนี้ชัญญ่าขอมีส่วนหุ้นด้วยเล็กน้อย ก็จะช่วยเขาติดต่องาน จากนั้นคงจะมีโรดโชว์ไปตามประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ค่ะ อย่าลืมไปร่วมงานด้วยนะคะ

เห็นว่ามีทำรายการทีวีด้วย

ใช่ค่ะ เป็นรายการของชัญญ่าเอง เกี่ยวกับสัตว์ สัตว์อะไรก็ได้มีหาง เพราะรายการชื่อ “แฟมิลี่มีหาง” จะเน้นกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ไว้เหมือนครอบครัว มีพาไปเที่ยว ไปดูชีวิตของสุนัขคนดัง และมีเรื่อง CSR เกี่ยวกับหมา ที่ต้องการความช่วยเหลือ เรียกว่ารายการนี้เริ่มจากใจรักจริงๆ สปอนเซอร์ไม่ต้องขอ ออกตังค์เอง เพราะอยากทำจริงๆ แต่ตอนนี้ก็ง้อสปอนเซอร์แล้วค่ะ ต้องการมาก (หัวเราะ) รายการออกอากาศช่อง Now ทุกวันเสาร์ บ่ายสองครึ่ง งานนี้ชัญญ่าต้องมีส่วนร่วมทุกบทบาท นอกจากจะเป็นพิธีกร ก็ต้องนั่งคิดว่าวันนี้จะไปไหน ทำอะไร ตอนนี้อะไรเป็นกระแสต้องติดตาม ช่วงประทับใจคือ ช่วงช่วยหมาทุกช่วงเลย เพราะได้ไปสัมภาษณ์คนที่เลี้ยงหมาเป็นร้อยๆ ตัว ทั้งที่เขามีอาชีพหาเช้ากินค่ำ ขายพวงมาลัย

บางทีเราเห็นแล้ว รู้สึกว่าคนที่ไม่มียังช่วยหมาได้ แล้วหมายังน่าสงสารกว่าเรา เขาพูดไม่ได้ แถมถูกทำร้ายอีก หรือเวลาเขาเจ็บป่วย ก็พูดไม่ได้ บอกเราไม่ได้ เลยรู้สึกว่าอยากจะช่วยเหลือเขา

แล้วประเด็นที่ได้ไปเกี่ยวข้องกับหมา “เจคอป” ล่ะ เป็นมายังไง

คือ มันเริ่มจากมีคนแชร์เรื่องน้องเจคอปมาหน้าวอลล์เรา แล้วด้วยสัญชาตญาณเรา อยากช่วยหมาอยู่แล้ว รู้สึกว่าเคสนี้ร้ายแรงมาก ตามตัวมีแต่บาดแผลถูกทำร้าย ถูกตัดไข่ กรีดขา เป็นอะไรที่น่าสะเทือนขวัญมาก ถึงได้เข้าไปช่วย แต่พอเป็นข่าว คุณรัน เจ้าของหมาก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา คือ ทีแรกเพื่อนเขาที่พิมพ์มาบอกเรา แต่เขาก็ไม่ได้ขอให้เราช่วย แต่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ในเรื่องนี้อยู่ ชัญญ่าเลยตั้งคำถามไปว่า เอ๊ะ ทำไมหมอบอกไม่เหมือนที่คุณรันชี้แจง พอมีโอกาสได้ไปคุยกับหมอที่ดูแลน้องเจคอป เขาบอกน้องไม่ได้โดนตัดไข่ ไม่ได้มีของมีคมกรีดขา แต่เป็นการกัดของวิกซอลเท่านั้นเอง ดังนั้นที่เขาเล่าก็ไม่ตรง ชัญญ่าก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะยังไง เขาอาจจะพูดผิดก็ได้ แต่ที่ถามเพราะสงสัย

มันเป็นเรื่องน่าสนใจว่าหมาของเขาเป็นปอมเมอเรเนียน แล้วเขาเลี้ยงนอกบ้าน ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าหมาปอมจะบอบบางและปากเปราะมาก แต่ทำไมเขาเลี้ยงนอกบ้าน เลยรู้สึกแปลกๆ พอถามในสิ่งที่สงสัย ก็ไม่เคยได้คำตอบกลับมาเลย จนตอนหลังคุณรันโพสต์ชี้แจงว่าเขาอาจจะใช้คำพูดที่แรงไป เช่น หมาถูกเฉือน ส่วนตำรวจก็ออกมาให้ข้อมูลแล้วว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบบ้าน พบว่าไม่ได้มีเหตุอะไรผิดปกติในบริเวณบ้าน คือ ไม่มีใครเข้าไปทำอะไรในบ้านเลย ดังนั้นคิดว่าเรื่องนี้ หลายคนคงได้ข้อสรุปแล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร

ได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง

เวลาจะแชร์อะไรก็ต้องดูดีๆ ค่ะ ไม่ใช่กดแชร์ๆ อย่างล่าสุด ชัญญ่าเพิ่งโดนโกงค่าช่วยหมาไปสองหมื่นบาท เพราะมีคนโทรมาเป็นเสียงป้าๆ บอกอยู่ต่างจังหวัดและขอตังค์ เพื่อสร้างโรงเรือนให้หมา บอกเพื่อนชัญญ่าแนะนำมา แต่พอโทร.ไปถามคนที่แนะนำมา เขาก็บอกว่าไม่รู้จักคนนี้ เห็นเขาโทรมาก็เลยให้เบอร์ชัญญ่าไป สรุปว่าไม่มีใครรู้จักผู้หญิงคนนี้เลย แต่ชัญญ่าโอนเงินไปให้เขาแล้วสองหมื่นบาท

สักพักหนึ่ง มีไลน์เด้งมา เป็นรูปโปร์ไฟล์ผู้หญิงเซ็กซี่มาก แต่งหน้าเยอะๆ ซึ่งไม่น่าจะใช่ป้าที่โทร.มาขอร้องเราแน่นอน แล้วคนนี้ไม่มีรูปถ่ายกับหมาเลย มีแต่รูปไปเที่ยวอาร์ซีเอ ก็เลยช็อก คิดว่าเขาคงมาหลอกลวงเรา แต่ไม่อยากไปถาม ก็ปล่อยๆ ไปตามเลย แต่มันก็กลายเป็นบทเรียนว่าเราต้องไตร่ตรองให้มากขึ้น

มาทำดีเพื่อหมาอย่างนี้ กลัวคนมองว่าทำดีสร้างภาพหรือเปล่า

ต้องมีคนมองอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ชัญญ่าไม่กลัวนะคะ คิดว่าสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว คือ เราไม่ได้พูดแต่ปาก แต่เราทำด้วย เชื่อไหมว่าตั้งแต่ช่วยหมามา ชีวิตชัญญ่ามีแต่ดีขึ้น ไม่เคยมีช่วงตกต่ำ หรือพอรู้สึกแย่ในเรื่องอะไร ก็จะมีคนคอยช่วย คอยดึงเราขึ้นมาตลอด เรียกว่าเป็นการบุญที่เห็นผลชัดมาก ดังนั้นเชื่อว่าบาปก็ต้องมีจริงและกรรมตามทันเหมือนกัน เลยตั้งใจจะทำดีอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ (ยิ้ม)

เรื่องโดย สุพรรษา แก้วแสงธรรม
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754





วิวจากระเบียงของคอนโดชัญญ่า ตั้งอยู่ใจกลางถนนสุขุมวิท








บทบาทพิธีกรใน “รายการแฟมิลี่มีหาง”
ชัญญ่าเตรียมยื่นจดหมายให้แก่ คสช. เพื่อสนับสนุนการร่างพรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์ฉบับประชาชน
ร่วมยื่นจดหมายสนับสนุนการร่างพรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์ฉบับประชาชนให้แก่ตัวแทนของคณะคสช.
ทำเสื้อจำหน่าย เพื่อหารายได้ช่วยเหลือสุนัข

ซื้อของไปบริจาคให้แก่หมายากไร้


กำลังโหลดความคิดเห็น