xs
xsm
sm
md
lg

“Real Kong” ตัวตนจริงๆ ของ “ก้อง-สหรัถ” ผู้ชายอบอุ่นแห่งวงการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สุภาพบุรุษ, ผู้ชายอบอุ่น, ชายในฝัน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นนิยามที่ใครหลายคนมองเห็นและมอบให้ผู้ชายคนนี้ “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” จากการรู้จักเขาผ่านหน้าจอโทรทัศน์ทั้งในฐานะนักดนตรี นักแสดง โค้ชรายการประกวดร้องเพลง และอีกหลากหลายบทบาทตลอดการทำงานกว่า 20 ปี แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จักในอีกหลายแง่มุมในตัวเขา
ซึ่งวันนี้ ผู้ชายอบอุ่นคนนี้พร้อมแล้วที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเขาผ่านพ็อกเกตบุ๊กเล่มแรกในชีวิตที่ใช้ชื่อว่า “Real Kong” ในทุกแง่มุมแบบไม่ต้องเม้มกันอีกต่อไป แม้กระทั่งเรื่องที่หลายคนสงสัยอย่างเรื่อง “ความรัก”




ก้อง ผู้เปี่ยมไปด้วย “ความรัก”
“ในความคิดของผม ผมมองว่าหากเราทุกคนขาดความรักหล่อเลี้ยงจิตใจ เราจะไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขและชีวิตอาจไร้ความหมาย เพราะความรักเป็นเหมือนน้ำมันที่ทำให้เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้” พระเอกตลอดกาลบอกเอาไว้อย่างนั้น และความรักที่สำคัญที่สุดสำหรับก้องก็คือ “การรักตัวเองให้เป็น”

“หากเรารู้จักรักตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง เราจะมีแรงผลักดันที่จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง ไม่เพียงแต่ดูแลเฉพาะด้านรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่เราจะมีแรงผลักดันจากความรักตัวเองให้รู้จักดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง และจะทำให้เราคิดดี ทำดี พูดดี ไม่หลงไปทำเรื่องเสื่อมเสีย

หนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องความรักเอาไว้หลายมุมครับ รักตัวเอง รักครอบครัว รักเพื่อนฝูง รักโลกใบนี้ รักแฟน พูดถึงความรักไว้หลายๆ รูปแบบ อยากรู้ต้องลองไปซื้อดู (หัวเราะเบาๆ)” และนี่คือส่วนเล็กๆ เพียงส่วนหนึ่งในหนังสือเท่านั้นที่เขายอมเปิดหัวใจพูดถึงคนพิเศษที่หลายคนอยากรู้

“ตั้งแต่เราคบกันมา เขาก็ยังคงเป็นอย่างที่เขาเป็น ไม่เปลี่ยนแปลง คือไม่มีความโลภ ไม่มีความอยากได้อยากมี และเขายังสอนผมให้เป็นคนประหยัด อดออม และไม่ฟุ้งเฟ้อเสียด้วยซ้ำ ผมประทับใจในตัวเขา เพราะทุกวันนี้ผมมีทุกอย่างแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดจะฟุ่มเฟือย ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่กลับให้สติผมในการใช้เงินเสียด้วยซ้ำ ผมโชคดีที่เจอคนที่เข้าใจในตัวผมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่ผมทำ นิสัยใจคอ หรือแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงของผม

ผมทำงานในวงการอยู่กับคนสวยๆ เยอะ เพราะนางเอกที่ผมแสดงหนังแสดงละครทุกคนล้วนแต่สวยระดับประเทศด้วยกันทั้งนั้น มีหลายคนมองว่าผมน่าจะได้คบกับคนในวงการเดียวกันมากกว่า แต่ผมกลับคิดว่า ถ้าเราเลือกใครเพราะความสวยคงไม่ใช่ เพราะความสวยมีวันหมดอายุ แต่ความสวยจากภายในจิตใจไม่มีวันหมดอายุ และเป็นความสวยที่ยั่งยืน แล้วถ้าเราเจอใครที่สวยจากข้างในและสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดของเราได้ มีรสนิยมในการดำเนินชีวิตที่คล้ายๆ กัน เราต้องรีบเก็บไว้เลยเพราะหาไม่ได้ง่ายๆ”




“Real Kong” ของทุกคน
คำบอกเล่าจากปากคนอื่นๆ คือกระจกเงาที่สะท้อนตัวตนคนคนหนึ่งได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าให้พูดถึงตัวจริงของก้อง “จอห์น-นรศักดิ์ รัตนเวโรจน์” หนึ่งในเพื่อนสนิทและสมาชิกวงนูโวที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย จึงขอพูดถึงเอาไว้เสียหน่อย

“ผมรู้จักอยู่หลายก้องมากครับ ตั้งแต่ก้องเบอร์ 1 2 3 ก้องแรกที่ผมรู้จักคือ “ก้องที่มีความรักที่บริสุทธิ์” มากครับ เป็นก้องที่อ่อนไหว-อ่อนโยน เรียกว่าผมเป็นคนโชคดีครับ เพราะถ้าเพื่อนผมเป็นคนมีจิตใจอีกลักษณะหนึ่ง มันคงไม่ส่งผลให้ผมเป็นอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน ก้องเป็นคนที่มีความรักยั่งยืน รักใครรักจริง รักตลอดไปครับ (ก้องยื่นแบงก์พันให้เพื่อตบมุก)

ก้องที่ 2 ที่ผมรู้จักคือ “ก้องลูกคุณพ่อ” เป็นก้องที่มีความรอบคอบในการดำเนินชีวิต ตัวผมเองมาจากครอบครัวที่พ่อแม่แยกทาง พอได้มาอยู่กับก้อง มีหลายครั้งที่คุณพ่ออบรมก้องแล้วผมนั่งอยู่ข้างๆ ด้วย ผมก็เลยได้สิ่งที่มีคุณค่ามาด้วย ก้องที่ผมรู้จักในแบบนี้ก็เลยเป็นก้องที่รู้จักบุญคุณ เคารพพ่อแม่ ให้เกียรติผู้ใหญ่ที่อยู่รอบตัว

ก้องที่ 3 เป็นก้องที่ผมชอบที่สุดอีกก้องนึงครับ “ก้อง Adventurer” ถ้าอยากสนุก อยากซน อยากทำอะไรนอกกติกาที่เขามีกันอยู่นั้น ชวนก้องได้เสมอ เขาสามารถทำอะไรก็ได้นอกกฎกติกามารยาทที่ควรทำ สมมติว่าเราเคยเป็นเด็กที่เรียนดีอยู่ ได้รับทุนมาจากโรงเรียนเดิม พอผมมาเจอสหรัถ สังคปรีชา ชวนให้เรามาเล่นดนตรี การเรียนเราก็ค่อยๆ ดร็อปลง (ยิ้ม) พูดเล่นครับ เป็นเรื่องดีมากครับที่ได้มาร่วมวงนูโวด้วยกันจนถึงวันนี้”

“หมิว-ลลิตา ศศิประภา” นางเอกคู่ขวัญผู้โด่งดังมาจากละครเรื่อง “พริกขี้หนูกับหมูแฮม” เป็นอีกคนหนึ่งที่ขอการันตีความเป็นสุภาพบุรุษในตัวผู้ชายคนนี้ “ถ้าจะให้เมาท์ ความไม่ดีของพี่ก้องนี่แทบไม่พบเลยจริงๆ ค่ะ ไม่รู้ทำได้ยังไง ทำให้คนทุกคนในกองถ่ายรัก ให้ทุกคนเรียกเขาว่าเป็น “ทูนหัวของบ่าว” ได้ (ยิ้ม) ทุกคนในกองจริงๆ ตอนนั้นได้ถ่ายทำละครในต่างประเทศ ใช้เวลาร่วมกันจนสนิทกัน จนถึงตอนนี้พี่ก้องก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ น่ารักยังไงก็เป็นอย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยน เป็นที่รักของทุกคนจริงๆ อบอุ่น ใจดี ทำให้ทุกคนยิ้มได้ ชอบเล่าเรื่องสนุกๆ ตลกๆ ให้ทุกคนฟังและทำให้ทุกคนหัวเราะ”

ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจในตัวผู้ชายคนนี้ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเขาเคยเป็น “ลูกคุณหนูเอาแต่ใจ” ใครๆ ในบ้านต่างพากันเอาอกเอาใจ “คุณตาของผมมาจากตระกูลสวัสดิ์-ชูโต และคุณยายมาจากตระกูลวสุวัต เจ้าของโรงภาพยนตร์เสียงกรุง ส่วนทางคุณปู่คุณย่า ต้นตระกูลคุณปู่เป็นชาวเดนมาร์ก คุณปู่เข้ามารับราชการในเมืองไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนคุณย่าเป็นคนไทยแท้ พออายุได้ 9 ขวบก็มาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต คุณพ่อคุณแม่และผมต้องแยกบ้านออกมาอยู่ข้างนอก ไม่มีคนใช้ ทำให้ผมต้องหัดทำทุกอย่างด้วยตนเอง ผมต้องขอบคุณคุณพ่อที่สอนให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเองในหลายๆ ด้าน มานั่งคิดว่าเป็นเพราะคุณพ่อเคยสอน ผมถึงทำเป็น และจะนึกถึงประโยคเด็ดของคุณพ่อตลอดคือ โตขึ้นก้องก็จะรู้เองว่าทำไมพ่อถึงต้องทำแบบนี้”




ห่วงสังคม ห่วงวัยรุ่น
นอกจากห่วงใยคนรอบข้างแล้ว เขายังห่วงใยสังคมอีกด้วย เพราะนิยามคำว่า “สุภาพบุรุษ” ของก้องหมายถึง “ต้องหนักแน่นและมีความรักให้กับผู้อื่นเสมอ” จึงทำให้เขาตัดสินใจมอบรายได้ทั้งหมดในส่วนที่ตัวเองจะได้รับจากการขายพ็อกเก็ตบุ๊ค “Real Kong” เล่มนี้ให้แก่ “มูลนิธิแสงธรรม” เพราะเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ อย่างทุกวันนี้ชักจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทางออกหนึ่งที่คิดได้ก็คือการหันไปปลูกฝังเด็กและเยาวชน

“ผมว่าทุกวันนี้ปัญหาเรื่องเด็กไม่ค่อยน่าเป็นห่วง ปัญหาสังคมน่าเป็นห่วงกว่าครับ สังคมเริ่มเสื่อม ยาเสพติดเยอะขึ้น ศาสนาพุทธก็มีมารศาสนาแอบแฝง ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียเยอะ รู้สึกเป็นห่วงสังคมครับ เดี๋ยวก็ปัญหายาเสพติดอีก ก็ต้องปลูกฝังเยาวชนว่าอย่าไปเข้าใจผิดกับเรื่องเหล่านั้น
ถ้าเทียบกับสมัยรุ่นผม มันรุนแรงขึ้นนะ ในยุคผม เรื่องยาเสพติด เรื่องสื่อ ปัญหาต่างๆ ยังมีไม่เยอะกันขนาดนี้ ตอนนี้มันแพร่หลายมากขึ้น สังคมออนไลน์ก็น่าเป็นห่วง ทุกอย่างมันกระทบกับเยาวชนได้ง่าย
ทางออกก็คงจะต้องปลูกฝังเด็กและเยาวชนครับ เพราะเราคงไปห้ามสื่อ ห้ามคนค้ายาเสพติดไม่ได้ ก็ได้แต่บอกเขาว่าอย่าหลงผิดไปกับสิ่งเหล่านี้ ผมรู้สึกว่าเด็กเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมที่ดี เลยอยากจะปลูกฝังเด็กให้เขาโตขึ้นมาแล้วเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ปลูกฝังเด็กก่อน สังคมต่อไปจะได้ดี ก็เลยจะเอารายได้ทั้งหมดที่เป็นส่วนของผม มอบให้มูลนิธิเพื่อเด็ก อะไรก็ได้ที่ทำเพื่อเด็กน่ะครับ ก็อยากให้ช่วยกันสนับสนุน จะได้ทำบุญร่วมกัน”

ได้ยินแบบนี้แล้วชวนให้นึกถึงบางช่วงบางตอนที่เขาเขียนเอาไว้ในหนังสือ “Real Kong สุดๆ ไปเลยกับชีวิต ความรัก ความฝัน ของไอคอนตัวจริง” ที่พูดถึงตัวตนของเขาในมิติ “ก้องผู้เชื่อในกฎแห่งการกระทำ” ที่บอกเอาไว้ว่า

“ผมมองว่า ถ้าหากเราปฏิบัติตัวดีจริง ไม่จำเป็นต้องไปป่าวประกาศให้ใครมารับรู้หรอกว่าเราเลิศเลอสักเพียงไหน แต่เบื้องบนจะเห็นความจริงที่เราเป็นและกระทำออกไป และเราจะได้รับผลจากการกระทำของเรานั้นสะท้อนกลับมาในไม่ช้า

ผมเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม คนเราทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คนที่ทำชั่วก็ต้องได้รับกรรมชั่วที่ทำไป เพียงแต่จะมาในรูปแบบไหนและมาเมื่อไหร่เท่านั้น
เราไม่มีทางหนีพ้น หากเราทำดี เราก็จะได้รับผลกรรมที่ดีๆ ตอบแทนกลับมาหาเราแน่นอน เพราะทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้หมด เช่น เราเคยช่วยเหลือใครที่เขาเดือดร้อนไว้ และวันหนึ่งหากคุณกลับเดือดร้อนเสียเอง ก็จะมีคนมาช่วยเหลือคุณเหมือนที่คุณเคยช่วยเขาไว้เช่นกัน แต่ถ้าหากคุณไม่เคยช่วยเหลือใครหรือไม่เคยให้ใครเลย เมื่อวันหนึ่งคุณเดือดร้อน ก็อาจจะไม่มีใครช่วยคุณ”

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
เรื่อง: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ: วรวิทย์ พานิชนันท์
 



เพื่อนวงนูโวร่วมเมาท์
แฟนคลับตามเชียร์
บริจาคให้มูลนิธิแสงธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น