อุณหภูมิบ้านเมืองเวลานี้ดูจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากความคึกคักของมวลมหาชนนับล้านที่หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อรวมพลบนถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2556 พร้อมปักหลักค้างแรม สร้างประวัติศาสตร์ เปลี่ยนประเทศไทย ขับไล่ทรราช แม้ในช่วงเช้า จะมีบางกลุ่มถูกมือสถุล โปรยตะปูเรือใบสกัดมวลชนคนรักชาติเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางหัวใจรักชาติของพวกเขาไปได้
ไม่เพียงแต่ความคึกคักบนถนนราชดำเนินเท่านั้น ปฏิกิริยาในโลกโซเชียลฯ ก็ไม่น้อยหน้า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 พ.ย. หากไล่ดูกระแสในเฟซบุ๊ก จะพบข้อความ และภาพแสดงพลังขับไล่รัฐบาลชุดนี้กันมาก ยกตัวอย่าง ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของ "ศศิน เฉลิมลาภ" ผู้ที่ใช้เท้าทำให้เกิดเสียงในการคัดค้านต่อต้าน EHIA เขื่อนแม่วงก์
"จนถึงวันนี้...ผมก็ยังอยากขอร้องว่า ถ้ายุบได้เมื่อไหร่ ยุบเถอะครับ ถ้าลาออกได้ ลาออกเถอะครับ ไม่ต้องมีเหตุผลโยงใยอะไรมากกว่า เพื่อคลี่คลายสถานการณ์...."
หรือจะเป็นข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นักวิชาการฝีปากกล้าอย่าง ดร.เสรี วงษ์มณฑา ที่ได้โพสต์แสดงทัศนะไว้อย่างดุเดือดเผ็ดมัน
"ปลดแอกประเทศไทยให้หลุดพ้นจากรัฐบาลที่ชั่วช้าสามานย์หน้าด้านโกงกินหมิ่นพระเจ้าอยู่หัว ต้องออกมาชุมนุมมาที่ราชดำเนินได้ต้องมา มาไม่ได้กระหน่ำไล่ใน social media นำเอาความเลวร้ายของรัฐบาลมาแชร์ให้ทุกคนใน social network ได้รับรู้ ให้คนของรัฐบาลมันตกใจ ไปไม่ถูกจัดชุมนุมย่อย ณ พื้นที่ใดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ก็จัดคู่ขนานไปกับการชุมนุมของมหาปราชนที่รวมตัวกันชุมนุมขับไล่รัฐบาลชั่วร้ายหุ่นเชิดนักโทษหน้าเหลี่ยม
จัดแถลงการณ์ว่า เราไม่ยอมรับรัฐบาลนี้ ระบุความเลวร้ายที่ทำให้เราไม่อาจจะยอมรับรัฐบาลต่อไป ทำให้เราต้องออกมาไล่รัฐบาลนี้ให้ออกไปพ้นๆ ประเทศไทย อย่าให้วาทกรรมต่อไปนี้ทำให้เราลังเลใจที่จะออกมา
เพื่อไทยออกไปแล้วใครจะมา
อัปรีย์ไป จัญไรมาไม่มีอะไรดีขึ้น
นักการเมืองเลวเหมือนกันหมด โกงกินเหมือนกันหมด
ออกมาแล้วทำอะไรได้จะชนะหรือ
ไม่ต้องการให้ประชาธิปัตย์ตีกิน ด้วยการเป็นรัฐบาลจากการเปลี่ยนขั้ว
ไม่อยากถูกประชาธิปัตย์หลอกใช้
รัฐบาลถอยแล้วทำไมไม่เลิก
การชุมนุมทำลายโอกาสประเทศ เศรษฐกิจเสียหาย การท่องเที่ยวเสียหา
เกรงจะเกิดอันตราย รัฐบาลอาจจะสั่งให้ตำรวจทำร้ายประชาชน
ทั้งหมดนี้จะทำให้เราลังเลที่จะเข้าร่วม ยามนี้อย่าคิดอะไรทั้งนั้น เป้าหมายที่ชัดเจนของเราคือไล่รัฐบาลที่ชั่วช้าสามานย์ อย่าให้ครอบงำครอบครองประเทศไทย ออกมากันให้มากๆ พากันมาเป็นหมู่คณะนะคะ"
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสีสันคือ การแชร์รูปภาพเขียนข้อความต่างๆ เช่น "เจอกันเมื่อชาติต้องการ" ซึ่งได้กลายเป็นภาพที่มีการขึ้นสเตตัส และกดแชร์กันมาก โดยจะเขียนโพสต์ในทำนองว่า "วันที่ 24 เป็นวันที่ชาติต้องการพวกเราแล้ว" รวมไปถึงภาพที่เขียนข้อความว่า "24 พ.ย.2556 ไม่ได้สู้เพื่อมาร์ค ไม่ได้ทำเพื่อเทพเทือก แต่สู้เพื่อตัวเองและลูกหลาน..." หรือ "กูไม่เอามึง ร่วมกันแข็งข้อระบบทักษิณ" เป็นต้น
ทางด้านความเคลื่อนไหวในอินสตาแกรม ก็มีความตื่นตัวเช่นกัน เห็นได้จากอินสตาแกรมของดารา คนดังหลายๆ คน เริ่มจาก ดี้-ชนานา นุตาคม ดารานักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ภาพ และข้อความผ่านอินสตาแกรม @dee_chanana โดยระบุว่า "พระอภัยเพคะ เราต้องการความช่วยเหลือจากท่านเพราะท่านมีความสามารถในการเป่าปี่ให้ยักษ์อกแตกตาย ตอนนี้อสุรกายเต็มบ้านเต็มเมือง ชาวประชาออกมาช่วยเป่าไล่แต่ก็ไม่ได้ผล 24 พย. จะรวมพลให้ครบล้าน และต้องการผู้ชำนาญไปเป่าช่วยชาติ เรียนเชิญนะเพคะ เออ!! แต่ปี่ไม่ต้องเอาไป เดี๋ยวทางเราจะเตรียมนกหวีดไว้ให้เพคะ คริคริ"
เช่นเดียวกับนักแสดงมากฝีมืออย่าง นก-สินจัย เปล่งพานิช ก็ได้ออกมาจากโพสต์ภาพ ล้านพลังสู้เพื่อชาติ พร้อมกันที่ราชดำเนิน 24 พ.ย.2556 ผ่านอินสตาแกรม @noksinjai พร้อมกับเขียนข้อความระบุว่า ขอทำหน้าที่ประชาชน "คนไทย" สู้เพื่อชาติ สู้เพื่อความถูกต้อง ก่อนจะโพสต์ภาพ และข้อความต่อมาอีกว่า
"ขอให้คุณความดีคุ้มครองผู้มีศีล ผู้เสียสละ และผู้ที่มีจิตยึดมั่นในความดี ขอให้ความดี เป็นที่พึ่งแก่ทุกชีวิต ขอให้ความดีเป็นเกราะคุ้มภัยแก่คนที่คิดทำความสุจริตแก่ประเทศชาติ ขอให้ความชั่ว ความเลว ที่เกาะกินอยู่ผืนแผ่นดินนี้สูญหาย พ่ายแพ้แก่พระบารมี ของคุณงามความดีที่ปกปักรักษาประเทศไทยไม่ว่าอีกนานแค่ไหน..ความดีจะไม่มีวันพ่ายแพ้#เหนือเมฆ 2"
ส่วน รฐา โพธิ์งาม หรือ ญาญ่าหญิง ก็ได้แสดงความรักชาติผ่านอินสตาแกรม @yayaying_yaya ด้วยการโพสต์รูปยืนหันหลังอยู่บนตึกสูง พร้อมกับชูมือรักประเทศไทย และคล้องนกหวีดที่มีสายคล้องเป็นลายธงชาติไทยไว้รอบมือ จากนั้นได้เขียนใต้ภาพไว้ว่า Be THAI and proud
ฟากนักแสดงชายผู้รักชาติอย่าง หมอก้อง-สรวิทย์ สุบุญ เขาโพสต์รูปภาพและข้อความประชดประชันมือโรยตะปูผ่านอินสตาแกรม@kong_sarawit ว่า "ถ้าไม่มีการใช้อวิชชา ดักสกัด โปรยตะปู...ผมว่าสัก 3 ล้านคนก็ไม่ยาก... สู้ๆนะครับ เพื่อประเทศไทยที่เรารัก" โดยก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความไว้ว่า
"พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังแสดงอำนาจที่แท้จริง! เพียงแค่ 2 มือเปล่า ไร้อาวุธใดๆ แต่มีเกราะป้องกันคือความรักชาติ ศาสนาและกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพระมหากษัตริย์.. เมื่อเรามี 3 สถาบันมั่นคงอยู่ในใจแล้ว อุปสรรคแค่ไหนก็ขวางเราได้ยาก .. ภาพพี่น้องที่ดั้นด้นมารวมใจกันด้วยความยากลำบาก ผ่านสารพัดอุบายชั่ว คงทำให้เรามีพลังจะสู้และปัดเป่าเมฆหมอกแห่งความชั่วร้ายไปจากแผ่นดินต่อไปนะครับ"
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live หยิบยกมารายงานให้ได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวกัน ซึ่งปรากฎการณ์สร้างประวัติศาสตร์ เปลี่ยนประเทศไทยในครั้งนี้ แม้ว่าแต่ละคนจะมีเหตุผลในใจที่แตกต่างกันออกไป แต่เชื่อว่าทุกคนพร้อมใจเพื่อแสดงพลังให้รัฐบาลได้รู้ว่า ประชาชนไม่ได้หลับใหล และจะไปไม่ปล่อยให้ทำอะไรได้ตามที่ต้องการอีกแล้ว...
รายงานโดยทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live
