ถือเป็นข่าวดังสนั่นวงการกีฬาเลยทีเดียว หลังเกิดกรณี “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ประจาน “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ ว่าทำร้ายร่างกาย ผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ลั่น “กูไม่ยอมเจ็บตัวฟรี!!” ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียใจให้กับโค้ชเชเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเกิดข่าวลืออย่างหนักว่า หรือนี่จะเป็นการปิดฉากตำนานโค้ชเทควันโด ผู้สร้างความแข็งแกร่งให้กับนักกีฬาไทย
เป็นเรื่อง! “น้องก้อย” แฉ “โค้ชเช” ต่อย
กลายเป็นเรื่องลุกลามขึ้นมาใหญ่โตทีเดียว สำหรับ “โค้ชเช” ” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ที่ลงไม้ลงมือทำโทษ “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 รุ่น 62 กิโลกรัม โดยเจ้าตัวออกมาแฉว่าโดนโค้ชเช ชกเข้าที่ใบหน้า และต่อยท้อง หลังโมโหที่ตนลงแข่งขันช้า และไม่พร้อมในการลงสนาม ส่งผลให้พ่ายการแข่งขันกับเจ้าถิ่นไป
โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม น้องก้อย ได้โพสต์รูปภาพการคุยวิดีโอคอลกับมารดา (นพมาศ ขุระสะ) พร้อมระบุข้อความว่า “กูแพ้. ไม่เจ็บเพราะแข่งเลยค่ะ. เจ็บเพราะโดนโค้ชต่อย. #คิดว่าถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่รู้. จะทำใจได้ไหม. #ถ้าหากคุณมีลูก #ลูกคุณโดนแบบนี้คุณเลี้ยงลูกจนโตมาอายุ 23 ปีเลี้ยงอย่างทะนุดถนอมขนาดปากร้อนในยังพาไปหาหมอ. #นี่โดนต่อย. #จนกรามบวมอ้าปากแล้วปวดหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่. #แม่บอกหัวใจจะสลาย กูไม่ยอมเจ็บตัวฟรี และแม่กูไม่เสียน้ำตาฟรีๆ แน่นอน”
แน่นอนว่า ความจริงที่ออกมาจากฝ่ายของน้องก้อยทำให้มีคนตำหนิติติงการลงโทษของโค้ชเช ที่ดูจะเกินกว่าเหตุไปนัก โดยบางคนถึงขั้นอ้างกฎหมายว่าเป็นการทำร้ายร่างกายเลยทีเดียว
“ทำผิดให้วิ่งรอบสนามสิ จะต่อยเพื่ออะไร? ความรุนแรงที่ชอบธรรมมีจริงเหรอ? นักกีฬาไร้วินัย ถอดออกได้ค่ะ แต่ใช้กำลังไม่ถูกค่ะ” Nuttaporn Thavornchaisit
“การจะมีวินัยต้องโดนต่อยหน้าก่อนนะครับแหม่ วิธีจะลงโทษนักกีฬาที่ไม่มีวินัยต้องชกหน้านะครับเพิ่งรู้ โค้ชกีฬาอื่นน่าเอาไปใช้มั่งนะครับ จะได้ประสบความสำเร็จ” Naruphon Saraphun
“ถ้าทำผิดจริง ลงโทษ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้มีระเบียบวินัย แต่ถ้าถึงขนาดที่ต้องต่อย หรือตบหน้า มันไม่สมควร มีวิธีลงโทษเยอะแยะไป อีพวกที่พูดปากพล่อยๆ เคยโดนทำร้ายร่างกายกันไหม” Littledevil Issy
ถึงกระนั้น ด้วยเหตุผลบางส่วนที่ค่อยๆ ปรากฏออกมา รวมถึงผลงานที่โค้ชเชได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ การพา “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย คว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิก เอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี 2004 ส่วนในปี 2008 ก็ฝึกซ้อมให้กับ “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ จนคว้าเหรียญเงินเทควันโดโอลิมปิกเกมส์ มาได้สำเร็จ จึงทำให้คนบางส่วนคิดว่า เหตุการณ์นี้คนที่ผิดอาจจะไม่ใช่โค้ชเช แต่เป็นเพราะความไม่พร้อมต่อการลงแข่งขันและความไร้ระเบียบวินัยของน้องก้อยเอง
“นักกีฬาไทยไปไม่ถึงไหนเพราะมีคนประเภทแบบนี้ ไม่มีระเบียบวินัย ดูอย่างเกาหลี เยอรมัน เขามีระเบียบวินัย เชื่อฟังโค้ชมากกว่าฟังพ่อแม่ตัวเองอีก ถ้ายังไม่อยากโดนโค้ชเคี่ยวเข็ญก็นอนอยู่บ้าน แต่งหน้าทาปากดีกว่านะ” สอง ปากน้ำโพ
“โค้ชเชเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับวงการเทควันโดไทยมากเท่าที่ประมวลเหตุการณ์ ถ้าโค้ชเชไม่เหลืออดจริงๆ คงไม่ทำเช่นนี้แน่และโคชเชก็ไม่ใช่ลงโทษลักษณะนี้เป็นครั้งแรก ทุกคนก็รับรู้ถ้าน้องไม่ชอบก็อย่าอยู่วงการนี้เลยไปอยู่บ้านให้แม่โอ๋ซะ กินนมแล้วเข้านอน” Hipponoy Chai
“อยากเป็นทีมชาติ ต้องทุ่มมันเกินร้อย จะโดนเตะโดนต่อยมั่ง ไม่เห็นเป็นไร ถ้าพ่อแม่เลี้ยงลูกขนาดเป็นร้อนในต้องพาไปหาหมอ แล้วจะมาแข่งทำไม เห็นใจโค้ชสมาคมและนักกีฬาควรออกมายืนข้างโค้ชนะ” Parichart Pimpimm
“ไม่พร้อมจะเสียสละและอดทน แต่จะเป็นทีมชาติ อีกอย่างโค้ชคนนี้ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เค้าโหดแต่ไม่เคยโหดแบบไร้เหตุผล หลายคนที่ประสบความสำเร็จก็เพราะโค้ชคนนี้ รับวิธีแนวทางของโค้ชคนนี้ไม่ได้ก็หาโค้ชใหม่ครับ ผมว่ายังมีอีกหลายคนอยากให้โค้ชคนนี้สอน เพื่อขัดเกลาตัวเองให้ประสบความสำเร็จ” Ponepone Pone
ลูกศิษย์ให้กำล้งใจ “โค้ชเช” สู้ๆ
อย่างไรก็ตาม เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของโค้ชเชก็ต่างออกมาให้กำลังใจโค้ชเช อย่าง “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Lek Chanatip ระบุว่า นักกีฬาทุกคนที่เคยซ้อมกับโค้ชเช จะรู้ว่าโค้ชมีความตั้งใจและทุ่มเทให้กับนักกีฬามากแค่ไหน และที่ผ่านมาโค้ชก็สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก
“จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ฝีมือก็ไม่ดีสักเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่มาคัดด้วยกันตอนนั้นเราเองฝีมือก็ไม่เก่ง แต่โค้ชคนนี้กลับให้โอกาส ซึ่งน้อยคนจะได้รับคือการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย หลังจากนั้นเราเองก็ได้รับการฝึกสอนและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ นักกีฬาทุกคนที่เคยซ้อมกับโค้ชเชจะรู้ว่าโค้ชมีความตั้งใจและทุ่มเทให้กับนักกีฬามากแค่ไหน ตลอดระยะการทำงานของโค้ช สร้างผลงานต่างๆมากมายให้กับประเทศไทย ในขณะที่เค้าเป็นคนเกาหลี...หากวันนึงต้องเสียโค้ชดีๆ แบบนี้ไป..ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับเล็กและนักกีฬาหลายๆคนที่เข้าใจโค้ชจะเสียใจมาก ถ้าหากโค้ชตัดสินใจไม่กลับมาคุมทีมต่อ..ไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอภาวนาให้โค้ชกลับมาค่ะ..พวกเราพร้อมจะเคียงข้างโค้ชเสมอ..”
รวมไปถึง “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย ที่ให้สัมภาษณ์กับทาง MGR SPORT ว่าทุกคนในวงการนี้ต่างก็เจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วทุกคน
“เทควันโดเป็นกีฬาที่ต้องปะทะกันอยู่แล้ว ผู้หญิงเองบางครั้งก็ต้องจับคู่ซ้อมเตะกับผู้ชาย เรื่องใช้กำลังจึงเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าน้องเขาผิดจริงก็ถือเป็นบทลงโทษที่ปกติ เมื่อก่อนพวกรุ่นพี่ๆ ที่เคยทำผิดล้วนโดนหนักกว่านี้มาแล้วทั้งนั้น แต่ทุกคนก็รับได้ เนื่องจากเข้าใจว่าตัวโค้ชเชมีความตั้งใจเต็มที่ที่จะให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ แต่น้องอาจจะเป็นนักกีฬาใหม่ และยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จึงอาจรู้สึกโกรธ”
นอกจากนั้น เฟซบุ๊กแฟนเพจ “โค้ชเช แฟนคลับ” ยังได้ฝากส่งข่าวเพิ่มเติมมาด้วยอีกว่า อยากให้คนไทยช่วยส่งกำลังใจให้โค้ชเชอีกด้วย
“แอดมินได้คุยกับทางโค้ชเชแล้ว โค้ชเชเสียใจอยู่มากจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่า ให้เค้าได้เห็นกำลังใจมากมายที่คนไทยมีให้ จะทำให้เรื่องราวต่างๆ ดีขึ้นได้มั้ย แต่ยังไง แอดมินรบกวนขอให้ทุกคนโพสต์ให้กำลังใจโค้ชเชกันนะคะ ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนคลับ เป็นใครก็ได้ค่ะ แอดมินอยากให้ทางเกาหลีรู้ว่าคนไทยที่รักโค้ชเชมีมากขนาดไหน ภาษาอะไรก็ได้ค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะ”
ลือแรง โค้ชเชขอลา ไม่กลับไทย
เหตุการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวพอควร ซึ่งถึงแม้จะได้มีการขอโทษตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว แต่ดูเหมือนปัญหาจะยังไม่จบตรงนั้น จึงทำให้ ณ ตอนนี้ โค้ชเชยังไม่มีการออกมาแถลงข่าวใดๆ ซึ่งคนใกล้ตัวโค้ชเชอย่าง เจ้าแม็กซ์ หรือ ชัชวาล ขาวละออ อดีตแชมป์โลกและปัจจุบันเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย ก็ได้ออกมาให้ข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนคิดว่าอาจจะต้องทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่าโค้ชเชอาจจะไม่กลับเมืองไทยแล้ว ซึ่งตอนนี้โค้ชเชกำลังตัดสินใจอยู่
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 กรกฎาคม) น้องก้อย ได้ออกมาสัมภาษณ์เปิดใจผ่านรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า โค้ชเชได้ต่อยเข้าที่กรามด้านซ้าย และก็ถูกต่อยอีกประมาณ 10 กว่าหมัด โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้ไร้ระเบียบดังที่หลายคนกล่าวหา โดยน้องก้อยกล่าวว่า ถ้าตนไม่มีความพร้อม หรือไม่มีความรับผิดชอบในการแข่งขัน โค้ชคงไม่เรียกเข้ามาติดทีมชาติอย่างแน่นอน ส่วนทางด้านบิดา (วัลลภ ขุระสะ) ก็ต้องการให้โค้ชเช ออกมาขอโทษผ่านสื่อมวลชนอีกด้วย
ถึงกระนั้น การที่น้องก้อยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ดูเหมือนจะเป็นการราดน้ำมันลงกองไฟแทนที่จะทำให้ปัญหาลดความรุนแรงลง อย่างที่ “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย ก็ขอออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yaowapa Boorapolchai อีกครั้ง หลังจากน้องก้อยออกรายการ
“พี่ไม่รู้จักน้องเป็นการส่วนตัวนะคะ น้องก็ไม่รู้จักพี่ แต่คงจะไปเที่ยวถามคนนู้นคนนี้ว่าพี่เป็นยังไง หรือโดนอะไรมา ในเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้อง พี่เสียใจด้วยที่ต้องโดนแบบนั้น แต่พี่ก็ไม่เคยพูดประเด็นของน้องที่เกิดขึ้นที่เกาหลี เพราะพี่ไม่เห็น พี่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ พี่เลยไม่พูด ดังนั้น ก่อนจะพูดพาดพิงถึงพี่ น้องหาข้อมูลมาให้ดีกว่านี้นะคะ หรือถ้าไม่รู้ ไม่แน่ใจ ไม่ต้องพูดเลยก็ได้
เวลาที่พี่ให้สัมภาษณ์ พี่พูดแต่เรื่องตัวเองนะคะ น้องเพิ่งติดทีมชาติไม่กี่เดือน แข่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 น้องคิดว่าน้องโดนหนักที่สุดแล้วเหรอคะ คนอื่นๆ ที่เค้าอยู่มานานๆ น้องคิดว่าไม่โดนเหรอคะ น้องออกมาบอกให้โค้ชออกมาขอโทษผ่านสื่อ เพราะน้องดูเป็นคนไม่ดี ไม่มีวินัย ไม่อยากให้ใครมาว่า น้องน่าจะคิดก่อนที่จะโพสต์อะไรนะคะ มันไว ที่กระแสเค้าวิพากษ์วิจารณ์ ก็เพราะน้องทำอะไรวู่วามเอง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา เวลามันสะท้อนกลับก็แรงอย่างนี้ ต้องทำใจ
พี่ขอตอบคำถามสุดท้ายที่น้องถามนะคะ ว่าถ้าลูกพี่เป็นผู้หญิงพี่จะรู้สึกยังไง ถ้าโดนโค้ชทำร้าย ? คือถ้าลูกพี่ อายุ 23 แล้ว แล้วเป็นทีมชาติ พี่ไม่ซีเรียสนะคะ ถ้าไม่ถึงกับ ตาปูด เลือดไหล เพราะพี่โดนมาแล้วไม่เป็นไรค่ะ ไม่ตาย จิตใจไม่บอบช้ำ เพราะพี่เข้าใจ และความฝันพี่ยิ่งใหญ่
สุดท้ายที่พี่ออกมาแสดงความเห็นอย่างนี้ไม่ใช่ว่า เกลียดน้องหรืออะไรนะคะ พี่อยากให้น้องทำความเข้าใจ และบอกเล่าประสบการณ์ในฐานะอดีตรุ่นพี่ทีมชาติคนหนึ่ง ถ้าโค้ชเสียใจ ไม่กลับมา น้องรับผิดชอบไหวมั้ยคะ?”
สุดท้ายแล้ว เหลือเพียงแต่โค้ชเชเท่านั้นที่จะออกมาเฉลยทุกๆ อย่าง ให้ทุกคนเข้าใจ แต่อย่างไรเชื่อว่า คนไทยพร้อมจะให้กำลังใจสนับสนุน โค้ชเทควันโดที่ผลักดันให้นักกีฬาไทยได้ยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างแน่นอน
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพประกอบจาก โค้ชเช แฟนคลับ
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754