ถ้ามีโอกาสบอกคนที่คุณรักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหมดลมหายใจ คุณจะบอกเขาว่าอะไร?...
หากเลือกได้ ทุกคนคงอยากมีโอกาสบอกลาคนที่คุณรักก่อนจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก และถ้าหากเลือกได้มากกว่านั้น คงไม่มีใครอยากให้การจากลาอันแสนเศร้านี้เกิดขึ้น...
แต่เพราะเหตุการณ์ในชีวิตบางครั้ง มนุษย์เดินดินตัวเล็กๆ อย่างเราๆ ก็ไม่สามารถกำหนดมันได้ หลายคนจึงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม และทำได้เพียงส่งมอบความรักทั้งหมดในลมหายใจสุดท้ายไปยังคนที่รัก เฉกเช่นโศกนาฏกรรมเรือโดยสาร “เซโวล (Sewol)” ของเกาหลีใต้ที่อับปางกลางทะเล
จนถึงตอนนี้ มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือข้ามฟากซึ่งเดินทางจากเมืองอินชอนมุ่งหน้าไปยังเกาะเชจูอยู่ที่ 179 ราย จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 476 ราย นอกนั้นคือจำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย ที่ปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทั่วโลกต่างออกมาแสดงความเสียใจให้แก่ความสูญเสียและไว้อาลัยบนโลกออนไลน์โดยใช้ Hashtag คำว่า #PrayForSouthKorea จนยอด Hashtag ด้วยถ้อยคำดังกล่าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งใน Twitter แค่เฉพาะในประเทศไทยเอง มีคนทวีตแล้วเฉียด 300,000 ครั้งแล้ว (วัดจากสถิติ www.lab.in.th/thaitrend เมื่อวันที่ 17 เม.ย.57 เวลา 17.00 น.)
พร้อมกันนี้ยังมีผู้เปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นภาพโบว์สีเหลืองเพื่อแสดงความไว้อาลัยในเหตุการณ์นี้อย่างสุดซึ้ง ส่วนเรื่องราวที่ได้รับการแชร์มากที่สุดจนกลายเป็น Talk of the town หลั่งน้ำตาไปทั่วโลกในขณะนี้ก็คือ บทสนทนาสุดท้ายที่เด็กนักเรียนมัธยมต้นซึ่งเป็นผู้โดยสารในลำเรือมรณะลำนี้ ส่งหาคนที่ตัวเองรักผ่านโปรแกรมแชทบทมือถือ เพื่อกล่าวลาครั้งสุดท้ายก่อนเรือจะจมดิ่งลงไปในทะเล
“พี่... มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเรือเรา
หืม... เกิดอะไรขึ้น
ฉันได้ยินเสียงระเบิด พี่ ฉันรักพี่นะ ขอโทษที่ไม่เคยทำอะไรดีๆ ด้วยเลย บอกแม่ด้วยนะ ฉันรักแม่
หมายความว่ายังไง รับโทรศัพท์สิ!
โทรศัพท์ใช้ไม่ได้ ฉันกำลังจะตามพ่อไป...”
"แม่ ผมคิดถึงแม่ นี่ซองจินนะ ช่วยผมด้วย ผมยังอยู่ในโถงห้องอาหาร มันหนาวและน่ากลัวมาก เมื่อไหร่จะมีคนมาช่วยผม ช่วยผมด้วย! แม่ ผมคิดถึงแม่ ช่วยผมด้วย ใครก็ได้ช่วยที ฮันซองจินยังมีชีวิตอยู่ แม่ ช่วยผมด้วย มีร่างคนตายมากมายอยู่ตรงทางเดิน ผมกลัว ช่วยผมด้วย แม่ ผมรักแม่ ซองจินยังมีชีวิตอยู่ ผมขอโทษ ขอบคุณ และผมรักแม่..."
"พี่ ไปทริปโรงเรียนวันนี้ใช่มั้ย เดินทางปลอดภัยนะ อย่าลืมของฝากฉันล่ะ
โอเค ฉันจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย... ฉันคิดว่า ฉันคงซื้อของฝากกลับไปไม่ได้แล้วนะ ขอโทษนะ
หมายความว่ายังไง?..."
"พ่อรู้ว่าหน่วยกู้ภัยกำลังไปช่วยเหลือ แต่ถ้าเป็นไปได้ ลูกต้องออกมาจากห้องก่อน
ไม่ได้พ่อ เรือเอียง ผมออกไปไม่ได้ ไม่มีใครอยู่ในห้องโถงเลย ผมคิดว่าเราทุกคนกำลังจะตาย ถ้าผมทำอะไรผิดไป พ่อให้อภัยผมด้วย ผมรักพ่อ..."
ผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเรือโดยสารเฟอร์รี่ลำนี้ เป็นเด็กนักเรียนมัธยมต้นและครู ถึง 338 คน พวกเขามาจากเมืองอินชอน และกำลังจะไปยังเกาะท่องเที่ยว เชจู ทางภาคใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งราว 100 กม. แต่กลับประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนต้องกลายเป็นแบบนี้
หลังจากเรือโดยสารลำนี้ส่งสัญญาณแจ้งเหตุอันตรายไปยังหน่วยยามฝั่งทางภาคใต้ มีเรือและเฮลิคอปเตอร์หลายลำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ปรากฏว่าเรือด้านหนึ่งเอียงตัวลงจนถึงผืนน้ำเสียแล้ว และจมลงหมดทั้งลำภายในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง...
ล่าสุด หน่วยสืบสวน เรือยามชายฝั่งออกมาเปิดเผยว่าโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ อาจเกิดจากการหันหัวเรือเพื่อเปลี่ยนเส้นทางเดินเรืออย่างกะทันหันจนทำให้เรือล่ม
ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความโศกสลด น้ำตาแห่งความสูญเสียนองหน้าผู้สูญเสีย... คนที่พวกเขารักและรักพวกเขา ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้แต่ตั้งจิตอธิษฐาน ภาวนาให้ความสูญเสียในครั้งนี้ยุติลงเสียที
#PrayForSouthKorea ไปพร้อมๆ กัน และหันมามองคนที่คุณรักอีกสักทีว่า วันนี้ยังมีสิ่งไหนที่คุณยังไม่ได้บอก-ไม่ได้ทำเพื่อเขาอีกมั้ย ก่อนที่วินาทีสุดท้ายแห่งชีวิตจะมาถึง...
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
บีบหัวใจ! สื่อเกาหลีใต้เผย “ข้อความสุดท้าย” จากเด็กมัธยมบน “เรือเฟอร์รีมรณะ”