เสียงประทัด กลิ่นธูปเทียน และอั๋งเปาซองแดงคือสัญลักษณ์การมาถึงของเทศกาลตรุษจีน
แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะอยู่ในช่วงที่หลายคนออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่กับลูกหลานชาวจีนที่ร่วมชุมนุมอุณหภูมิการต่อสู้อาจต้องลดลงก่อน เพื่อกลับบ้านร่วมประเพณี เฉลิมฉลองต้อนรับความเป็นสิริมงคลของชีวิตก้าวสู่ปีใหม่จีน
วันซื้อ วันไหว้ผ่านพ้นสู่วันเที่ยวสำหรับเมืองไทยที่ตรุษจีนรวบรัดอยู่ในวันตามประเพณีเพียง 3 วัน การพบปะกันอย่างพร้อมหน้าของคนในครอบครัว ถือเป็นช่วงพักผ่อนเพื่อผ่อนผ่านวันเวลาอันตึงเครียดที่จะมาถึง วันนี้ ASTV ผู้จัดการ LIVE ได้สัมภาษณ์ 2 กูรูแห่งศาสตร์ด้านจีนถึงเคล็ดลับเสริมดวง อาหารเสริมโชค จนถึงที่เที่ยวเสริมมงคล เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วยความสุขตลอดปี
ตรุษจีน 57
เทศกาลตรุษจีนเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวจีน การประกอบพิธีกรรมตั้งแต่การเก็บกวาดบ้านให้สะอาด จับจ่ายซื้อของจนถึงประกอบพิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ เฉลิมฉลองด้วยการแสดงเชิดสิงโต หากเป็นในเมืองจีนจะมีการหยุดยาวถึง 15 วันโดยชาวจีนจากทั่วโลกจะเปิดทางกลับบ้านเพื่ออยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ปิดท้ายเทศกาลโคมไฟ(หยวนเซียน)
จิตรา ก่อนันทเกียรติ นักสะสมความรู้เรื่องจีนเผยว่า จากการเก็บข้อมูลมาหลายปี เธอเห็นว่า พิธีกรรมในการเสริมดวง ไหว้เจ้าเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาจีนอย่างหนึ่ง
“มันน่าจะเป็นภูมิปัญญาจีนในการจับเคล็ดลับการเสริมดวงจากการไหว้เจ้า เพราะฉะนั้นทุกปีจึงมีการไหว้เจ้าเพื่อช่วยให้ชีวิตดีขึ้น เพียงแต่มันคงไม่ใช่ทุกครั้งที่การเสริมดวงมันจะช่วยได้ มันไม่ใช่ว่าไหว้เฉยๆ แล้วมันจะรวยขึ้นมา แต่ไหว้แล้วต้องมีชีวิตปกติด้วยความขยัน ด้วยการทำงาน และทำแต่สิ่งที่ดีด้วย”
ในช่วงปี 57 จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน เธอมองว่า ถือเป็นช่วงที่ดวงเมืองอ่อน ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคม ความเชื่อของพิธีกรรมในช่วงตรุษจีนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างหนึ่งที่ทำให้ทุกคนได้ย้อนกลับมาสำรวจตัวเอง
“เมื่อดวงเมืองอ่อน การที่เรามีปัญหาทางการเมืองแล้วเราทำงานได้ไม่ดี บางคนอาจต้องหยุดงานไป ทำงานได้น้อยลง ยอดขายน้อยลง รายได้น้อยลง ทำให้เหมือนดวงเราอ่อนตาม เรามองว่า การไปศาลเจ้าทั้งไหว้ที่บ้าน ไหว้ที่ศาลเจ้า และการดูบ้านช่องให้สะอาด ดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง จนถึงการเสริมฮวงจุ้ย มันเป็นการย้อนกลับมาดูที่ตัวเราว่าทำอย่างไรให้เราสมบูรณ์พูนสุข เพื่อรอว่า มันอาจจะมีปาฏิหาริย์ มีอะไรที่ทำให้เราคิดผ่าสถานการณ์ไปได้ดีขึ้น”
ทางด้านของอาจารย์มาศ เคหาสน์ธรรม เจ้าของฉายา ซินแสไฮเทค มองเทศกาลตรุษจีนท่ามกลางสถานการณ์ร้อนแรงทางการเมืองที่เป็นอยู่อย่างชาวจีนที่มีความผูกพันกับรากเหง้าอันยาวนาน เขาเห็นว่า การเมืองอาจไม่มีผลกับตรุษจีนด้วยเพราะเทศกาลนี้เป็นตัวแทนของคำว่า “ครอบครัว” ซึ่งสำหรับลูกหลานชาวจีนแล้วมีความสำคัญมากกว่า
“คนจีนทุกคนถือว่าตรุษจีนสำคัญกว่า ทุกคนที่ไปร่วมประท้วง ทุกคนก็ต้องกลับมาไหว้เจ้า เพราะสิ่งนี้มันฝังอยู่ในสายเลือดของคนจีนทุกคนที่วันตรุษจีนจะเป็นวันที่ครอบครัวจะได้มาเจอหน้ากัน เหมือนวันแห่งครอบครัวนั่นแหละ ยังไงก็ต้องกลับมา อยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องกลับมา แล้วค่อยกลับไปประท้วงกันต่อ”
ผ่าวิกฤตด้วยปัญญา
การเสริมดวงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกหลานชาวจีนนิยมทำเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน จิตรา ก่อนันทเกียรติ กูรูรู้เรื่องจีนอย่างเจาะลึกเท้าความถึงศาสตร์แห่งการเสริมดวงในช่วงตรุษจีนว่า มาจากการเก็บสถิติเพื่อสร้างเป็นคำทำนาย โดยจะผูกคำทำนายไว้กับเทพเจ้าผู้คุ้มครองดูแลดวงชะตาอย่าง ไฉ่ซิ้งเอี๊ย โดยเทพตนนี้จะมีการเปลี่ยงองค์ทรงเครื่องทุกปี เกิดจากการผูกดวงกับนักษัตรและธาตุตามปีนั้นๆ
โดยในปีนี้ เธอเผยว่า ไฉ่ซิ้งเอี๊ยแต่งองค์เหมือนขงเบ้ง ในฉากที่ขงเบ้งเล่นพิณบนหอรบ โดยใส่ชุดเจ้าเมืองมีการถกเข่าข้างหนึ่งเพื่อให้เห็นชุดข้างในที่ไม่หรูเท่าชุดนอก
“เราตีความว่า มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า ขงเบ้ง ณ ฉากนั้นต้องเผชิญหน้ากับสุมาอี้ที่ยกพลมา 15,000 คนโดยตนเองมีพลอยู่เพียง 2,500 คน ถ้ารบก็แพ้ ขงเบ้งจึงคิดอุบายที่แยบคาย โดยเปิดประตูเมืองไว้ ให้ประชาชนอยู่กันตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวเองก็ใส่ชุดเจ้าเมืองขึ้นไปดีดพิณอยู่บนหอรบ”
“สุมาอี้กับพรรคพวกเห็นเข้าก็คิดว่า เฮ้ย! ระดับขงเบ้งคงไม่พลาดกับเรื่องแบบนี้ ต้องมีกลอุบายอะไรซ้อนอยู่ หากจู่โจมไปต้องแพ้แน่นอน สุมาอี้เลยยกทัพกลับ สิ่งนี้เกิดอะไรขึ้นสะท้อนว่าสติปัญญาของขงเบ้งเมื่อคิดได้สุดยอดก็แก้ไขปัญหาได้ง่ายๆ”
เมื่อนำมาแปลงให้เข้ากับบริบทของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอจึงสรุปว่า แม้ปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ดี บ้านเมืองมีปัญหา การใช้ชีวิต การทำงานต้องพบกับเรื่องที่ไม่เป็นใจ แต่การใช้ปัญญาจะสามารถผ่านพ้นสิ่งเหล่านั้นไปได้
“ในปีนี้ปัญญาเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดให้ลึกซึ้ง ถ้าคิดได้ออก...เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาก็จะหมดไปได้ง่ายๆ เหมือนขงเบ้งที่เอาชนะสุมาอี้ได้”
ทั้งนี้ ในส่วนของมงคลในการไปเที่ยวช่วงตรุษจีนนั้น เธอให้คำแนะนำที่เหมาะกับยุคสมัยว่า ควรไปเที่ยวกับสถานที่ที่สะดวก เพื่อให้ไม่เหน็ดเหนื่อยเกินไปสำหรับการกลับมาทำงานในวันต่อไป
“ยุคนี้มันควรจะเป็นยุคของการถนอมร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ถ้าเจอสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นวัดเป็นศาลเจ้าไหว้เสริมดวงได้ก็เสริมไป แต่ถ้าสามารถทำความดีทำบุญอะไรที่เป็นประโยชน์แก่สังคมได้ก็ทำ แต่ต้องประณีตนิดนึงว่าที่ทำไปมันดีกับทุกฝ่ายหรือเปล่า”
โดยเธอแนะนำศาลเจ้าไต้ฮงกงโดยให้เหตุผลว่า เป็นการทำบุญเสริมดวงที่ทำให้สังคมได้ประโยชน์ด้วย
“ไต้ฮงกงเป็นมูลนิธิซึ่งอยู่ในแหล่งที่ลูกชาวจีนนิยมมาทำบุญเป็นร้อยๆ ปี และเงินทำบุญก็นำมาต่อยอดสร้างเป็นโรงพยาบาลหัวเฉียว เป็นมหาวิทยาลัยหัวเฉียวด้วย”
พลังโชคลาภอยู่ทางทิศใต้
กิจกรรมเสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ยเป็นความเชื่อที่ชาวจีนศรัทธา การเฉลิมฉลองในวันเที่ยวต้อนรับปีใหม่ก็เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นที่ดีให้กับโชคลาภที่กำลังจะมาถึง อาจารย์ มาศ ซิงแสชื่อดัง ชี้ชัดฟันธงว่า ทิศแห่งโชคในปีนี้คือทิศใต้!
“วันตรุษจีนปีนี้พลังดีมาทางทิศใต้ ดังนั้นพลังดีประจำวันกับพลังดีประจำปีทับซ้อน การไหว้นั้นช่วง 5 ทุ่มถึงตี 1 ห้ามเด็ดขาด ชาวจีนปกติจะไหว้เวลานี้กัน แต่ปีนี้ไม่ดีเพราะช่วงนั้นทิศใต้เป็นทิศร้าย ควรไหว้ยาม 2 แทนคือตั้งแต่ตี 1 40 นาทีถึงตี3”
นอกจากนี้การจุดประทัดก็เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นโชคเสริมดวงได้ดี
“ถ้าจุดประทัดกระตุ้นโชคให้จุดทางใต้ของบ้าน เพราะการจุดประทัดเป็นการระเบิดพลังงานออกมา ยิ่งจุดเยอะก็ยิ่งจุดพลังงานออกมาเยอะ”
ในส่วนของเวลานั้น ซินแสเผยว่า จุดได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 9 โมงเช้า หรือหากเป็นฤกษ์บ่ายก็จุดได้ตั้งแต่ 11.40 น. ถึง 15.00 น. และควรงดเว้นช่วง15.00 น. - 17.00 น. เพราะเป็นยามร้ายที่เข้ามาช่วงสั้นๆ
นอกจากนี้ อาจารย์มาศแนะนำว่า ถ้าหน้าบ้านหันไปทิศใต้ก็จุดที่หน้าบ้าน แต่หากทำไม่ได้ก็สามารถตั้งโคมไฟสีแดงหรือสีชมหูช่วยเสริมโชคได้ดี ทั้งยังสามารถตั้งโคมไฟนี้ไปได้ตลอดปี 57 นี้เลยอีกด้วย
“เปิดประตูทิศใต้ก็ช่วยให้รับโชคเข้ามาได้ แต่ถ้าทิศใต้เป็นหน้าต่างก็หมั่นเปิดไว้เพื่อรับพลังมงคลที่เข้ามาบ้าง นอกจากนี้การต่อเติมบ้านทิศใต้ก็ยังช่วยเสริมโชคได้ดีอีกด้วย สามารถทำได้ตลอดปี”
การใช้แตะเอีย ซินแสเผยว่า แม้ในทางหลักการแล้วจะไม่ซีเรียสนัก เพราะได้มากกว่าย่อมถือว่าดีกว่า แต่เลข 8 กับเลข 9 ยังคงมาแรง เป็นเลขมงคลที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ให้และผู้รับ
ขณะที่ในส่วนของการไปเที่ยวนั้น เขาชี้ว่า ทิศใต้ของบ้านคือทิศที่มงคลและจะเสริมดวงในตลอดปีนี้มีแต่โชค และอาจทดสอบโชคด้วยการซื้อหวยก็ทำได้ นอกจากนี้การไปไหว้ศาลเจ้าหากเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของบ้านก็ยิ่งจะเพิ่มดวงได้มากขึ้น
“ช่วงนี้อยากท่องเที่ยวก็เดินทางไปทางทิศใต้ของบ้านตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปไกล ถ้าไปห้างก็ไปห้างที่อยู่ทางทิศใต้ของบ้านเรา แต่ถ้าอยากจะไปไกลก็คำนวณดูว่าจังหวัดไหนที่อยู่ทางใต้ของบ้านเรา ใต้ตรงๆเลยนะ 180 องศาเลยจะดีที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ซินแสเตือนว่า ตามประเพณีแล้ววันเที่ยวถือเป็นวันถือเคล็ดมงคลที่จะงดทำบาปทุกชนิดอีกด้วย
“ทุกอย่างเกี่ยวกับทิศใต้หมด เพราะพลังโชคมาทางทิศใต้ เช่นไปไหว้เจ้าก็เลือกศาลเจ้าที่อยู่ทางทิศใต้ของบ้านตัวเอง เพราะว่าทิศใต้ปีนี้มีพลังโชคลาภ เวลาไปไหว้เจ้าก็เป็นการกระตุ้น การไหว้เจ้าทางทิศใต้ได้ผลดีเป็นพิเศษ”
….
เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE