หลังจากที่นักแสดงหนุ่มชื่อดัง "ซี ศิวัฒน์" ได้เสียคุณแม่ไปอย่างกะทันหันจากอาการลิ่มเลือดไปอุดตันในเส้นเลือด หลังเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ประเด็นเรื่องการเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันกลายเป็นกระแสที่มีการถกเถียงกันในโลกออนไลน์ และยังคงเป็นปริศนาที่หลายคนต้องการคำตอบ วันนี้ทีมข่าว Live มีชุดความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณี การเสียชีวิตเฉียบพลันของมารดาพระเอกชื่อดัง โดยพูดในภาพรวมว่า ปรากฎการณ์ด่วนดับหรือการเสียชีวิตเฉียบพลัน มีสาเหตุหลัก 5 ประการ คือ
1.ช็อกแดดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้เกิดอาการวูบได้โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ที่สูงวัยมีโรคประจำตัว หรือเด็กที่ยังไม่อาจคุมสมดุลย์ร้อน-เย็นของร่างกายได้ดี วิธีแก้ที่ง่ายสุดก็คือจิบน้ำเป็นระยะและอย่าประมาท ถ้ามีอาการปวดศีรษะ,ปัสสาวะน้อยและรู้สึกซึมลงไม่สดชื่น
2. ลิ่มเลือดอุดตัน อาการนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะผู้สูงวัยเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยเฉพาะท่านที่มีความเสี่ยงต่อไปนี้ เข้าผ่าตัดบ่อย ช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัด นอนป่วยนาน ไลฟ์สไตล์นั่งนาน สูบบุหรี่ และมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของเลือดอยู่แล้ว การเกิดลิ่มเลือดอุดตันถ้าไปที่ปอดก็จะวูบไปแล้วเสียชีวิตได้ หรือไปที่สมองก็อาจเป็นอัมพาตกลายเป็นเจ้าหญิง-เจ้าชายนิทราได้
3. สโตรค หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ-แตก ท่านที่เป็นโรค ความดันสูง,เบาหวาน,ไขมันสูงหรือโรคหัวใจ ให้ระวังเวลาขาดยา ออกกำลังกายหนักหรือทำฟันโดยไม่ได้บอกคุณหมอว่ามีโรคประจำตัวต่อไปนี้ เสี่ยงที่จะเกิดอาการวูบเฉียบพลันได้
4. หัวใจล้า หัวใจป่วย ต้นเหตุของการเสียชีวิตขณะนอนหลับที่คุณหมออายุรกรรมโรคหัวใจมักคาดไว้ก็คือการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติเรียกกลุ่มอาการ "บรูกาด้า (Brugada syndrome)" ซึ่งคนไข้อาจไม่เคยทราบเลยจนตลอดชีวิตถ้าไม่ได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างละเอียด โรคนี้จะทำให้หัวใจห้องล่างเต้นพลิ้วผิดจังหวะอย่างน่าอันตรายที่สุดแล้วจากนั้นก็ทำให้เสียชีวิตกะทันหันได้ ทั้งนี้โรคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม อาจเป็นคำตอบในกรณีเสียชีวิตปริศนาของคนในอาชีพนักกีฬาหรืออาชีพอื่นๆ ด้วย
5. แพ้รุนแรง ภาวะแพ้รุนแรงจะทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะแบบที่เรียกว่า "ปฏิกิริยาแพ้มรณะ" ที่ทำให้หลอดลมตีบหายใจไม่ออกเกิดอาการหมดสติเสียชีวิตได้ ซึ่งอาจเกิดจากการแพ้ยา แพ้สารเคมี สัตว์กัดต่อยหรือสัมผัสกับสารที่ตนเองแพ้อย่างไม่ตั้งใจ ในบางรายอาจมีสัญญาณนำเป็นผื่นลมพิษร่วมกับหายใจมีเสียง "วีซ (Wheezing)" คล้ายแมวกรนเป็นสัญญาณว่าหลอดลมตีบ
นอกเหนือจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ อุบัติเหตุ และสารพิษ เช่น พิษจากสัตว์ ไซยาไนด์ในยาฆ่าแมลง มันสำปะหลัง หรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่รั่วออกมาจากรถยนตร์ อุบัติเหตุไฟรั่วไฟฟ้าช็อต หรือเกิดจากยาเสพติดหลายชนิดมีผลต่อหัวใจและกดสมอง อาจทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ อาทิ แอมเฟตามีน ยาไอซ์ ยาอี ยาเค ยาเสียสาว (GHB) เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เสียชีวิตได้แบบไม่ทันตั้งตัว
นอกจากนี้ การสำลักอาหาร ที่สามารถลงไปอุดหลอดลมทำให้ขาดอากาศหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิตแบบกะทันหันได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงวัยและผู้ป่วยอัมพาตที่มีปัญหากลืนลำบาก
อย่างไรก็ดี นพ.กฤษดา ยังบอกต่อไปว่า การเสริมสวยไฮเทค ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตแบบกะทันหันได้ โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือหรือวิธีการที่ไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือสารเติมให้เต่งตึงซึ่งมีความเสี่ยงได้แม้ฉีดกับแพทย์ ฉีดกลูตาไทโอนเข้าเส้นเลือด ฉีดวิตามินปริมาณสูงเพื่อบำรุง ฉีดสารล้างพิษเข้าเส้นเลือด หรือแม้แต่การทำฟันก็เสี่ยงด้วยเช่นกัน
"การทำฟันขณะที่มีโรคหัวใจ ต้องระวังการติดเชื้อจากช่องปากที่ผ่านเข้าไปได้ถึงลิ้นหัวใจหรือห้องหัวใจที่มีรูรั่วอยู่ บางท่านอาจไม่รู้ตัวเพราะเป็นแต่กำเนิด ทางที่ดี ก่อนทำฟันต้องบอกคุณหมอทุกครั้งครับถ้ามีโรคหัวใจหรือไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันการนั่งนานหรือไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กดหลอดเลือดดำ ทำให้มีเลือดไหลได้ฝืดหนืดและตกตะกอน ยิ่งไม่ได้ขยับนานนับหลายชั่วโมงอย่างนั่งเครื่องบินแล้วไม่ได้ดื่มน้ำด้วยจะยิ่งเสี่ยงป่วยด้วยลิ่มเลือดจากการนั่งนานกระเด็นขึ้นไปอุดถึงเส้นเลือดที่ปอดได้" ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติทิ้งท้าย
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เกิดการตระหนก แต่อยากให้ระมัดระวังกันมากขึ้น นับเป็นอีกเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
